ครึ่งปีก่อนหากมีหญิงสาวร้องไห้ต่อหน้าหยางเฉินล่ะก็ เขาจะเข้าใจทันทีว่า เป็เพราะะเิควันเข้าตาหรือพยายามหันเหความสนใจให้เสียสมาธิ แต่ตอนนี้สาวสวยตรงหน้ากำลังร้องไห้เพราะคำพูดของเขา
เขารู้สึกเสียใจแต่ไม่อาจช่วยอะไรได้ แม้เขาจะรู้สึกว่าไม่ได้พูดอะไรผิด แต่สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยังรักษาความบริสุทธิ์ของเธอมานานกว่า 20 ปี มันค่อนข้างเป็เื่โหดร้ายทีเดียว
"เอาล่ะ อย่าร้องไห้อีกเลย... ผมขอโทษได้ไหม" หยางเฉินหงุดหงิดเล็กน้อยพลางล้วงมือไปในกระเป๋าเสื้อ แต่มันว่างเปล่า เขานึกขึ้นได้ว่าไม่ได้หยิบบุหรี่มาด้วย
ใบหน้างดงามของหลินรั่วซีเต็มไปด้วยความน่าสงสารที่ใครเห็นก็ต้องยอม แต่เธอเป็ผู้หญิงปากแข็ง เธอหยิบทิชชู่มาซับน้ำตา พยายามข่มกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลแล้วจ้องหยางเฉินเขม็งและกล่าวว่า
"ฉันจะถามนายเป็ครั้งสุดท้าย นายจะแต่งงานกับฉันไหม?"
"ผมบอกคุณแล้วคุณหลิน ยุคนี้คุณไม่สามารถบังคับใครให้มาเป็สามีคุณได้ ผมบอกชัดเจนไปแล้ว ผมจะไม่เล่นเกมน่าเบื่อนี้ตลอดสามปีแน่ๆ" หยางเฉินถอนหายใจ พลางยืนขึ้นเตรียมตัวจากไป
หลินรั่วซีไม่พูดอะไรอีก แววตาของเธอแสดงความโศกเศร้าเล็กน้อย เธอยืนขึ้นแล้วเดินไปที่ระเบียงของร้าน
ระเบียงร้านนี้ค่อนข้างกว้าง ตกแต่งด้วยโต๊ะเล็กๆ พร้อมร่มคันใหญ่ และกระถางบอนไซ ให้บรรยากาศสดชื่นรื่นรมย์
หยางเฉินเห็นท่าไม่ดี เขาสูดหายใจด้วยความหนาวเหน็บ
"คุณหลิน อย่าะโลงไปเพียงเพราะผมปฏิเสธคุณเลย..."
หลินรั่วซีแสร้งทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งใด เธอยังคงเดินไปที่ระเบียงและหยิบเก้าอี้มาวางเตรียมปีนขึ้นขอบระเบียง
หยางเฉินเริ่มเหงื่อตก ความมุ่งมั่นตั้งใจของเธอทรงพลังจริงๆ เธอควรจะรู้ว่าตกลงไปล่ะก็ มีแต่ตายไม่ก็พิการเท่านั้น
หลินรั่วซีหันไปจ้องมองหยางเฉิน ในดวงตาของเธอมีแต่ความปวดร้าว เศร้าโศก ความเกลียดชัง ความเ็ป ราวกับ้าหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาน...
เมื่อสองตาสบประสาน หยางเฉินรู้สึกปวดร้าวในหัวใจ เขาคุ้นเคยกับภาพนี้ยิ่งนัก เป็ความคุ้นเคยที่ฝังลึกในความทรงจำของเขา เมื่อครึ่งปีก่อนที่เขาหลุดพ้นจากโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งเขาไว้ถึง 10 ปี ก่อนจะกลับมาที่นี่
แต่มาวันนี้เมื่อหยางเฉินเห็นแววตาของหลินรั่วซี ภาพความทรงจำเก่าได้หวนกลับมาอีกครั้ง ทั้งที่เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะลืมมันไป
เมื่อหลินรั่วซีมองหยางเฉินซึ่งไม่มีท่าทีใดๆ เธอไม่้าแสดงความปวดร้าวในใจเธออีก ถึงแม้เธอจะะโลงไปหยางเฉินก็คงไม่สนใจเธออยู่ดี เป็อีกครั้งที่หลินรั่วซีนึกถึงความปวดร้าวที่เสียความบริสุทธิ์ให้หยางเฉิน ความกดดันและความเครียดในชีวิตส่วนตัวของเธอ ชีวิตการทำงาน เธอรู้สึกเหมือนตัวเองจะแตกสลาย… ไม่มีเหตุผลที่ต้องมีชีวิตอีกต่อไป ความตายจะยุติทุกสิ่ง...
ตอนนั้นเองบริกรซึ่งหายไปนานขึ้นบันไดมาพร้อมถาดกาแฟ ทันใดนั้นเขาเหลือบไปเห็นหลินรั่วซีกำลังจะะโลงจากระเบียง
"คุณหลิน... คุณกำลังทำอะไรเนี่ย? มันอันตรายรีบลงมาเถอะครับ!"
ในขณะนั้นภาพตรงหน้าเขาราวกับปรากฏคลื่นอากาศผันผวนรางๆ เหมือนในภาพยนตร์ไซไฟ
ในขณะที่หลินรั่วซีกลั้นน้ำตาของเธอและเตรียมะโลงไป แต่แล้วจู่ๆ พลันปรากฏแขนคู่หนึ่งรวบเอวหญิงสาวไว้เพื่อหยุดยั้งการะโของเธอ
ทุกสิ่งเกิดขึ้นในพริบตา บริกรเองก็เห็นไม่ถนัดตาว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังกอดเอวของสาวสวยอย่างสงบบนระเบียง...
แสงแดดสาดส่องใบอ่อนแมกไม้สะท้อนไปที่ระเบียงตกกระทบร่างหนุ่มสาว ให้ความรู้สึกอบอุ่นกระชุ่มกระชวยดั่งอยู่ในทะเลแสนสดใส
บริกรรู้สึกผ่อนคลาย เขาแอบอิจฉาชายผู้สามารถโอบกอดสาวงามเช่นคุณหลิน เขาเดินไปที่โต๊ะเงียบๆ และวางกาแฟไว้บนโต๊ะแล้วเดินจากไปอย่างเลื่อนลอย
หลินรั่วซีรู้สึกเหมือนตัวเองกลับมาสู่สรวง์ชั้นเจ็ด เธอไม่รู้ว่าหยางเฉินมาปรากฏตัวด้านหลังเธอได้อย่างไร เธอไม่มีอารมณ์จะคิดถึงมัน รู้สึกเพียงแขนอันแข็งแกร่งที่กอดเอวเธอให้ความรู้สึกอึดอัด แต่สิ่งที่ทำให้เป็ปัญหาที่สุดกลับเป็ลมหายใจอันหนักหน่วงด้านหลัง
"ปล่อยฉัน นายหยุดฉันได้แค่ตอนนี้เท่านั้น ยังไงฉันก็จะฆ่าตัวตายอีก" หลินรั่วซียังคงดื้อรั้น
หยางเฉินสูดหายใจเข้าเต็มปอด เขากำลังดื่มด่ำกับกลิ่นหอมจากกายหลินรั่วซี เขาได้กลิ่นดอกมะลิอ่อนๆ น้ำหอมราคาแพงหลากชนิด แน่นอนว่าหยางเฉินรู้สึกว่ากลิ่นหอมเหล่านี้ชนะทุกสิ่ง
"หลินรั่วซี คุณชนะ ผมจะแต่งงานกับคุณ" หยางเฉินถอนหายใจพลางกล่าวเสียงนุ่ม
หลินรั่วซีตัวสั่นสะท้านตกอยู่ในความเงียบ 'ฉันชนะ? ทำไมถึงไม่รู้สึกดีใจเลยล่ะ? เพราะฉันใช้ผู้ชายคนนี้มาเป็โล่กำบัง อีกทั้งเขายังขโมยความบริสุทธิ์ของฉันไปอีก ฉันเกลียดเขา จะรักเขาได้อย่างไร ถ้าฉันไม่ได้รักเขา ทำไมฉันต้องรู้สึกดีที่ได้แต่งงานกับเขาด้วยล่ะ'
ขณะนั้นเอง ผู้คนที่สัญจรไปมาบริเวณถนนก็สังเกตเห็นคู่หนุ่มสาวยืนอยู่บนระเบียง หลายคนจับจ้องที่พวกเขาด้วยความสนใจ
"ที่รัก พวกเขากำลังทำอะไรอยู่เหรอคะ?" หญิงสาวถามขณะดึงแขนเสื้อชายหนุ่ม
"อืม... ผมก็เห็นไม่ถนัดนะ พวกเขากำลังเลียนแบบไททานิกหรือเปล่า..."
บนระเบียง หลินรั่วซีไม่อาจทนต่อสายตาที่จับจ้องมาได้อีกต่อไป เธอะโลงจากเก้าอี้ทันใด และผละตัวออกจากอ้อมกอดหยางเฉิน แล้วเดินกลับเข้าไปในร้าน
พวกเขานั่งลงที่โต๊ะอย่างเงียบๆ จิบกาแฟโดยปราศจากคำพูดใดๆ
เวลาล่วงเลยผ่านไป ในที่สุดหลินรั่วซีก็วางแก้วกาแฟของเธอ ล้วงมือหยิบเอกสารและปากกายื่นให้หยางเฉิน
"มันคือ?" หยางเฉินถามอย่างสงสัย
"ข้อตกลง สัญญาการแต่งงาน" เธออายเล็กน้อยไม่กล้าสบสายตาหยางเฉิน
หยางเฉินยิ้มพลางเซ็นสัญญาทันทีโดยไม่อ่านเนื้อหาข้างใน
"ไม่อ่านข้อตกลงหน่อยเหรอ?" หลินรั่วซีขมวดคิ้วงามแน่น
หยางเฉินส่ายหัวกล่าวยิ้มๆ
"ผมไม่จำเป็ต้องอ่านผมก็รู้ว่า มันจะต้องเป็ ห้ามเข้าห้องของคุณ ห้ามแตะต้องตัวคุณ และรบกวนความเป็ส่วนตัวของแต่ละคน แล้วผมก็ต้องทำหน้าที่ของผมในฐานะสามีปลอมๆ ไปอีกสามปีคุณถึงจะให้รางวัลกับผมใช่ไหม?"
"อย่าลืมทำตามนั้นด้วยล่ะ" เธอเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะสาวเ็า
"ฮ่าๆ รั่วซีน้อย หากคุณ้า 'ทำมัน' ด้วยตัวคุณเองล่ะ จะให้ผมทำยังไง" หยางเฉินถามติดตลก
"นายมัน..." หลินรั่วซีหน้าแดงด้วยความโกรธ "ความอัปยศนั้น! ครั้งเดียวในชีวิตก็เกินพอ..."
'ครั้งหนึ่งก็เกินพอ? คนครึ่งโลกต่างทำกิจกรรมนั้นราวกับเป็กิจวัตรประจำวัน แต่เธอกลับคิดว่ามันเป็ความอัปยศในชีวิต' หยางเฉินไม่อาจกลั้นเสียงหัวเราะได้อีก "ดีมาก ผมมีนัดกับเพื่อนคืนนี้ ผมขอตัวก่อนล่ะ..."
"เดี๋ยวก่อน ฉันจะติดต่อคุณได้ยังไง เบอร์โทรคุณล่ะ?"
หยางเฉินเกาหัวกล่าวอย่างเชื่องช้า "คุณตรวจสอบผมมาแล้วนี่ ผมไม่มีโทรศัพท์หรอก มันต้องจ่ายรายเดือน ผมไม่มีเงินมากขนาดนั้น คุณไปหาผมที่บ้านพรุ่งนี้ แล้วะโเรียกชื่อผมก็พอ" พูดจบก็เดินจากไปทันที
"เฮ้… เดี๋ยว!"
"หืม?" หยางเฉินหันกลับมา
"ฉัน… ไม่อนุญาตให้คุณเรียกฉันแบบนั้น" หลิวรั่วซีรู้สึกอายหลังจากได้ยินคำเรียกนั้นจากปากเขาแล้ว มันน่าขยะแขยงอย่างมาก
หยางเฉินแปลกใจเล็กน้อย เขาทำหน้าจริงจังพร้อมกล่าวเสียงเครียดว่า
"ครับ นายหญิง"
หลินรั่วซีหัวหมุนติ้ว… เธอจะบ้าตาย เธอคิดว่าจะอยู่กับชายคนนี้ต่อไปอย่างไรดี!?