ครั้นได้ยินกูเฟยเยี่ยนเอ่ยถึงคำว่า "พระชายารอง" เหมยกงกงจึงหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม เขาคิดเพียงแค่ว่ากูเฟยเยี่ยนมีโอกาสแล้วจึงเกิดความเห็นแก่ตัว เขาคิดว่านาง้าเกาะจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยที่เป็ร่มโพธิ์ไม้ใหญ่ต้นนี้
ทันใดนั้น กูเฟยเยี่ยนก็ยิ้มอย่างจงใจพลางเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เหมยกงกง ฝ่าาทรงเตรียมงานอภิเษกสมรสของเตี้ยนเซี่ยเรียบร้อยแล้ว ถ้า่เวลานี้ข้ายืนกรานที่จะให้เตี้ยนเซี่ยรับผิดชอบ มันจะเป็การสร้างปัญหาแก่ฝ่าาไม่ใช่หรือ? โชคดีที่เมื่อคืนนี้…ไม่ได้เกิดเื่ใหญ่จริงๆ เมื่อคืนนี้เตี้ยนเซี่ยเมามายมาก เกรงว่าพระองค์คงจะเข้าใจผิดคิดว่าข้าคือคนในดวงใจ เื่นี้…ในมุมมองส่วนรวม ข้าไม่อาจสร้างปัญหาแก่ฝ่าาได้ ในมุมมองส่วนตัว ในวันข้างหน้าข้าก็้าที่จะแต่งงานกับคนในดวงใจของข้า…”
ครั้นได้ยินเช่นนี้ เหมยกงกงก็ตกตะลึงตาค้างด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง
กูเฟยเยี่ยนกล่าวต่อ "ดังนั้น เหมยกงกง หากท่านสามารถทำเป็ว่าเื่นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสะดวกแก่การให้ความช่วยเหลือ มันจะเป็เื่ดีสำหรับทุกคน"
เหมยกงกงตื่นตระหนกใมาก ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวกูเฟยเยี่ยนเสียใจในภายหลัง จึงรีบพยักหน้าติดต่อกันอย่างอดใจรอไม่ไหว "สะดวก! สะดวกมาก! ในเมื่อศาสตราจารย์แพทย์กูเอ่ยเช่นนี้ ข้าพเ้าจะลืมเื่เมื่อคืนนี้ไปให้หมด! ลืมมันไปซะ! "
นอกจากเหมยกงกงจะแอบดีใจแล้ว เขายังมีแผนในใจอีกด้วย เขาไม่กล้าปกปิดเื่นี้ต่อฝ่าาอย่างแน่นอน หากว่าฝ่าาไม่ทราบสถานการณ์และแต่งตั้งกูเฟยเยี่ยนเป็พระชายาจริงๆ มันจะอึดอัดมากแน่นอน! จากท่าทีของศาสตราจารย์แพทย์กูนั้น ทำให้เขาไม่เพียงแค่มีวิธีชี้แจง แต่ยังมีวิธีที่ทำให้ฝ่าามีความปีติยินดีอีกด้วย!
ถึงแม้ว่าคุณหนูสามตระกูลหานจะเป็ตัวเลือกของจิ้งหวางเฟยที่ดีเยี่ยม เนื่องจากนางจะมีส่วนช่วยที่ทำให้เทียนเหยียนกับป้อมปราการหานมีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกัน แต่นางคือผู้ที่ฝ่าามิอาจควบคุมได้! ตรงกันข้ามคือ ศาสตราจารย์แพทย์กูผู้นี้ไม่มีใจต่อเตี้ยนเซี่ย สามารถใช้การได้อย่างน่าเชื่อถือยิ่งกว่า ถ้าหากว่าให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยแต่งตั้งพระชายาเอกสองคน โดยที่ให้ศาสตราจารย์แพทย์กูมาเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวของเตี้ยนเซี่ย และให้คุณหนูสามตระกูลหานมาเป็ปฏิปักษ์ต่อกัน จากนั้นจึงให้เตี้ยนเซี่ยตรึงศาสตราจารย์แพทย์กู มันจะได้ผลดีด้วยกันทั้งสามฝ่ายไม่ใช่หรือ? อีกทั้งยังสอดคล้องกับแนวปฏิบัติแห่งการถ่วงดุลอำนาจของฝ่าาไม่ใช่หรือ?
ศาสตราจารย์แพทย์กูมีตำแหน่งเป็กรรมการบริหารกิตติมศักดิ์ของหุบเขาเสินหนง การที่ได้รับตำแหน่งพระชายาเอกเช่นเดียวกับคุณหนูสาม จะทำให้ตระกูลป้อมปราการหานไม่กล้าแสดงความคิดเห็นมากนัก
เื่นี้ถือเป็ความโชคดีในความโชคร้ายจริงๆ !
“ศาสตราจารย์แพทย์กู ท่านวางใจได้! เหล่านู๋เข้าใจ! ”
เหมยกงกงรับตั๋วเงินมาและสาบานด้วยคำพูดที่น่าเชื่อถือ ทว่าภายในใจของเขาแทบ้าที่จะไปเขียนจดหมายรายงานความลับต่อเทียนอู่ฮ่องเต้ในทันที! เขาคิดว่าในเมื่อฝ่าาไม่ใช้เื่นี้เป็เหตุผล แต่ก็มีเหตุผลในการพระราชทานงานอภิเษกสมรส!
กูเฟยเยี่ยนจะไปทราบได้อย่างไรว่าเหมยกงกงจะมีความคิดมากมายเช่นนี้ หญิงสาวคิดเพียงแค่ว่า ถ้าตนเองทำเช่นนี้น่าจะสามารถทำให้เทียนอู่ฮ่องเต้หายสงสัยนางกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยแล้วใช่หรือไม่?
กูเฟยเยี่ยนยิ้มอย่างสดใส “ขอบคุณเหมยกงกง! ”
เหมยกงกงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยมายืนอยู่ด้านข้างแล้ว โดยที่เขาไม่ทราบว่าพระองค์มาั้แ่เมื่อใด เขาคิดว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยน่าจะได้ยินคำพูดของศาสตราจารย์แพทย์กูเมื่อสักครู่นี้ เขาจึงรีบร้อนเดินเข้าไปพลางหัวเราะ “เตี้ยนเซี่ย เื่เมื่อคืนนี้เหล่านู๋ลืมไปหมดแล้ว ศาสตราจารย์แพทย์กูก็ลืมแล้วเช่นกัน”
ใบหน้าของจวินจิ่วเฉินเ็าลง สายตาเหลือบมองไปที่กูเฟยเยี่ยนโดยที่ไม่กล่าววาจาใดๆ
เหมยกงกงจึงหัวเราะอีกครั้งและเอ่ยด้วยน้ำเสียงแ่เบา “เตี้ยนเซี่ย ศาสตราจารย์แพทย์กูคือผู้ที่มองภาพรวมและสถานการณ์ส่วนรวม! ”
"ดี! ยอดเยี่ยม! "
ใบหน้าของจวินจิ่วเฉินไร้ความรู้สึก เขากล่าวทิ้งไว้เพียงสองคำแล้วหันหลังเดินจากไป
เหมยกงกงดีใจมากเหลือเกิน เขาคุ้นเคยกับความเฉยเมยจึงคิดว่าพระองค์พอใจกับผลลัพธ์นี้ กูเฟยเยี่ยนก็เข้าใจเช่นเดียวกัน
ในที่สุดกูเฟยเยี่ยนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หญิงสาวรีบเดินเข้าไปในห้องโดยให้เหตุผลว่าจะไปจัดเก็บสมุนไพร หวางเป่าติงของนางยังคงตกอยู่ที่ข้างเตียง นางยังคงคิดถึงมันอยู่เสมอ
กูเฟยเยี่ยนเก็บหวางเป่าติงขึ้นมาผูกไว้ที่เอวของนางพลางลูบเบาๆ นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งด้วยความไม่วางใจ จากนั้นจึงรีบวิ่งออกไปไล่ตามจวินจิ่วเฉิน “เตี้ยนเซี่ย ช้าก่อน! ”
จวินจิ่วเฉินมองย้อนกลับไปด้วยใบหน้าที่เ็ากว่าปกติถึงสามส่วน ชายหนุ่มเพียงแค่มองอย่างเ็าโดยไม่เอ่ยสิ่งใด
กูเฟยเยี่ยนก้าวไปข้างหน้าพลางเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เตี้ยนเซี่ย พระองค์มีโรคที่แฝงไปด้วยพิษไอเย็น ไม่เหมาะแก่การดื่มสุราที่สกัดจากน้ำแข็ง ในวันข้างหน้าหวังว่าพระองค์จะระมัดระวังมากขึ้น แม้ว่าเมื่อคืนนี้จะไม่มีอันตรายใดๆ ทว่าหม่อมฉันไม่อาจรับรองได้ว่าครั้งหน้าความหนาวเย็นจะกระตุ้นพิษไอเย็นออกมาหรือไม่ อีกทั้งพระองค์ต้องหาแร่ศิลาโอสถมากกว่านี้ หม่อมฉันจะปรุงเม็ดยาตามตำรับการแช่ยาสมุนไพรเพื่อที่พระองค์จะได้พกพาติดกายเอาไว้ ถ้าอาการของเตี้ยนเซี่ยกำเริบในขณะที่ออกไปปฏิบัติภารกิจด้านนอก เพียงแค่มีน้ำแกงก็จะสามารถแช่ยาสมุนไพรได้ทุกเมื่อ! ”
ครั้นมองดวงตาจริงจังและจริงใจของกูเฟยเยี่ยน หัวใจของจวินจิ่วเฉินก็บีบอัดขึ้นเล็กน้อย ภายในใจของเขาราวกับว่าผสมผสานความรู้สึกที่หลากหลายและมีความซับซ้อนมาก
สิ่งที่มีมากยิ่งกว่าก็คือความโกรธ ทว่าสุดท้ายเขาก็จำใจโกรธไม่ลง เขาพบว่าตนเองควบคุมนางไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่อาจวางแผนต่อนางได้ ตรงกันข้ามคือ จิตใจที่มั่นคงประหนึ่งแท่นเหล็กของตนกลับสามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายเพราะนาง จวินจิ่วเฉินเกลียดความรู้สึกเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าตนเองชอบหญิงสาวผู้นี้ แต่เขาก็จะไม่ยอมให้ตัวเองสูญเสียการควบคุมเช่นนี้!
จวินจิ่วเฉินไม่ตอบสนอง กูเฟยเยี่ยนจึงเงยหน้าขึ้นมาพลางมอบรอยยิ้มสดใสบริสุทธิ์ประดุจสุนัขแก่เขา "เตี้ยนเซี่ย พระองค์คิดเห็นอย่างไร? "
จวินจิ่วเฉินยิ่งโกรธไม่ลงและทำอะไรไม่ถูก ทว่าในบัดดลนั้น ความรู้สึกคุ้นเคยก็หลั่งไหลเข้ามาในใจของเขาราวกับว่าเมื่อนานมาแล้วก็มีหญิงสาวนางหนึ่งเงยหน้าส่งยิ้มให้เขาพลางถามเขาว่า "เ้าคิดเห็นอย่างไร" และราวกับว่าเมื่อนานมาแล้วเขาเคยโกรธเคยกลัดกลุ้มทว่าก็ทำอันใดหญิงสาวคนนั้นไม่ได้
เป็แบบนี้ได้อย่างไรกัน?
ความรู้สึกนี้เหมือน่เวลาที่กลับไปยังวัดต้าฉือครั้งก่อน เขาแยกไม่ออกว่าคุ้นเคยกับฉากตรงหน้าหรือคุ้นเคยกับคนตรงหน้าเขา!
จวินจิ่วเฉินกำลังจะมองอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทว่าเหมยกงกงไล่ตามมาแล้ว เหมยกงกงเดินเข้ามาใกล้ก่อนที่จะกระซิบแ่เบาว่า “เตี้ยนเซี่ย ศาสตราจารย์แพทย์กู เถ้าแก่เฉิงเชิญไปพบ เขาบอกว่าซ่างกวนฟูเหรินทำอาหารเช้าด้วยตนเองจึงเชิญท่านทั้งสองไปทานอาหารร่วมกัน”
กูเฟยเยี่ยนหุบยิ้มพลางหันหน้าไปทางอื่นมาครู่หนึ่งแล้ว จวินจิ่วเฉินได้สติกลับมาเป็คนแรก ทั้งสองปราศจากการพูดคุย ต่างคนต่างก็เก็บอารมณ์และเดินตามเหมยกงกงไป
ระหว่างทางกูเฟยเยี่ยนยิ้มแย้มแต่ไม่พูดอะไร เหมยกงกงเอ่ยถึงเื่ราวการเดิมพันของนางกับซ่างกวนฟูเหรินเมื่อคืนนี้ เดิมทีจวินจิ่วเฉินคิดว่าตนเองเสมอกับเถ้าแก่เฉิง วันนี้คงต้องไปแข่งขันโดยที่เปลี่ยนสุราเป็ชนิดอื่น แต่เมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาก็รู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง
ถึงแม้ว่าอารมณ์ของเขาจะไม่ดีนัก แต่เขาก็ยังส่งสายตาไปหากูเฟยเยี่ยนเพื่อยืนยัน กูเฟยเยี่ยนจึงเผยรอยยิ้มให้เขา จวินจิ่วเฉินเห็นรอยยิ้มนี้อีกครั้ง ทว่าไม่มีความคุ้นเคยเฉกเช่นเมื่อสักครู่นี้แล้ว
ชายหนุ่มไม่มีเวลามาคิดมากนัก เขาสงบสติอารมณ์พลางก้าวเดินตามหลังกูเฟยเยี่ยนเพื่อแสร้งทำเป็ผู้คุ้มกันต่อไป
ครั้นกลับมาถึงห้อง พวกเขาไม่เพียงแค่เห็นคนรับใช้อยู่ที่นี่ แม้แต่ซ่างกวนฟูเหรินยังมาด้วยตนเองเช่นกัน
ระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งคืน ลักษณะท่าทีของซ่างกวนฟูเหรินที่มีต่อกูเฟยเยี่ยนนั้นเรียกได้ว่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็หลังมือ ทันทีที่นางเห็นกูเฟยเยี่ยนเดินมา นางก็พุ่งตัวขึ้นไปคว้าฝ่ามือของกูเฟยเยี่ยนพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "นังหนู หิวหรือไม่? ไปกันเถอะ เปิ่นฟูเหรินลงมือทำอาหารด้วยตนเองเอง รับรองว่าถูกปากเ้าแน่!"
ซ่างกวนฟูเหรินเอ่ยพลางทักทายจวินจิ่วเฉินให้ไปด้วยกัน ในส่วนของเหมยกงกงนั้นถูกมองเป็ธาตุอากาศอย่างไม่ต้องสงสัย
จวินจิ่วเฉินไม่ได้กล่าววาจาใดๆ ทว่ากูเฟยเยี่ยนนั้นดึงมือของตนเองกลับมาโดยปราศจากความเกรงใจ "ซ่างกวนฟูเหริน ท่านมีน้ำใจแต่เช้าเชียว เสี่ยวหนวี่จื่อไม่อาจรับได้!"
ซ่างกวนฟูเหรินไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย "คุยเื่การค้าขายระหว่างที่ทานอาหาร จะไปหรือไม่?"
กูเฟยเยี่ยนไปอย่างแน่นอน ทว่านางจงใจถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อรักษาระยะห่างจากซ่างกวนฟูเหริน "นำทางสิ!"
การค้าขายในครั้งนี้เจรจาอย่างเหมาะสมแล้ว นางไม่้าให้ซ่างกวนฟูเหรินทำลายมันลง
ซ่างกวนฟูเหรินไม่ได้บีบบังคับ แต่เมื่อพวกเขาเดินออกมาจากเรือน ซ่างกวนฟูเหรินก็ปรี่เข้ามาใกล้อีกครั้งพลางกระซิบแ่เบา "นังหนู ยาของเ้าเมื่อคืนนี้..."
กูเฟยเยี่ยนรีบเลี่ยงโดยไม่ให้โอกาสนาง ในที่สุดซ่างกวนฟูเหรินก็ไม่ได้ดึงดันต่อไป ไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องอาหารและได้พบกับเถ้าแก่เฉิง...