“งั้นหรือ? ไว้อาลัยแต่พกไม้พลอง? ขออภัยในสายตาที่คับแคบของข้า”ซูเฟยซื่อกล่าวอย่างดูถูก
“วาจาของคุณหนูสามนี้หมายความว่าอย่างไร? กำลังจะบอกว่านายหญิงโกหกคนหรือ?” เดิมหลินมามาก็เกลียดชังซูเฟยซื่ออยู่แล้วไม่ง่ายเลยที่จะจับผิดนางและนางก็ไม่มีท่าทีก้าวร้าว
“หลินมามาจริงจังเข้มงวดนักข้าไหนเลยจะกล้าพูดว่าแม่ใหญ่โกหกคน เพียงแต่คุณชายหลี่ทำลับๆ ล่อๆ ในสวนบุปผชาติไม่ใช่ข้าคนเดียวที่พบเห็น มีบ่าวไพร่มากมายอยู่ที่นี่ ข้ายังสามารถปรักปรำคุณชายหลี่ได้หรือ?” ซูเฟยซื่อเลิกคิ้ว
แม้หลี่ฉีจะเลวร้ายแค่ไหนแต่ก็เป็คนในครอบครัวมารดาของนาง ตอนนี้ซูเฟยซื่อไม่เพียงตีคนในครอบครัวมารดาของนางเท่านั้นยังมีท่าทีมั่นใจ จะให้นางแซ่หลี่ทนได้อย่างไร?
ตอนนี้ซูเต๋อเหยียนไม่อยู่ไม่มีใครสามารถหนุนหลังให้ซูเฟยซื่อได้แล้ว นางอยากจะเห็นสิ่งที่ซูเฟยซื่อควรทำ!
“คุกเข่าลงจวนอัครมหาเสนาบดีของข้าสอนนังอันธพาลน้อยเช่นเ้าออกมาได้อย่างไร” นางแซ่หลี่เดินไปนั่งบนเก้าอี้ในสวนบุปผชาติและตบโต๊ะอย่างแรง
เห็นเช่นนี้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกกันใหญ่ แม้ว่าตอนนี้ซูเฟยซื่อจะมีอำนาจปกครองตระกูล แต่นางแซ่หลี่นับเป็แม่ใหญ่ของนางขณะที่ซูเต๋อเหยียนไม่อยู่ ถ้าจะถามถึงลำดับเื่ผู้าุโและผู้เยาว์แล้วซูเฟยซื่อก็ไม่สามารถหนีพ้นได้
ซูเฟยซื่อกลับไม่ได้ตื่นตระหนกอันใด“แม่ใหญ่ ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องคุกเข่าเล่า?”
“ตีคุณชายหลี่จนกลายเป็แบบนี้ยังบอกว่าเ้าไม่ได้ทำผิด? หรือว่าเ้ายังคิดตีคุณชายหลี่ให้ตายหรือ?” นางแซ่หลี่โกรธจัดคิดจะเข้าไปตบหน้าซูเฟยซื่อ
ทว่าหลี่ฉีที่ถูกหลินมามาช่วยพยุงออกมาจากกระสอบปอทันทีที่เขาเห็นซูเฟยซื่อก็อดไม่ได้ะโด่า “นังผู้หญิงปากร้าย ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดข้างนอกถึงลือกันไปทั่วว่าคุณหนูของจวนอัครมหาเสนาบดีไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน ที่แท้ก็คือเ้าวันนี้ข้านับว่าได้รู้จักแล้ว”
นางแซ่หลี่ได้ยินวาจาเช่นนั้นก็ใมากจะด่าซูเฟยซื่อย่อมได้ แต่เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้โจมตีใส่จวนอัครมหาเสนาบดีถ้าถูกใครได้ยินเข้า...
นางรีบยั้งหลี่ฉีไว้แต่นางยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ด้านหลังก็มีเสียงดุเสียงหนึ่งดังมา “อ้อ? ที่แท้ข้างนอกก็ลือกันไปทั่วว่าคุณหนูของจวนอัครมหาเสนาบดีไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน!”
ซูเต๋อเหยียนมาได้จังหวะพอดีซูเฟยซื่อยกริมฝีปากขึ้นมาโดยไม่เป็ที่สังเกต แล้วจึงหันไปคำนับเขา“เฟยซื่อคารวะท่านพ่อ”
นางแซ่หลี่เห็นแบบนี้ก็ใจนรีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้“นาย...นายท่าน”
แปลกดึกดื่นขนาดนี้แล้วซูเต๋อเหยียนมาสวนบุปผชาติได้อย่างไร? หรือว่า...
นางแซ่หลี่เหลือบมองซางจื่อที่อยู่ข้างกายซูเต๋อเหยียนแวบหนึ่งทันใดก็คิดทุบอกกระทืบเท้า ทำไมนางไม่ทันได้สังเกตถึงจุดนี้
หลี่ฉีใกลัวต่อการมาถึงอย่างกะทันหันของซูเต๋อเหยียนใช้เวลานานกว่าจะได้สติกลับมา แถมยังตอบกลับอย่างตะกุกตะกัก “ท่านลุงเขย ข้า...ข้าเพียงปากไวไปหน่อยเท่านั้นมันไม่ใช่แบบนั้น”
“งั้นหรือ?” ซูเต๋อเหยียนเดินไปยังเก้าอี้แล้วนั่งลงด้วยใบหน้าถมึงทึง
ลูกสาวของเขาหลายคนเกิดเื่ติดๆกัน วันนี้ซูจิ้งเถียนถูกมองว่าเป็ฆาตกร ทั้งยังสร้างความโกรธเคืองต่อฝูงชนจนเกือบถูกชาวบ้านตีจนตายแถมตอนนี้นางยังคงบ้าคลั่ง
ดังนั้นคำพูดของหลี่ฉีจึงสะกิดาแของเขาและเหมือนตบหน้าเขาฉาดหนึ่งเต็มๆ
นางแซ่หลี่เห็นเช่นนี้ก็รีบเข้าไปปลอบใจเขา “นายท่าน ฉีเอ๋อร์เพียงพลั้งปากไปเท่านั้นนอกจากนี้เื่นี้เฟยซื่อนับว่ามีความผิด ข้าเพียงอยากสอนนาง เพื่อวันข้างหน้าจะได้ไม่ล่วงเกินแขกคนสำคัญเ้าค่ะ”
“แขกคนสำคัญ?” น้ำเสียงของซูเต๋อเหยียนเฉยเมยแต่กลับทำให้คนมีความรู้สึกที่ไม่ดี “หลี่ฉีนับว่าเป็แขกคนสำคัญอย่างแท้จริงเป็ข้าอัครมหาเสนาบดีที่เสียมารยาทแล้ว”
เห็นได้ชัดว่าวาจานี้กำลังเยาะเย้ยหลี่ฉีหลี่ฉีได้แต่กัดริมฝีปากกล้ำกลืนความอัปยศอดสูไว้ แต่ไม่กล้าเอ่ยปาก
สีหน้าของนางแซ่หลี่เหยเกไปบ้างซูเต๋อเหยียนไม่ไว้หน้านางต่อคนของครอบครัวมารดานาง แล้วนางจะมีหน้ากลับไปเผชิญหน้ากับครอบครัวมารดาในวันข้างหน้าได้อย่างไร?
แต่ในใจนางรู้ดีว่าประโยคเมื่อครู่ของหลี่ฉีได้ยั่วยุให้ซูเต๋อเหยียนโกรธแล้วจริงๆได้แต่ต้องแกล้งโง่ “นายท่าน ยากนักที่คุณชายหลี่จะมาสักครั้ง ครั้งนี้ถูกเฟยซื่อตีจนกลายเป็แบบนี้แล้ว...”
นางเอ่ยปากเน้นว่าหลี่ฉีถูกซูเฟยซื่อตีเพื่อหวังว่าจะสามารถย้ายเอาความโกรธของซูเต๋อเหยียนจากหลี่ฉีไปไว้บนตัวซูเฟยซื่อได้
“ในเมื่อเื่นี้เป็เฟยซื่อที่ทำความผิดก่อนก็ควรเป็ข้าที่เป็พ่อคนนี้อบรมสั่งสอน เ้าเป็อะไรกับนาง? พ่อหรือแม่? อาศัยอะไรสั่งสอนนางลับหลังข้า?” ซูเต๋อเหยียนไม่สนใจนางแซ่หลี่อย่างสิ้นเชิงเขารังเกียจผู้หญิงคนนี้ถึงขีดสุดแล้ว
“นี่...”ถูกซูเต๋อเหยียนสั่งสอนแบบนี้ต่อหน้ารุ่นเยาว์ นางแซ่หลี่โกรธและอับอายจนเกือบจะะโลงแม่น้ำไปแล้ว“นายท่าน!”
เดิมคาดหวังว่าซูเต๋อเหยียนจะเห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยามานานหลายปียอมลงให้แก่นางสักนิดไม่คิดว่าวาจาของซูเต๋อเหยียนหลังจากนั้นจะยิ่งน่าโมโห“ข้าเห็นเ้าไม่ได้กลับบ้านตระกูลหลี่มาเป็เวลานานแล้ว ถือโอกาสที่หลี่ฉีมาที่นี่เ้ากลับไปกับเขาด้วยกันเลยไม่ดีกว่าหรือ”
นี่หมายถึงจะไล่นางออกไปใช่หรือไม่?
นางแซ่หลี่รู้สึกอึดอัดในอกทันทีเกือบจะกระอักเืออกมาแล้ว
เมื่อพูดมาถึงจุดนี้แล้วนางไม่สนหน้าตาอะไรแล้วรีบคุกเข่าร้องไห้ต่อหน้าซูเต๋อเหยียน “นายท่าน ข้ารู้ว่าประโยคเมื่อครู่ของฉีเอ๋อร์นั้นไม่ดีแต่ท่านจะไม่สนความสัมพันธ์ของเราที่มีมานานหลายปีไม่ได้นะเ้าคะถ้าท่านรู้สึกว่าเื่วันนี้เป็ฉีเอ๋อร์ที่ผิด ข้าจะให้ฉีเอ๋อร์กล่าวคำขอโทษแก่เฟยซื่อก็ได้เหตุใดท่านต้องกล่าววาจาแบบนั้นมาทำร้ายคนด้วยเ้าค่ะ”
ซูเต๋อเหยียนส่งเสียงฮึ่มเบาๆแล้วเสียงหนึ่ง จากนั้นเบนสายตาหันไปมองซูเฟยซื่อ “เฟยซื่อเื่ในวันนี้ให้เ้าได้รับความคับข้องใจแล้ว เ้าเห็นว่าควรจัดการอย่างไร?”
เื่ของนางถึงคราต้องถามซูเฟยซื่อเมื่อไรกัน? ทั้งยังให้ซูเฟยซื่อมาตัดสินใจอีก!
นางแซ่หลี่ถลึงตาจ้องซูเฟยซื่อด้วยความแค้นเคืองแต่กลับไม่กล้าเอ่ยปาก
เห็นแบบนี้หลี่ฉีอดไม่ได้ที่จะสำนึกเสียใจที่ตนกอดขาใหญ่ผิดคนแล้ว
ถ้าเขารู้ว่านางแซ่หลี่ต่างเป็พระโพธิสัตว์ดินเหนียวที่ขนาดข้ามแม่น้ำก็ยังไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เขาจะไม่สัญญาช่วยนางในเื่นี้เด็ดขาด
ตอนนี้ถูกตีอย่างหนักโดยไร้เหตุผลแล้วรอบหนึ่งทั้งยังไม่รู้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร
นับเป็การหาเหาใส่หัวให้ตัวเองโดยแท้
“ในเมื่อแม่ใหญ่มีใจสำนึกผิดคุณชายหลี่ก็นับว่าได้รับบทเรียนแล้ว ข้าคิดว่าเื่นี้ก็ให้แล้วไปเถิดเ้าค่ะ”ซูเฟยซื่อทำท่าทางของผู้ใหญ่ใจกว้างออกมา
ยิ่งทำให้ซูเต๋อเหยียนรู้สึกว่าตนเองไม่ได้ดูคนผิดไป“ในเมื่อเฟยซื่อพูดแบบนี้แล้ว ถ้าเช่นนั้นก็เลิกแล้วต่อกันเถิด”
ซูเต๋อเหยียนถลึงตาใส่นางแซ่หลี่อย่างดุดันอีกครั้งแล้วจึงพาซูเฟยซื่อจากไป
มองดูเงาหลังที่ค่อยๆไกลออกไปของซูเต๋อเหยียนกับซูเฟยซื่อ นางแซ่หลี่ไม่สามารถควบคุมน้ำตาที่ไหลพรากได้อีกต่อไป
หลี่ฉีเองก็ไม่ได้ให้เกียรติแก่นางเหมือนก่อนหน้านี้แล้วยังค่อนข้างดูถูกอยู่บ้าง
ถ้าไม่ใช่เพราะนางแล้วเขาจะลุยโคลนรอบนี้ได้อย่างไร
แต่จวนอัครมหาเสนาบดีก็ทำเกินไปซูเฟยซื่อตีเขากลายเป็แบบนี้แล้ว แต่น้ำเสียงและท่าทีของซูเต๋อเหยียนเมื่อกี้คืออะไรกัน
ต่อให้เขาไม่ได้รับความโปรดปรานในบ้านตระกูลหลี่ดีร้ายอย่างไรก็ยังเป็คุณชายใหญ่ตระกูลหลี่อย่างถูกครรลองคลองธรรม
ซูเฟยซื่อนับเป็อะไร? เป็แค่บุตรสาวอนุคนหนึ่ง!
แม้แต่บุตรสาวอนุคนหนึ่งยังกล้าทำกับเขาแบบนี้ถ้าเื่นี้ถูกแพร่ออกไป วันข้างหน้าเขาจะยังมีที่ยืนในตระกูลซูกับตระกูลหลี่ตรงไหนกัน?
ไม่ได้แค้นนี้เขาต้องชำระแน่นอน
คิดถึงตรงนี้ในดวงตาของหลี่ฉีมีประกายชั่วร้ายคมกริบแวบผ่านไป “ท่านป้า ซูเฟยซื่อ นังสารเลวน้อยคนนั้นก็มอบให้ข้าจัดการเถิดเื่ในวันนี้ข้าจะไม่พูดออกไป เพียงแต่ท่านอายุมากขึ้นแล้ว อย่าได้กังวลจนเกินไปเล่า”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้