เหลียนเซวียนนอนอยู่บนพื้นไม่อาจขยับตัวขบฟันจนกรามแทบป่น หญิงสาวผู้นี้จะอวดเก่งอะไรอีก?
นางไม่รู้หรือว่าหมีตาบอดตัวนั้นกำลังคลั่งอาละวาด แค่ถูกกรงเล็บของมันตะปบเพียงเบาๆ ชีวิตน้อยๆ ของนางก็หาไม่แล้ว
เซวียเสี่ยวหรั่นย่อมไม่ยืนเซ่อซ่าให้หมีดำเข้ามาตะปบ พอมันหมุนตัวมา เธอก็เริ่มวิ่งรอบตัวมันเป็วงกลม เดี๋ยวซ้ายเดี๋ยวขวาไม่หยุด วิ่งวนไปก็ร้องด่าทอไป "เ้าหมีงั่ง สมองหมู ทางนี้ๆ"
หมีดำถูกแทงตาบอด เจ็บจนคลั่งอาละวาด มันสะบัดหัวเดินหมุนไปเป็วงกลมไม่หยุด โลหิตแดงฉานไหลย้อยจากดวงตาหยดแหมะลงมาบนพื้นเป็ดวงๆ
เซวียเสี่ยวหรั่นมองเห็นความหวัง หมีตาบอด การเคลื่อนไหวก็ช้าลงมาก แค่เธอยอมเสียเวลาเดินหมุนรอบตัวมันไปเรื่อยๆ สุดท้ายมันเสียเืมากก็จะหมดแรงไปเอง
เพียงแต่...
พอเหลือบไปยังร่างที่ไม่ไหวติงอยู่ไกลๆ หัวใจก็สั่นสะท้าน เหม่อลอยไปชั่วขณะ เกือบถูกหมีตะปบ
เซวียเสี่ยวหรั่นหลบได้อย่างเฉียดฉิว ก่อนถลึงตาใส่หมีดำด้วยความโกรธเคือง หันไปหามุมที่ดีที่สุด แล้วกลั้นหายใจ เชิดฝ่ามือพ่นสเปรย์ใส่หน้าของหมีดำเต็มแรง
"โฮก..." เสียงหมีดำร้องลั่นไปถึงชั้นเมฆ
หลังจากเดินโงนเงนไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ล้มลงที่พื้นทุรนทุรายด้วยความเ็ป กลิ่นฉุนแสบร้อนไม่เพียงแต่ทะลุทะลวงโพรงจมูกของมัน ยังทำให้ดวงตาที่หลั่งเืของมันแสบเคืองอย่างแรง
หมีดำล้มลง ลุกไม่ขึ้นอยู่เป็เวลานาน สีหน้าตึงเครียดของเซวียเสี่ยวหรั่นผ่อนคลายลงทีละน้อย รีบวิ่งเข้าไปหาเหลียนเซวียน
"เหลียนเซวียน เหลียนเซวียน ท่านเป็อย่างไรบ้าง"
เซวียเสี่ยวหรั่นประคองเขาขึ้นมาแต่พอเห็นเืกบมุมปากเขาก็ใจนิญญาแทบหลุดออกจากร่าง "ทะ... ท่านเืออก"
นอกจากเืออกแล้ว ขาของเขาก็อาจจะหักด้วย เหลียนเซวียนถูกขยับตัว รู้สึกถึงความเค็มคาวในโพรงปาก เ็ปจนเหงื่อกาฬท่วมศีรษะ
"ละ... แล้วทีนี้จะทำอย่างไรกันล่ะ" เห็นเขาเจ็บจนหน้าซีด เซวียเสี่ยวหรั่นก็ยิ่งพะว้าพะวัง
อวัยวะภายในของเขาคงได้รับการกระทบกระเทือน จึงเกิดภาวะกระอักเื
าแภายนอกรักษาง่าย แต่อาการาเ็ภายในรักษายาก หากได้รับาเ็ภายในย่อมไม่ใช่เื่เล็ก แม้แต่ในยุคปัจจุบันที่การแพทย์ทันสมัยก็ยังอันตรายมาก
ด้วยเงื่อนไขตอนนี้ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง
เซวียเสี่ยวหรั่นหน้าซีดลงไปเรื่อยๆ เธอคุกเข่ากับพื้น ประคองเหลียนเซวียนอย่างระมัดระวัง ให้เขาหนุนศีรษะบนขาของเธอ
"เหลียนเซวียน ท่าน... ยังสบายดีอยู่ไหม ท่านอย่าตายนะ ไม่ง่ายเลยกว่าที่พวกเราจะมาไกลขนาดนี้ หากไม่ได้ออกจากที่นี่ไปเห็นโลกภายนอกสักครั้งก็น่าเสียดาย"
ขณะเอ่ยวาจาน้ำเสียงก็สั่นเครือเหมือนจะร้องไห้
พอได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นของนาง เดิมทีเหลียนเซวียนก็ยังรู้สึกซาบซึ้ง แต่พอฟังเนื้อหาอย่างละเอียดเท่านั้น ก็กลับซึ้งใจไม่ลง
"ทำยังไงดี ทำยังไงดี ทำยังไงดี..."
เซวียเสี่ยวหรั่นสติไม่อยู่กับเนื้อตัว ปากพร่ำรำพันไม่หยุด
ในสถานที่ร้างผู้คน จะหาใครมาช่วยชีวิตย่อมไม่ได้ เธอไม่รู้วิชาแพทย์ สมุนไพรก็ไม่รู้จัก
จะต้องมองเหลียนเซวียนตายไปต่อหน้าต่อตาอย่างนี้น่ะหรือ? พอนึกมาถึงจุดนี้ เซวียเสี่ยวหรั่นก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว
เหลียนเซวียนอยู่ในอ้อมแขน ย่อมััได้ถึงความหวาดกลัวและตื่นตระหนกของเธอ
เขานิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอื้อมมือออกไปหมายปลอบประโลมมือที่กำลังสั่นระริก
"อยู่นั่น..."
เสียงของชายแปลกหน้าดังขึ้นกลางป่า
เซวียเสี่ยวหรั่นกับเหลียนเซวียนสะดุ้งพร้อมกัน
"มาเร็วๆ หาเจอแล้ว"
"เ้าหมีตาบอดอยู่ตรงนั้น"
"เอ๋? มันาเ็หรือ?"
"ทางนั้นมีคนด้วย"
เสียงอื้ออึงของชายเจ็ดแปดคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
"หละ... เหลียนเซวียน มีคนมา พวกเรารอดแล้ว"
พอเห็นเงาคนตะคุ่มมาแต่ไกล เซวียเสี่ยวหรั่นก็ตื่นเต้นจนพูดตะกุกตะกัก
เหลียนเซวียนรั้งมือที่ยื่นออกไปกลับมา เขาเองก็ได้ยิน
บุรุษเจ็ดแปดคนปรากฏตัวในป่า พูดด้วยสำเนียงของชาวแคว้นหลี ฟังเข้าใจไม่ยาก ที่นี่น่าจะอยู่ใกล้กับหมู่บ้านของนายพราน
ที่แท้พวกเขาก็เดินมาถึงชายป่าแล้วนี่เอง การประเมินของเขานับว่าไม่พลาด
"ท่านพ่อ หมีตาบอดใกล้ตายแล้ว ตาของมันถูกแทง เืไหลเยอะเลยขอรับ"
คนที่เดินนำมาหน้าสุดเป็ชายหนุ่มรูปร่างบึกบึน มือถือหอกแหลมคม ย่างเข้าหาหมีดำที่นอนกลิ้งเกลือกร้องครวญครางอยู่บนพื้น ลมหายใจรวยรินอย่างหวาดระแวง
ชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบเดินออกมาจากกลุ่มคน มือถือหอกแหลมคมแบบเดียวกัน
"อย่าเข้าใกล้เกินไป มันยังไม่หมดลมหายใจ พลังเฮือกสุดท้ายของสัตว์ร้ายก่อนตายอันตรายมาก เ้ายังไม่เข้าใจอีกรึ"
น้ำเสียงของชายวัยกลางคนเคร่งขรึมจริงจัง
ชายหนุ่มสำนึกผิดทันควัน ถอยออกมาสองสามก้าว
"ต้าเหนียงจื่อ [1] ท่านนั้น หลางจวิน [2] ของท่านถูกหมีทำร้ายมาหรือ" ชายวัยกลางคนเดินอ้อมหมีดำตัวนั้น แล้วะโถาม
บุรุษผู้นั้นนอนอยู่ในอ้อมแขนของสตรี ทั้งสองน่าจะเป็คู่สามีภรรยา
หา? ต้าเหนียงจื่อ? หลางจวินของเธอ? เซวียเสี่ยวหรั่นตะลึงงัน
คนที่ตกตะลึงไม่ใช่แค่เธอ ยังมีเหลียนเซวียนที่กึ่งนอนอยู่ในอ้อมแขนเธออีกคน
"หลางจวินของเ้ายิงหมีตาบอดตัวนี้รึ" ชายผู้นั้นไม่รอฟังคำตอบ ก็ถามเพิ่มอีกประโยค
"หา? อ้อ ใช่ เหลียนเซวียนเป็คนล่า"
เซวียเสี่ยวหรั่นยังข้องใจความหมายของคำเรียก ต้าเหนียงจื่อ กับหลางจวินอยู่ ว่าหมายความว่าอย่างไร
หมายถึงคุณชายกับคุณหนูรึเปล่า? หรือว่าหมายถึงสามีกับภรรยา?
"หลางจวินบ้านเ้าได้รับาเ็นี่ เจ็บหนักหรือเปล่า"
ชายวัยกลางคนได้ยินสำเนียงของเธอ ก็มุ่นคิ้วเล็กน้อย เห็นชัดว่าพวกเขาไม่ใช่คนแถวนี้
พูดถึงได้รับาเ็ เซวียเสี่ยวหรั่นก็ได้สติกลับมา เลิกนึกถึงข้อกังขาเื่คำเรียกขานชั่วคราว รีบตอบกลับไป
"ท่านลุงผู้นี้ เหลียนเซวียนถูกหมีวิ่งชนกระอักเื ต้องเชิญท่านหมอมารักษา ขอถามท่านลุง ที่นี่อยู่ไกลจากนอกูเามากหรือไม่"
ประโยคสุดท้ายถึงจะเป็ใจความสำคัญ
"ถูกหมีวิ่งชน?" ชายวัยกลางคนค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ "ถ้าจะออกจากูเาใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวัน"
เร็วขนาดนั้นเลย? เซวียเสี่ยวหรั่นดวงตาเป็ประกาย แต่แล้วก็ตระหนักได้ว่าเขาคงจะหมายถึงความเร็วการเดินของพวกเขาเอง
แต่ถ้าเป็เธอกับเหลียนเซวียน คงจะต้องเดินสามสี่วัน
ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาแล้วหยุดอยู่ห่างจากพวกเขาสามก้าว มองพิจารณาสองคนที่อยู่เบื้องหน้าอยู่เงียบๆ
บุรุษที่ชื่อเหลียนเซวียนรูปร่างสูงใหญ่ แต่ผอมจนน่าสังเวช ใบหน้ามีรอยแผลเป็มากมาย แม้ว่าจะจางลงแล้ว แต่ยังเห็นชัดเจน
มุมปากมีคราบเืที่ยังไม่แห้งดีติดอยู่บนหนวดเครายุ่งเหยิง
ที่ทำให้ชายวัยกลางคนรู้สึกตระหนกก็คือ ดวงตาของชายหนุ่มดูผิดธรรมชาติ แม้จะมองอยู่แต่กลับไม่อาจจับจุดหมายปลายทาง
ที่แท้ก็ตาบอด
คนตาบอดคนหนึ่ง ยามเผชิญหน้ากับหมีดำ ยังถือไพ่เหนือกว่า ไม่อาจดูแคลนได้จริงๆ
หญิงสาวอายุยังไม่มาก หน้าตานับว่าสะสวย แต่เสื้อผ้าอาภรณ์แลดูพิลึกพิลั่น เสื้อคอกลม แต่ไร้สาบเสื้อ แขนเสื้อแคบตัวสั้น แม้แต่ขากางเกงก็ยังสอบแคบ ดูสั้นๆ ด้วนๆ ประหลาดชอบกล
ทั้งสองมอมแมมไปทั้งตัวผมเผ้ายุ่งเหยิง รูปร่างผ่ายผอม เท้ายังสวมรองเท้าฟางที่ทำขึ้นเอง ดูเหมือนคนหลงป่ามานาน
ขณะที่ชายวัยกลางคนกำลังพิจารณาพวกเขาสองคนอยู่ เซวียเสี่ยวหรั่นก็กำลังคิดแผนการในใจ
ที่นี่อยู่ไกลจากข้างนอกขนาดนั้น หากเป็เวลาปรกติ พวกเขาสามารถกัดฟันเดินออกไปเองได้
แต่ตอนนี้ เหลียนเซวียนาเ็ไม่เบา ไม่มีทางออกไปเองได้แน่
เช่นนั้นคนกลุ่มนี้จึงเป็โอกาสของพวกเขาสองคน
ชายหนุ่มเ่าั้ยังวนเวียนอยู่รอบหมีดำ สีหน้าซ่อนความตื่นเต้นไม่มิด
ดูท่าเ้าหมีดำตัวนี้จะมีราคา
หมีตัวนี้เหลียนเซวียนเป็ล่ามาด้วยชีวิต จะให้เก็บผลประโยชน์ราคาถูกก็คงเป็ไปไม่ได้
ดวงตาของเซวียเสี่ยวหรั่นทอประกายวับวาว
...
[1] เป็คำเรียกภรรยาเอก หรือใช้เป็คำเรียกเชิงยกย่องหญิงสาวหรือหญิงวัยกลางคนที่แต่งงานแล้ว
[2] เป็คำเรียกแทนสามี หรือใช้เป็คำเรียกชายหนุ่มบุตรของผู้ดีมีสกุล หรือบุตรของขุนนาง
