ฮองเฮาอายุสี่สิบปีแล้ว นางเห็นผู้คนและเื่ราวมากมาย ตอนนี้ก็เพิ่งผ่านประสบการณ์ขึ้นๆ ลงๆ สายตาการมองคนของนางจึงถือว่าแม่นยำมาก
นางกล่าวว่ากงอี่โม่เป็ยอดวีรสตรี เนื่องจากแม้นางจะมีจิตใจดี ทว่าตอนอายุสิบขวบก็สามารถสังหารนักฆ่าอย่างโเี้จนสะพรึงไปทั่วบริเวณนางดูเหมือนไร้พิษภัย ทว่ากลับมีกลอุบายซับซ้อนไม่มีที่สิ้นสุดนางมีความทะเยอทะยาน กล้าลงมือทำจริง นางไม่ใช่วีรสตรีแล้วจะเรียกว่าอะไร?
เมื่อได้ฟังคำวิจารณ์ที่ประเมินนางไว้สูงมากเช่นนี้แล้วกงเช่อรู้สึกตะลึงอยู่ในใจ แต่กลับสามารถยอมรับได้ทั้งหมด เขาดีใจมากดีใจที่เสด็จแม่ยอมรับนางได้เช่นนี้
“ไม่จำเป็ต้องกล่าวถึงเื่ในอดีตอีกแล้วน้องไม่คิดเล็กคิดน้อยอย่างแน่นอน” กงเช่อคิดถึงกงอี่โม่ไม่รู้เป็เพราะเหตุใดสีหน้าของเขาจึงดูอ่อนโยนยิ่งนัก
“น้องเขาเป็คนมีความสามารถและใจกว้างมากจริงๆ”
ท่าทางของเขาเช่นนี้ตกอยู่ในสายตาของฮองเฮาไม่รู้ทำไมนางจึงรู้สึกผิดปกติ นางลังเลอยู่ชั่วครู่เมื่อไตร่ตรองแล้วจึงเอ่ยปาก
“ลูกกับกงอี่โม่” ชอบพอกันหรือไม่?
นางไม่ได้กล่าวส่วนสุดท้ายออกมา เพียงแต่กวาดตาประเมินสีหน้าของกงเช่อ
ทว่าเมื่อกงเช่อได้สติ “อืม? เมื่อสักครู่เสด็จแม่กล่าวอะไรหรือ?”
“ไม่มีอะไร เื่นี้ห้ามชักช้า แม่จะไปขอเฝ้าเสด็จพ่อของเ้าเพียงแต่...” เห็นใบหน้างามของบุตรชายปรากฏความอ่อนโยนและความมั่นใจฮองเฮาจึงหลบสายตาพร้อมส่ายศีรษะ
นางมองกงเช่อ ทำท่าเหมือนจะพูดแต่กลับหยุดชะงักเพียงแต่นางคือน้องสาวของเ้านะ ถึงไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเืแต่นี่คือความผิดอันยิ่งใหญ่
ทว่าสุดท้ายนางก็ไม่ได้กล่าวออกมาตอนนี้พวกเขากระจัดกระจายคนละทิศละทาง แล้วทำไมต้องกล่าวเื่พวกนี้ด้วยล่ะ?
เมื่อคิดว่าในอนาคตข้างหน้าจะมี่เวลายาวนานที่ไม่ได้เจอเสด็จแม่แล้วกงเช่อจึงอยู่พูดคุยเป็เพื่อนนางระยะหนึ่ง สุดท้ายจึงจากไป
ชั่ววินาทีที่ก้าวออกจากตำหนักเฟิ่งชีกงเช่อมองท้องฟ้าสีครามเมฆาสีขาวบริสุทธิ์ในใจพลันมีความสุขทะลักขึ้นมาอย่างไร้ขีดจำกัด
เขาจะเดินทางแล้ว เขาจะไปสร้างผลงานที่เป็ของเขาเองเขาจะบุกเบิกแผ่นดินนี้
กงเช่อมองไปทางตำหนักจาวหยาง เขายิ้มน้อยๆ เมื่อเขากลับมาอีกครั้งเขา... จะไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของใครอีก
แต่ไหนแต่ไรเมืองหลวงก็มีอากาศแห้ง ท้องฟ้าสดใสอยู่เสมอ
เป็ไปตามคาด วันถัดมาขณะที่กงเช่อเสนอขอออกจากเมืองหลวงเพื่อไปขุดคลองขนส่งนั้นราชสำนักพลันดูโกลาหล
ทุกคนต่างใช้สายตาประหลาดกวาดตามองเขาวันนี้องค์รัชทายาทใจนเสียสติแล้วหรือ? ทุกคนต่างรู้ว่าเกียรติยศที่เป็หนึ่งเดียวขององค์รัชทายาทก็คือโอกาสในการเป็ตัวแทนโอรส์ปกครองบ้านเมืองทั้งที่มีโอกาสดีเช่นนี้ แต่เขากลับยอมปล่อยแล้วขอไปขุดคลองขนส่งอย่างนั้นหรือ?
หากเป็ไปตามแผนการที่องค์รัชทายาทกล่าวมาโครงการนี้เป็โครงการใหญ่มาก และเป็โครงการที่ยอดเยี่ยมมากสามารถสร้างประโยชน์นับไม่ถ้วน หากทำสำเร็จแล้ว นั่นก็หมายถึงผลงานอันยิ่งใหญ่สามารถสร้างชื่อเสียงได้ตลอดไป ทว่าใครจะรู้ว่าต้องขุดกันกี่ปี? แปดปี? สิบปี? ถึงตอนนั้นสถานการณ์ต่างๆ ก็ถูกกำหนดไว้หมดแล้วผลงานเหล่านี้จะมีความหมายเช่นใดอีก หากคิดใช้วิธีเช่นนี้เพื่อยกระดับผลงานของตัวเองก็ถือว่าโง่เขลายิ่งนัก
ดังนั้นท่ามกลางสายตาแปลกประหลาดเช่นนี้กลับไม่มีขุนนางใหญ่สักคนที่ออกมาคัดค้านกงเช่อยืดตัวตรงอยู่กลางห้องโถง มองพระพักตร์โดยไม่สนใจสายตาเ่าั้
กงเซิ่งเคาะนิ้วบนเก้าอี้ประทับ หลุบตาครุ่นคิด
เมื่อคืนฮองเฮาเพิ่งมอบตราประทับหงส์กลับคืนมา บอกว่า้าไปปฏิบัติธรรมที่วัดอธิษฐานเพื่อประชาชน ส่วนทางนี้บุตรชายของเขาเสนอขอออกจากเมืองหลวงเพื่อแก้ปัญหาน้ำ้าสร้างคลองขนส่งขนาดใหญ่
ในสายตาของคนนอกทุกคนต่างคิดว่าองค์รัชทายาทไม่เหลือความทะเยอทะยานแล้วเขารู้สึกสิ้นหวังจึงเสนอตัวออกจากเมืองหลวง ทว่าเขาสามารถตั้งสติภายในเวลาสั้นๆยืนอยู่ตรงนี้พร้อมพลังอันยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังตัดสินใจเช่นนี้ กงเซิ่งคิดว่าบุตรชายของตนคนนี้ยังไม่ได้ยอมแพ้
เพียงแต่ไม่รู้เป็เพราะเหตุใดเขาจึงอยากไปสร้างคลองขนส่งโครงการนี้ใช้เวลานานเกินไป
เวลานี้กงเช่อถูกฮ่องเต้จดจ้องจนรู้สึกเย็นะเืหรือว่าเสด็จพ่อจะมองเห็นอะไรบางอย่าง? กงเช่อครุ่นคิดวุ่นวาย ความคิดของเขาจดจ่อเป็จุดเดียว
“นี่เป็เื่ที่ดี”
“ความคิดนี้ล้ำเลิศมาก แม้ว่าจะเป็โครงการใหญ่ทว่าหากทำสำเร็จจะเป็ประโยชน์ต่อบ้านเมืองและประชาชน” ฮ่องเต้พลันหัวเราะ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงก้องกังวาน
ดูเหมือนว่าจะเห็นด้วยแล้ว? กงเช่อผ่อนลมหายใจน้อยๆ
กงเซิ่งจ้องมาที่เขาเป็ระยะๆ เมื่อถูกฮ่องเต้เพ่งเล็งเช่นนี้กงเช่อจึงรู้สึกว้าวุ่นอยู่ในใจ ทว่าเขากลับได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยขึ้น
“ข้าสนับสนุนเื่นี้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะสร้างนานเท่าใดข้าจะร่วมรับผิดชอบตลอดโครงการ แต่เช่อเอ๋อร์ เ้า้ารับภารกิจนี้จริงๆ หรือ?”
กงเช่อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เวลานี้สีหน้าของเขาผ่อนคลายท่าทางใจเย็น ท่วงท่าความเป็องค์รัชทายาทปรากฏขึ้นบนตัวของเขาอีกครั้ง
“กระหม่อมยินดีรับคำสั่ง หากคลองขนส่งขุดไม่สำเร็จกระหม่อมจะไม่กลับเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”
การตัดสินใจของเขาทำให้เหล่าขุนนางใหญ่ทยอยสูดลมหายใจองค์รัชทายาทต้องเสียสติไปแล้ว เขาใจนบ้าไปแล้ว!
กงเซิ่งประหลาดใจมากร่างที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ประทับโน้มขึ้นไปด้านหน้าเล็กน้อยราวกับ้ามองอีกฝ่ายให้ชัดเจน ้ามองให้ทะลุปรุโปร่ง
“โครงการนี้ทั้งลำบากและหนักหน่วง เช่อเอ๋อร์มีเงื่อนไขอะไรไหม?”
กงเช่อผ่อนลมหายใจอย่างช้าๆ เขาเงยหน้ากล่าวเงื่อนไขที่ตนเตรียมไว้ล่วงหน้าออกมา
“กระหม่อมมีเงื่อนไขสามข้อ”
“อ้อ?” สำหรับบุตรชายที่มีนิสัยอ่อนโยนมาตลอดครั้งนี้เป็ครั้งแรกที่เขาแสดงท่าทางแข็งกร้าว
“ลองว่ามาซิ” กงเซิ่งโบกมือ
“ข้อแรก การเดินทางในครั้งนี้ของกระหม่อมต้องใช้เวลานานหลายปีหวังว่าจะเห็นแก่ที่เสด็จแม่คืนตราประทับหงส์แล้วเสด็จพ่อจะดูแลเสด็จแม่บ้างพ่ะย่ะค่ะ” กงเช่อยิ้มเล็กน้อย
“มีความกตัญญู ข้าตกลง”
“ข้อสอง กระหม่อมหวังว่า ไม่ว่ากระหม่อมจะใช้เวลาขุดนานเท่าใดไม่ว่าจะขุดเช่นไร เสด็จพ่อจะไม่ส่งผู้รับผิดชอบหลักเพิ่มอีกคนกระหม่อมขอเป็ผู้มีอำนาจหลักแต่เพียงผู้เดียวพ่ะย่ะค่ะ” ดวงตาของกงเช่อเป็ประกายเขายิ้มอีกครั้ง
ข้อนี้ทำให้กงเซิ่งรู้สึกประหลาดใจยังจะมีคนแย่งเป็ผู้มีอำนาจหลักกับเขาอีกหรือ?
“โครงการนี้ใหญ่มาก เกรงว่าเ้าคนเดียวจะทำไม่สำเร็จ” เขายิ้มออกมา
“นั่นก็คือเงื่อนไขข้อที่สาม เนื่องจากโครงการนี้เป็โครงการใหญ่กระหม่อมจึงขอให้ขุนนางใหญ่ทั้งหลายส่งบุตรชายผู้มีความสามารถร่วมเดินทางกับกระหม่อมส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็การฝึกฝนผู้มีความสามารถให้กับต้าอวี้อีกส่วนก็เพื่อให้ข้ามีผู้ช่วย หวังว่าเสด็จพ่อจะทรงอนุญาตทั้งสามข้อนี้” กงเช่อยิ้มน้อยๆพร้อมกล่าวขึ้น
ั์ตากงเซิ่งสะท้อนประกายชาญฉลาด เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่จากนั้นจึงพิงวรกายบนเก้าอี้ประทับ เขาก้มมองเหล่าขุนนางใหญ่ทั้งหลาย
“พวกเ้ามีความเห็นอย่างไร?”
เหล่าขุนนางต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน เื่ดีๆเช่นการแบ่งความดีความชอบเช่นนี้ พวกเขาจะมีความเห็นอื่นได้อย่างไร!
พวกเขาอาจมีสิ่งอื่นไม่มากนัก แต่พวกเขามีบุตรชายมากมายถึงเวลานั้นก็ส่งบุตรชายคนโปรดที่ยังไม่มีตำแหน่งการงานให้ติดตามไปเมื่อกลับมาจะได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นส่วนบุตรชายที่พวกเขาส่งไปจะมีความสามารถหรือไม่?! หึๆ เื่นี้ไม่ใช่สิ่งที่องค์รัชทายาทจะตัดสินใจได้เลย
ดังนั้นเหล่าขุนนางทั้งหลายต่างทยอยพยักหน้ากันอย่างรวดเร็ว กล่าวชมถึงความฉลาดขององค์รัชทายาทว่าวางแผนได้อย่างรอบคอบ
กงเซิ่งมองเหตุการณ์ด้านล่างเขาไม่เห็นบรรยากาศกลมกลืนเป็หนึ่งเดียวเช่นนี้มานานแล้วก่อนหน้านี้สถานการณ์ราวกับไก่ชนที่ต่อสู้อย่างดุเดือดตอนนี้สามารถบีบตัวละครหลักให้ออกไปจากเมืองหลวงได้แล้วพวกเขาจะไม่หยิ่งผยองกับความสำเร็จได้อย่างไร?
สำหรับการกล่าวชมเช่นนี้กงเช่อกลับทำเพียงมองพวกเขาพร้อมส่งยิ้มโดยไม่กล่าวอะไร
หนึ่งเดือนก่อนคนเหล่านี้บีบให้ท่านตาของเขาต้องปลิดชีพต่อหน้าต่อตาตอนนี้กลับเอ่ยชมว่าเขาเป็คนกตัญญู นี่ก็คือราชสำนัก! เขาพยายามส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนเขาควรคุ้นเคยกับสภาพราชสำนักเช่นนี้มานานแล้วจึงจะถูกต้อง
เขาคิดถึงกงอี่โม่อย่างอดไม่ได้มีเพียงนางเท่านั้นที่ทำเพื่อเขาอย่างแท้จริง นางวางแผนอย่างรอบด้านเพื่อเขาทำให้เขารู้สึกอุ่นใจ เวลานี้เขาอยากรีบกลับบ้านทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้