บทที่ 51 พ่อหมา
ลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เด็กหนุ่มผมสีควันบุหรี่กระตุกยิ้มมุมปากที่แฝงไว้ด้วยความนัยพร้อมกับผงกหัวมองตามหลังเย่จื่อเฉิน
"คุณชาย! คุณชายเป็อะไรไหมครับ"
ฝีเท้าของชายสูงวัยนั้นดูเชื่องช้า แต่การกระทำกลับรวดเร็ว ในระยะทางสิบกว่าเมตรเขาก้าวไปเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น
"ฉันจะเป็อะไรล่ะ"
เด็กหนุ่มยกยิ้มมุมปาก ความไม่พอใจปรากฏขึ้นในดวงตาของชายชรา
"เ้าเด็กคนนี้นี่มองข้ามความหวังดีของคนอื่นเกินไปแล้ว"
"คนที่มีความสามารถส่วนมากก็หยิ่งจองหองกันทั้งนั้น"
เด็กหนุ่มบอกชายสูงวัยเป็เชิงว่าอย่าถือสา แล้วยิ้มบางๆ
"คุณหัว คุณอาจจะไม่รู้ว่าข้างกายของเย่จื่อเฉินมีิญญาผีสาวบริสุทธิ์ที่ยังไม่สิ้นอายุขัยอยู่กับเขาด้วย"
คุณหัวที่ได้ยินก็อึ้งไป แต่เพียงครู่เดียวก็หัวเราะขึ้นอย่างคลายกังวล
"งั้นก็สมน้ำหน้าเขาแล้วล่ะ ิญญาผีสาวบริสุทธิ์จะเชี่ยวชาญในการดูดพลังผู้ชาย... เดี๋ยวนะครับคุณชายเมื่อกี้คุณชายบอกว่ายังไม่สิ้นอายุขัยเหรอครับ?"
เด็กหนุ่มก้มหัวเล็กน้อย ก่อนจะลูบจมูกแล้วพูด
"ที่สำคัญกว่านั้นคือ ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะมองเห็นิญญาผีสาวบริสุทธิ์ตนนี้ด้วย แถมยังสื่อสารกันได้อีกต่างหาก"
คุณหัวมีสีหน้าเปลี่ยนไป เม้มริมฝีปากอยู่นานโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
เนิ่นนาน เขาถึงได้พูดขึ้นด้วยความไม่ค่อยแน่ใจ
"หรือว่าเขาจะเปิดตาทิพย์?"
"เปิดตาทิพย์หรือเปล่าฉันไม่มั่นใจ แต่คนคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน เขาอาจจะเหมือนกับคนในตระกูลฉันที่มาจากที่นั่น" เด็กหนุ่มส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอามือไพล่หลังเดินจากไป
ชายสูงวัยเพียงเดินตามหลังอย่างเงียบๆ แต่หลังจากที่พวกเขาเดินจากไปแล้วกลับพบว่า
สนามหญ้าที่พวกเขาเหยียบนั้นไม่มีร่องรอยการยุบตัวลงไปแม้แต่น้อย
เมื่อมาถึงบ้าน เย่จื่อเฉินก็นั่งอยู่ที่เก้าอี้หินนอกลานบ้านโดยไม่พูดอะไรอยู่เป็นานสองนาน
เย่จื่อเฉินกำหมัดแน่น เขาคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าทำไมถึงได้มีคนจ้องมองเขาเป็พิเศษ ที่สำคัญที่สุดคือมันยังส่งผลกระทบมาถึงคนในครอบครัวของเขาด้วย
"จื่อเฉิน กินผลไม้ลูก"
เย่หรงเดินยิ้มถือผลไม้ออกมา เย่จื่อเฉินรีบเก็บอาการไม่ดีบนใบหน้าทันที ก่อนจะพูดคุยหัวเราะเล่นไปเรื่อย แต่ในใจกลับกำลังครุ่นคิดว่าจะจัดการเื่นี้ยังไง
ถ้าหากหาบอดี้การ์ดมาคุ้มกัน แม่ต้องเป็ห่วงแน่ แบบนั้นมันก็จะกลับตาลปัตรไปหมด และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือบางทีบอดี้การ์ดอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนพวกนั้น
ทันใดนั้น เสี่ยวไป๋ก็ได้เดินเชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่งออกมาจากบ้าน ในทันทีที่มันเห็นเย่จื่อเฉินก็ยิ่งทำหน้าหยิ่งผยองก่อนจะหมอบลงข้างกายเย่หรง
เย่จื่อเฉินตาลุกวาวทันที
เอาเสี่ยวไป๋ก็ได้นี่
ถึงยังไงเ้าหมาตัวนี้ก็เป็ถึงสุนัขที่มาจาก์เลยนะ มันอาจจะมีความสามารถพิเศษแปลกๆ ก็ได้
"เสี่ยวไป๋ มานี่สิ"
เย่จื่อเฉินนั่งย่อตัวลงที่พื้นแล้วตบมือเรียกเสี่ยวไป๋ เสี่ยวไป๋ใช้สายตาหมางเมินชำเลืองมองมาที่เขาเล็กน้อย ก่อนจะละความสนใจจากเขาไป
ให้ตาย เ้าหมานี่
แกไม่มาใช่ไหม ได้งั้นเดี๋ยวฉันไปหาแกเอง
เย่จื่อเฉินเดินไปไม่กี่ก้าวก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเสี่ยวไป๋ ก่อนจับคอมันแล้วก็หิ้วขึ้นมา
"แม่ครับ ผมขอเล่นกับเสี่ยวไป๋แป๊บเดียวนะ"
"ไปเถอะ"
เย่หรงตอบกลับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
ตุบ
จับเสี่ยวไป๋โยนลงบนทางเดินหินนอกลานบ้าน เสี่ยวไป๋พลิกตัวกลับอย่างคล่องแคล่วก่อนหล่นลงพื้นได้อย่างมั่นคง
แถมมันยังเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจอีก พร้อมกับสะบัดหัวเชิดหน้าไม่สนใจ
"หมาตัวนี้น่าสนใจจัง"
หลิวฉิงที่ลอยอยู่กลางอากาศหัวเราะคิกคัก เสี่ยวไป๋เงยหน้าขึ้นแยกเขี้ยวใส่
"มันเห็นฉันเหรอ?"
หลิวฉิงอึ้งไปเล็กน้อย ส่วนเย่จื่อเฉินที่ถึงแม้จะใอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจ
สิ่งของบน์ ทุกอย่างย่อมเป็ไปได้ทั้งนั้น
หัวเล็กของเสี่ยวไป๋เชิดขึ้นอย่างเย่อหยิ่งอีกครั้ง ดูเหมือนว่าแม้แต่ตอนที่หลิวฉิงพูดมันก็ได้ยิน
หลิวฉิงที่ลอยอยู่กลางอากาศเกิดความสนใจเสี่ยวไป๋ทันที เธอลอยลงมานั่งยองอยู่ตรงหน้าเสี่ยวไป๋ แล้วยื่นมือจะลูบตัวมัน
ฮื้อ...โฮ่งโฮ่ง...
"แกมองเห็นฉันจริงๆ ด้วย"
พอเห็นว่าเสี่ยวไป๋ไม่อยากให้เธอลูบ หลิวฉิงก็ชักมือกลับแล้วยิ้มตาหยีมองมัน
เสี่ยวไป๋ยกอุ้งเท้าขึ้นมาเขี่ยพื้นเป็วงกลม เย่จื่อเฉินจึงยกฝ่ามือตบลงที่หัวของมัน
"อย่ามาแกล้งทำเป็โง่กับพวกฉันนะ ที่ฉันพาแกมาก็เพราะว่ามีธุระ"
โฮ่งโฮ่ง...
เสี่ยวไป๋โมโห เป็แค่คนธรรมดาแต่กล้ามาตบหัวสุนัขเซียนผู้เย่อหยิ่ง
มันะโไปทางเย่จื่อเฉินแล้วเอาหัวพุ่งเข้าใส่
เพียะ!
สิ่งที่ได้รับมาคือฝ่ามือทั้งห้านิ้วอีกครั้ง
ครั้งนี้เสี่ยวไป๋ถึงกับเชื่อง มันแยกเขี้ยวใส่เย่จื่อเฉินพร้อมกับเดินสะบัดหางไปทางลานบ้าน
สุนัขที่ดีต้องไม่ใส่ใจกับความเลวร้ายตรงหน้า ตอนนี้ตัวมันเองก็ยังเล็กมาก รอให้มันโตก่อนเถอะ...
แต่มันกลับไม่รู้ว่าสุนัขพุดเดิ้ลอย่างมันจะสามารถโตขึ้นไปได้อีกแค่ไหนกันเชียว
"ฉันให้แกไปแล้วหรือไง?"
เย่จื่อเฉินจับหางลากมันกลับมา แล้วเลิกคิ้วพูดกับมัน
"เสี่ยวไป๋ ความจริงแล้วฉันมีเื่จะขอร้องแก"
เสี่ยวไป๋เบิกตากว้างทันที แล้วก็แยกเขี้ยวใส่เย่จื่อเฉินอีกครั้งก่อนจะเห่าลั่น
ท่าทางแบบนั้นเหมือนกำลังพูดว่า นายมาขอร้องฉันแล้วยังจะแกล้งฉันอีกเหรอ!
เย่จื่อเฉินหัวเราะแห้งๆ แล้วยื่นมือไปลูบหัวของเสี่ยวไป๋ เสี่ยวไป๋อ้าปากจะกัด แต่ฝ่ามือกลับลอยมาอีกครั้ง
"แกอย่ามาอวดดีกับฉัน ขอบอกไว้เลยนะ แกสู้ฉันไม่ได้หรอก"
หงิงหงิง...
เสี่ยวไป๋สะบัดหางไปมา หัวที่เชิดเย่อหยิ่งนั้นก้มลง
เมื่อเย่จื่อเฉินเห็นว่ามันอ่อนข้อลงแล้ว เขาจึงเริ่มเข้าประเด็น
"แกเป็หมาจาก์ แกมีความสามารถอะไรที่พิเศษแปลกๆ บ้างไหม?"
สะบัดหางแล้วพยักหน้า
"สรุปว่าแกมีไหม?"
สะบัดหางแล้วพยักหน้าอีก
"แกเชื่อไหมว่าฉันต่อยแกได้นะ"
เย่จื่อเฉินยกมือขึ้นทำท่าจะต่อย เสี่ยวไป๋จึงรีบส่งสายตาให้หลิวฉิง
"ฉันรู้ว่าเสี่ยวไป๋พูดว่าอะไร"
หลิวฉิงรีบเรียกเย่จื่อเฉินเอาไว้ เย่จื่อเฉินหันมามองเธอด้วยความสงสัย
"เธอรู้เหรอ?"
"ใช่ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงฟังรู้เื่"
"แล้วมันพูดอะไร"
"เสี่ยวไป๋มันบอกฉันว่ามันเป็หมาจาก์ มันก็ต้องมีความสามารถพิเศษอยู่แล้ว แต่แค่มันยังเด็กอยู่ นอกจากแกล้งโง่แล้วก็ทำอะไรไม่ได้"
"แล้วฉันมาหาแกมันจะมีประโยชน์อะไรเล่า" เย่จื่อเฉินด่าด้วยความโมโห เ้าหมาตัวนี้นับว่าแปลกแล้วนะ แต่ละวันเอาแต่แกล้งทำเป็โหด แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เสแสร้งเท่านั้น
โฮ่งโฮ่ง...
"มันพูดอะไรอีก?" เย่จื่อเฉินหันไปหาหลิวฉิง
"มันบอกรอให้มันโตก่อน เดี๋ยวมันก็เก่งแล้ว ต่อให้เป็นักรบ์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน" หลิวฉิงอธิบายอยู่ข้างๆ
เย่จื่อเฉินมีสีหน้าใ แม้แต่นักรบ์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ ถ้าอย่างนั้นก็แข็งแกร่งจริงๆ น่ะสิ
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าที่จริงแล้วนักรบ์มีความสามารถอะไร แต่ในเมื่อเป็คนบน์ จะรับมือกับคนธรรมดาไม่ได้ได้ยังไงกัน
หมาตัวนี้ดุเสียยิ่งกว่านักรบ์อีก ถ้าอย่างนั้นก็เป็หนึ่งในแผ่นดินเลยน่ะสิ
"เมื่อไรแกถึงจะโต" เย่จื่อเฉินเอ่ยถามอีกครั้ง
โฮ่งโฮ่ง...
"มันบอกว่าของกินที่นี่ มันกินแค่นิดเดียวก็เลยดูดซับพลังงานไม่ได้ ไม่สามารถโตได้ด้วยซ้ำ ถ้ามีของกินจาก์ก็จะโตเร็ว"
"ไม่มีปัญหา"
เย่จื่อเฉินตาลุกวาว ก็แค่เอาของกินจาก์มาไม่ใช่หรือไง
ปัญหาง่ายๆ
อย่าลืมสิ คนที่เขาร่วมสาบานด้วยเป็ผู้เลี้ยงสุนัขบน์เลยนะ
โฮ่งโฮ่ง...
"มันพูดอะไรอีก"
"มันบอกว่านายขี้โม้"
หลิวฉิงที่แปลอยู่ก็ยังอดขำไม่ได้ แต่ในใจก็รู้สึกว่ามันมหัศจรรย์มาก
หมาตัวนี้มองเห็นเธอ แล้วเธอก็ยังเข้าใจที่หมาตัวนี้พูดอีก ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือหมาตัวนี้กับเย่จื่อเฉินเอาแต่คุยเื่์อะไรนั่น...
อยู่ดีๆ เธอก็นึกถึงตอนที่เย่จื่อเฉินให้เธอดูแชทกลุ่มอันนั้น
หรือว่าจะเป็กลุ่มเทพเซียนจริงๆ?
เมื่อโดนหมาดูถูก เย่จื่อเฉินก็เริ่มโมโห
"ไอ้ลูกหมา แกรอให้ฉันเอาของกินบน์มาได้ก่อนเถอะ ถึงตอนนั้น..."
โฮ่งโฮ่ง!
"มันว่าไงอีก?"
"มันบอกว่าถ้านายเอามาได้ มันจะยอมรับนายเป็พ่อมันเลย"
หลิวฉิงแปลออกไปตามความจริง