เด็กสองคนอยากกินจนแทบน้ำลายไหลแล้วฝีมือการทำอาหารของพี่สะใภ้ใหญ่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยม ขอเพียงพี่สะใภ้ใหญ่บอกว่ามีอาหารอร่อยเช่นนั้นก็ต้องอร่อยจนพวกเขาแทบกัดลิ้นแน่นอน
เซียวยวี่อยู่ในห้องหนังสือได้ยินเสียงพูดคุยหัวเราะข้างนอกก็ไม่มีอารมณ์อ่านตำราแม้แต่น้อย เขาวางตำราลง ฟังเสียงพูดคุยข้างนอกอย่างตั้งใจ
เซี่ยยวี่หลัวบอกว่าจะทำอาหารอร่อยให้เด็กๆ
เด็กสองคนตื่นเต้นถึงเพียงนั้นดูท่า พวกเขาเชื่อในฝีมือการทำอาหารของเซี่ยยวี่หลัวเป็อย่างมาก! ทว่า ่สองวันนี้ที่ได้ทานอาหารในบ้านไม่ว่าจะเป็กับข้าวประเภทเนื้อหรือผัก ก็รู้สึกว่ารสชาติดียิ่งนัก
เซียวยวี่นึกว่าเพราะเซี่ยยวี่หลัวใส่เครื่องปรุงเยอะดังนั้นรสชาติจึงดีถึงเพียงนั้น อย่างไรเสียอาหารในภัตตาคาร ก็ใส่เครื่องปรุงรสมากมาย
เขาแอบไปห้องครัวเพื่อดูเครื่องปรุงรสที่เซี่ยยวี่หลัวใช้ตอนทำอาหารมีเพียงน้ำมันกับเกลือ และซีอิ๊วกับสุราขมที่วางอยู่ในตู้ นอกเหนือจากนั้น ก็ไม่มีเครื่องปรุงรสชนิดอื่นอีก
ไม่มีเครื่องปรุงรสพิเศษอะไรกลับสามารถทำอาหารที่มีรสชาติดีกว่าในภัตตาคารเสียอีก หากไม่เคยมีประสบการณ์ทำอาหารมาหลายปีย่อมไม่สามารถทำได้!
พอคิดว่า่เที่ยงตัวเองต้องไปทานข้าวที่บ้านท่านลุงสี่เซียวยวี่ก็นึกเสียดายขึ้นมา รู้แต่แรก เขาควรปฏิเสธเสีย!
ขณะที่ความคิดนี้ผุดขึ้นในห้วงภวังค์เซียวยวี่ถึงกับผงะไป
นี่เขากำลังตั้งตารอชิมอาหารที่เซี่ยยวี่หลัวทำงั้นหรือ?
ภายในใจเซียวยวี่ว้าวุ่นยิ่งนักรีบหยิบตำราขึ้นมา สงบจิตอ่านตำราอย่างตั้งใจ หมายจะลบล้างความคิดเลอะเลือนที่ผุดขึ้นมาในใจเมื่อครู่นี้ซึ่งเป็ความคิดที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย!
ต้องเป็เพราะ่เช้าเขากินไม่อิ่มแน่!
ท่านป้าสี่พุ่งพรวดเข้าไปในลานบ้านดูแลผักที่นางปลูกเต็มพื้นที่อย่างตั้งอกตั้งใจ
ถอนหญ้าพลางบ่นพึมพำว่าิจูช่างไม่รู้ความภายในใจคอยแต่จะคิดว่าควรแก้ปัญหาเื่ิจูอย่างไร ในห้วงความคิดก็นึกถึงเด็กทุกคนที่นางรู้จักถ้าไม่ใช่คนดีๆ ที่มีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว ก็มีแต่คนที่อายุน้อยเกินไป ไม่เหมาะสม
เมื่อก้มตัวนาน จึงรู้สึกปวดหลังนางทุบเอวที่เกร็งจนแข็งพักหนึ่ง โน้มตัวกำลังจะหาบน้ำไปรดน้ำที่แปลงผัก ก็มีคนเอ่ยเรียก"ท่านป้าสี่" ด้วยน้ำเสียงดีใจจากด้านหลัง
ท่านป้าสี่หันกลับมา เห็นว่าด้านหลังตัวเองมีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่เขากำลังมองนางด้วยสีหน้ายินดี
ชายหนุ่มผู้นี้ช่างดูคุ้นหน้านักท่านป้าสี่หวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวเสียงดังด้วยความยินดี "อาหยวนงั้นหรือ? เ้ากลับมาั้แ่เมื่อไร? "
"ข้ามาถึงบ้านเมื่อคืนขอรับ"เซียวหยวนยิ้มพร้อมกล่าว เขาย่อตัวลงแบกไม้หาบของท่านป้าสี่ ท่านป้าสี่ก็ไม่ขัดขวางมองหน้าเขาด้วยสีหน้าชื่นชม "เพิ่งกลับมาเมื่อคืน เ้าไม่นอนพักอีกหน่อยหรือ"
"ไม่ขอรับ นอนไม่หลับจึงลุกขึ้นมา" ใบหน้าใสซื่อของเซียวหยวนเผยรอยยิ้ม "ระยะนี้จะอยู่ที่บ้านพักหนึ่งจึงคิดจะมาปลูกผัก คิดไม่ถึงว่ามาแล้วจะพบท่านพอดี"
ท่านป้าสี่ยิ้มพร้อมกล่าว"เ้าช่างเป็คนขยันขันแข็งนัก ทำงานอยู่ข้างนอกมาทั้งปี กลับมาทั้งที ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้พักผ่อนยังจะปลูกผักอีก ดูแลทั้งเื่ในบ้านและนอกบ้าน ใครได้แต่งกับเ้า ถือเป็วาสนาของนางจริงๆ"
เซียวหยวนยิ้มด้วยความเขินอายหาบน้ำไปยังแปลงผักบ้านท่านป้าสี่
ท่านป้าสี่ใช้กระบวยตักน้ำเซียวหยวนเห็นนางรดน้ำหมดหนึ่งถังแล้ว ก็ไปหาบน้ำที่ริมแม่น้ำมาให้อีกหนึ่งถัง อยู่กับท่านป้าสี่ตลอดนางถามอะไร เซียวหยวนก็ตอบอย่างละเอียด พูดจาถ่อมตนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและอบอุ่น ท่านป้าสี่เห็นแล้วรู้สึกพึงพอใจยิ่งนัก
สุดท้ายท่านป้าสี่มอบต้นกล้าจำนวนหนึ่งให้เขาเซียวหยวนกล่าวขอบคุณเสร็จก็กลับไปปลูก และบอกว่าเขานำของดีจากข้างนอกกลับมาไม่น้อย่สายจะนำมามอบให้ท่านป้าสี่
ท่านป้าสี่ย่อมรู้สึกดีใจชี้แนะเซียวหยวนว่าควรปลูกต้นกล้าอย่างไร เมื่อเห็นเขาพรวนดินอย่างทะมัดทะแมง จากนั้นจึงปลูกต้นกล้ายิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกพึงพอใจ
เขาเป็คนซื่อสัตย์ อุปนิสัยอ่อนโยนทั้งยังรู้จักดูแลที่บ้าน ทำอะไรก็ดีทุกอย่าง บุรุษเช่นนี้ ถึงจะเป็คนที่ใช้ชีวิตเป็
เมื่อไม่มีคนอื่นให้เปรียบเทียบก็จะไม่เห็นจุดด้อย ท่านป้าสี่เห็นเซียวหยวนแล้วรู้สึกพึงพอใจยิ่งนัก จึงเอ่ยปากพูดออกมา“อาหยวน เ้าเพิ่งกลับบ้าน ในบ้านคงยังจัดการไม่เรียบร้อยใช่หรือไม่? วันนี้่เที่ยงมากินข้าวที่บ้านป้าสี่สิ ถือเป็การเลี้ยงต้อนรับเ้า!”
เซียวหยวนยิ้มพร้อมกล่าวด้วยความเขินอาย“จะรบกวนท่านป้าสี่และท่านลุงสี่ได้อย่างไรขอรับ! ”
“รบกวนไม่รบกวนอะไรกัน!” ท่านป้าสี่แสร้งทำเป็กล่าวอย่างไม่พอใจ “ตกลงตามนี้แล้วกัน วันนี้่เที่ยงเ้าต้องมากินข้าวข้าไปก่อน จะกลับไปทำอาหาร จำไว้ ต้องมาให้ได้! ”
เซียวหยวนรีบพยักหน้า“ท่านป้าสี่ให้ข้าไป ต่อให้มีมีดหล่นจากท้องฟ้า ข้าก็ต้องไปให้ได้ขอรับ! ”
ท่านป้าสี่เดินกลับบ้านอย่างรวดเร็วด้วยความพึงพอใจเข้าไปในห้องครัว ท่านลุงสี่กำลังจัดการกับเนื้อหมูอยู่ในห้องครัว ปกติเห็นภรรยาหั่นเนื้อดูง่ายมากทำไมพอตัวเองเป็คนหั่นเนื้อ ถึงได้ลื่นนัก ทำไมถึงหั่นยากขนาดนี้!
ท่านป้าสี่เข้าไป เห็นท่าทางเงอะงะของสามีตนเองจึงเดินไปหา “เอามีดให้ข้า ข้าทำเอง! ”
เห็นภรรยาตนเองกลับมาแล้วท่านลุงสี่รีบยื่นส่งมีดหั่นผักให้ หัวเราะพร้อมกล่าว “ไม่โมโหแล้วงั้นหรือ? ”
ท่านป้าสี่ยกมีดขึ้นหั่นลงไปหั่นเนื้อหมูเป็ชิ้นเล็กๆ “ข้าจะโมโหอะไรได้! ”
“ไม่โมโหก็ดีแล้ว เซียวยวี่ไปสอบพวกเราก็ถือว่าสนิทกับครอบครัวพวกเขา อย่างไรก็ควรเลี้ยงต้อนรับเขาจริงไหม! ” ท่านลุงสี่ยิ้มพร้อมกล่าวอย่างเอาใจ
ท่านป้าสี่ขานตอบทีหนึ่ง“อาหยวนก็กลับมาแล้ว”
“อาหยวน? อาหยวนคนไหน? ” ท่านลุงสี่ยังไม่เข้าใจ
“จะมีอาหยวนคนไหนอีก ก็เซียวหยวนอย่างไรเล่า!”
ท่านลุงสี่ได้ฟังดังนั้นก็มีความสุขนัก“เขาก็กลับมาแล้วงั้นหรือ? ไม่ได้พบนานแค่ไหนแล้วหนึ่งปีได้แล้วกระมัง? ”
“ใช่ ทีแรกที่ข้าเห็นเด็กคนนั้นก็นึกอยู่นานทีเดียว!หากไม่ใช่เพราะเขาหน้าตาเหมือนพ่อของเขา ข้าแทบจำไม่ได้แล้ว! ” ท่านป้าสี่กล่าวอย่างมีความสุข“ข้าเชิญเขามากินข้าว่เที่ยง! ประเดี๋ยว่เที่ยงเขาก็มา! ”
ท่านลุงสี่กล่าวด้วยท่าทางกังวล“นี่… นี่เป็อาหารที่จะเลี้ยงเซียวยวี่ หากอาหยวนมา...”
สองคนนั้นไม่ค่อยสนิทกัน!
“จะเป็อะไรไป อย่างไรก็มีอาหารเพิ่มหนึ่งคนก็แค่เพิ่มตะเกียบคู่หนึ่งเท่านั้นเอง” ท่านป้าสี่กล่าวอย่างไม่ใส่ใจนัก
อย่างไรเสียนางก็ไม่อยากให้เซียวยวี่มาที่บ้านนางคนเดียว!
ท่านลุงสี่พยักหน้า “เช่นนั้นก็ได้ เพิ่มหนึ่งคนเพิ่มตะเกียบหนึ่งคู่”
ท่านป้าสี่ยิ้มอย่างได้ใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้