คิดไม่ถึงว่าเด็กน้อยอย่างหานอวิ๋นซีจะใช้คำพูดของนางมาตอบโต้นางจริงๆ ฮูหยินสวี่ถึงกับรู้สึกหายใจติดขัด ทั้งยังมีกลิ่นเืพุ่งขึ้นมาในคอทันที หากไม่ใช่เพราะนางกลั้นไว้ เดาว่าอาจจะกระอักเืออกมาแล้ว!
แต่!
เ้าคนหน้าด้านผู้นี้ คิดจริงๆ หรือว่าตนเองสามารถใช้ชื่อไท่เฮาเพื่ออวดอำนาจของตนเองที่ช่วยชีวิตไท่จื่อเอาไว้ได้?
นางไร้เดียงสามาก!
มือของฮูหยินสวี่ที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อกำแน่นเป็กำปั้น คิ้วยาวขมวด ดวงตาดุร้าย เดิมทีนางวางแผนที่จะรอให้อาการาเ็ของบุตรชายฟื้นตัวก่อนที่นางจะขอกุญแจห้องเก็บของจากหานอวิ๋นซีในนามบุตรชายคนโต แต่ตอนนี้นางรอไม่ไหวแล้ว!
การเลือกวันมันสู้วันที่เหมาะสมเช่นนี้ไม่ได้หรอก นาง้ากุญแจห้องเก็บของตอนนี้ และดับไฟที่หยิ่งยโสของหานอวิ๋นซี!
“เป็อย่างที่หวังเฟยพูด ข้าหยาบคายเสียแล้ว” ฮูหยินสวี่ยิ้มและโค้งคำนับร่างกายของนาง
“ไม่เป็ไร แค่เปลี่ยนมัน” หานอวิ๋นซีมั่นใจมาก และนางไม่มีความผิด
“ถ้านายน้อยเจ็ดสบายดี ข้าก็จะไม่เข้าไป หวังเฟย ท่านมาพอดีเลย ข้ากำลังคิดว่าสักวันจะไปเยี่ยมท่าน อย่างไรท่านก็มาแล้ว ไปดื่มชาที่บ้านของข้าสักหน่อยดีหรือไม่” ฮูหยินสวี่พูดอีกครั้ง
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา หานอวิ๋นซีก็รู้ว่า ฮูหยินสวี่้ากุญแจห้องเก็บของ!
เฉินเซียงตัวน้อยเกลี้ยกล่อมอี๋เหนียงเจ็ดอย่างมั่นใจใน่สองสามวันที่ผ่านมา นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอี๋เหนียงเจ็ดกังวลสิ่งใด แต่หานอวิ๋นซีกลับเข้าใจทั้งหมด
นางเป็บุตรสาวที่แต่งงานแล้ว และแม้ว่านางจะมีสถานะสูงส่ง แต่ในเชิงจริยธรรมทางโลก อย่าว่าแต่การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเื่ครอบครัวของแม่ของนางเลย แม้แต่การกลับไปหาครอบครัวของแม่ของนางบ่อยๆ นางก็จะถูกนินทา
ต้องรู้ว่าบรรยากาศในอาณาจักรเทียนหนิงนั้นค่อนข้างศิวิไลซ์ ในหลายๆ ที่ เมื่อบุตรสาวแต่งงานแล้ว จะสามารถกลับไปหาครอบครัวของนางได้ก็ต่อเมื่อหย่าร้างเท่านั้น
ดังนั้นหากฮูหยินสวี่ร่วมมือกับอี๋เหนียงหลายๆ คนเพื่อขอกุญแจห้องเก็บของที่อยู่ในมือนาง นางก็คงต้องให้จริงๆ
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อหานอวิ๋นซีกล้าที่จะเข้ามา นางจึงมีมาตรการตอบโต้และไม่กลัว!
“มีอะไรที่พูดตรงนี้ไม่ได้หรือ?” หานอวิ๋นซีแสร้งทำเป็ไม่รู้อะไรเลยและถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ไม่ว่าเื่นี้จะเล็กหรือใหญ่ แต่ตอนนี้ข้าเป็ผู้รับผิดชอบตระกูลหาน การไปพูดคุยเกี่ยวกับเื่นี้ที่ห้องของข้าน่าจะเหมาะสมกว่า”
ขณะที่ฮูหยินสวี่พูดและกำลังจะเดินออกไป นางก็หันกลับมามองอีกครั้ง มองไปที่หานหยุนอี้อย่างดูถูกเหยียดหยาม และะโเข้าไปในลานบ้านว่า “อี๋เหนียงเจ็ดเ้าก็ไปด้วยกันสิ”
อี๋เหนียงเจ็ดตกตะลึง เมื่อรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตาม และก่อนจะไปนางก็บอกเสี่ยวอี้เอ๋อร์ว่า “เ้ากับพี่เฉินเซียงรออยู่ในลานบ้าน อย่าวิ่งเล่นไปมา เข้าใจหรือไม่?”
หานหยุนอี้พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง และแอบมองที่ด้านหลังของหานอวิ๋นซี ดวงตาสีเข้มของเขาเศร้ามาก ราวกับว่าจะไม่ได้เจอพี่สาวของเขาอีกแล้ว
แต่ใครจะรู้ว่าหานอวิ๋นซีที่เดินไปสองสามก้าว จู่ๆ จะหันกลับมามอง “เสี่ยวอี้เอ๋อร์ เ้ามานี่สิ ไปกับพี่”
เด็กก็คือเด็ก หานหยุนอี้ยิ้มทันที ไม่สามารถซ่อนอารมณ์ของเขาได้ ขณะที่กำลังจะวิ่งไป ทว่าอี๋เหนียงเจ็ดกลับพูดว่า “หวังเฟย พวกผู้ใหญ่พูดคุยกัน แต่เด็กยัง...”
“มันไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร ให้เขามาเถอะ ข้าชอบเขา” หานอวิ๋นซียิ้มและโบกมือให้เสี่ยวอี้เอ๋อร์
แววตาของอี๋เหนียงเจ็ดฉายแววกังวล นางลังเลที่จะพูด เดิมทีนางคิดว่านางจะถามเกี่ยวกับเื่กุญแจห้องเก็บของเมื่อหวังเฟยมา แต่ใครจะรู้ว่าทันทีที่มานางจะบังเอิญเจอฮูหยินสวี่ ทำให้นางถามเื่นี้ออกไปไม่ได้
เมื่อเห็นว่ามารดาไม่ได้หยุดเขา เสี่ยวอี้เอ๋อร์รู้สึกตื่นเต้นมากและรีบไปทันที อย่างไรก็ตาม เด็กคนนี้ยังคงเขินอาย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาวิ่งไปหาหานอวิ๋นซี แต่สุดท้ายก็คว้ามือมารดาของเขาไว้
หานอวิ๋นซีรู้สึกขบขันและอุ้มเสี่ยวอี้เอ๋อร์ขึ้น “ทำไมเ้าถึงกลัวข้านัก ข้าช่วยเ้าแล้ว ข้าไม่กินเ้าหรอก!”
เสี่ยวอี้เอ๋อร์หน้าแดงและไม่พูดอะไร
ฮูหยินสวี่เหลือบมอง และคำเหน็บแนมก็ปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของนาง ถ้าปล่อยหานอวิ๋นซีเอ็นดูเด็กคนนี้อีกละก็ นางจะไม่มีทางได้กุญแจห้องเก็บของแน่นอน!
หานอวิ๋นซี เ้าหัวเราะไปเถอะ ข้าจะตั้งตารอปฏิกิริยาของเ้าหลังจากนี้
“ไป ไปเถอะ อี๋เหนียงสามก็เชิญไปด้วยกันสิ ถ้าบอกว่ามีเื่สำคัญละก็ นางต้องไปด้วยกันแน่นอน!” ฮูหยินสวี่สั่งเสียงต่ำ
ระหว่างทาง หานอวิ๋นซีแกล้งเสี่ยวอี้เอ๋อร์ตลอดเวลา แม้ว่าเสี่ยวอี้เอ๋อร์จะขี้อาย แต่เขาก็มีความดื้อรั้น ไม่ว่าหานอวิ๋นซีจะแกล้งเขาอย่างไร เขาก็ไม่พูดอะไร บางทีอาจจะเป็โชคชะตา หานอวิ๋นซีมีความอดทนอย่างมากและไม่โกรธเขาเลย
“เฮ้ เฮ้ เ้าหนู รู้หรือไม่ว่าข้าเป็ใคร ถ้าเ้ายังไม่ตอบข้าอีก ข้าจะลงโทษเ้า!” หานอวิ๋นซีเตือน
น่าเสียดายที่หานหยุนอี้แค่มองนาง กะพริบตาโตที่แสนน่ารักของเขาและไม่ตอบอะไร
หานอวิ๋นซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “เ้าหนู พี่สาวคิดว่าจะคอยเป็ผู้พิทักษ์และปกป้องเ้า แล้วต่อไปเมื่อเ้าโตขึ้น เ้าคิดจะขอบคุณพี่อย่างไรหรือ”
โดยไม่คาดคิด ครั้งนี้เสี่ยวอี้เอ๋อร์เม้มริมฝีปากของเขาและพูดอย่างเขินอายว่า “เมื่อข้าโตขึ้น ข้า...ข้าจะปกป้องท่านเอง”
หานอวิ๋นซีไม่คาดคิดและหัวเราะอย่างร่าเริง “ในที่สุดเ้าก็ยอมเปิดปากพูดแล้ว ได้ พี่สาวจะจำไว้ มาเถอะ เกี่ยวก้อยกัน!”
ขณะที่นางพูด นางก็ยื่นนิ้วก้อยออกมา และเสี่ยวอี้เอ๋อร์ก็ยิ้มเขินๆ และยื่นนิ้วก้อยออกมาด้วย
หานอวิ๋นซีเกี่ยวก้อยกับเสี่ยวอี้เอ๋อร์ จริงๆ แล้วนางรู้สึกหนักใจเล็กน้อย เสี่ยวอี้เอ๋อร์ เ้าต้องเติบโตอย่างราบรื่น!
นอกเหนือจากเรือนโยวหลานของฮูหยินเทียนซินแล้ว ในบรรดาเรือนทั้งหมดในจวน เรือนลั่วโยวของฮูหยินสวี่นั้นใหญ่และมีทำเลที่ดีที่สุด
เดิมที ลานแห่งนี้มีความหมายสอดคล้องกับชื่อ เงียบสงบและน่าอยู่ แต่น่าเสียดายที่หลังจากการบูรณะหลายครั้งโดยหานอวี้ฉี มันก็สูญเสียความสง่างามดั่งเดิมไปโดยสิ้นเชิง กลายเป็ความหรูหราและสูงส่ง ผู้ที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าพวกเขาไปผิดที่
ฮูหยินสวี่ตั้งตารอมาตลอด เมื่อนางขอกุญแจห้องเก็บของคืนจากหานอวิ๋นซี นางจะทำอย่างไรต่อ
นางคิดหาเหตุผลต่างๆ นานา ถ้าครั้งนี้หานอวิ๋นซีไม่มอบกุญแจห้องเก็บของให้นาง หากนางออกจากประตูตระกูลหานไปแล้ว การจะได้กุญแจคืนมาก็คงจะไม่ใช่เื่ง่ายอีกต่อไป!
แต่ใครจะรู้ เมื่อคนกลุ่มนี้มาถึงทางเข้าเรือนลั่วโยว พวกเขาก็เห็นหานรั่วเสวี่ยวิ่งออกไปด้วยความตื่นตระหนก มองอย่างไรก็เหมือนกำลังวิ่งหนีอะไรอยู่
เกิดอะไรขึ้นที่นี่?
เมื่อหานรั่วเสวี่ยหันกลับมาและเห็นหานอวิ๋นซีและคนอื่นๆ นางก็ผงะไปครู่หนึ่งแล้วสะอื้นออกมา “ฮูหยินสวี่ คุณชายใหญ่รังแกกันเกินไปแล้ว !”
“เกิดอะไรขึ้น” ฮูหยินสวี่ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
โดยไม่คาดคิด หานรั่วเสวี่ยยังไม่ได้พูดอะไร นางได้ยินเพียงเสียงเอะอะภายในประตู จากนั้นเห็นกลุ่มคนรับใช้และสาวใช้หลั่งไหลออกมาจากประตู หลายคนถูกเบียดจนล้มลงและดิ้นไปมาอยู่บนพื้น
“ฮูหยิน ฮูหยิน คุณชายใหญ่โกรธอีกแล้ว เขาขับไล่ทุกคนออกไปและทุบข้าวของมากมาย จนเกือบจะทำร้ายฮูหยินรอง!”
“ฮูหยิน คุณชายใหญ่ยังทุบยาทั้งหมด แม้แต่ยาทาที่ท่านทาให้เขาในตอนเช้าก็ด้วย ไม่ว่าข้าจะเกลี้ยกล่อมมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถหยุดเขาได้”
...
ใบหน้าของฮูหยินสวี่มืดลงทันทีหลังจากได้ยินสิ่งที่คนรับใช้พูด ตอนที่นางออกไป อวี้ฉีก็ยังดูสบายดีอยู่เลย ทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนไปเช่นนี้ได้ล่ะ!
มาเอะอะโวยวายเช่นนี้ต่อหน้าหานอวิ๋นซีและอี๋เหนียงเจ็ด ช่างน่าอับอายเสียจริงๆ ไม่ใช่หรือ?
คนรับใช้ยังคงพูดต่อไป แต่ฮูหยินสวี่ขัดจังหวะอย่างเ็า “พอแล้ว พวกเ้ามันไร้ประโยชน์ ไม่มีใครปรนนิบัติพวกข้าได้ดีเลยสักคน ไม่แปลกเลยที่คุณชายใหญ่จะจัดการพวกเ้าทั้งหมด! ทำไมพวกเ้ายังไม่ออกไปจากที่นี่อีก!”
คนรับใช้และสาวใช้ไม่กล้าพูดอะไรมาก พวกเขาคิดว่าตัวเองโชคร้ายและถอยออกไปทีละคน
“ฮูหยินสวี่ ท่านเชิญข้าและแม่ของข้ามาที่นี่ แล้วที่คุณชายใหญ่ทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร มันเกินไปหรือไม่” หานรั่วเสวี่ยพูดอย่างโกรธเคือง
แม้ว่าภูมิหลังครอบครัวของหลี่ซื่อผู้เป็อี๋เหนียงสามจะไม่ได้ดีเท่าฮูหยินสวี่ แต่นางก็มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย และครอบครัวแม่ของนางในเมืองเทียนสุ่ยที่อยู่ทางตอนเหนือของอาณาจักรเทียนหนิงก็ถือว่าเป็ครอบครัวที่มีฐานะ
แม้ว่าหลี่ซื่อจะเป็บุตรสาวของอนุ แต่เมื่อนางแต่งงาน นางก็มีสินสอดทองหมั้นมากมาย นอกจากนี้ นางยังใจกว้างอยู่เสมอและไม่มีความขัดแย้งโดยตรงกับฮูหยินสวี่มากนัก พวกนางต่างคนต่างอยู่ และต่างอดทนต่อลูกๆ ของอีกฝ่ายอย่างมาก
“รั่วเสวี่ย แม่ของเ้าอยู่ที่ไหน ยังอยู่ข้างในหรือไม่” ฮูหยินสวี่แสร้งทำเป็กังวล
"แม่ของข้าบอกให้ข้ามาที่นี่ก่อน แล้วนางค่อยตามมาทีหลัง โชคดีที่พวกข้าไม่ได้มาด้วยกัน ไม่อย่างนั้นข้ารับรองได้ว่าคุณชายใหญ่จะต้องกล้าทำร้ายแม่ของข้าแน่นอน!” หานรั่วเสวี่ยไม่ชอบหานอวี้ฉีมากที่สุด แน่นอนว่านางต้องใช้โอกาสนี้ในการร้องเรียน
“โอ้ เป็ความผิดของเขา เป็ความผิดของเขา! เป็เพราะเขาาเ็สาหัส เ้าอย่าไปถือสาเขาเลย” ฮูหยินสวี่ปลอบโยน
“ฮูหยินสวี่ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น” หานรั่วเสวี่ยพูด ในตอนนี้นางแสร้งทำเป็เงยหน้าขึ้นโดยไม่ตั้งใจ และเห็นหานอวิ๋นซีและคนอื่นๆ
“อวิ๋นซี! นี่มันพี่อวิ๋นซีไม่ใช่หรือ?” หานรั่วเสวี่ยะโด้วยความประหลาดใจ แสร้งทำเป็บ่นและจ้องไปที่อี๋เหนียงเจ็ด นางกระทืบเท้าอีกครั้ง และแสดงท่าทางจริงจังมาก “อี๋เหนียงเจ็ด พี่อวิ๋นซีมาั้แ่เมื่อไร? ทำไมท่านไม่บอกข้าสักคำ!”
หานอวิ๋นซีแสร้งยิ้ม และพูดในใจว่า ‘ช่างเป็คุณหญิงรองที่ละมุนละม่อมจริงๆ นางมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกบ้าน ทำไมถึงไม่ทำตัวดีกับนางั้แ่ตอนแรกกันนะ’
ในฐานะพี่สาวของนางมาหลายปี นี่เป็ครั้งแรกที่ได้ยินนางเรียกว่าพี่อวิ๋นซี
เมื่อนางออกจากตำแหน่งบุตรสาวคนโต หานรั่วเสวี่ยในฐานะบุตรสาวคนที่สองก็กลายเป็พี่สาวคนโต นางมักจะยุยงน้องสาวในบ้านคนอื่นๆ ให้ไม่ชอบหานอวิ๋นซี อย่าคิดว่าแอบทำลับหลังเช่นนั้นแล้วหานอวิ๋นซีจะไม่รู้!
หานรั่วเสวี่ยมองไปที่ใบหน้าของหานอวิ๋นซีอย่างระมัดระวัง ความตื่นเต้นปรากฏอยู่ทั่วใบหน้าของนาง “พี่อวิ๋นซี ใบหน้าของท่านหายแล้วนี่นา ช่างงดงามจริงๆ ข้า...”
โดยไม่คาดคิด ก่อนที่หานรั่วเสวี่ยจะพูดจบ หานอวิ๋นซีก็ขัดจังหวะอย่างเ็า “คุณหนูรอง เราไม่สนิทสนมกันไม่ใช่หรือ”
เอ่อ...สีหน้าของหานรั่วเสวี่ยแข็งทื่อทันที แต่ไม่นานนางก็กลับมาเป็เช่นเดิม “พี่อวิ๋นซีช่างชอบล้อเล่นจริงๆ”
น่าเสียดายที่หานอวิ๋นซีไม่ได้คิดที่จะไว้หน้านาง จึงพูดอย่างเ็าว่า “ข้าไม่ได้ล้อเล่น”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา บรรยากาศก็เย็นลงทันที และดวงตาของหานรั่วเสวี่ยก็เป็ประกายด้วยความเกลียดชัง นางคิดว่าหานอวิ๋นซีผู้ไร้ยางอายที่จับพ่อของนางเข้าคุก ทั้งยังแย่งห้องเก็บของไปอีก เช่นนี้ยังกล้ามาที่บ้านของตระกูลหานเพื่อแสดงอำนาจของนางอีก นางคิดว่าจะไม่มีใครรู้เื่อื้อฉาวที่นางทำอย่างนั้นหรือ?
นางอดทนรอเพื่อที่จะดูว่าฮูหยินสวี่จะขอกุญแจห้องเก็บของคืนมาอย่างไร และจะจัดการกับหานอวิ๋นซีอย่างไร!
การที่ฮูหยินสวี่พาทุกคนมาที่นี่ต้องเป็เพราะเื่กุญแจห้องเก็บของแน่นอน เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หานรั่วเสวี่ยก็ระงับความโกรธของนาง นางยิ้มเล็กน้อยและตั้งใจทำความเคารพหานอวิ๋นซี “หานรั่วเสวี่ยยินดีเป็อย่างยิ่งที่ได้พบหวังเฟย ขอให้หวังเฟย อายุยืนเป็พันปี พันปี พันปี!”
หานอวิ๋นซีไม่ใส่ใจที่จะมองนางอีกต่อไป และพูดอย่างเ็าว่า “ไม่ต้องพิธีรีตองหรอก”
ในเวลานี้ จู่ๆ ก็มีเสียงคำรามดังขึ้นจากสนามหญ้า “ไอ้เ้าคนหน้าด้านมันอยู่ไหน นางยังกล้ามาอีกหรือ ข้าเห็นว่าเ้าก็แค่ขโมยคนหนึ่งที่ขโมยของของตระกูลข้าไป และยังกล้ามาโอ้อวดที่บ้านของข้าอีกด้วย!”
“ข้าอยากจะรอดูว่าเ้าหัวขโมยนี่จะเย่อหยิ่งได้นานแค่ไหน!”
“ถ้าเ้ารู้ตัวแล้วก็รีบคืนของมาเร็วๆ มิฉะนั้น ข้าจะทำให้เ้าเสียใจอย่างแน่นอน!”
...
เสียงดุด่านี้ไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่พูดพาดพิงถึงหานอวิ๋นซี เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มที่อยู่ข้างในรู้ว่าหานอวิ๋นซีมาที่นี่ และเขากำลังดาก็หมายถึงหานอวิ๋นซีที่เอากุญแจห้องเก็บของไป!
หานอวิ๋นซีเหล่ตานกฟีนิกซ์ของนางเล็กน้อย เขายั่วยุนางเช่นนั้น แน่นอนว่านางคงไม่โง่ที่จะโต้เถียงกับหานอวี้ฉี เขาไม่ได้เอ่ยชื่อ นางก็ไม่ได้อยากเรียกตัวเองว่าเป็หัวขโมย
หานอวี้ฉีอยากได้กุญแจห้องเก็บของ ต่อให้รอไปถึงชาติหน้าก็อย่าหวังเลย!
