การฝึกศาสตร์นั้นความจริงแล้วยากมากแค่ไหนกันนะ?
ภายใต้ระยะเวลาอันยาวนานเหล่ารุ่นก่อนที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตขั้นสูงได้จัดการสรุปเส้นทางและสิ่งสำคัญเพื่อเหล่ารุ่นหลังเอาไว้แล้ว
พร์ วิธีการ ยาวิเศษ อาวุธเวท ทรัพย์สิน หากจะเดินไปจนสุดทางเรียกได้ว่าไม่สามารถที่จะขาดของทั้งห้านี่ไปได้เลย
พร์นั้นไม่ต้องพูดถึงหากว่าคนหนึ่งไม่มีพื้นฐานพลัง ไม่ว่าจะร่ำรวยมากแค่ไหนก็ไม่อาจจะเข้ามาสู่เส้นทางการฝึกศาสตร์ได้ และพื้นฐานพลังดีหรือไม่ดีก็เป็ส่วนหนึ่งของการก้าวพัฒนา
คนธรรมดาที่จะมีพื้นฐานพลังนั้นมีอยู่น้อยมากในยุคที่การฝึกศาสตร์เปล่งประกาย คนที่อยู่ในระดับฝึกลมหายใจนั้นไม่ได้ถือว่าเป็ผู้ฝึกศาสตร์ที่แท้จริง ในระหว่างการฝึกจากระดับฝึกลมหายใจมาถึงขั้นพื้นฐานคนที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ที่มีธาตุพลังสี่ห้าชนิดก็จะถูกกีดกันเอาไว้ภายนอกตลอดชีวิต
พื้นที่ใจกลางที่เต็มไปด้วยพลังมากมายเหล่านักปราชญ์ต่างพากันซ่อนอยู่ในป่าลึก ความหนาแน่นของพลังไม่ได้ต่างกันมากนักหากมีวิธีการที่ดีแล้ว ในระยะเวลาที่คนอื่นกลั่นพลังได้หนึ่งโมเลกุล คุณก็จะทำได้หนึ่งจุดห้าหรือสอง หรืออาจจะมากกว่านั้น...เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าคนที่เดิมทีพร์ไม่ได้ต่างกันมาก ก็จะค่อยๆ ถูกแบ่งให้ออกห่างจากกัน
ยาวิเศษสามารถช่วยป้องกันคุณได้ในเวลาที่มีปัญหาสามารถช่วยลดระยะเวลาในการฝึกของคุณได้ หรืออาจจะเพิ่มผลให้มากขึ้นเป็สิ่งที่แต่ละบ้านควรมีเอาไว้ไม่ขาด
ส่วนอาวุธเวทที่มีพลังมากสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้กับเส้นทางการฝึกศาสตร์ได้ เพียงแค่คนทำธรรมดามีอยู่ไม่ขาดก็สามารถมีนักฝึกศาสตร์หน้าใหม่ปรากฏขึ้นมาได้เสมอ แต่ว่าของวิเศษเหล่านี้เมื่อเก็บมาได้แล้วก็ต้องใช้เวลาเป็พันปีในการเติบโต จะสามารถตามการสูญเสียของนักปราชญ์ได้อย่างไรด้วยเวลาที่ไหลผ่านไป การโต้เถียงเพื่อชิงยาวิเศษอายุร้อยปีนั้นมีให้เห็นอยู่ทั่วไป อาวุธเวทที่ใช้ได้ดีก็สามารถที่จะช่วยปกป้องชีวิตในการต่อสู้ได้ หรือแม้แต่ใช้ในการแย่งเอาสมุนไพรวิเศษนั่นมาถือเป็การยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว
เื่ทรัพย์สินคงไม่ต้องพูดกันแม้ว่าระยะเวลาชีวิตของนักปราชญ์นั้นจะยาวนานกว่าคนทั่วไปแต่ก็ไม่อาจจะออกไปหาวัตถุดิบในการทำยาหรืออาวุธออกได้ทุกครั้ง พื้นที่ในเสินโจวกว้างขวางนี่เป็วิธีการที่เปลืองทั้งพลังงานและเวลาในเวลาแบบนี้ประโยชน์ของทรัพย์สินเงินทองก็จะปรากฏออกมาให้เห็นถ้าคุณมีกำลังทรัพย์แม้คุณจะอยู่บนยอดเขาก็มีเหล่านักปราชญ์มากมายที่จะมาหาคุณเพื่อทำการติดต่อแลกเปลี่ยน
แน่นอนว่า “เงิน” ในที่นี้ไม่ใช่ธนบัตรที่เราใช้กันอยู่ในทุกวัน!
หลังจากที่หลินลั่วหรานคิดว่าตัวเองอาจจะเป็พวกพร์ย่ำแย่ก็ไม่มีความคิดจะไปฝึกเวทลูกไฟต่อแล้วเมื่อกลับไปยังห้องพักก็ไม่มีแรงจะไปทดลองอะไรเช่นกัน
ปิ่นปักผมฟีนิกซ์ถูกวางสงบนิ่งอยู่บนโต๊ะรูปร่างที่แปลกตาเรียกให้สายตาของเธอจับจ้อง
ัและฟีนิกซ์เป็รูปปั้นตามเสาที่สืบทอดต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังสามารถเห็นเงาร่างของพวกมันได้ดังนั้นอย่าได้พูดถึงสมัยก่อนเลย ใน่ราชวงศ์เฉายังมีรูปภาพบางแบบที่ใช้เฉพาะตระกูลของจักรพรรดิเท่านั้นคนธรรมดาทั่วไปหากนำมาใช้ก็ถือว่าทำผิด และไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้
แต่แม้ว่าจะห้าม ก็ไม่อาจจะกดความรักสวยรักงามของเหล่าสาวๆชาวบ้านเอาไว้ได้ เครื่องทองนั้นเด่นชัดมากเกินไปเครื่องประดับที่ทำขึ้นจากเงินและไข่มุก ก็เพื่อที่จะไม่ให้เห็นร่างของนกฟีนิกซ์ได้ชัด
แต่ปิ่นปักผมที่หลินลั่วหรานซื้อมาชิ้นนี้มองดูแล้วช่างเป็ “โบราณวัตถุ” ที่ดูปลอมเปลือกมาก รูปทรงของปิ่นปักผมดูแปลกตา และเป็ฟีนิกซ์สองหัวที่ไม่ค่อยพบเห็น บางทีตัวหนึ่งอาจจะเป็ตัวผู้ และอีกตัวเป็ตัวเมีย? หลินลั่วหรานไม่สามารถมองเห็นความผิดแปลกของตัวฟีนิกซ์ได้ความคิดนี้จึงปรากฏขึ้นมาก่อนจะหายไป
แม้ว่าลูกจ้างร้านขายของหยกโบราณจะหวังดีแต่หลินลั่วหรานเองก็ไม่ใช่ว่าเห็นว่าน่าสงสารก็เลยเห็นใจ
แต่เพราะว่าไข่มุกมีความพิเศษบางอย่างมันไม่เหมือนกับพวกข้าวของเครื่องใช้หยกที่จะสามารถสืบทอดต่อกันมาได้เป็พันปีอีกทั้งหากถูกคนใส่ติดตัวเป็เวลานาน ก็สามารถที่จะนุ่มขึ้นได้ดังนั้นพวกของเก่าที่เป็ไข่มุก จึงไม่ได้ดีนักในวงการนักสะสม นอกจากบนเครื่องหัวของราชินีแล้วไม่ว่าจะเป็นักสะสมคนไหน ก็ยากที่จะบอกประวัติของไข่มุกออกมาได้อย่างชัดเจน
แม้แต่เครื่องประดับโดยทั่วไปก็ได้แต่ทำสัญลักษณ์ของร้านเอาไว้แต่ไม่สามารถที่จะมีอะไรมายืนยันได้ว่ามันคือไข่มุกที่ใครเคยสวมใส่และยากที่จะให้ราคา
ไม่ว่าอย่างไรปิ่นปักผมฟีนิกซ์ที่หลินลั่วหรานซื้อมานั้นก็มีคุณภาพที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ หากเป็วัตถุโบราณล่ะก็มันไม่มีแม้แต่รอยลมกัดเซาะให้เห็นใหม่เสียจนคิดว่าเป็ปิ่นไข่มุกที่เพิ่งทำขึ้นเมื่อปีก่อนมีตรงไหนที่เหมือนกับเป็วัตถุโบราณกัน!
ที่สำคัญไปกว่านั้นมันเป็สีฟ้า เฮ้จะทำของปลอมก็ไม่ควรจะทำให้มันชัดเจนแบบนี้ไหมล่ะบนโลกนี้นอกจากจะมาย้อมเอาทีหลังแล้ว มีไข่มุกสีฟ้าอยู่ที่ไหนกัน?
แต่ว่าหลินลั่วหรานก็ยังคงซื้อมันมาไม่ใช่เพราะสาวแก่บอกว่าเป็ของโบราณหรอกแต่เป็เพราะเธอััได้ถึงพลังที่บางเบา แต่กลับมีอยู่อย่างแน่นอนบนปิ่นไข่มุกชิ้นนี้ เธอเป็นักฝึกศาสตร์มือใหม่ก็จริงแต่ก็สามารถยืนยันได้ว่ามีพลังอยู่ เหมือนกับก้อนแร่หยก แม้ว่าคุณจะไม่รู้จักมันแต่ก็ไม่อาจจะปิดบังของดีในตัวของมันเอาไว้ได้!
ดังนั้น นี่ก็ถือว่าเธอเก็บตกได้ของดีมาใช่ไหม?
หลินลั่วหรานนึกถึงธนบัตรที่เสียไปเพื่อซื้อของที่มั่นใจว่ามีความเกี่ยวข้องกับการฝึกศาสตร์ความเศร้าใจที่มีในตอนแรก ก็ดีขึ้นมามากทีเดียว
แต่ว่า เ้าปิ่นปักผมฟีนิกซ์ประดับไข่มุกสีฟ้านี่มันคืออะไรกันแน่นะ?
หลินลั่วหรานมองมันอยู่นาน มันเป็ปิ่นปักผมที่มีรูปร่างสะดุดตาหรือว่าจะเป็ของที่นักปราชญ์สาวเคยประดับติดตัวไว้ เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าก็เลยมีพลังติดมา?
หลินลั่วหรานปฏิเสธความคิดนี้ในทันทีไม่พูดเื่ที่นักปราชญ์สาวคงจะไม่สวมไข่มุกของโลกธรรมดา ก็ถือเป็เื่แปลกแต่วัตถุธรรมดาทั่วไปนั้น ไม่อาจจะเก็บรักษาพลังเอาไว้ได้นานขนาดนี้
แบบนั้นแล้ว เ้าของสิ่งนี้คืออะไรกันแน่?
อาจจะเป็ของที่เหมือนกับแผ่นหยกนั้นหรือเปล่านะ...หลินลั่วหรานตัดสินใจจะทดลองดูในระหว่างที่กำลังเลือกพลังในกายอยู่นั้น เธอก็คัดเหล่าพลังสีแดงเพลิงของธาตุไฟออกไปก่อนไข่มุกสีฟ้าแบบนี้ให้ความรู้สึกถึงความชุ่มชื้นของหยาดน้ำไม่น่าจะเหมาะกับพลังไฟเ่าั้
พลังที่ไร้ซึ่งการจำแนกคุณลักษณะผ่านเข้าไปยังปิ่นปักผมฟีนิกซ์โดยไม่ติดขัดและสว่างส่องแสงขึ้นตามแสงสีฟ้า ก่อนที่ปิ่นปักผมฟีนิกซ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ทำเอาผู้คนใขึ้น!
อย่างแรกคือส่วนหัวทั้งสองของฟีนิกซ์แบ่งออกเป็สองและค่อยๆ แยกออกมาจากตัวปิ่นปักผมที่ไม่ได้มีรอยแตกอะไรอยู่ก่อนหรือหากมีก็คงเล็กเกินไป หลินลั่วหรานยังคิดว่าเป็เพราะเธอรีบร้อนลองมากเกินไปจนทำให้ปิ่นปักผมฟีนิกซ์อันนี้พังเสียแล้ว เพียงแต่การที่มันแยกออกจากกันก็ถือว่าพอเข้าใจแต่มันกลับค่อยๆ เติบโตขึ้น นี่มันอะไรกัน?
หลินลั่วหรานขมวดคิ้วแน่นไม่ส่งเสียงอะไรไม่รู้ว่าเธอควรจะเพิ่มพลังเข้าไปอีกไหมเธอกลัวว่านี่จะเป็การทดลองที่อันตรายเกินไป แต่ก็ไม่คิดว่าการเริ่มเติมพลังใส่เข้าไปเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ด้านในถูกเติมเต็มไปด้วยพลังแล้ว เธอไม่น่าจะซวยขนาดนี้ไหม?
เด็กฝึกมือใหม่มองไปยังปิ่นปักผมฟีนิกซ์สองหัว...ไม่สิตอนนี้เป็ปิ่นปักผมฟีนิกซ์หัวเดียวสองชิ้นไปแล้วสายตาของเธอเต็มไปด้วยความคลุมเครือไม่มั่นใจ เมื่อมองไปยังคฤหาสน์ที่สวยงดงามของตระกูลฉินหากว่ามันะเิขึ้นมา เธอก็คงจะไม่มีที่ให้โยนทิ้งสินะ!
หลินลั่วหรานคิดพิจารณาอีกรอบก่อนจะตัดสินใจว่าควรจะออกไปหาที่กว้าง แล้วจึงค่อยทดลองอีกครั้ง เธอจึงเก็บพลังกลับมาปิ่นปักผมฟีนิกซ์หัวเดียวทั้งสองขยับสั่นไหว ไม่รู้ว่ากำลังระบายความไม่พอใจอยู่หรือเปล่าก่อนจะขยับเข้าใกล้กันอย่างไม่พอใจนัก แล้วเปลี่ยนกลับไปเป็ปิ่นปักผมฟีนิกซ์สองหัวที่ไม่มีแม้แต่ร่องรอยการเชื่อมต่อเมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว นี่ถือเป็ผลงานที่ช่างมหัศจรรย์เสียจริง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้