ขอเพียงเป็คนที่มีพื้นฐานวรยุทธ์เล็กน้อย ก็จะมองออกในปราดเดียวว่าเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่มีเศษเสี้ยวกำลังภายในในกายเลย เป็เพียงเด็กธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น
“เถ้าแก่สวีทำเกินไปแล้วกระมัง เขาเป็เพียงเด็กคนหนึ่งเท่านั้นเอง”
“ถูกต้อง เถ้าแก่สวีใจกว้างเสมอมา แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยล้มเดิมพัน”
รสคาวและรสหวานตีกันอยู่ในท้องก่อนจะพุ่งขึ้นมาในลำคอของเถ้าแก่สวี จากนั้นก็หายไปเองอย่างดื้อๆ
เขาควรทำอย่างไร? ตนเองปรารถนาในรูปลักษณ์และรูปร่างขององครักษ์ผู้นั้น จึงเผลอกระโจนเข้าไปติดกับดัก เดิมพันครั้งนี้มีความพากเพียรและความอุตสาหะทั้งชีวิตของเขาอยู่ในนั้น
หากยังไม่รู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น เขาคงใช้ชีวิตอย่างเปล่าประโยชน์มาหลายปีแล้ว
เด็กตัวเหม็นผู้นี้แสร้งทำตัวเป็หมูเพื่อกินเสือชัดๆ!
ทว่าผู้ใดใช้ให้เขาเป็คนเริ่มเองเล่า
ตอนนี้เกิดรู้สึกเสียใจขึ้นมาเสียแล้ว
“นึกไม่ถึงว่าเถ้าแก่สวีจะมีนิสัยไม่กล้าได้กล้าเสียเช่นนี้ แพ้แล้วยังข่มขู่อีก ท่านคิดว่าข้าเป็เด็กน้อยที่รังแกง่ายอย่างนั้นหรือ?”
ไป๋เซี่ยเหอหรี่ตาลงเล็กน้อย แววตาของนางเป็ประกายเฉียบคม เผยความเ้าเล่ห์ออกมาราวกับจิ้งจอกโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ข้าไม่ได้คิดจะรังแกเ้า เพียงแต่เ้าต้องนำสัญญาออกมาด้วย”
ในยุคสมัยนี้การพูดจาสวยหรูมิสู้สัญญาแผ่นเดียว ขอเพียงประทับนิ้วมือลงไป
ทางการก็จะจัดการอย่างยุติธรรม!
แน่นอนว่าข้อเสียก็คือ ท้ายที่สุดแล้วสัญญาก็เป็เพียงกระดาษแผ่นหนึ่งเท่านั้น
หากฉีกทิ้งก็ไม่มีสัญญาอีกต่อไปแล้ว
“หากข้าบอกว่าไม่เล่า?” ไป๋เซี่ยเหอถาม
“เช่นนั้นก็อย่าได้โทษที่ข้าไม่เกรงใจเลย!”
เมื่ออันตรายคืบคลานเข้ามา ผู้ชมที่ห้อมล้อมอยู่นอกประตูก็แตกกระเจิง ไม่มีใครอยากโดนลูกหลงจากไฟา พวกเขาแค่มาชมความครึกครื้นเท่านั้นเอง
อันธพาลชุดดำจำนวนสิบกว่าคนเริ่มล้อมเป็วงกลม ก่อนจะค่อยๆ ย่างกรายเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าชั่วร้าย หากเปลี่ยนเป็เด็กน้อยธรรมดา เห็นแค่นี้คงใจนร้องไห้ออกมาด้วยซ้ำ
ทว่าไป๋เซี่ยเหอเป็เด็กน้อยธรรมดาหรือ?
“จิ่วหาน วันนี้จะออกไปได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับเ้าแล้ว”
หลังจากไป๋เซี่ยเหอกล่าวจบ ก็ถอยไปยืนด้านข้าง
แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดสนใจนาง
เด็กน้อยคนหนึ่งที่ไม่มีกำลังภายในก็เปรียบได้กับมดตัวหนึ่งที่เพียงบีบก็ตาย!
ทว่าองครักษ์ของนางดูเหมือนจะจัดการไม่ได้ง่ายๆ
แม้ว่าจิ่วหานจะเป็มือสังหารอันดับหกในการจัดอันดับมือสังหารแห่งยุทธภพ ทว่าไม่มีผู้ใดเคยเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขามาก่อน
อะไรคือมือสังหารน่ะหรือ?
ก็ลอบสังหารโดยไร้สุ้มเสียงอย่างไรเล่า!
“ขอรับ!”
จิตสังหารในกายของจิ่วหานพลุ่งพล่านมานานแล้ว นึกไม่ถึงว่าเถ้าแก่สวีจะคิดสกปรกกับร่างกายของเขา เบื่อที่จะมีชีวิตแล้วจริงๆ ใช่หรือไม่?
“พวกเ้าลงมือพร้อมกันได้เลย!” น้ำเสียงอันเ็านั้นแฝงไปด้วยโทสะ
ก็แค่พวกหัวมังกุท้ายัเท่านั้น ในสายตาของเขาย่อมไม่มีค่าพอที่จะเอ่ยถึง
“เ้าเก่งกาจเกินไปแล้ว” เถ้าแก่สวีเอามือลูบคางด้วยสีหน้าลามก
ทว่าจะทำอย่างไรได้? เขาชมชอบผู้ที่มีความป่าเถื่อนเล็กน้อยเช่นนี้นัก ยิ่งทำให้เขามีความปรารถนาที่จะสยบอีกฝ่ายให้ได้
โชคดีที่เวลานี้จิ่วหานกำลังจดจ่ออยู่กับการต่อสู้แบบหนึ่งต่อสิบ จึงไม่ได้เห็นสีหน้าของเถ้าแก่สวี ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ขยะแขยงจนตายเลยหรือ?
เมื่อผู้เชี่ยวชาญตัวจริงลงมือ แม้แต่คนกระจอกก็มองออก
พรรคพวกของเถ้าแก่สวีล้มลงเกือบหมดในเวลาเพียงสองถ้วยชา เหลือเพียงสองสามคนที่ยังคงฝืนสู้ต่อไป
“ชิ ป่าเถื่อนนัก ข้าชอบ”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้เถ้าแก่สวีใจนล่าถอย ก็แค่อันธพาลสิบกว่าคนเท่านั้นเอง ขอเพียงสยบคนที่เขา้าได้ เขาย่อมไม่กังวลอะไร
เพราะเขามีเงินเหลือเฟือ
สายตาของเขาเคลื่อนไปยังไป๋เซี่ยเหอที่นั่งเท้าคางชมละครอยู่ด้านข้าง จู่ๆ แววตาก็พลันเป็ประกายขึ้นมา
แม้ว่าสังขารของเขาจะย่ำแย่ในตอนนี้ ทว่าถึงอย่างไรในอดีตก็เคยเป็ถึงเ้าแห่งยอดเขา แม้ว่าฝีมือจะตกลงเล็กน้อย ทว่าการจัดการกับเด็กน้อยคนหนึ่งย่อมเป็เื่ง่าย
“หากยังไม่หยุดมือ เกรงว่าวันนี้จะรักษาชีวิตน้อยๆ ของเ้านายเ้าไว้ไม่ได้เสียแล้ว” เถ้าแก่สวียืนอยู่ด้านหลังของไป๋เซี่ยเหอ กริชอันเย็นเยียบในมือของเขาแนบไปกับลำคอขาวผ่องของนาง
ฝีเท้าของจิ่วหานแข็งทื่อในทันที
เถ้าแก่สวียังคงลำพองใจว่าตนเองจับจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้แล้ว
จิ่วหานหันหน้ามามองด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบาย ดูแล้วเหมือนว่าเขากำลังกลั้นหัวเราะ
กลั้นหัวเราะหรือ?
เ้านายของตนถูกจับ ทั้งยังมีกริชพาดอยู่บนลำคอ ทว่ากลับยังหัวเราะออกมาได้ ทั้งโง่เง่าทั้งไม่เกรงกลัวใดๆ เลย!
เขาดูเหมือนคนโง่อย่างนั้นหรือ?
จิ่วหานมองเถ้าแก่สวีด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจ จับใครไม่จับ ดันจับไป๋เซี่ยเหอเสียนี่ เขามีกี่ชีวิตกัน?
“เถ้าแก่ ระวังตัวด้วย!”
แม้ว่าเถ้าแก่สวีเพิ่งจะอายุสี่สิบหรือห้าสิบปี ทว่าเนื่องจากโหมใช้งานร่างกายอย่างหนักมานานปี จึงมีพุงพลุ้ย ไม่กระฉับกระเฉงเลยแม้แต่น้อย
หากมองเพียงปราดเดียวแล้วบอกว่าเขาอายุหกสิบปีก็ไม่ถือว่าเกินไป
เถ้าแก่สวีรู้สึกเย็นะเืที่แผ่นหลังอย่างอธิบายไม่ได้ ทว่ายังคงฝืนทำตัวเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ เด็กน้อยคนนี้จะเก่งกาจเพียงใดกัน?
“ทิ้งสัญญาและบุรุษผู้นี้ไว้ แล้วข้าจะปล่อยเ้าไป”
ในสายตาของเถ้าแก่สวี นี่คือความเมตตาอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาสามารถมอบให้ได้ หากไป๋เซี่ยเหอยังปฏิเสธอีก เช่นนั้นก็ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีแล้ว!
“ทิ้งบ่อนพนันเอาไว้ แล้วเ้าจะพาคนของเ้าจากไปได้”
เช่นเดียวกัน
นี่คือความเมตตาอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่ไป๋เซี่ยเหอสามารถมอบให้เถ้าแก่สวีได้
ทว่าความเมตตานี้ราวกับตบเข้าที่ใบหน้าของเถ้าแก่สวี
“ดี ในเมื่อเ้าไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี บิดาจะ...เอ๊ะ คนเล่า”
คนที่อยู่ใต้กริชอันตรธานหายไปอย่างกะทันหัน
ความหนาวเหน็บลามจากฝ่าเท้าพุ่งตรงไปถึงกลางกะโหลก
“เ้าหาข้าอยู่หรือ?”
น้ำเสียงที่ฟังดูเ็าราวกับภูตผีดังขึ้นที่ด้านหลังของเขา
“เ้า...”
กริชของเถ้าแก่สวีตกลงกับพื้น เขารู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก
ร่างเล็กยืนอยู่ด้านหลังของเขา ใบหน้าดูเป็ผู้ใหญ่และเยือกเย็นไม่สมวัย มุมปากยกขึ้นอย่างเ็าและกระหายเื
ในมือของอีกฝ่ายมีเส้นผมเรียวบางช่อหนึ่ง มันพันอยู่รอบคอของเถ้าแก่สวี
เส้นผมช่อนั้นดูอ่อนนุ่ม ทว่าความคมของมันไม่ได้ด้อยไปกว่ามีดหรือกริชเลย
เมื่อเข้าบ่อนพนันจำเป็ต้องปลดอาวุธ ทว่าไม่มีผู้ใดคาดว่าจะมีคนใช้เส้นผมสังหารคน
“เมื่อครู่เ้าบอกว่าข้าไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอย่างนั้นหรือ?” ไป๋เซี่ยเหอขยับนิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ดึงเส้นผมให้บาดคอของเถ้าแก่สวีจนเืพุ่งกระฉูด
เปิดบ่อนพนันมาหลายปี เถ้าแก่สวีได้ลืมเลือนรสชาติของความเ็ปไปเนิ่นนานแล้ว
เพียงแต่าแที่เกิดจากเส้นผมสร้างความเ็ปมากพอที่จะทำให้เขาใจนทรุดตัวลงกับพื้น
“อย่า อย่าฆ่าข้าเลย ข้าไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเอง”
ปลาใหญ่กินปลาเล็กคือกฎที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
“เช่นนั้นเ้าควรทำอย่างไรเล่า?”
“ยกบ่อนพนันให้เ้า สิ่งใดที่เ้า้าล้วนมอบให้เ้าทั้งหมด ปล่อยข้าไปเถิด” นี่คือเงื่อนไขที่ไป๋เซี่ยเหอเสนอเมื่อครู่นี้
ทว่า...
“แต่นั่นเป็เงื่อนไขในอดีต!”
ประโยคนี้ถูกกล่าวออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ
หลังกล่าวจบ ไป๋เซี่ยเหอก็ดึงเส้นผมทันที เส้นผมที่ดูเหมือนอ่อนนุ่มกลับปลิดชีวิตคนได้ในชั่วพริบตา
เืสดๆ พุ่งกระฉูด ทว่าไป๋เซี่ยเหอที่ยืนอยู่ด้านหลังของเถ้าแก่สวีนั้นกลับดูสะอาดสะอ้าน ร่างกายไม่เปรอะเปื้อนคราบเืเลยแม้แต่น้อย
ดูไม่มีพิษภัยราวกับพระยูไล!
มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่เปล่งประกายเ้าเล่ห์ขึ้นเรื่อยๆ และดูมีชีวิตชีวาอย่างเห็นได้ชัด
ทุกคนล้วนอ้าปากค้าง นี่คือกระบวนท่าแปลกประหลาดอะไรกัน?
จิ่วหานมองไปทางอันธพาลสามคนที่กำลังต่อสู้อยู่ “พวกเ้าจะสู้ต่อหรือไม่?”
ทั้งสามคนรีบหนีหัวซุกหัวซุนทันที
ไป๋เซี่ยเหอส่งเสียงในลำคอสองทีก่อนจะกล่าวว่า “เ้าโเี้เกินไปแล้ว พวกเขากลัวเ้า”
จิ่วหานกลอกตาอย่างหน้าชื่นอกตรมทันที เห็นอยู่ชัดๆ ว่ากลัวนางต่างหาก
นี่เขาติดตามปีศาจตัวใดกันแน่?
ทว่าความรู้สึกนี้ไม่เลวเลย
วันข้างหน้าคงจะสนุกสนานมากเป็แน่
------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้