เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยความเงียบที่น่าอึดอัด ธีร์ตื่นขึ้นมาก่อนฟ้าสาง ร่างสูงสง่าของเขาเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้รบกวนคนที่ยังหลับใหลอยู่ข้างกาย เขายืนมองใบหน้าของมิราที่ซุกอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา แสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างบานใหญ่ตกกระทบลงบนผิวแก้มเนียนใสของเธอ เผยให้เห็นรอยช้ำจางๆ จากน้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้ว
หัวใจของเขากระตุกวูบด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความหวงแหน ความปรารถนา และความรู้สึกผิดที่กัดกินใจ บทรักที่เร่าร้อนเมื่อคืนมันไม่ได้เกิดจากความรักเพียงอย่างเดียว แต่มันคือการแสดงความเป็เ้าของ การตอกย้ำว่าเธอเป็ของเขา... และมันคือความพยายามอย่างสิ้นหวังที่จะลบภาพของเธอที่ยอมขายร่างกายเพื่อเงินออกไปจากหัวของเขา
เขาก้มลงจูบที่หน้าผากมนอย่างแ่เบาที่สุด ก่อนจะผละออกไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายและอารมณ์ที่คุกรุ่น เขาต้องกลับไปเป็ ‘ธีร์ ปัญญากรภักดีศักดิ์’ ผู้ชายที่เยือกเย็นและควบคุมทุกอย่างได้ ไม่ใช่ผู้ชายที่กำลังจะสูญเสียการควบคุมเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว
หลังจากแต่งตัวเสร็จในชุดสูททำงานเรียบกริบ เขาก็เดินเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง มิรายังคงไม่ตื่น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรสั่งงานเลขา แต่แล้วหน้าจอก็สว่างวาบขึ้นพร้อมกับชื่อที่เขาไม่อยากเห็นมากที่สุดในเวลานี้... ‘พิมพ์’
ธีร์ขมวดคิ้วแน่น เขากดตัดสายทิ้งทันที ไม่อยากให้เสียงของเธอมาทำลายความสงบในตอนเช้า แต่เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา ข้อความก็ถูกส่งเข้ามาแทน
“รับโทรศัพท์ฉันสิธีร์ หรือว่ากลัว... เด็กน้อยที่คุณเก็บมาเลี้ยงจะได้ยินเื่ที่ไม่ควรรู้”
คำว่า ‘เด็กน้อยที่คุณเก็บมาเลี้ยง’ เหมือนน้ำมันที่ราดลงบนกองไฟ ความโกรธพุ่งขึ้นมาจนหน้าชา เขาตัดสินใจเดินออกไปที่ระเบียงแล้วโทรกลับไปหาเธอทันที
“เธอ้าอะไรแต่เช้า!” เขาเปิดฉากด้วยน้ำเสียงที่เ็าจนน่ากลัว
ปลายสายหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะนั้นยังคงหวานใส แต่แฝงไปด้วยยาพิษ “ใจร้อนจังเลยนะคะ ฉันก็แค่อยากจะทักทายคนเคยรักก็เท่านั้น หรือว่าแค่ห้าปีมันนานเกินไปจนคุณลืมฉันไปแล้ว”
“ฉันไม่เคยลืม” เขาตอบเสียงหนัก “และฉันก็จำได้ดีว่าเราจบกันไปแล้ว”
“จบสำหรับคุณ แต่ไม่ใช่สำหรับฉันค่ะ” พิมพ์พูดเสียงหวาน “ฉันได้ข่าวว่าคุณกลับมาเมืองไทย แถมยังรับผู้หญิงคนใหม่เข้ามาอยู่ในบ้านอีก... น่าสนใจดีนะคะ คนอย่างคุณที่ไม่เคยให้ใครเข้าใกล้ กลับยอมให้ผู้หญิงบ้านๆ ไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้ามาเหยียบอาณาจักรของคุณได้”
“อย่ายุ่งเื่ของฉัน!”
“ฉันไม่อยากยุ่งหรอกค่ะ ถ้าเื่ของคุณมันไม่บังเอิญมาเกี่ยวกับเื่ของฉัน... เอาเป็ว่า บ่ายนี้เจอกันที่ออฟฟิศของคุณนะคะ ฉันมีเื่ ‘ในอดีต’ อยากจะรื้อฟื้นกับคุณหน่อย” ไม่รอให้เขาตอบ เธอก็วางสายไปทันที
ธีร์กำโทรศัพท์ในมือแน่นจนแทบจะแหลกคามือ เขารู้ดีว่าการกลับมาของพิมพ์ในครั้งนี้ไม่ใช่เื่ดีแน่ ผู้หญิงคนนี้... อันตรายเกินไป
---
มิราตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่ว่างเปล่า ความอุ่นจากร่างกายของเขาที่เคยอยู่ข้างๆ หายไปแล้ว เหลือเพียงกลิ่นกายจางๆ ที่ติดอยู่บนหมอน เธอพยุงร่างที่ปวดร้าวของตัวเองลุกขึ้น เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่ธีร์สั่งให้คนเอาเสื้อผ้าชุดใหม่มาใส่ไว้ให้จนเต็ม ทุกชุดเป็แบรนด์เนมราคาแพงที่เธอไม่เคยแม้แต่จะคิดฝันจะได้ใส่ แต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นกในกรงทองมากขึ้นไปอีก
เธอเลือกชุดเดรสผ้าฝ้ายเรียบๆ สีอ่อนมาสวมใส่ ก่อนจะเดินลงไปชั้นล่างเพื่อหาอะไรดื่ม ความเงียบของคฤหาสน์หลังนี้มันช่างน่าอึดอัด ในขณะที่เธอกำลังยืนมองออกไปที่สวนสวยนอกหน้าต่าง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็สายจากน้ำฝน
“มิรา! แกเป็ไงบ้าง! เมื่อคืนฉันพยายามติดต่อเอเจนซี่ให้แล้วนะ แต่พวกเขาบอกว่าสัญญาถูกแก้ไขโดยตรงจากฝั่งลูกค้า พวกเขาทำอะไรไม่ได้เลย!” น้ำฝนพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ช่างมันเถอะฝน” มิราตอบเสียงเรียบ “ฉันตัดสินใจแล้ว... ฉันจะอยู่ที่นี่”
“ว่าไงนะ! แกบ้าไปแล้วเหรอมิรา! แกจะยอมเป็ทาสเขาไปอีกตั้งเดือนนึงเนี่ยนะ!”
“ฉันไม่มีทางเลือก พ่อฉันต้องใช้เงินอีกเยอะ” เธอโกหก... โกหกทั้งเพื่อนและตัวเอง เพราะลึกๆ แล้วเธอรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงมันซับซ้อนกว่านั้น
“เฮ้อ... โอเคๆ ฉันเข้าใจ” น้ำฝนถอนหายใจ “แต่ฉันมีเื่จะเตือนแกอีกอย่าง เมื่อกี๊ฉันไถโซเชียลฯ เล่นๆ แล้วไปเจอโพสต์จากพวกไฮโซ... นางพญางูพิษกลับมาแล้ว!”
“ใครคือนางพญางูพิษ” มิราขมวดคิ้ว
“ก็ ‘พิมพ์’ น่ะสิ! พิมพ์ลดา อัครเดโชชัย! คู่หมั้นเก่าของธีร์ไง! ตอนที่แกเลิกกับเขาใหม่ๆ สองคนนี้ก็ควงกันออกงานอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ยัยพิมพ์จะบินไปเรียนต่อที่อังกฤษ ตอนนี้ชีกลับมาแล้วจ้ะแม่! แถมยังโพสต์รูปแก้วกาแฟที่มีโลโก้บริษัทของธีร์ด้วยนะยะ เหมือนประกาศศักดาว่า ‘ฉันกลับมาทวงบัลลังก์แล้ว’”
หัวใจของมิรากระตุกวูบ... คู่หมั้นเก่า...
“ฉันเตือนแกไว้ก่อนเลยนะมิรา” น้ำฝนพูดเสียงจริงจัง “ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา สวยระดับนางฟ้า แต่พิษสงร้ายกว่างูเห่าอีก อย่าไปมีเื่กับชีเด็ดขาด เข้าใจไหม”
“อืม... ขอบใจนะฝนที่เป็ห่วง” มิราตอบเสียงแ่ ก่อนจะวางสายไป เธอกำโทรศัพท์ในมือแน่น ความรู้สึกไม่มั่นคงถาโถมเข้ามาในใจอีกครั้ง การต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อธีร์ก็ว่ายากแล้ว นี่ยังต้องมาเจอกับศัตรูหัวใจในอดีตของเขาอีกเหรอ
---
บ่ายวันนั้น ที่ห้องประชุมกระจกบนชั้นสูงสุด
พิมพ์นั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับธีร์ เธอยังคงสวยสง่าไม่เปลี่ยน ชุดเดรสรัดรูปสีแดงไวน์ขับผิวขาวผ่องของเธอให้โดดเด่น ริมฝีปากเคลือบด้วยลิปสติกสีเดียวกันยกยิ้มอย่างเยือกเย็น
“นึกว่าคุณจะปล่อยให้ฉันรอเก้อซะอีก” เธอเป็ฝ่ายเริ่มบทสนทนา
“เข้าเื่เลยดีกว่าพิมพ์ เธอ้าอะไร” ธีร์ไม่้าเสียเวลาเล่นาประสาทกับเธอ
“ใจร้อนเหมือนเดิมเลยนะคะ” เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินอ้อมโต๊ะมาหาเขาช้าๆ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงของเธอฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง “ฉันก็แค่อยากจะมารื้อฟื้นความหลัง... ความหลังของเรา... และความหลังของพ่อเราสองคน”
คำพูดนั้นทำให้ธีร์ชะงัก เขามองหน้าเธอเขม็ง “เธอหมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความตามนั้นแหละค่ะ” เธอหยุดยืนอยู่ข้างๆ เขา ใช้ปลายนิ้วที่ทาเล็บสีแดงสดลูบไล้ไปตามปกสูทของเขาเบาๆ “ฉันได้ยินมาว่าคุณกำลังทำากับพ่อของคุณอยู่เหรอคะ... น่าสนุกจังเลยนะ คนที่เคยยอมทำทุกอย่างเพื่อพ่อ กลับลุกขึ้นมาต่อต้าน... ทั้งหมดนี้ก็เพื่อผู้หญิงที่ชื่อมิราคนนั้นน่ะเหรอ”
“อย่ายุ่งกับเธอ!” ธีร์ปัดมือเธอออกอย่างรังเกียจ
“ทำไมจะยุ่งไม่ได้ล่ะคะ” เธอยกยิ้มอย่างท้าทาย “ในเมื่อเธอกำลังจะกลายเป็จุดอ่อนที่สุดของคุณ... คุณรู้ไหมธีร์ ว่าพ่อของคุณ... ท่านประธานทรงพลที่ทุกคนนับหน้าถือตาน่ะ... แท้จริงแล้วท่านคือคนที่อยู่เื้ัการล้มละลายของบริษัทพ่อฉันเมื่อห้าปีก่อน”
ธีร์เบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เธอพูดเื่อะไร! มันเป็ไปไม่ได้!”
“ทำไมจะเป็ไปไม่ได้ล่ะคะ ในโลกธุรกิจ... ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวรอยู่แล้ว” เธอกระซิบข้างหูเขา “และฉันก็มีหลักฐานทุกอย่าง... ถ้าหลักฐานชิ้นนี้หลุดไปถึงมือนักข่าว คุณคิดว่าบัลลังก์ของตระกูลปัญญากรภักดีศักดิ์ที่พ่อคุณสร้างมากับมือ... มันจะยังมั่นคงอยู่ไหม”
ขณะที่าเย็นกำลังดำเนินไปในห้องประชุม มิราที่กำลังชงกาแฟอยู่ในแพนทรีด้านนอก ก็บังเอิญเงยหน้าขึ้นมาเห็นภาพบาดตาผ่านผนังกระจกใส เธอเห็นธีร์กับผู้หญิงสวยสง่าคนนั้นยืนอยู่ใกล้กันมาก... ใกล้เกินกว่าคำว่าเพื่อนร่วมงาน ใบหน้าของธีร์ดูเคร่งเครียด ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับเขาด้วยท่าทีที่สนิทสนม
หัวใจของเธอเหมือนถูกบีบด้วยคีมเหล็ก ความเ็ปแล่นริ้วขึ้นมาจุกที่อก เธอรีบหันหลังกลับ กาแฟร้อนๆ ในมือสั่นจนแทบจะหกออกมา เธอไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน แต่ภาพที่เห็นมันก็ชัดเจนเกินพอ... ชัดเจนว่าเธอกำลังเป็ส่วนเกิน
---
ค่ำคืนนั้นพายุฝนโหมกระหน่ำราวกับว่าท้องฟ้ากำลังโกรธเกรี้ยว ธีร์กลับมาถึงคฤหาสน์ในสภาพที่อารมณ์ขุ่นมัวอย่างถึงที่สุด เื่ที่พิมพ์บอกเขามันยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ถ้ามันเป็ความจริง... นั่นหมายความว่าพ่อของเขาไม่ใช่แค่คนที่พรากมิราไปจากเขา แต่ยังเป็คนที่ทำลายครอบครัวของผู้หญิงอีกคนที่เขาเคยผูกพันด้วย
ทันทีที่เขาเปิดประตูห้องนั่งเล่นเข้าไป ก็พบกับมิราที่ยืนกอดอกรอเขาอยู่ แววตาของเธอแข็งกร้าวและเต็มไปด้วยคำถาม
“ไปไหนมา” เธอถามเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยแรงกดดัน
“ไปทำงาน” เขาตอบสั้นๆ พลางคลายเนคไทออกอย่างหงุดหงิด
“งานที่ชื่อ ‘พิมพ์’ น่ะเหรอ”
คำถามนั้นทำให้บรรยากาศในห้องเย็นเยียบลงถนัดตา ธีร์หยุดชะงัก “เธอรู้ได้ยังไง”
“โลกมันกลม หรือจะเรียกว่าโซเชียลมันไวดีล่ะ” เธอยกยิ้มหยัน “ไม่ต้องแปลกใจหรอกที่ฉันจะรู้... แต่ที่ฉันสงสัยคือ ผู้หญิงอย่างฉันต้องใช้ ‘สัญญา’ เพื่อจะเข้ามาอยู่ในชีวิตคุณ แต่ผู้หญิงคนนั้น... เธอใช้อะไรเหรอ... หรือว่าใช้ ‘หัวใจ’ ของคุณ”
“อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นมิรา!” ธีร์ตวาดเสียงดัง “เธอไม่เหมือนใคร!”
“ใช่สิ! ฉันมันไม่เหมือนใคร! เพราะฉันมันโง่ไง! โง่ที่ยอมกลับมาให้คุณเหยียบย่ำซ้ำสอง!” น้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างสุดจะกลั้น
ธีร์เดินเข้ามากระชากแขนเธออย่างแรง ดวงตาสีเข้มของเขาวาวโรจน์ “ฉันไปเจอเขาเพื่อจะจบเื่ในอดีต! ไม่ใช่เพื่อจะเริ่มต้นใหม่! ทำไมเธอถึงไม่เคยเชื่อใจฉันเลย!”
“แล้วคุณจะให้ฉันเชื่อใจคนที่เคยทิ้งฉันไปได้ยังไง! คำพูดของคุณมันเชื่อถือได้ที่ไหน!”
“แต่ครั้งนี้ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น!” เขาดึงร่างเธอเข้ามากอดไว้แน่นจนแทบจะจมหายไปกับอกแกร่ง “ฉันจะไม่ยอมเสียเธอไปอีกแล้ว ได้ยินไหม!”
“ปล่อยฉันนะธีร์! ฉันไม่อยากฟังคำโกหกของคุณอีกแล้ว!” เธอพยายามดิ้นรน แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น
“ถ้าคำพูดมันทำให้เธอไม่เชื่อ... งั้นก็ให้ร่างกายของฉันพิสูจน์แทนแล้วกัน!”
ไม่พูดเปล่า เขาอุ้มร่างเธอขึ้นพาดบ่าอย่างรวดเร็ว มิรากรีดร้องด้วยความใและพยายามทุบหลังเขาไปตลอดทาง แต่เขาก็ไม่สนใจ เขาก้าวตรงไปยังห้องนอนของเขา แล้วโยนร่างเธอลงบนเตียงกว้างอย่างไม่เบานัก
“คุณจะทำบ้าอะไรของคุณ!”
“ก็จะทำให้เธอจำไง! ว่าใครคือเ้าของตัวจริงของเธอ!”
เขาขึ้นมาคร่อมทับร่างเธอไว้ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกอย่างลวกๆ ก่อนจะก้มลงไปบดขยี้ริมฝีปากของเธออย่างรุนแรงและป่าเถื่อน มันคือจูบที่เต็มไปด้วยความโกรธ ความหึงหวง และความ้าที่จะลบเลือนความไม่มั่นคงทั้งหมดออกไป
เขากระชากชุดเดรสของเธอจนขาดติดมือ ก่อนจะโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี แล้วก้มลงไปสำรวจเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของเธอด้วยสายตาที่ลุกเป็ไฟ เขาฝากรอยจูบที่รุนแรงและแสดงความเป็เ้าของไว้ทั่วทุกตารางนิ้ว ั้แ่ซอกคอ ลาดไหล่ จนถึงเนินอกอิ่ม
“ธีร์... พอ... ฉันเจ็บ” เธอครางประท้วงเสียงสั่น
“เจ็บสิดี! เธอจะได้จำ!” เขาไม่สนใจคำร้องขอของเธอ มือหนาเลื่อนลงไปบีบเคล้นที่จุดอ่อนไหวของเธออย่างแรงและจาบจ้วงจนเธอสะดุ้งสุดตัว
“ฉันเกลียดคุณ!”
“ก็เกลียดไปสิ! แต่คืนนี้เธอต้องเป็ของฉัน!”
เขาจับขาเรียวของเธอแยกออกจากกัน ก่อนจะกดแก่นกายที่ร้อนผ่าวของเขาเข้ามาในตัวเธออย่างแรงโดยไม่มีการเล้าโลมใดๆ ทั้งสิ้น
“กรี๊ดดดด!” มิราร้องออกมาสุดเสียงด้วยความเ็ปที่เสียดแทงเข้ามา แต่ธีร์ก็ไม่หยุด เขาเริ่มขยับสะโพกอย่างรุนแรงและกระแทกกระทั้นราวกับสัตว์ป่าที่กำลังคลุ้มคลั่ง เขามองใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความเ็ปและเปียกชื้นไปด้วยน้ำตาของเธอด้วยแววตาที่สับสน... เขากำลังทำร้ายคนที่เขารักที่สุดอีกแล้ว
ความรู้สึกผิดเริ่มแล่นเข้ามาในหัวใจ จังหวะของเขาเริ่มช้าลง ความรุนแรงแปรเปลี่ยนเป็ความนุ่มนวลและออดอ้อน เขาก้มลงจูบซับน้ำตาให้เธออย่างแ่เบา
“ขอโทษ... ฉันขอโทษมิรา” เขากระซิบเสียงพร่า “ฉัน... แค่กลัว... กลัวว่าจะเสียเธอไปอีกครั้ง”
น้ำตาของมิราไหลออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่เพราะความเ็ปทางกาย แต่เป็เพราะความสับสนในหัวใจ เธอผลักเขาออกเบาๆ ก่อนจะพลิกตัวขึ้นมาคร่อมเขาไว้แทน ดวงตาของเธอยังแดงก่ำ แต่มันฉายแววของความเด็ดเดี่ยวบางอย่าง
“ถ้าคุณกลัว... ก็ทำให้ฉันเชื่อใจสิ” เธอกระซิบ “ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันคือคนเดียวของคุณ... ไม่ใช่แค่ในสัญญา”
พูดจบ เธอก็ก้มลงไปมอบจูบที่ร้อนแรงและดูดดื่มให้เขา ก่อนจะเริ่มขยับร่างกายอย่างเชื่องช้า แต่มันกลับยั่วยวนและปลุกเร้าอารมณ์ของเขาได้อย่างน่าประหลาด บทบาทของผู้คุมเกมเปลี่ยนไปแล้ว... คืนนี้เธอจะเป็คนควบคุมเขาเอง
บทรักอันเร่าร้อนและซับซ้อนดำเนินไปอีกครั้ง มันไม่ใช่แค่การปลดปล่อยความใคร่ แต่มันคือการต่อสู้ การเรียกร้อง และการค้นหาคำตอบของหัวใจที่สับสนของคนสองคน จนกระทั่งทั้งคู่หมดแรงและหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน
แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของธีร์ก็ดังขึ้นมาทำลายความสงบอีกครั้ง เขางัวเงียหยิบมันขึ้นมาดู... ชื่อของ ‘พิมพ์’ ปรากฏขึ้นอีกแล้ว เขากดรับสายอย่างหงุดหงิด
“มีอะไรอีก!”
“เจอกันที่เดิม... ริมแม่น้ำ” เสียงของพิมพ์เยือกเย็นกว่าเดิม “ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้เช้า... ความลับเื่พ่อของคุณกับพ่อของฉัน จะกลายเป็ข่าวหน้าหนึ่ง และผู้หญิงที่นอนข้างๆ คุณ... ก็จะได้รู้ความจริงทั้งหมดเช่นกัน”
อดีตไม่เคยจากไปไหน มันแค่รอวันที่จะหวนกลับมาทวงแค้น... และเมื่อความลับที่ถูกฝังไว้กำลังจะถูกขุดคุ้ยขึ้นมา ความรักที่เริ่มก่อตัวขึ้นใหม่ท่ามกลางคำโกหก จะแข็งแกร่งพอที่จะต้านทานพายุแห่งความจริงลูกนี้ได้หรือไม่ หรือมันจะพังทลายลง... อย่างไม่มีชิ้นดี
ติดตามอ่านตอนต่อไป
