ความวุ่นวายของปีศาจในวัดตงหวาที่เพิ่งจะสงบลงไป มันก็กลับมาไม่สงบอีกครั้ง
เซ่อเจิ้งอ๋องที่้าถอนหมั้น เป็ผลให้องค์หญิงใหญ่ไม่พอใจและโกรธเกรี้ยว จนทำร้ายเขาาเ็สาหัส และคิดอยากที่จะสังหารสามีของตน
อย่างแรกคือรุกจูบจนทำให้เซ่อเจิ้งอ๋องเคลิ้ม จากนั้นก็ใช้ท่าสังหารในตอนทีเผลอ เฮอะๆ ช่างเป็ความเสน่หาที่พาไปสู่ความพินาศเสียจริง!
เหล่าหญิงสาวต่างเป็เสือกันทั้งนั้น ไม่ใช่เื่ง่ายที่จะไปยั่วยุ!
ดูสิ แม้กระทั่งเซ่อเจิ้งอ๋องก็ยังตกหลุมพรางเลย!
“ตอนนี้ทุกคนในใต้หล้าต่างรู้กันหมดแล้วว่าท่านโกรธเกรี้ยว จน้าฆ่าสามีของตนเอง เอาเลยสิ ชิงอี หากลงมือให้โเี้กว่านี้อีกนิด หนุ่มน้อยผู้นั้นอาจจะตายจริงๆ ก็ได้นะ”
เ้าแมวอ้วนที่หาววอดอยู่บนโต๊ะ มองดูด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “ใช้สมองครุ่นคิดอย่างหนักกว่าจะขโมยจูบสำเร็จ สรุปแล้วขโมยพลังกลับมาได้แล้วหรือยังล่ะ?”
ชิงอีอยากจะเอามีดเสียบมันเสียจริง
“โอ๊ย!” เ้าแมวอ้วนถูกดึงลงมาที่พื้นด้วยพลังที่มองไม่เห็น มันลุกขึ้นด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “ข้าอยากให้ท่านขโมยมันกลับมาได้จริงๆ นะ อย่างไรก็ตาม พลังนี้คงจะไม่หายไปตอนหลับอีกใช่หรือไม่?”
“ใครจะไปรู้เล่า” ชิงอีหักนิ้วทั้งสิบจนเกิดเสียงดังกร๊อบๆ
เ้าแมวอ้วนสะบัดขนบนตัว แล้วพึมพำว่าเดาว่าเื่นี้คงไม่มีใครรู้จริงๆ นั่นแหละ “มันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการกับเื่นี้ ไข่มุกราชันก็หายไป เราเองก็ไม่รู้ว่าเราจะอยู่บนโลกมนุษย์ได้อีกนานแค่ไหน พลังของท่านก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ เช่นนี้แล้วมันจะไปดีได้เช่นไรกัน?”
“ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงท่านที่ไปทำให้หนุ่มน้อยผู้นั้นขุ่นเคืองเลย เขามีอำนาจมหาศาล หากถอนหมั้นจริงๆ เขาก็คงขังท่านไว้ในวัดร้างแห่งนี้ แล้วให้อ่านพระคัมภีร์กับภิกษุหัวโล้น เช่นนั้นที่ท่านเข้าไปในวังก่อนหน้านี้มันก็สูญเปล่าหมดเลยน่ะสิ?”
“เขาอยากจะแต่งงานก็แต่ง อยากจะถอนหมั้นก็ถอนงั้นหรือ? ฝันไปเถอะ!” ชิงอีส่งเสียงฮึออกมาอย่างเ็า จากนั้นจึงลุกขึ้นยืน แสยะยิ้มและพูดว่า “วันนี้ข้าจะต้องให้เขารับผิดชอบ!”
“เอ๋? นี่คือวางแผนจะแต่งงานแล้วหรือ?” เ้าแมวอ้วนยิ้มเย้ย “ก็ไม่เลวเลยนะ ทว่า ท่านตัดใจจากเทพหนุ่มาาเป่ยอินผู้นั้นของท่านไปแล้วหรืออย่างไร? ไม่ใช่ว่าท่านะโปาวๆ มาหลายพันปีว่านอกจากเขา ท่านจะไม่แต่งงานกับใคร อีกทั้งยังยินยอมเป็ภรรยาให้เขาั้แ่เด็กไม่ใช่หรือ?”
ใบหน้าของชิงอีที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเหลือบมองมาที่มัน “ข้าเห็นว่าแมวป่าในวัดตงหวาก็มีอยู่ไม่น้อยเลยนะ หรือบางทีข้าอาจจะจับแมวตัวเมียสองสามตัวมาเติมเต็มในวังหลังของเ้า ดีไม่ดีข้าก็จะได้มีมือซ้ายมือขวาไง จุดนี้ก็ถือว่ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง”
เ้าแมวอ้วนกระสับกระส่ายทันที ปล่อยแมวตัวเมียตัวน้อยให้เต็มไปทั่วูเาแบบนี้ไปเถอะ
คนหนึ่งคนและแมวตัวหนึ่งที่กำลังปะทะฝีปากกัน ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นข้างนอก
“เข้ามา”
ประตูถูกผลักเปิดออก เถาเซียงและต้านเสวี่ยก็เดินเข้ามา
“ตื่นแล้วหรือ?” ชิงอีมองไปยังพวกนางและถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สาวน้อยสองคนนี้ต่อสู้กับปีศาจหนูอย่างดุเดือด และถูกกัดเข้าที่ร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ร่างกายของพวกนางจึงเต็มไปด้วยิญญาชั่วร้าย เ้าแมวอ้วนเองก็ช่วยดูดิญญาชั่วร้ายออกจากพวกนาง กระนั้น พวกนางก็หมดสติไปหลายวันเช่นกัน
สาวน้อยทั้งสองรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล เมื่อพวกนางตื่นขึ้นมา และได้ยินเื่การกระทำอันหาญกล้าขององค์หญิง พวกนางจึงรีบมาในทันที
“องค์หญิงเพคะ เหตุใดท่านถึง...”
ชิงอียกมือขึ้น พร้อมกับเผยให้เห็นถึงการหมดความอดทน “ถ้ากล้าพูดเื่ไร้สาระออกมา ข้าจะทิ้งพวกเ้าไว้ที่นี่ ให้อยู่โกนหัวกลายเป็แม่ชีไปเลย!” แค่เ้าแมวอ้วนตัวเดียวก็น่ารำคาญมาพอแล้ว บวกกับนกกระจอกอีกสองตัว ไม่ใช่ว่า้าฆ่านางเลยหรืออย่างไร?
เมื่อสาวน้อยทั้งสองได้ยินถ้อยคำนั้นก็เงียบและมองดูนางอย่างขมขื่น
ชิงอีขมวดคิ้ว “บอกข้ามาหน่อยว่าสถานการณ์ในวัดตงหวาตอนนี้เป็อย่างไรบ้าง?”
สาวน้อยทั้งสองมองหน้ากัน ชิงอีเบะริมฝีปาก เดาว่าถามพวกนางไปก็ไม่มีประโยชน์ ทุกคนต่างเพิ่งตื่นกันทั้งนั้น
“ชิวอวี่!”
หัวหน้าองครักษ์รีบเข้ามาจากข้างนอกทันที “องค์หญิงทรงมีรับสั่งอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“เ้ารายงานสถานการณ์ตอนนี้ให้ข้าฟังหน่อยสิ”
ชิวอวี่รีบยืดหลังตรง และตอบนางราวกับท่องหนังสือ “ตอนนี้ ภิกษุในวัดตงหวาได้รับาเ็สาหัส และมีเพียงแค่ไม่กี่สิบคนที่รอดชีวิตในครั้งนี้”
“เมื่อวานเซ่อเจิ้งอ๋องได้สอบปากคำเ้าอาวาสเจี้ยชือไป เพียงแต่ตอนนี้เขากลายเป็บ้าไปแล้ว แม้กระทั่งพูดก็พูดไม่ชัดด้วยซ้ำ แค่...”
“แค่อะไร?”
“เขาเอาแต่ะโขอร้องให้องค์หญิงช่วยพวกเขาอยู่ตลอดเวลา...” ชิวอวี่พูดอย่างระมัดระวัง มีนางกำนัลอยู่ เขาเลยไม่กล้าที่จะพูดออกมาอย่างเต็มปาก
ชิวอีหาววอดด้วยสีหน้าเรียบเฉย จึงสั่งให้นางกำนัลทั้งสองกลับไปพักผ่อน
ชิวอวี่ยืนอยู่ต่อหน้านางด้วยความเคารพ และไม่สามารถหยุดกังวลได้เลย เขาเห็นแล้วว่าองค์หญิงใหญ่ท่านนี้เก่งกาจจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเ้าแมวที่ใช้น้ำลายเปิดดวงตาหยินหยางให้กับเขา
โลกทัศน์ของชิวอวี่พังทลายไป และสร้างใหม่ขึ้นมาในชั่วพริบตา ทั้งยังพ่ายแพ้ให้กับองค์หญิงใหญ่อย่างราบคาบ
“เ้าเป็คนสนิทของฉู่จื่ออวี้ เ้าอยู่กับเขามากี่ปีแล้วล่ะ?”
“ทูลองค์หญิง กระหม่อมรับใช้กับองค์รัชทายาทมาั้แ่กระหม่อมอายุสิบสามปีพ่ะย่ะค่ะ ถึงตอนนี้ก็ล่วงเลยมาสิบปีแล้ว”
สิบปี ก็แสดงว่าตอนที่ฉู่จื่ออวี้อายุหกขวบ ชิวอวี่ก็อยู่ข้างกายเขาแล้ว
ชิงอีคิดไตร่ตรองและไม่พูดอะไรออกมา ทั้งห้องก็เงียบลง ยิ่งทำให้ชิวอวี่ประหม่ามากขึ้น เขาไม่สามารถเข้าใจได้ครู่หนึ่ง องค์หญิงทรงถามเช่นนี้ มันหมายความว่าอย่างไรกัน?
“ของขวัญที่ข้ามอบให้เ้า ยังอยู่หรือไม่?”
ชิวอวี่ผงะไปครู่หนึ่ง ถึงจะนึกได้ว่า’ ของขวัญ’ ในคำพูดของนางนั้นหมายถึงอะไร ขณะเดียวกันก็ยิ้มอย่างขมขื่นออกมา “กระหม่อมหวาดกลัวมันยิ่งนัก หากองค์หญิงเอาของขวัญนี้กลับคืนไป กระหม่อมจะขอบพระคุณเป็อย่างมากพ่ะย่ะค่ะ” ชิวอวี่ที่คิดไปถึงในภายภาคหน้าเวลาไปไหนมาไหน แล้วมีผีออกมาทักทายตน พอพูดเื่นี้แล้ว เขาก็ปวดหัวขึ้นมาทันที
“ของที่ข้าให้ไปแล้ว ข้าไม่เคยเอาคืนหรอก” ชิงอีมองเขาด้วยรอยยิ้ม “เป็ชายชาตรี ทว่า ยังกลัวผี ไม่อายผู้อื่นหรือไร”
สีหน้าของชิวอวี่แดงขึ้นทันใด “กระหม่อมไม่ได้กลัวผีพ่ะย่ะค่ะ เพียงแค่...เพียงแค่กระหม่อมอยากจะรับใช้องค์หญิงอย่างเต็มที่ มิบังอาจคิดเื่อื่นพ่ะย่ะค่ะ”
“ั้แ่นี้เป็ต้นไป ข้าก็จะเป็เ้านายของเ้าเอง”
“องค์หญิง!” ใบหน้าของชิวอวี่ใเป็อย่างมาก
“องค์หญิงต้องทรงขอองค์รัชทายาทก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
“เ้าคิดว่าองค์ราชทายาทจะไม่อนุญาตหรือ?” ชิงอีที่ยังคงหยิ่งยโสและเผยรอยยิ้ม จนเห็นเขี้ยวเล็กๆ “เ้าไม่ตอบตกลงก็ย่อมได้ อย่างไรก็ตาม พอเ้าตายไป เ้าก็หนีไม่พ้นอยู่ดี”
ชิวอวี่กัดฟันแน่น “กระหม่อมจงรักภักดีและรับใช้นายเพียงคนเดียวอย่างซื่อสัตย์ หากองค์หญิงใหญ่ยังคงยืนกรานที่จะทำเช่นนี้ ท่านเอาชีวิตของกระหม่อมไปเสียดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของชิงอีจางลง นางเบะปากและส่งเสียงชิออกมา “น่าเบื่อ”
“ออกไปเถอะ จะอยู่ที่นี่ต่อให้เกะกะลูกตาข้าทำไมกัน?”
“กระหม่อมขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”
“เดี๋ยวก่อน”
ชิวอวี่หันกลับมาด้วยใบหน้าขมขื่น หรือองค์หญิงจะเสียพระทัยที่ทำเื่เช่นนั้นลงไป? นางพร้อมที่จะปลิดชีวิตเขาอย่างนั้นหรือ?
“ส่งคนกลับไปที่วังหลวง และส่งข้อความถึงองค์รัชทายาทว่าข้าถูกปีศาจที่วัดตงหวาทำร้ายได้รับาเ็สาหัสจนใกล้ตาย จึงต้องกลับวังเพื่อให้หมอหลวงช่วยชีวิต”
เมื่อสั่งให้ชิวอวี่ออกไป ชิงอีก็ค่อยๆ ปีนขึ้นไปที่เตียงแล้วนอนลง เมื่อนึกถึงใบหน้าเย่อหยิ่งของหนุ่มน้อยผู้นั้น นางก็อดที่จะยิ้มเยาะเย้ยไม่ได้
อยากจะให้นางอยู่ที่นี่แล้วท่องพระคัมภีร์งั้นหรือ ไม่มีทาง!
ภายในห้อง ฝั่งทางใต้
ฉู่สือที่ออกไปส่งหมอหลวงรีบกลับมายังห้องในทันที
“าา ท่านไม่เป็อะไรใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
เซียวเจวี๋ยส่ายหน้าและใช้แขนค้ำ เพื่อลุกขึ้นยืน
ฉู่สือที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “ท่านพักผ่อนอีกสักหน่อยดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวเจวี๋ยมองมาที่เขาด้วยสายตาหยอกล้อเล็กน้อย “ในสายตาของเ้า ข้าอ่อนแอเพียงนั้นเลยหรือ?”
แน่นอนว่าไม่ใช่ ฉู่สือเกิดรู้สึกอายขึ้นมาทันใด “ทว่า ท่านได้รับาเ็นะพ่ะย่ะค่ะ ร่างกายของมนุษย์ไม่ได้ดีเหมือนร่างเทพ กระหม่อมกังวลว่าหญิงสาวคนนั้นคงไม่ได้ไม่มีความรับผิดชอบหรอกใช่ไหม?”
เมื่อพูดถึงผู้หญิงคนนั้น คิ้วของเซียวเจวี๋ยก็ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
“นางช่างไร้ยางอายจริงๆ ไม่นึกเลยว่า...ไม่นึกเลยว่าจะมาแทะโลมท่านอีกครั้ง...”
“หุบปาก”
ฉู่สือรีบปิดปากอย่างทันควัน เห็นได้ชัดว่าในยามนี้เซียวเจวี๋ยอารมณ์ไม่ดีเป็อย่างมาก
ก็ใช่ ใครจะไปมีความสุขที่มีแมลงตัวหนึ่งมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ กันล่ะ
“สาวน้อยผู้นั้นยิ่งยโสโอหัง ในสายตาของนาง ข้าเป็เพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง นางทำเช่นนั้นเพื่อที่จะเอาพลังกลับคืนไป และการกระทำของเ้าในวันนี้ประมาทเกินไปเช่นกัน”
“กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฉู่สือก้มศีรษะลง เขาเองก็รู้ว่าการขัดขวางหลายครั้งของเขาในวันนี้รุนแรงเกินไป เมื่อใดก็ตามที่ชิงอีสงสัยขึ้นมา ก็จะง่ายต่อการเผยพิรุธออกมา
“ไปกลับเสีย ต่อไปหากข้าไม่สั่ง เ้าก็ไม่ต้องทำ”
“พ่ะย่ะค่ะ” ฉู่สือพยักหน้า ทว่า เมื่อเดินไปได้แค่สองก้าว ก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า “าา ทว่า พลังนั่นเราก็อย่าใช้มันดีกว่า หากนางเกิดสงสัยขึ้นมา เช่นนั้นท่าน...”
สายตาที่เ็าของเซียวเจวี๋ยจ้องมองมาที่เขา ฉู่สือย่นคอและขอตัวออกไป
ห้องกลับสู่ความสงบอีกครั้ง เซียวเจวี๋ยนั่งอยู่บนที่นั่งของเขา ใบหน้าเล็กๆ ที่เ้าเล่ห์และงุ่มง่ามปรากฏขึ้นในความคิดของเขาตลอดทั้งวัน รวมไปถึงัับางเบาที่ดูเหมือนยังคงติดอยู่บนริมฝีปากของเขา
คิ้วของเขาขมวดอย่างรวดเร็ว
“น่ารำคาญจริงๆ ...”
ต้องรีบจัดการให้หญิงสาวผู้นั้นไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้!