ครั้นเห็นว่าจวินจิ่วเฉินตวัดดาบขึ้นมา และเห็นว่าข้างกายเขามีผู้ช่วยโผล่ออกมาอีกหนึ่งคน จินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าที่กำลังจะพุ่งจู่โจมเข้าใส่ก็หยุดชะงักกันทั้งสิ้น
พวกมันถึงขนาดกับต้องมองดูกลุ่มของจวินจิ่วเฉิน แล้วพร้อมใจกันหันกลับไปมองไป๋หลี่ิชวน ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังชั่งน้ำหนักดูว่ารวมกลุ่มล้อมโจมตีกลุ่มของจวินจิ่วเฉินดีหรือรวมกลุ่มล้อมโจมตีไป๋หลี่ิชวนดี?
ไม่แปลกใจที่พวกมันมีความระมัดระวัง ต้องทราบเอาไว้ว่านับั้แ่ที่ปิงไห่เกิดการเปลี่ยนแปลงมาจนถึงบัดนี้เป็เวลากว่าสิบปีแล้ว! จำนวนมนุษย์ที่มายังปิงไห่ในแต่ละปีนั้นน้อยนิดมาก อีกทั้งผู้ที่มาล้วนเป็ผู้มีฝีมือแกร่งกล้า ยากที่จะรับมือได้ พวกมันจึงไม่ได้ทานเนื้อสัตว์มาเป็เวลานาน
ไป๋หลี่ิชวนรู้สึกประหลาดใจที่เห็นจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าหันมามองตนเองอีกครั้ง เขาจึงอดไม่ได้ที่จะด่าทอ “ไอ้หมาบ้า เป็บ้าไปแล้วหรือ? ”
สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายคือดูเหมือนว่าจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าจะฟังรู้เื่ว่าเขากำลังด่าทอพวกมัน พวกมันถูกกระตุ้นให้เกิดความโกรธ เพียงชั่วพริบตาเดียวสุนัขเ่าั้ก็หันกลับมากระโจนเข้าหาไป๋หลี่ิชวนอย่างไม่ลังเล
ไป๋หลี่ิชวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ช้าเขาก็ได้สติกลับมาพลางด่าสาดเสียเทเสีย “ไอ้หมาโง่! พวกเ้าเป็หมู [1] หรือ? ”
แม้ว่าทางด้านของชายหนุ่มที่สวมใส่หน้ากากจะมีสามคน ทว่ามีหนึ่งคนถูกวางยาพิษ อีกหนึ่งคนได้รับาเ็ ในส่วนของผู้คุ้มกันที่ปรากฏตัวออกมา ไม่ว่าจะมองอย่างก็ไม่ใช่ผู้ที่มีฝีมือ! จินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าฝูงนี้วิเคราะห์อย่างไรกัน?
ไม่มีผู้ใดทราบว่าจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าเข้าใจในสิ่งที่ไป๋หลี่ิชวนด่าทอหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะโกรธจนถึงขีดสุดแล้ว สุนัขแต่ละตัวต่างก็กระโจนเข้าข้างกายของไป๋หลี่ิชวนพลางอ้าปากกว้างเผยให้เห็นเขี้ยวอันน่าหวาดกลัว อันตราย และดุร้ายเสมือนคุกคาม
ไป๋หลี่ิชวนทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าทันที เขากำลังจะโผไปทางกลุ่มของจวินจิ่วเฉิน แต่ใครจะไปทราบว่าในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ กลุ่มของจวินจิ่วเฉินกลับหายไปอย่างรวดเร็วประหนึ่งว่าหายไปกลางอากาศ
ทันทีที่ไป๋หลี่ิชวนร่อนกายลงสู่พื้นดิน จินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าก็หันหลังกลับมาไล่ตาม ไป๋หลี่ิชวนทั้งโกรธทั้งใ เขาวางยาพิษสังหารไปหลายชีวิต ทว่าก็ไม่กล้าสังหารมากนัก
ต้องทราบเอาไว้ว่าจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าเหล่านี้ถือว่าเป็สัตว์พื้นเมืองของปิงไห่ไปแล้ว อีกทั้งยังเป็เบาะแสสำคัญสำหรับสืบเสาะปริศนาของปิงไห่ ถ้าไม่ใช่เพราะเื่สุดวิสัยไม่ว่าผู้ใดเขาก็จะไม่สังหารหมู่!
จินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋ามีมากขึ้นเรื่อยๆ ไป๋หลี่ิชวนไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากทำได้เพียงหลบหนี
เขากำลังจะหลบหนีเข้าไปในป่าเขา แต่ใครจะทราบว่าภายในป่าเขาจะมีจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าพุ่งออกมาอีกหลายตัว พวกมันบังคับให้เขาจำเป็ต้องวิ่งบนพื้นราบตามแนวชายฝั่งของทะเลน้ำแข็ง
สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายยิ่งกว่าคือยิ่งเขาวิ่ง จินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าที่ตามหลังมาก็ยิ่งมากขึ้น ดูเหมือนว่าฝูงสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ที่ดักซุ่มอยู่ในบริเวณนี้จะตื่นใ เพราะพวกมันปรากฏตัวจากทั่วสารทิศมากขึ้นเรื่อยๆ และเข้าร่วมฝูงที่ไล่สังหารไป๋หลี่ิชวน
ไป๋หลี่ิชวนหันกลับไปมองสองถึงสามครั้งจนไม่กล้ามองย้อนกลับไปแล้ว ด้านหลังของเขาในยามนี้ล้วนเต็มไปด้วยสุนัขมากมายจนทำให้เขาหวาดกลัว! เขาวิ่งสุดชีวิตยิ่งกว่าเดิมพลางคิดว่าในคราวหน้าเขาจะต้องคิดค้นยาพิษไว้สำหรับต่อกรกับสุนัขสายพันธุ์ใหญ่อย่างแน่นอน!
ด้วยเหตุนี้ มนุษย์หนึ่งคนกับสุนัขสายพันธุ์ใหญ่หนึ่งฝูง หนึ่งคนหลบหนี หนึ่งฝูงไล่ตามบริเวณแนวชายฝั่งของทะเลน้ำแข็ง การไล่ตามกลายเป็ฉากที่ค่อนข้างงดงามโออ่า
ในขณะนี้ เถ้าแก่เฉิงที่กำลังข้ามทะเลน้ำแข็งก็สังเกตเห็นฉากนี้พอดี
เถ้าแก่เฉิงขี่หลังหมาป่าหิมะตัวหนึ่ง หมาป่าหิมะตัวนี้มีขนปกคลุมรอบกาย สีขนของมันขาวยิ่งกว่าหิมะ ถึงขั้นว่าขาวบริสุทธิ์ไร้ที่ติ ร่างกายของมันใหญ่โตยิ่งกว่าหมาป่าหิมะถึงสองเท่าและไม่มีความดุร้ายเท่ากับจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋า มันมีดวงตาสีดำประดุจไข่มุกดำ มีความอ่อนโยนและลึกซึ้ง ทว่ากลับมีความสง่างามน่าเกรงขามและความดุดันราวกับว่าเป็าาแห่งเผ่าพันธุ์หมาป่า และหัวหน้าของสัตว์ป่า
จนถึงบัดนี้ยังไม่มีผู้ใดสามารถแก้ปัญหาพิษบนผิวทะเลน้ำแข็งได้และไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ ไม่ว่าจะเป็มนุษย์หรือสัตว์ เมื่อััโดนพิษแล้วพิษก็จะแพร่กระจายไปทั่วร่างจนเสียชีวิตทันที อีกทั้งลักษณะของศพยังน่าเกลียดน่ากลัวอีกด้วย เพียงแต่หมาป่าหิมะตัวนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากสารพิษบนผิวทะเลน้ำแข็งเลย ถึงแม้ว่าจะััโดยตรงก็ไม่ถูกพิษ เถ้าแก่เฉิงใช้มันถึงสามารถเข้าสู่ทะเลน้ำแข็งปิงไห่ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
เถ้าแก่เฉิงมาถึงทะเลน้ำแข็งปิงไห่กลางดึกเมื่อคืนนี้ เขาดักซุ่มอยู่รอบข้างเป็เวลานาน เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่บริเวณโดยรอบจึงเรียกหมาป่าหิมะมาและเข้าสู่ทะเลน้ำแข็ง บัดนี้เขาอยู่ห่างจากชายฝั่งทางเหนือของทะเลน้ำแข็งปิงไห่มาก เขาเห็นเพียงแค่จินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าวิ่งรวมกันเป็ฝูง แต่เขาสังเกตเห็นไม่ชัดว่าเกิดเหตุใดขึ้น ทว่าจากความรู้ความเข้าใจที่เขามีต่อจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋ามานานหลายปีนั้น เขามั่นใจมากว่าจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋ากำลังไล่ล่าเหยื่ออยู่ อีกทั้งเหยื่อตัวนี้จะต้องทำให้มันโกรธอย่างแน่นอน
ในสถานที่เย็นะเืและมีพิษร้ายแรงเข้มข้นมาก นอกเหนือจากมนุษย์แล้ว สิ่งมีชีวิตชนิดอื่นที่กล้าเข้าใกล้นั้นมีน้อยมาก คนผู้นี้คือใครกัน? มาที่ปิงไห่แล้วยังกล้าเคลื่อนไหวใหญ่โตขนาดนี้อีก?
เถ้าแก่เฉิงมองภาพนั้นในระยะไกล และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเื่ราวในอดีต เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วก็เคยมีคนถูกจินเหยี่ยนเสวี่ยเอ๋าวิ่งไล่บริเวณชายฝั่งทะเลน้ำแข็งปิงไห่เช่นกัน มีแม้กระทั่งถูกไล่ตามมาถึงทะเลน้ำแข็ง ในขณะนั้นทะเลน้ำแข็งยังไม่ปกคลุมไปด้วยพิษ
เถ้าแก่เฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งพลางตบหมาป่าหิมะเบาๆ เพื่อส่งสัญญาณให้มันเร่งเดินทาง
ยามรุ่งสาง ผิวทะเลน้ำแข็งสงบนิ่งและไม่มีสิ่งใดปิดกั้น ถ้าเขาย้อนกลับไปมีความเป็ไปได้ว่าจะถูกพบเจอ เขาให้คนดักซุ่มบริเวณชายฝั่งทะเลน้ำแข็งทางเหนือไว้มากมาย การเคลื่อนไหวใหญ่โตเช่นนี้ คนของเขาจะต้องสังเกตเห็นอย่างแน่นอน รอให้เขากลับมาค่อยสอบถามก็ไม่สาย
เขาพอจะทราบคร่าวๆ ว่ากลุ่มอิทธิพลใดในดินแดนเสวียนคงที่จ้องปิงไห่ตาเป็มันมาโดยตลอด
หมาป่าหิมะมองเหตุการณ์ในระยะไกลราวกับดูถูกเหยียดหยามมาก มันหันหลังกลับอย่างรวดเร็วและวิ่งไปทางใต้ต่อไป ยิ่งพวกเขาตรงไปยังใจกลางทะเลน้ำแข็งมากเพียงใด ม่านหมอกบนทะเลน้ำแข็งก็หนามากขึ้นและขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา ผ่านไปครู่หนึ่งร่างของพวกเขาก็ค่อยๆ หายเข้าไปในม่านหมอก
มีเพียงแค่พวกเขาเท่านั้นที่ทราบว่าเป้าหมายของพวกเขาอยู่ในสถานที่สักแห่งภายในปิงไห่ หรือชายฝั่งทางใต้ของปิงไห่
บริเวณชายฝั่ง ไป๋หลี่ิชวนยังคงถูกไล่ล่า ในขณะที่จวินจิ่วเฉินกับคนอื่นๆ ข้ามผ่านพื้นทีู่เาไปซ่อนตัวอยู่ในถ้ำทางเหนือของูเา
ถ้ำแห่งนี้ซ่อนเร้นอยู่ในเถาวัลย์ที่มีหนามหนาแน่นเต็มไปหมด ทางเข้าถ้ำถูกก้อนหินขนาดใหญ่ปิดกั้นไว้และมีกลไก ครั้งแรกที่จวินจิ่วเฉินมาที่ปิงไห่ ต้าหวงซูก็พาเขามาซ่อนตัวที่นี่ เห็นได้ชัดว่าต้าหวงซูจับตามองทะเลน้ำแข็งปิงไห่มาตั้งนานแล้ว อีกทั้งยังดักซุ่มอยู่เป็เวลานาน
เมื่อสักครู่นี้จวินจิ่วเฉินยืนหยัดใช้วิชาเคลื่อนไหวดั่งเงา ซึ่งดูเหมือนว่าจะไปเร่งให้พิษในร่างกายของเขาออกฤทธิ์เร็วมากยิ่งขึ้น เขาพิงกำแพง มือของเขาห้อยลงมาเสมือนว่าไร้เรี่ยวแรงและคล้ายกับกำลังพักผ่อนอยู่
หมางจ้งยังไม่ทันได้รายงานจวินจิ่วเฉินถึงความผิดปกติของกูเฟยเยี่ยนในขณะที่อยู่บนหลังม้าก่อนหน้านี้ เขากระซิบแ่เบา “เตี้ยนเซี่ย ปลุกนางดีหรือไม่? ถ้ารอให้แพทย์พิษมา อย่างน้อยต้องใช้เวลาถึงครึ่งวัน! ”
จวินจิ่วเฉินพยักหน้า หมางจ้งจึงเดินไปที่ข้างกายของกูเฟยเยี่ยนทันที เขาผลักนาง แต่ก่อนที่เขาจะส่งเสียงออกมา จู่ๆ กูเฟยเยี่ยนก็ขดตัวเป็ก้อนกลมและสั่นเทาอีกครั้ง
ูเาทางทิศเหนือไม่หนาว อีกทั้งร่างกายของนางยังห่อด้วยเสื้อคลุมขนจิ้งจอกของไป๋หลี่ิชวนอยู่! นางเป็อะไรไป?
หมางจ้งไม่กล้าขยับเขยื้อน ถึงแม้ว่าจวินจิ่วเฉินจะไร้เรี่ยวแรง แต่ก็กัดฟันลุกขึ้นมา เขาเห็นว่าใบหน้าของกูเฟยเยี่ยนมีความขาวซีด คิ้วขมวดแน่นเป็ปม ร่างกายนางสั่นเทาไม่หยุดโดยที่ไม่เหมือนเหน็บหนาวแต่เหมือนเ็ปและหวาดกลัวยิ่งกว่า
หมางจ้งอดไม่ได้ที่จะถาม "เตี้ยนเซี่ย นางฝันร้ายหรือ? เมื่อสักครู่นี้นาง..."
หมางจ้งยังเอ่ยไม่จบ กูเฟยเยี่ยนก็ร้องไห้ออกมาเสียงดังเสียก่อน “ข้าไม่ไป ข้าไม่ไป... ข้าไม่้าไป! ข้าไม่้าละทิ้งหน้าที่เช่นกัน เสด็จแม่ ท่านพี่ ข้าไม่ไป ข้าขอร้อง…”
น้ำตาของหญิงสาวไหลรินออกมาจากดวงตาไม่หยุด จวินจิ่วเฉินตกตะลึงมาก หมางจ้งก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกเช่นกัน
เสด็จแม่?
ท่านพี่?
นางฝันถึงสิ่งใดกัน? นางเป็ใครกันแน่?
——————-
เชิงอรรถ
[1] เป็หมู หมายถึง คำอุปมาแสดงถึงความโง่เขลา