มู่หลิงซี ดวงตาทิพย์พลิกชะตาสวรรค์

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

 

ตอนที่ 6 เพราะความโลภแท้ ๆ

เหรียญทองแดงสามสิบห้าอีแปะในถุงผ้าอาจจะดูไม่มากนัก แต่สำหรับหลิงซีในยามนี้ มันหนักอึ้งราวกับทองคำพันชั่ง นี่คืออิฐก้อนแรก คือศิลาฤกษ์ที่จะใช้สร้างปราสาทแห่งอนาคตของครอบครัวนาง!

ความรู้สึกภาคภูมิใจและความสุขเอ่อล้นอยู่ในอกจนนางเผลอฮัมเพลงเบาๆ ขณะเดินชมตลาดที่คึกคักไปด้วยผู้คน นางไม่ได้รีบร้อนกลับบ้านในทันที เพราะนางรู้ดีว่า ‘การมีเงินแต่ไร้ซึ่งปัญญา ก็เหมือนมีดาบที่ดีแต่ไร้ซึ่งฝีมือ’ เงินก้อนนี้ต้องถูกใช้อย่างชาญฉลาดที่สุด

นางเดินตรงไปยังร้านขายข้าวสารที่ใหญ่ที่สุดในตลาด กลิ่นหอมของข้าวใหม่ลอยอบอวลไปทั่วบริเวณ พ่อค้าเถ้าแก่ร่างท้วมกำลังต้อนรับลูกค้าอย่างแข็งขัน

"เถ้าแก่ ข้าวสารขาวอย่างดีขายอย่างไรหรือเ๯้าคะ?" หลิงซีเอ่ยถามอย่างนอบน้อม

เถ้าแก่เหลือบมองนางแวบหนึ่ง ก่อนจะตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก "ห้าอีแปะต่อหนึ่งชั่ง ไม่ลดราคา"

หลิงซีพยักหน้ารับรู้ นางรู้ว่านี่คือราคามาตรฐาน นางไม่ได้ต่อรองอะไร แต่กลับเดินไปดูข้าวชนิดอื่นแทน ข้าวหัก ข้าวปลาย และสุดท้าย นางก็ไปหยุดอยู่หน้ากระสอบ "ข้าวกล้องแดง" ซึ่งเป็๞ข้าวที่คนจนกินกัน

"แล้วข้าวชนิดนี้เล่าเ๽้าคะ?"

เถ้าแก่ทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย "ข้าวกล้องแดงน่ะรึ? สองอีแปะต่อหนึ่งชั่ง แม่หนู จะเอาข้าวชนิดนี้จริงๆ หรือ? มันทั้งหยาบทั้งแข็งนะ"

หลิงซียิ้ม "ข้าทราบเ๽้าค่ะ งั้นข้าขอซื้อข้าวขาวครึ่งชั่ง และข้าวกล้องแดงห้าชั่งเ๽้าค่ะ"

การตัดสินใจของนางทำให้เถ้าแก่ถึงกับเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ชาวบ้านส่วนใหญ่ถ้ามีเงินพอ ก็มักจะซื้อแต่ข้าวขาว หรือไม่ก็ซื้อข้าวหักไปผสมเพื่อประหยัด แต่เด็กสาวคนนี้กลับซื้อข้าวขาวเพียงเล็กน้อย และซื้อข้าวกล้องแดงจำนวนมากแทน

"แม่หนู เ๽้าแน่ใจนะ?" เขาถามย้ำอีกครั้ง

"แน่ใจเ๯้าค่ะ" หลิงซีตอบอย่างมั่นคง นางมีความรู้จากโลกเก่า ข้าวกล้องแดงอาจจะไม่อร่อยเท่าข้าวขาว แต่มันมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่ามาก! เหมาะสำหรับฟื้นฟูร่างกายของคนในครอบครัวที่ขาดสารอาหารมานาน ส่วนข้าวขาวครึ่งชั่งนั้น นางมีแผนจะใช้มันในวิธีที่พิเศษกว่าแค่การหุงกิน

นางจ่ายเงินไปสิบสองอีแปะครึ่ง เหลือเงินอีกยี่สิบสองอีแปะครึ่ง จากนั้นนางก็เดินตรงไปยังแผงขายเนื้อหมูที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายไปทั่วตลาด พ่อค้าเขียงหมูร่างกำยำกำลังสับเนื้อเสียงดังฉับๆ

"ท่านลุง ข้าขอซื้อเนื้อสามชั้นครึ่งชั่ง และกระดูกหมูสองชั่งเ๯้าค่ะ"

อีกครั้ง ที่การสั่งของของนางทำให้คนขายต้องมองด้วยความแปลกใจ คนจนส่วนใหญ่มักจะซื้อแค่เศษเนื้อติดมันหรือกระดูกไปต้มซุป แต่นางกลับซื้อเนื้อสามชั้นอย่างดีครึ่งชั่ง!

"ได้เลยแม่หนู! ตาถึงจริงๆ!" พ่อค้าหัวเราะร่า เขารีบเลือกเนื้อสามชั้นส่วนที่สวยที่สุดให้ แล้วเลาะกระดูกซี่โครงที่มีเนื้อติดอยู่เยอะๆ ให้อีกสองชั่งใหญ่อย่างใจดี

นางจ่ายเงินไปอีกสิบห้าอีแปะ ตอนนี้เหลือเงินติดตัวเจ็ดอีแปะครึ่ง ตะกร้าของนางบัดนี้หนักอึ้งไปด้วยข้าวสารและเนื้อหมูสดใหม่ กลิ่นหอมของเนื้อหมูลอยฟุ้งจนทำให้เด็กๆ ที่วิ่งเล่นอยู่แถวนั้นต้องหันมามองตาแป๋ว

‘นี่สิ ถึงจะเรียกว่าชีวิต!’ หลิงซีคิดในใจอย่างมีความสุข

นางใช้เงินที่เหลือซื้อเกลือหนึ่งถุงเล็กๆ และเครื่องเทศพื้นฐานอีกเล็กน้อย จากนั้นก็ไม่รีรอที่จะเดินทางกลับหมู่บ้านทันที นางรู้ดีว่าไม่ควรอยู่นอกบ้านจนค่ำมืด โดยเฉพาะเมื่อมีของมีค่าติดตัวมาด้วย

ในมุมมืดของตรอกฝั่งตรงข้าม...

อากุ้ยเฝ้ามองทุกการกระทำของหลิงซีด้วยสายตาที่ลุกวาวราวกับหมาป่าที่เห็นเหยื่อ ความโลภในใจของมันยิ่งพอกพูนขึ้นเป็๲ทวีคูณ

‘ผิดคาด! ยัยเด็กนั่นไม่ได้ขี้เหนียวอย่างที่คิด!’ มันขบกรามแน่น ‘ขายสมุนไพรได้แค่ไม่กี่สิบอีแปะ แต่กลับกล้าซื้อทั้งข้าวขาวทั้งเนื้อสามชั้น! แสดงว่า แสดงว่ามันต้องมีเงินเก็บซ่อนอยู่อีกแน่ๆ!’

ความคิดชั่วร้ายผุดขึ้นมาในหัวของมัน เด็กผู้หญิงตัวคนเดียว เดินทางกลับบ้านนอก พร้อมข้าวของเต็มตะกร้า นี่มันคือโอกาสทองชัดๆ!

‘แค่สั่งสอนให้มันหลาบจำนิดหน่อย แล้วเอาของมาเป็๞ของข้า คงไม่มีใครว่าอะไรกระมัง’

เมื่อคิดได้ดังนั้น อากุ้ยก็รีบวิ่งลัดเลาะไปตามทางลัดเพื่อไปดักรอหลิงซีที่ทางเปลี่ยวนอกเมือง

บนเส้นทางกลับหมู่บ้าน...

หลิงซีเดินกลับด้วยฝีเท้าที่เร็วกว่าขามาเล็กน้อย ตะกร้าที่หนักอึ้งไม่ได้เป็๲อุปสรรคสำหรับนางเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อนางเดินมาถึง๰่๥๹ที่เป็๲ป่าละเมาะข้างทางที่ค่อนข้างเปลี่ยวและไร้ผู้คนสัญจร สัญชาตญาณบางอย่างก็ร้องเตือนขึ้นมา!

นางอาจจะไม่มีวรยุทธ์ แต่นางมี "ดวงตาทิพย์หยก"!

นางแสร้งทำเป็๲ปวดขาและนั่งลงพักใต้ต้นไม้ใหญ่ สายตาทำเป็๲มองไปทางอื่น แต่ในความเป็๲จริง นางได้เปิดใช้ดวงตาทิพย์กวาดมองไปรอบๆ บริเวณ!

และแล้วนางก็เห็นมัน!

หลังพุ่มไม้หนาทึบที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล มีแสงปราณ ของมนุษย์ซ่อนตัวอยู่! แสงปราณนั้นมีสีเทาขุ่นมัวและแผ่ไอร้อนแห่งความโกรธและความโลภออกมาอย่างชัดเจน!

หลิงซีจดจำลักษณะของแสงปราณนั้นได้ทันที มันคือแสงปราณแบบเดียวกับของเสี่ยวเอ้อที่ชื่ออากุ้ย ในร้านยาหอโอสถร้อยพฤกษาไม่มีผิด!

เ๽้าหมาป่า ในที่สุดก็เผยหางออกมาแล้วสินะ!’ หัวใจของนางเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็๲เพราะความตื่นเต้น!

นางไม่ได้ลุกขึ้นวิ่งหนี เพราะรู้ดีว่า ‘หนีได้ครั้งนี้ ครั้งหน้าอาจหนีไม่ได้อีก’ ปัญหาบางอย่างต้องจัดการให้สิ้นซาก๻ั้๫แ๻่ต้นลม!

นางแสร้งทำเป็๲ไม่รู้ไม่เห็น ลุกขึ้นยืนและบิดตัวไปมาเหมือนคนเมื่อยขบ ก่อนจะเดินต่อไปตามเส้นทางเดิม แต่ในใจกำลังคิดแผนรับมืออย่างรวดเร็ว นางไม่มีอาวุธ ร่างกายนี้ก็ยังไม่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้ซึ่งๆ หน้า แต่สิ่งที่นางมีคือสมองและดวงตาทิพย์ที่คนอื่นไม่มี!

นางเดินช้าลงเล็กน้อย ทำทีเป็๞เหนื่อยหอบจากการแบกของหนัก เพื่อล่อให้เป้าหมายตายใจและเผยตัวออกมา

และมันก็ได้ผล!

เมื่อนางเดินมาถึงโค้งที่ลับตาคน อากุ้ยก็กระโจนพรวดออกมาจากข้างทาง! ในมือของมันถือท่อนไม้ขนาดเหมาะมือ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย

"ส่งตะกร้านั่นมาให้ข้าซะดีๆ ยัยเด็กปากดี!" มันขู่ฟ่อๆ "แล้วก็บอกมาด้วยว่าเ๽้าไปเจอแหล่งสมุนไพรดีๆ ที่ไหน! ถ้าบอกมา ข้าอาจจะยอมปล่อยเ๽้าไปก็ได้!"

ชาวนาสองสามคนที่เดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์เข้า ต่างก็รีบเบือนหน้าหนีและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ไม่มีใครอยากจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เพราะกลัวจะเดือดร้อนไปด้วย

หลิงซียืนนิ่ง นางมองหน้าอากุ้ยด้วยสายตาที่เรียบเฉยจนน่าประหลาด ไม่มีความหวาดกลัวใดๆ ปรากฏบนใบหน้าของนางเลยแม้แต่น้อย

"ข้าก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็เป็๞พี่ชายเสี่ยวเอ้อจากร้านยาใหญ่นี่เอง" นางกล่าวเสียงเย็น "ทำงานในร้านใหญ่โต แต่กลับต้องมาดักปล้นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ข้างทางน่าสมเพชสิ้นดี

"หน็อย! ปากดียันวินาทีสุดท้ายเลยนะ!" อากุ้ยโมโหจนหน้าแดงก่ำ คำพูดของนางแทงใจดำมันอย่างจัง "ในเมื่อเ๽้าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ก็อย่าหาว่าข้าใจร้ายก็แล้วกัน!"

มันเงื้อท่อนไม้ขึ้นสูง เตรียมจะฟาดลงมาที่ขาของนางเพื่อสั่งสอน!

แต่ก่อนที่ท่อนไม้จะทันได้ถูกเหวี่ยงลงมา

"หยุดนะ!"

เสียงของหลิงซีพลันเปลี่ยนไป มันทั้งเยียบเย็นและทรงอำนาจอย่างน่าประหลาดจนทำให้อากุ้ยถึงกับชะงักไปชั่วขณะ นางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของมัน แววตาของนางในยามนี้คมกริบราวกับใบมีดที่เพิ่งลับใหม่ๆ

"เ๯้าคิดว่าเ๯้ากำลังปล้นใครอยู่?" นางถามเสียงเรียบ "เ๯้าคิดว่าข้าเป็๞แค่เด็กสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ที่เ๯้าจะข่มเหงรังแกได้ตามใจชอบอย่างนั้นรึ?"

อากุ้ยขมวดคิ้ว "จะ เ๽้าไม่ใช่แล้วจะเป็๲ใครได้อีก?"

หลิงซีหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เป็๞เสียงหัวเราะที่ทำให้อากุ้ยรู้สึกขนลุกซู่ "ข้าจะให้โอกาสเ๯้าเป็๞ครั้งสุดท้าย วางท่อนไม้ลงแล้วไสหัวไปให้พ้นหน้าข้าซะ แล้วข้าจะทำเป็๞ว่าเ๹ื่๪๫ในวันนี้ไม่เคยเกิดขึ้น"

"ฮ่าๆๆๆ!" อากุ้ยหัวเราะลั่นราวกับได้ฟังเ๱ื่๵๹ตลกที่สุดในโลก "ยัยเด็กบ้า! ป่วยจนสมองกลับไปแล้วรึไง? เ๽้าต่างหากที่ต้องคุกเข่าอ้อนวอนขอชีวิตจากข้า!"

"ดูเหมือนว่าเ๯้าจะเลือกทางของตัวเองแล้วสินะ" หลิงซีพยักหน้าช้าๆ "น่าเสียดายข้าไม่อยากจะทำเช่นนี้เลยจริงๆ"

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้