เมื่อฟังคำพูดเ่าั้ โจวซื่อโกรธมากจนพูดไม่ออกเป็เวลานาน
“ท่านป้า พวกเราต่างก็ลำบาก ข้าเห็นว่าบ้านของท่านดูดีทีเดียว ไม่ว่าพวกท่านจะทำอะไร ถึงกระนั้นก็ต้องรีบคืนให้เร็วที่สุดจะดีกว่า ไม่เช่นนั้น...” สีหน้าของคนทวงหนี้ชะงัก แปรเปลี่ยนเป็เ็า "หรือว่าพวกเราไปขึ้นศาล พูดคุยกับผู้พิพากษาให้กระจ่างแจ้ง!"
เมื่อได้ยินชายคนนั้นพูด ฉือเทาก็คุกเข่าคลานไปยังเบื้องหน้าของโจวซื่อ พูดพลางร้องไห้ว่า "ท่านแม่ ท่านจะต้องช่วยข้า ข้าเป็ลูกของท่านนะ!"
โจวซื่อผลักฉือเทาออกไปอย่างหงุดหงิด มองกลุ่มคนด้วยความวิงเวียน เสียงของนางสั่นเครือ "ทำไมถึงยืมเงินเยอะขนาดนี้?"
คนทวงหนี้เหลือบมองฉือเทาที่คุกเข่าอยู่บนพื้น แล้วเอ่ยถามอย่างใจเย็นว่า "บอกข้าที เ้ายืมเงินไปเท่าไร?"
เมื่อฉือเทาได้ยินเสียงคนทวงหนี้ ร่างกายของเขาก็สั่นเทิ้มมากขึ้น เขาพูดด้วยน้ำเสียงอันเบา "เดิมข้ายืมเงินไปสองร้อยแปดสิบตำลึง แต่รวมกับดอกเบี้ยก็กลายเป็สามร้อยตำลึง"
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉือเทาพูด โจวซื่อก็โกรธจนกัดฟันในปากแทบจะเป็ผุยผง นางอยากจะตบฉือเทาสักสองสามที
เงินสามร้อยตำลึง
ตอนนี้ยังขาดเงินอีกสองร้อยตำลึง
ถ้าเป็เมื่อก่อนก็คงไม่มีปัญหาอะไร
แต่ตอนนี้ครอบครัวของพวกเขาแยกจากกันแล้ว เงินทั้งหมดที่อยู่ในมือของเ้าใหญ่และฉือเย่ก็ถูกสองคนนี้ขโมยไปแล้วเช่นกัน
“ไหนบอกว่ายังเหลืออีกสองร้อยตำลึงไม่ใช่หรือ?” โจวซื่อกัดฟันพูดด้วยความโมโห
“ถูกต้อง แต่จะต้องคืนก่อนวันที่แปดของปีใหม่ ไม่เช่นนั้นดอกเบี้ยจะเพิ่มเป็สองเท่า ถึงตอนนั้นจะไม่ใช่จำนวนเงินเท่าเดิม!” คนทวงหนี้พูดเบาๆ สายตามองไปที่ฉือเทาที่กำลังคุกเข่าบนพื้นด้านข้าง
ใบหน้าของโจวซื่อน่าเกลียดสุดจะทน นางก็มองไปที่คนทวงหนี้ด้วยใบหน้าเย็นเยียบ
คนทวงหนี้ที่ยืนอยู่ตรงกลางโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างใบหูคนที่อยู่ด้านหน้าสุด
ใบหน้าของคนทวงหนี้หันไปทางหลินกู๋หยู่ จากนั้นเขาก็มองไปที่โจวซื่อด้วยรอยยิ้ม ชี้ไปที่ด้านข้าง "ท่านป้า ถ้าท่านไม่มีเงินชำระหนี้ก็ไม่เป็ไร ท่านค้ำผู้หญิงคนนั้นไว้ที่ธนาคารของเรา แล้วค่อยจ่ายส่วนที่เหลือเมื่อถึงเวลาก็ได้”
เมื่อมองไปตามนิ้วชี้ของเขา โจวซื่อเห็นหลินกู๋หยู่ยืนอยู่ตรงนั้น
“เ้าระวังคำพูดด้วย ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่เกรงใจ!” ก่อนที่หลินกู๋หยู่จะได้เอ่ยปาก ฉือหางก็รั้งหลินกู๋หยู่ไว้ข้างหลังเขา พูดอย่างไม่แยแส
ร่างกายของเขาแผ่ไอเย็นไปทั่ว แววตามองคนคนนั้นอย่างดุดัน
“ทำไมหรือ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงสกุลฉือไม่ใช่หรือ?” แววตาของซุนข่ายมองหลินกู๋หยู่อย่างอุกอาจเหิมเกริม เขาขมวดคิ้ว “แม้ว่านางจะผอมมาก แต่หน้าตาของนางก็ยังพอดูได้ นำไปเป็สาวใช้ก็ไม่เลว!"
“พวกเราไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันกับพวกเขา ดังนั้นไม่ต้องสนใจพวกเรา” ฉือหางมองชายตรงหน้าเขาอย่างเฉยเมย
ฉือหางมองชายคนนั้นอย่างไม่เกรงกลัว ขมวดคิ้วมุ่น "ข้าแนะนำให้เ้าอยู่ห่างจากพวกเราไว้จะดีกว่า"
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉือหางพูดเช่นนั้น ซุนข่ายอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "ผู้หญิงของเ้าหรือ?"
ฉือหางไม่ตอบ เพียงแต่มองไปที่ซุนข่ายอย่างเ็า
ซุนข่ายเดินไปหาฉือเทาและฟางซื่อ มองดูสองคนนั้นด้วยรอยยิ้ม "ถ้าไม่มีเงิน ผู้หญิงจะถูกขายให้หอคณิกา ส่วนผู้ชายจะต้องทำงานเป็กุลี และถ้าขันทีในวังขาดคน เช่นนั้นก็จะส่งเขาไปได้”
เมื่อฉือเทาได้ยินคำพูดของซุนข่ายก็อดไม่ได้ที่จะเอามือปิดร่างกายส่วนล่าง กลืนน้ำลายเต็มปากด้วยความใ ใบหน้าของเขาซีดเผือด
“ท่านแม่” ฉือเทามองดูซุนข่ายด้วยความสยดสยอง ปากร้องะโด้วยเสียงสั่นเครือ “ท่านแม่ ท่านช่วยข้าด้วย เร็วเข้า ช่วยข้าด้วย!”
ใบหน้าของโจวซื่อไม่น่าดูนัก เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ของฉือเทา นางรู้สึกรำคาญอย่างมาก
“เ้าบอกว่าคืนภายในวันที่แปดไม่ใช่หรือ นี่มันยังเหลืออีกห้าวัน พวกเ้ามาที่นี่ตอนนี้ยังเร็วเกินไปนัก” โจวซื่อแสร้งทำเป็สงบนิ่ง
ซุนข่ายมองไปที่โจวซื่อด้วยรอยยิ้ม เขาพูดต่ออย่างอารมณ์ดี "เช่นนั้นก็ดี ท่านป้า พวกเราจะกลับมาใหม่ในวันที่แปดของปีใหม่"
เมื่อได้ยินสิ่งที่ซุนข่ายพูด โจวซื่อก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ขณะที่รอให้คนเ่าั้ออกไป โจวซื่อมองดูคนสองคนบนพื้นด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“ท่านแม่ พวกเราสำนึกผิดแล้ว” ฉือเทาสะอึกสะอื้น มองโจวซื่อด้วยสายตาประหม่า “ครอบครัวของเราจะต้องมีเงิน ใช่หรือไม่ เรายังมีเงิน เราจะได้ชดใช้เงินคืน!"
ฟางซื่อคุกเข่าคลานไปยังเบื้องหน้าโจวซื่อด้วยน้ำตานองหน้า นางสูดจมูกอย่างแรง "ท่านแม่ ที่บ้านยังมีเงินอยู่ไม่ใช่หรือ ท่านให้เงินพวกเขาไป เมื่อถึงเวลานั้นข้ากับสามีของข้าจะคืนเงินให้พวกท่านดีหรือไม่?"
ตอนนี้โจวซื่อกลัดกลุ้มถึงขั้นผมของนางกลายเป็สีขาวแล้ว นางยกมือขึ้นตบฟางซื่อ แต่เมื่อนางกำลังจะเตะ นางพลันคิดได้ว่าฟางซื่อกำลังตั้งท้อง ดังนั้นนางจึงฝืนอดทน
หลินกู๋หยู่ยืนอยู่ข้างๆ ฉือหางรู้สึกไม่ดีในใจ
พูดตามตรง สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับฉือเทาและฟางซื่อในอนาคตเป็อย่างไร ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
“ทุกคนเข้ามา!” สายตาของโจวซื่อกวาดมองใบหน้าของทุกคนอย่างใจเย็น “ข้ามีเื่จะพูด”
หลังจากพูดจบ โจวซื่อก็หันหลังกลับและเดินเข้าไปข้างในเรือน
ฉือหางจับมือของหลินกู๋หยู่กำลังจะเดินออกไปข้างนอก
“เ้าสาม เ้าก็เข้ามาด้วย!” โจวซื่อดูเหมือนจะคาดเดาได้ว่าฉือหางจะออกไป นางยืนรออยู่ที่นั่น โดยไม่พูดสักคำ
เมื่อรอให้ทุกคนเข้าไปแล้วก็เห็นฉือเทาและฟางซื่อคุกเข่าอยู่บนพื้น ฉือหางและหลินกู๋หยู่ยืนอยู่ทางด้านซ้าย ฉือซู่และซ่งซื่อยืนอยู่ทางด้านขวา
โจวซื่อนั่งอยู่บนม้านั่ง เมื่อมองไปที่ฉือเทาบนพื้นนางก็ขมวดคิ้วมุ่น
ซ่งซื่อบีบเอวด้วยมือข้างหนึ่ง มองดูฟางซื่อที่คุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างเหยียดหยาม แค่นเสียงตะคอกอย่างเ็า "เ้ายังมีหน้ามาบอกว่าเ้าไม่ได้ขโมยเงิน ตอนนี้หลักฐานมัดตัว เ้าก็ควรยอมรับ"
หลังจากได้ยินสิ่งที่ซ่งซื่อพูด ฟางซื่อก็ก้มหน้าลงกัดริมฝีปากล่าง ท่าทางดูน่าสงสารอย่างมาก
“ใครบอกให้พวกเ้าไปปล่อยเงินกู้?” โจวซื่อมองคนสองคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างเ็า
ฟางซื่อหมอบอยู่บนพื้นและไม่กล้าพูดจา ฉือเทาสูดลมหายใจ ก่อนที่จะพูดด้วยเสียงขึ้นจมูก "ท่านแม่ ข้าแค่ได้ยินพวกเขาพูดโดยบังเอิญ ในตอนแรกพวกเราทำกำไรได้เป็จำนวนมาก แต่ต่อมา ... "
"ต่อมาพวกเ้าปล่อยเงินกู้เพิ่มมากขึ้น?" โจวซื่อมองฉือเทาที่กำลังคุกเข่าบนพื้นอย่างเ็า เขวี้ยงชามบนโต๊ะลงบนพื้นอย่างแรง ชี้ไปที่ปลายจมูกของฉือเทา "เ้าโง่หรืออย่างไร! อะไรที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ เ้าแยกแยะไม่ออกหรือ?"
เมื่อได้ฟังคำพูดของโจวซื่อ ฉือเทาก็ก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด เขาไม่กล้าพูดต่อแม้แต่คำเดียว
“แล้วเ้าละ” โจวซื่อพูดด้วยความโกรธ ชี้นิ้วมือไปที่ฟางซื่อ “เ้าอย่าคิดว่าเพราะเ้าท้องอยู่แล้วข้าจะแตะต้องเ้าไม่ได้ หลังจากเ้าคลอดลูก ข้าจะคิดบัญชีกับเ้า”
ฟางซื่อพยายามหดลำคอของนางอย่างแรง เงยหน้าขึ้นมองโจวซื่ออย่างระมัดระวัง
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของฟางซื่อ คิ้วของโจวซื่อก็ขมวดมุ่นเป็ปม
หลังจากที่สองคนด้านล่างถูกด่าจนเสร็จสิ้น สายตาของโจวซื่อก็จับจ้องไปที่ฉือซู่และฉือหาง
โจวซื่อกระแอมไอสองครั้งเพื่อล้างคอ นางพูดอย่างหน้าด้านๆ "เ้าสาม เ้ามีเงินเท่าไร?"
“ท่านแม่ ข้าไม่มีเงินติดตัวมากนัก” ฉือหางพูดด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ราวกับว่าเขากำลังพูดถึงเื่อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
"จะไม่มีเงินได้อย่างไร?" ฉือเทาหันศีรษะไปมองที่ฉือหาง แล้วพูดว่า "ที่ตลาดในวันนั้น ข้าเห็นพวกเ้าซื้อของมากมาย!"
"พี่รอง เงินก็ใช้ซื้อของไปหมดแล้ว ดังนั้นตอนนี้ข้าไม่มีเงิน" ฉือหางพูดโดยใจไม่เต้นไม่หน้าแดงไร้พิรุธ
ในความเป็จริง หลินกู๋หยู่ก็คิดคล้ายกัน นางจะไม่มีวันให้เงินพวกเขาอย่างแน่นอน
จู่ๆ โจวซื่อก็ขว้างชามในมือต่อหน้าฉือเทา
ฉือหางยืนอยู่ข้างฉือเทา เศษซากชามก็ตกลงมาที่เท้าของฉือหาง
ดวงตาของฉือหางมองเศษซากบนพื้นนิ่งเงียบ ไม่ได้พูดจา
“ครอบครัวของเ้าใหญ่มีเงินเหลือเท่าไร?” โจวซื่อเอียงศีรษะมองที่ฉือซู่ แล้วพูดอย่างเนิบช้า
“ท่านแม่” โดยไม่รอให้ฉือซู่พูด ซ่งซื่อก็ชิงพูดก่อน “เงินของพวกเราทั้งหมดก็ถูกเ้ารองเอาไปแล้ว หรือท่านไม่รู้เื่นี้?”
หลังจากฟังสิ่งที่ซ่งซื่อพูด ฟางซื่อหน้าแดงแทบตาย ลดศีรษะลงไม่กล้าเงยหน้าขึ้น
ครอบครัวของเ้าใหญ่ไม่มีเงิน โจวซื่อก็รู้เื่นี้ ตอนนี้นอกจากครอบครัวเ้าสามที่มีเงิน ก็ไม่มีใครมีเงินแล้ว
สายตาของโจวซื่อจับจ้องไปที่ใบหน้าของฉือหางอีกหน นางเดินไปหาฉือหาง "เ้าสาม เ้าทนดูพี่รองของเ้าถูกสั่งให้ทำงานหนักได้หรือ?"
ฉือหางฟังคำพูดของโจวซื่อ มองไปที่ฉือเทาที่คุกเข่าอยู่บนพื้นข้างๆ เขา "ข้าไม่มีเงิน"
หลังจากได้ยินคำพูดของฉือหาง โจวซื่อก็แทบจะหมดลมหายใจ
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉือหางพูด ฉือเทาก็พูดด้วยความโกรธ "เ้าสาม เ้าอย่าพูดเหลวไหล เห็นได้ชัดว่าเ้ามีเงินแต่เ้าไม่้าให้พวกเรา เ้าดูเสื้อผ้าที่เ้าใส่สิ ผ้าฝ้ายบริสุทธิ์เช่นนี้ บ้านคนธรรมดาที่ไหนบ้างที่สามารถซื้อได้?"
“นี่เป็เงินค่าจ้างที่ข้าได้รับจากการทำงานในโรงหมอ ข้าใช้เงินนั้นซื้อสิ่งเหล่านี้เอง” หลินกู๋หยู่กล่าวพร้อมกับเลิกคิ้วต่ำ มองไปที่ฉือเทาอย่างสงบเสงี่ยม หลังจากนั้นครู่หนึ่งนางก็พูดต่อ “พี่รอง ขอโทษจริงๆ"
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด สีหน้าของฟางซื่อก็ยิ่งอัปลักษณ์มากขึ้น คิ้วของนางก็ขมวดแน่น "น้องสะใภ้สามเ้าใจร้ายนัก เห็นคนกำลังจะตายแต่ไม่ช่วยงั้นหรือ?"
“ข้าขอโทษ” ในเวลานี้หลินกู๋หยู่จะต้องยืนอยู่ข้างฉือหาง
โจวซื่อยังคงมีเงินอย่างน้อยหนึ่งร้อยตำลึง แต่ก็ยังคงต้องหาเงินเพิ่มอีกหนึ่งร้อยตำลึง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเพิ่มเงินเข้าไปอีกห้าสิบตำลึง อย่างไรก็ต้องหาเพิ่มอีกห้าสิบตำลึงอยู่ดี
หลินกู๋หยู่คิดคำนวณอย่างชัดเจนั้แ่ก่อนนี้แล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะเอาเงินออกมาหรือไม่ก็ตาม กระนั้นเงินก็ไม่เพียงพออย่างแน่นอน
โจวซื่อเองก็ดูเหมือนจะรู้เื่นี้อย่างชัดเจน นางจึงบังคับให้พวกเขานำเงินออกมา จะได้ชดใช้ให้ได้มากที่สุด เงินส่วนที่ขาดอีกเล็กน้อยยังสามารถไปขอยืมคนอื่นได้
“เ้าสาม” โจวซื่อมองไปที่ฉือหางอย่างเป็พะว้าพะวัง เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงขอร้อง “เ้าสาม หรือว่าเ้าขึ้นไปล่าสัตว์ทีู่เา บางทีเ้าอาจจะหาเงินได้ เ้าก็เห็นสถานการณ์ในครอบครัวของเราแล้ว"
“ท่านแม่” หลินกู๋หยู่รู้สึกไม่พอใจ เมื่อได้ยินคำพูดของโจวซื่อ นางอดไม่ได้ที่จะพูดแทรก “สุขภาพของพี่ฉือหางยังไม่หายดี ไม่สามารถไปล่าสัตว์บนูเาได้”
ดวงตาของโจวซื่อจ้องมองที่หลินกู๋หยู่อย่างเ็า ราวกับว่านาง้าฆ่าหลินกู๋หยู่ด้วยสายตา
ลูกชายของนางถูกผู้หญิงคนนี้ทำให้เสียคน ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้ ลูกชายของนางจะพูดเช่นนี้ได้อย่างไร!