"ปราชญ์หลินจู?" หลินเว่ยทวนชื่อนั้น ความกดดันทวีขึ้นเมื่อเขาตระหนักว่ากำลังจะต้องต่อสู้กับหัวหน้าผู้พิทักษ์ที่อายุมากกว่าเขาหลายเท่า
ชายชราพยักหน้า "หากเ้า้าความลับของเซียนซาน และช่วยเด็กๆ ที่ถูกทดลอง เ้าต้องผ่านข้าไปให้ได้"
ผู้พิทักษ์ทั้งหมดนำทางหลินเว่ยออกจากถ้ำแห่งความรู้ เดินลึกเข้าไปในูเาจนถึงห้องถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่หลินเว่ยเคยเห็น สูงราวสามชั้น พื้นหินเรียบถูกขัดมันวาว มีวงกลมใหญ่กลางห้องแกะสลักเป็สัญลักษณ์หยินหยาง
คบเพลิงรอบห้องถูกจุดสว่าง เผยให้เห็นภาพแกะสลักขนาดใหญ่บนผนัง—ภาพัขดตัวรอบูเา ศีรษะทอดยาวไปจนถึงยอดเขา ดวงตาของัฝังด้วยหินสีแดงที่เปล่งประกายวาววับเมื่อแสงไฟสาดส่อง
ผู้พิทักษ์นำเพื่อนๆ ของหลินเว่ยที่ยังถูกมัดมาด้วย พวกเขาถูกพาไปนั่งตรงขอบห้อง ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
"หลินเว่ย!" ลี่ชิงะโ "ระวังตัว! อย่าประมาท!"
ปราชญ์หลินจูเดินไปยังฝั่งตรงข้ามของวงกลมหยินหยาง ถอดเสื้อคลุมยาวสีขาวออก เผยให้เห็นร่างผอมแห้งแต่กล้ามเนื้อเป็มัดชัดเจน อายุอาจมาก แต่ร่างกายยังแข็งแรงเหมือนนักรบวัยฉกรรจ์
"การทดสอบสุดท้าย" ปราชญ์หลินจูประกาศ เสียงก้องไปทั่วถ้ำ "ข้าจะทดสอบพละกำลังและจิตใจของเ้า"
หลินเว่ยสูดหายใจลึก รวบรวมสติ เขาถอดเสื้อแจ็คเก็ตออก เหลือเพียงเสื้อยืดบางๆ ยืนตรงข้ามกับชายชรา
"ก่อนเริ่มการต่อสู้ มีบางสิ่งที่เ้าควรรู้" ปราชญ์หลินจูกล่าว "ไม่มีใครเคยเอาชนะข้าในการประลองมากว่าเจ็ดสิบปี รวมถึงชานซูที่เ้ากล่าวถึง"
"เธอบอกว่าท่านเป็ครูที่เก่งที่สุดที่เธอเคยมี" หลินเว่ยตอบ พยายามผ่อนคลาย
เงาแห่งความเ็ปผ่านวูบในดวงตาของชายชรา "นางกล่าวเช่นนั้นหรือ? น่าแปลก..." เขาส่ายหน้าเบาๆ "แต่นั่นเป็เื่ของอดีต ตอนนี้ข้าต้องทดสอบเ้า"
"กฎของการประลองคืออะไร?" หลินเว่ยถาม
"ไม่มีกฎ" ปราชญ์หลินจูตอบ "เพียงเอาชนะข้าด้วยวิธีใดก็ได้ เ้าอาจใช้ทุกอย่างที่เรียนรู้มา ทั้งพลังชี่ วิชาัทะยานฟ้า หรืออาวุธใดๆ"
"แล้วถ้าผมล้มเหลว?"
"เ้าและเพื่อนๆ จะถูกกักตัวไว้ในเซียนซานตลอดกาล ไม่มีใครออกไปได้"
ฉือชินก้าวเข้ามายังขอบวงกลม ยกมือขึ้นระหว่างคู่ต่อสู้ "การประลองจะเริ่มเมื่อข้าลดมือลง และจะจบลงเมื่อฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ หรือไม่สามารถต่อสู้ต่อได้" เธอมองไปที่หลินเว่ยและปราชญ์หลินจู "พร้อมหรือไม่?"
ทั้งสองพยักหน้า
"เริ่ม!" ฉือชินะโ ลดมือลงและถอยออกจากวงกลม
ทันทีที่การประลองเริ่ม ปราชญ์หลินจูเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อสำหรับคนวัยของเขา พุ่งเข้าใส่หลินเว่ยราวกับสายลม ฝ่ามือเรียวแข็งพุ่งตรงไปที่กลางอกของหลินเว่ย
หลินเว่ยใกับความเร็วนั้น แต่สัญชาตญาณเตือนให้เขาหลบไปทางซ้าย การฝึกฝน "ัตื่นกาย" ทำให้ร่างกายของเขาตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ฝ่ามือของปราชญ์หลินจูพลาดไปเพียงนิดเดียว
"เร็วดี" ปราชญ์หลินจูชมเชย "แต่ยังไม่พอ!"
เขาต่อเนื่องด้วยชุดการโจมตีหลายครั้ง ฝ่ามือ นิ้ว หลิง และข้อศอกพุ่งเข้าใส่จุดอ่อนของหลินเว่ยอย่างแม่นยำ หลินเว่ยพยายามหลบและรับอย่างสุดความสามารถ แต่ก็โดนบางจุดจนรู้สึกชาวูบ
"นี่คือพลังชี่ที่แท้จริง!" ปราชญ์หลินจูกล่าว ฝ่ามือเปล่งพลังสีทองอ่อนๆ "ไม่ใช่แค่การป้องกันหรือรักษา แต่รวมถึงการโจมตีด้วย!"
หลินเว่ยพยายามตั้งรับ ใช้ท่า "ัปกป้อง" สร้างโล่พลังงานบางๆ แต่การโจมตีของปราชญ์หลินจูแรงเกินไป โล่แตกกระจายหลังรับแรงกระแทกเพียงไม่กี่ครั้ง
"เ้ามีพื้นฐานดี แต่ประสบการณ์น้อยเกินไป" ปราชญ์หลินจูวิจารณ์ "รู้ท่า แต่ขาดการฝึกฝนจริงจัง"
ชายชราเปลี่ยนท่าทางเคลื่อนไหวคล้ายนกกระสา ขาเรียวยาวเตะวนเป็วงกว้าง หลินเว่ยพยายามหลบ แต่โดนเข่าเข้าที่ชายโครงอย่างจัง เขาล้มลงคุกเข่า หายใจหอบ
"ลุกขึ้น!" ปราชญ์หลินจูสั่ง "แสดงให้ข้าเห็นว่าเ้าสมควรเป็ทายาทของวิชาัทะยานฟ้า!"
หลินเว่ยฝืนลุกขึ้น มือกุมบริเวณที่าเ็ "ผมจะไม่ยอมแพ้"
เขาพยายามโจมตีบ้าง ใช้ท่า "ัทะยานน้ำ" เคลื่อนไหวลื่นไหลเหมือนสายน้ำ เข้าโจมตีและถอยออกอย่างรวดเร็ว แต่ทุกการโจมตีของเขาถูกปราชญ์หลินจูจับทิศทางได้ และหลบหรือป้องกันอย่างง่ายดาย
"น่าผิดหวัง" ปราชญ์หลินจูส่ายหน้า "ชานซูสอนเ้าแค่นี้หรือ?"
ความผิดหวังแล่นผ่านใจหลินเว่ย เขาใช้ทุกท่าที่เรียนรู้มา—ัทะยานน้ำ, ัสยายปีก, ัพ่นไฟ—แต่ไม่มีท่าไหนส่งผลกระทบต่อปราชญ์หลินจูเลย
หลังจากการโจมตีอีกชุดหนึ่ง หลินเว่ยล้มลงอย่างหนัก อ่อนแรงและาเ็หลายจุด
"ยอมแพ้เถอะ" ปราชญ์หลินจูยืนเหนือร่างเขา "เ้าไม่มีทางชนะข้าได้"
"ไม่..." หลินเว่ยกัดฟัน พยายามลุกขึ้นอีกครั้ง "ผมต้องช่วยเพื่อนๆ... ช่วยทุกคน..."
"ความมุ่งมั่นน่าชม แต่ไม่เพียงพอ" ปราชญ์หลินจูกล่าว "เ้ายังไม่เข้าใจแก่นแท้ของพลังชี่"
หลินเว่ยจ้องมองใบหน้าของชายชรา จู่ๆ ก็นึกถึงคำพูดของนางชานซูในวันแรกที่สอนเขา: "พลังชี่ไม่ได้มาจากกล้ามเนื้อหรือร่างกาย แต่มาจากจิตใจ จากความเข้าใจในตัวเองและธรรมชาติรอบตัว"
มันคือสมดุล ไม่ใช่แค่ใช้พลัง คล้ายกับปริศนาธาตุทั้งห้า ที่ต้องเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างกัน
หลินเว่ยนึกถึงการทดสอบก่อนหน้า—เผชิญความกลัว แก้ปริศนาด้วยปัญญา—พละกำลังคงไม่ใช่แค่กำลังทางกายภาพ
เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ทรงตัวอย่างยากลำบาก แต่สายตามุ่งมั่น
"ผมเข้าใจแล้ว" หลินเว่ยกล่าวเบาๆ
"เข้าใจอะไร?" ปราชญ์หลินจูถาม
"การทดสอบนี้... ไม่ใช่แค่พละกำลัง แต่เป็การเรียนรู้" หลินเว่ยตอบ "ท่านไม่ได้้าให้ผมเอาชนะท่าน แต่้าให้ผมเข้าใจบทเรียน"
รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าของปราชญ์หลินจู "เ้าเริ่มเข้าใจแล้ว แต่ยังไม่พอ จงแสดงให้ข้าเห็น!"
ปราชญ์หลินจูโจมตีอีกครั้ง แต่คราวนี้หลินเว่ยไม่พยายามตั้งรับหรือโจมตีกลับ แทนที่จะทำเช่นนั้น เขาใช้ท่า "ัหลับใหล" เพื่อสงบจิตใจ แล้วปล่อยให้สัญชาตญาณนำทาง
เขาเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล ไม่ขัดขืนแรงโจมตี แต่นำแรงนั้นโค้งวนและส่งกลับไป เหมือนน้ำที่หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางและไหลไปตามธรรมชาติ
ปราชญ์หลินจูดูประหลาดใจเล็กน้อย การโจมตีของเขาไม่ถูกต้านหรือรับไว้ แต่ถูกหลบและนำทางให้เบี่ยงเบนไปอย่างนุ่มนวล
"ใช่แล้ว..." ชายชรากล่าว "น้ำไม่ต่อสู้กับหิน แต่ค่อยๆ กัดเซาะให้หินสึกกร่อนไปตามกาลเวลา"
หลินเว่ยเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ผสมผสานท่าต่างๆ ที่เรียนรู้มาเข้าด้วยกัน ไม่ใช้แค่ท่าใดท่าหนึ่ง แต่ใช้หลักการและปรัชญาที่อยู่เื้ัท่าเ่าั้
พลังชี่ในตัวเขาเริ่มไหลเวียนอย่างเป็ธรรมชาติ ไม่ใช่การบังคับหรือฝืนใช้ แต่เป็การปล่อยให้มันไหลไปตามธรรมชาติ
การต่อสู้ดำเนินต่อไป แต่ลักษณะเปลี่ยนไป ไม่ใช่การโจมตีและป้องกัน แต่เป็การเคลื่อนไหวคล้ายการเต้นรำ เหมือนหยินและหยางที่หมุนวนรอบกัน ส่งเสริมและสมดุลซึ่งกันและกัน
แต่ถึงอย่างนั้น หลินเว่ยก็ยังอ่อนประสบการณ์กว่ามาก ร่างกายเริ่มทรยศ อาการาเ็ก่อนหน้าทำให้เขาเสียจังหวะ การเคลื่อนไหวช้าลง
ในจังหวะวิกฤต ปราชญ์หลินจูเห็นช่องว่าง และโจมตีอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือพุ่งตรงไปที่หัวใจของหลินเว่ย
แต่แทนที่จะหลบหรือป้องกัน หลินเว่ยกลับยืนนิ่ง จ้องตาปราชญ์หลินจูโดยไม่หลบ
ฝ่ามือของปราชญ์หลินจูหยุดกะทันหัน เพียงนิ้วเดียวจากหน้าอกของหลินเว่ย
"เ้ายอมตายหรือ?" ปราชญ์หลินจูถาม
"ไม่" หลินเว่ยตอบ เสียงมั่นคง "แต่ผมเชื่อว่าท่านจะไม่ฆ่าผม เพราะความเมตตาคือส่วนหนึ่งของวิชาัทะยานฟ้า"
ปราชญ์หลินจูนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ "น่าทึ่ง... ใน่วิกฤตที่สุด เ้าเลือกเชื่อใจข้า" เขาลดมือลง "คนสุดท้ายที่ทำแบบนี้คือชานซู เมื่อสี่สิบปีก่อน"
"ผมชนะหรือ?" หลินเว่ยถาม
"ไม่" ปราชญ์หลินจูตอบ "แต่เ้าไม่แพ้เช่นกัน"
"แต่การทดสอบ..."
"การทดสอบไม่ใช่การชนะหรือแพ้" ปราชญ์หลินจูอธิบาย "แต่เป็การค้นพบบทเรียน เื่พละกำลังไม่ใช่แค่ความแข็งแกร่งของร่างกาย แต่รวมถึงความกล้าหาญ สติปัญญา และเมตตาธรรม"
เขาทอดสายตาไปรอบห้อง มองผู้พิทักษ์ทุกคน "เ้าไม่เพียงผ่านการทดสอบ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติที่ผู้พิทักษ์แห่งความลับทุกคนควรมี"
ปราชญ์หลินจูหันไปทางเพื่อนๆ ของหลินเว่ย "ปล่อยพวกเขา"
ผู้พิทักษ์หนุ่มสองคนรีบเข้าไปแก้มัดให้ลี่ชิง หลิวซิน และคนอื่นๆ ลี่ชิงรีบวิ่งเข้ามาหาหลินเว่ย ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
"คุณเป็อะไรมากไหม?" เธอถามพลางตรวจดูอาการาเ็ของเขา
"ผมไม่เป็ไร" หลินเว่ยตอบ "เจ็บนิดหน่อย แต่จะหายเร็ว"
ปราชญ์หลินจูเดินกลับมาที่กลางห้อง สวมเสื้อคลุมของเขาอีกครั้ง "ตามข้าทุกคน เราจะพูดคุยกันในหอประชุมใหญ่" เขาหันมาที่หลินเว่ย "ได้เวลาเปิดเผยความลับแล้ว หลินเว่ย—หรือควรเรียกเ้าว่า ทายาทแห่งผู้พิทักษ์แห่งความลับ"