เย่เทียนเซี่ยกดความรู้สึกของตัวเองลงไปก่อนจะมองคุณสมบัติของเสี่ยวเป้ยต่อไป
คุณสมบัติ
พลังชีวิต : 1,000
พลังเวทย์ : 0
พลังโจมตีทางกายภาพ : 300
พลังโจมตีด้วยเวทมนต์ : 0
พลังป้องกัน : 100
การสร้างความเสียหาย : 10
การหลบหลีก : 5
ความเร็วในการโจมตี : 150
ความเร็วในการเคลื่อนที่ : 150
ความต้านทานเวทมนต์ทั้งหมด : 0%
คุณสมบัติของเสี่ยวเป้ยทำให้เย่เทียนเซียถึงกับต้องสูดหายใจเบาๆ เลเวล 0........... แต่มีพลังชีวิตถึง 1,000 หน่วย และยังมีพลังโจมตีกายภาพสูงถึง 300 หน่วยด้วย!
ตอนเช้าเขาเพิ่งเห็นคุณสมบัติของหมาป่าหิมะน้ำแข็งซึ่งเป็สัตว์เลี้ยงระดับเซียน พวกมันเป็สัตว์เลี้ยงระดับเซียนเลเวล 0 เหมือนกัน แต่ค่าพลังชีวิตของหมาป่าหิมะน้ำแข็งมีอยู่เพียง 500 หน่วย ค่าพลังเวทย์ 500 โจมตีกายภาพ 150 โจมตีเวทย์ 180 แต่พลังชีวิตและความสามารถในการโจมตีทางกายภาพของเสี่ยวเป้ยกลับมากกว่าหมาป่าหิมะน้ำแข็งถึงสองเท่า!
แต่ว่าพลังเวทย์และความสามารถในการโจมตีด้วยเวทมนต์ของมันกลับกลายเป็ 0 ในแบบที่แม้แต่สิ่งมีชีวิตธรรมดาก็ยังไม่ปรากฏค่าคุณสมบัติแบบนี้เลย!
พลังชีวิต พลังโจมตีทางกายภาพ และความสามารถในการสร้างความเสียหายที่สูงลิ่ว เห็นได้ชัดว่านี่คือสิ่งมีชีวิตสายโจมตีทางกายภาพสุดโต่ง คุณสมบัติโดยรวมของมันแม้ว่าจะพอๆกับหมาป่าหิมะน้ำแข็ง แต่คุณสมบัติทางกายภาพที่รุนแรงกลับทำให้พลังที่มันแสดงออกมาเหนือชั้นกว่าหมาป่าหิมะน้ำแข็งตัวนั้นขาดลอย
ทักษะ
หมัดแมวเหมียว : สะบัดกรงเล็บแมวออกไปโจมตีเป้าหมายเดี่ยวอย่างรุนแรงต่อเนื่องเป็จำนวน 4 ครั้งในชั่วพริบตา ความเสียหายที่สร้างได้จากการโจมตีทุกครั้งจะเท่ากับการโจมตีธรรมดา เมื่อโจมตีจะใช้พลังชีวิต 3% ทักษะนี้ไม่มีเวลาคูลดาวน์
ทักษะแรกของเสี่ยวเป้ยก็ทำให้เย่เทียนเซี่ยตกตะลึงไปอีกครั้ง
เพราะมันไม่มีเวลาคูลดาวน์ และยังเป็การโจมตีต่อเนื่อง 4 ครั้งที่เพิ่มความเสียหายขึ้นเป็ 4 เท่า!
ในบรรดาอาชีพธรรมดาทั้งหมด การเพิ่มความเสียหายได้สูงสุดไม่มีอะไรเทียบเท่ากับนักเวทย์ไฟและนักเวทย์สายฟ้าได้ ความเสียหายพื้นฐานของทักษะพื้นฐานจะเท่ากับ 200% ของพลังโจมตีด้วยเวทมนต์ รองลงมาก็คือทักษะโจมตีสุดกำลังของนักรบและทักษะแทงหลังของนักฆ่าที่สามารถสร้างความเสียหายได้มาถึง 180% ของพลังโจมตีปกติ
ทักษะัสะบั้นของเย่เทียนเซี่ยเองก็สามารถสร้างความเสียหายจากการโจมตีได้ 200% ขณะเดียวกันก็ยังเพิ่มแรงกระแทกอันรุนแรงเข้าไปด้วย และยังมีความเป็ไปได้สูงมากที่จะทำให้เป้าหมายถูกผลักกระเด็นออกไป ทั้งนี้สามารถพูดได้อย่างไม่โอเวอร์เลยว่าผลโดยรวมของทักษะัสะบั้นของเย่เทียนเซี่ยยังเหนือกว่าทักษะของอาชีพต่างๆในปัจจุบัน
แต่.......... ทักษะแรกของเสี่ยวเป้ยหากมองแค่ชื่อก็คงถูกมองว่าเป็ทักษะเด็กเล่นอย่างช่วยไม่ได้.......... แต่ถ้ามองผลของทักษะนี้ก็คงจะต้องเบิกตาโตด้วยความตะลึง..........ความเสียหาย 400% ไม่มีเวลาคูลดาวน์ ผลลัพธ์แบบนี้เหยียบทักษะัสะบั้นลงไปจมดินเลย
แล้วไหนจะยัง...........ความเร็วในการโจมตีของเสี่ยวเป้ยที่สูงถึง 150% อย่างน่าใอีก ความเร็วในการโจมตีจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับอาวุธที่ใช้ ความเร็วในการโจมตีของอาชีพนักรบดาบคือ 100 ซึ่งสามารถโจมตีได้หนึ่งครั้งต่อหนึ่งวินาที ส่วนความเร็วในการโจมตีของนักธนูจะอยู่ที่ 120 สามารถโจมตีได้ 1.2 ครั้งต่อวินาที และนักฆ่าก็คืออาชีพที่มีความเร็วในการโจมตีสูงสุดถึง 150 ซึ่งสามารถโจมตีได้ 3 ครั้งใน 2 วินาที ส่วนอาชีพที่มีความเร็วในการโจมตีน้อยที่สุดก็คือนักรบหอกที่มีความเร็วในการโจมตีอยู่ที่ 80 และสามารถโจมตีได้ 4 ครั้งต่อ 5 วินาที
แต่เสี่ยวเป้ยไม่เพียงมีพลังใจการโจมตีและทักษะโจมตีที่แข็งแกร่ง แต่ความเร็วในการโจมตีของมันยังเร็วพอๆกับนักฆ่าอีกด้วย.......... หากเป็เช่นนี้ถ้าทักษะการโจมตีคล้ายกัน ภายในสองวินาทีความเสียหายที่เย่เทียนเซี่ยสร้างได้ด้วยัสะบั้นจะเป็ 1 ในสามเท่าของความเสียหายที่เสี่ยวเป้ยสร้างได้ด้วยทักษะหมัดแมวเหมียว!
แล้วทักษะที่เสี่ยวเป้ยมีนั้นยังมีมากกว่าหนึ่ง
ลูกเตะแมวเหมียว : ะโขึ้นสูงแล้วตวัดขาแมวเตะออกไป ทักษะนี้จะโจมตีด้วยการเตะอันหนักหน่วงใส่เป้าหมายเดี่ยว ความเสียหายจากการโจมตีพื้นฐานเท่ากับ 200% ของการโจมตีธรรมดา สามารถหยุดยั้งการร่ายเวทย์ของเป้าหมายหรือการรวมพลังของทักษะของเป้าหมายได้ 100% ถ้าพลังป้องกันของเป้าหมายต่ำกว่าพลังโจมตีของเสี่ยวเป้ยจะมีโอกาสถูกเตะกระเด็นออกไป 100% และยังมีความเป็ไปได้ 20% ที่จะติดสถานะมึนงง ขณะที่ปลดปล่อยทักษะจะใช้ค่าพลังชีวิต 3% ทักษะนี้ใช้เวลาคูลดาวน์ 5 วินาที
“ฉัน.............” เย่เทียนเซี่ย
กรงเล็บแมวเหมียว : ะโขึ้นสูงแล้วรวบรวมพลังไว้ที่กรงเล็บแมวก่อนจะใช้กรงเล็บโจมตีเข้าใส่เป้าหมายอย่างหนักหน่วง ความเสียหายพื้นฐานเท่ากับ 200% ของการโจมตีธรรมดา ถ้าพลังป้องกันของเป้าหมายต่ำกว่าพลังโจมตีของเสี่ยวเป้ยมีความเป็ไปได้ 100% ที่จะมีสถานะแผลฉีกขาดรุนแรงเพิ่มเติมด้วย และภายใน 5 วินาทีต่อมาจะสร้างความเสียหายเท่ากับพลังโจมตีของเสี่ยวเป้ยทุกวินาที เมื่อใช้ทักษะนี้จะใช้ค่าพลังชีวิต 5% ทักษะนี้ใช้เวลาคูลดาวน์ 10 วินาที
(@o@)!! เย่เทียนเซี่ย
โจมตีสองเท่าด้วยการฉีกกระชากเป็เวลา 5 วินาที......... ความเสียหายเจ็ดเท่า! ระดับความแข็งแกร่งของการโจมตีด้วยทักษะธรรมดาของเสี่ยวเป้ยไม่ได้ด้อยไปกว่า “ทักษะพายุหมุนัเจ็ดชั้นฟ้า” ของเขาเลย!
ก้าวย่างแมวเหมียว : การก้าวย่างแบบแมวเหมียวที่เสี่ยวเป้ยสร้างขึ้นมาเอง เมื่อเข้าใกล้เป้าหมายสามารถใช้อากาศที่ไหลผ่านรอบตัวของเป้าหมายให้เป็ประโยชน์แล้วเปลี่ยนตำแหน่งร่างกายของตัวเอง สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในพริบตาและเข้าถึงด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย ด้านขวาของเป้าหมายและทำให้เป้าหมายไม่สามารถมองเห็นตัวและเกิดอาการสับสนได้ นี่คือทักษะซุ่มโจมตี หลบหลีก และจำกัดอันแข็งแกร่ง ทุกครั้งที่ใช้ทักษะนี้จะใช้พลังชีวิตไป 1% ทักษะนี้ไม่มีเวลาในการคูลดาวน์
เมื่อเห็นทักษะทั้งสี่ของเสี่ยวเป้ยเย่เทียนเซี่ยก็หมดคำจะพูดไปเลยทันที........... ถ้าเขายังสามารถรักษาความสงบนิ่งของด้วยเองได้จากทักษะอันแข็งแกร่งทั้งสามที่พูดไปก่อนหน้านี้ ทักษะ “ก้าวย่างแมวเหมียว” ก็ทำให้เปลวไฟแห่งความอิจฉาพวยพุ่งขึ้นมาในหัวใจของเย่เทียนเซี่ย........... ถ้าทักษะที่มีผลลัพธ์อันน่าใและสามารถใช้ได้อย่างไม่มีข้อจำกัดนี้เป็ของเขาล่ะก็ มันคงจะเป็เื่ที่ดีงามสุดๆไปเลย เมื่อมันรวมเข้ากับคุณสมบัติและพร์ของเขาแล้ว เขาคงสามารถใช้ผลของทักษะนี้ทำให้ศัตรูย่อยยับไปได้อย่างง่ายดาย.......... แต่เขาก็ทำได้แค่อิจฉาเท่านั้น เพราะก้าวย่างแมวเหมียวเป็ของเสี่ยวเป้ยเพียงคนเดียวเท่านั้น
นอกจากทักษะทั้งสามแล้ว เสี่ยวเป้ยยังมีทักษะพิเศษอีกสี่อย่างที่ทำให้เย่เทียนเซี่ยต้องตกตะลึงไปเป็เวลานาน....... ใช่แล้ว มันมีทั้งหมดสี่อย่าง!
ท่าไม้ตาย
ฉีกกระชาก·แสงแห่งความวุ่นวาย : ไม่ทราบผล ความสามารถไม่เพียงพอไม่สามารถใช้งานได้
ฉีกกระชาก·กรงเล็บแห่งฝันร้าย : ไม่ทราบผล ความสามารถไม่เพียงพอไม่สามารถใช้งานได้
ทักษะพิเศษ
แปลงฝัน : ไม่ทราบผล ความสามารถไม่เพียงพอไม่สามารถใช้งานได้
ทักษะต้องห้าม
หมัดพิฆาตแมวเหมียวข้าเพียงหนึ่งเดียวในโลกหล้า : ทักษะโจมตีขั้นสุดยอดที่เสี่ยวเป้ยสร้างขึ้นมาเอง ไม่ทราบผล ความสามารถไม่เพียงพอไม่สามารถใช้งานได้
เย่เทียนเซี่ย............ ไม่มีอะไรจะพูด
ราวกับ์กำลังล้อกันเล่น ในขณะที่เขาไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจใดๆแมวประหลาดที่แข็งแกร่งจนทำให้เขาพูดไม่ออกก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา จากนั้นก็ร้องขอให้ตัวเองกลายเป็สัตว์เลี้ยงของเขาด้วยตัวมันเองซะอย่างนั้น เย่เทียนเซี่ยอุ้มแมวประหลาดที่พยายามจะมุดเข้าไปในอ้อมแขนของเขาเอาไว้จากนั้นเขาก็เริ่มมีความรู้สึกเหมือนเห็นภาพลวงตามากขึ้นเรื่อยๆ........... เพราะเ้าแมวตัวนี้มันแข็งแกร่งมากๆ ถ้ามันเป็มอนสเตอร์ธรรมดาๆตัวหนึ่ง........ หรือต่อให้มันเป็มอนสเตอร์ระดับเซียนเหมือนหมาป่าหิมะน้ำแข็งแล้วกลายมาเป็สัตว์เลี้ยงของเขา เขาคงจะทำใจยอมรับได้ง่ายกว่านี้
ความแข็งแกร่งของเหยาเหยาไม่ใช่ว่าไม่มีสาเหตุ เหยาเหยาในตอนนั้นทำให้เทพัที่แข็งแกร่งที่สุดต้องใช้ชีวิตของเขาผนึกมันไว้ แล้วเสี่ยวเป้ยล่ะ? ชื่อแปลกๆ แล้วยังทักษะโจมตีที่ชวนอึ้งอันแล้วอันเล่าอีก........ ถ้าใครกล้าพูดว่ามันคือมอนสเตอร์เซียนธรรมดาๆตัวหนึ่งเย่เทียนเซี่ยคงจะคิดว่าหมอนั่นเป็ไอ้โง่แน่ๆ......... ไม่สิ ไม่ใช่ไอ้โง่ คนที่รู้จักมันก็น่าจะไม่ธรรมดาเช่นกัน
ทักษะโจมตีของเสี่ยวเป้ยเป็ทักษะโจมตีเป้าหมายเดี่ยว ไม่มีทักษะไหนเป็ทักษะโจมตีกลุ่มเลย และเมื่อรวมกับความสามารถในการสร้างความเสียหายระดับสุดยอดของมัน ความเร็วในการโจมตีที่ไม่อาจคาดเดาได้ และก้าวย่างแมวเหมียวที่ง่ายต่อการทำให้สับสนแล้ว ความสามารถในการโจมตีเป้าหมายเดี่ยวของมันก็เรียกได้ว่าน่ากลัวจนถึงขีดสุด ใครจะจินตนาการได้ว่าแมวเหมียวที่มีรูปลักษณ์น่ารักขนาดนี้จะมีพลังอันน่าตกตะลึงซ่อนอยู่ภายใน
“กั่วกัว เธอรู้จักกับเสี่ยวเป้ยมาก่อนเหรอ?” เย่เทียนเซี่ยถามออกไปอย่างสงสัย......... แม้เขาจะไม่ได้หวังว่าจะได้คำตอบที่้าจากปากของกั่วกัวก็ตาม
ทว่าเขาไม่คาดคิดเลยว่าครั้งนี้กั่วกัวกลับไม่ได้ส่ายหน้าจนหัวสั่นหัวคลอน แต่เธอกลับกระพริบตาปริบๆแล้วพูดออกมา “รู้จักสิเ้าคะ เพราะมันคือเพื่อนที่ดีของกั่วกัวในอดีต”
“เพื่อนที่ดีในอดีต? ในอดีตนี่มันตอนไหนเหรอ?”
“ย๊า! ไม่บอกนายท่านหรอกเ้าค่ะ พี่สาวบอกไว้ว่า ถ้านายท่านไม่หาผลึกแห่งโชคชะตาให้ครบ 7 ก้อนก็ไม่สามารถบอกนายท่านได้ วะฮ่าๆๆๆ.......... อั๊ยหยา ตอนนี้เสี่ยวเป้ยน่าจะมองไม่เห็นข้าแล้ว แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงของข้าด้วย ฮือ......”
“................” เย่เทียนเซี่ยชะงักไปพักหนึ่งจากนั้นเขาก็ถามขึ้นมาทันที “กั่วกัว เธอตอบฉันมาดีๆนะ.......... พี่สาวที่เธอพูดถึงใช่หลีเซียนเอ๋อร์ไหม!”
ขณะที่เขาถามคำถามนั้นออกมาดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็ดวงตาอันคมกริบขึ้นมาในชั่วพริบตาแล้วจ้องเขม็งไปที่ดวงตาสุกใสของกั่วกัว ระหว่างที่กำลังจ้องมองไปดวงตาของเธอก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย.......... ไม่รู้ว่าเป็เพราะอะไรเขาถึงไม่อาจรู้เื่บางเื่ได้ แต่เื่ที่เกี่ยวกับเธอ.......... เขาจะอดใจรออยู่อย่างเงียบๆได้ยังไง ไม่รู้ว่านานเท่าไร และยังไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหนเขาถึงจะได้รู้ว่าเธอเป็ใคร หายไปไหน............. แม้จะเป็เพียงร่อยรอยเล็กน้อยของเธอก็ยังดี
แต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังก็คือเมื่อกั่วกวได้ยินเสียงของเขาดวงตาของเธอก็ปรากฏความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นก็กระพริบตาปริบๆอย่างไร้เดียงสาแล้วถามออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย “หลีเซียนเอ๋อร์? หลีเซียนเอ๋อร์เป็ใครเหรอเ้าคะ? ทำไมนายท่านถึงคิดว่าเธอคือพี่สาวของกั่วกัวล่ะเ้าคะ?”
เย่เทียนเซี่ยเบนสายตากลับมา เขาส่ายหน้าแล้วไม่ถามอะไรอีก เย่เทียนเซี่ยอุ้มเสี่ยวเป้ยขึ้นมาแล้ววางไว้ตรงหน้าตัวเองก่อนจะประเมินมันอย่างละเอียดอีกครั้ง........... แต่แล้วเสี่ยวเป้ยก็เงยหน้าขึ้นมา ในดวงตาสีเขียวเข้มของมันเหมือนกับมีดวงดาวระยิบระยับอยู่ข้างใน มันจ้องมองมาที่เขาด้วยดวงตาพราวระยับ
“แกชื่อเสี่ยวเป้ยงั้นเหรอ?” เย่เทียนเซี่ยลองถามคำถามโง่ๆออกไป
“เมี๊ยว..........” เสี่ยวเป้ยเข้าใจที่เขาพูดได้อย่างชัดเจน มันไม่เพียงใช้น้ำเสียงอันอ่อนโยนตอบกลับเย่เทียนเซี่ย แต่มันยังผงกหัวรับอีกหลายครั้งด้วย......... แมวตัวนี้มันกำลังพยักหน้าล่ะ! ขณะที่มันพยักหน้าใบหน้าของมันยังปรากฏรอยยิ้มน่ารักสุดๆขึ้นมาด้วย
เย่เทียนเซี่ยเริ่มคิดว่าแมวน้อยที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเขาในตอนนี้ไม่ใช่แค่แมวแปลกๆตัวหนึ่ง แต่มันเหมือนคนๆหนึ่ง.......
เมื่อมันดูเหมือนจะฟังที่เขาพูดรู้เื่เย่เทียนเซี่ยจึงถามมันต่อไป “แกมาจากที่ไหนน่ะ? ทำไมถึงอยากจะติดตามฉันไปล่ะ?”
“เมี๊ยว?” เสี่ยวเป้ยเอียงหัว ใบหน้าของมันปรากฏความสงสัย
“แกรู้จักเด็กผู้หญิงที่ชื่อกั่วกัวไหม?”
“เมี๊ยว?”
“แกรู้ไหมว่าฉันเป็ใคร?”
“เมี๊ยว............”
“....................”
“....................”
“วะฮ่าๆๆๆ นายท่าน ท่านถามต่อไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกเ้าค่ะ เสี่ยวเป้ยไม่ใช่เสี่ยวเป้ยคนเดิมแล้ว มันคือเพื่อนที่ดีของกั่วกัวในอดีต แต่มันไม่ได้แกล้งทำเป็ไม่รู้จักกั่วกัวหรอกนะเ้าคะ แต่มันจำไม่ได้จริงๆ ข้าจะแอบบอกนายท่านก็ได้นะเ้าคะ ว่าเ้าเสี่ยวเป้ยน่ะ.............” กั่วกัวพูดมาถึงตรงนี้ก็ชะงักไปสักพักอย่างเห็นได้ชัดจากนั้นเธอก็เปลี่ยนคำพูดอย่างฉับพลัน “เสี่ยวเป้ยน่ะเก่งมากเลยเ้าค่ะ”
“!@#¥%……” เย่เทียนเซี่ย
เขาี้เีจะถามเธออีกครั้ง แม้ว่ากั่วกัวจะดูเหมือนเด็กผู้หญิงที่ยังไม่โตเป็ผู้ใหญ่และขี้โกหก แต่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเย่เทียนเซี่ยก็เข้าใจการเก็บความลับของเธอค่อนข้างละเอียด ไม่ว่าเขาจะถามเธอตรงๆ ถามอ้อมๆ ใช้อุบายก็แล้ว หรือจะถามอย่างฉับพลันก็แล้ว หรือแม้แต่หลอกถามเธอตอนที่เธอกำลังหลับฝันหวานอยู่ก็ตาม.......... เขาก็ไม่เคยได้รับสิ่งที่เขา้าจะได้ยินจากปากของเธอเลยสักครั้ง
มันเหมือนเขากำลังตกอยู่ในวังวนอันแปลกประหลาดและสับสน วังวนนี้หมุนเวียนไปเพื่อเขา แต่เขากลับเป็เพียงคนเดียวที่พูดได้ว่าไม่รู้เื่อะไรเลยในวังวนแห่งนี้.......... ทั้งหมดนี้ล้วนเป็สิ่งที่เซียนเอ๋อร์มอบให้เขาทั้งสิ้น.......... เขาเชื่อว่าเซียนเอ๋อร์ไม่มีทางทำร้ายเขาแน่นอน แต่แล้วเมื่อไรกันล่ะเขาถึงจะได้คำตอบจากปากของเธอ..........
แต่ขอเพียงเธอกลับมา แม้ว่าเขาจะไม่รู้คำตอบของมันตลอดไปก็ไม่เป็ไร.............