ฝืนใจร่วมเตียงด้วยได้?
ชายหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อย และยังคงมีท่าทีนิ่งเฉยเช่นเคย
ชิงอีเห็นท่าทีเช่นนั้นถึงกลับคลี่ยิ้มเย็น
นางนิยมชมชอบหนุ่มรูปงามอยู่แล้ว แถม ‘หนุ่มน้อย’ ตรงหน้าค่อนข้างตรงกับรสนิยมของนางอีก นอกจากฤทธิ์ของยาแล้ว ท่าทีสงบเยือกเย็นนั่นยังกระตุ้นอารมณ์ของนางได้ดีทีเดียว
นางรู้ดีว่าสิ่งที่แฝงอยู่ภายใต้ท่าทีสงบเยือกเย็นนั่นคืออะไร แถมชายคนนี้มีบรรยากาศที่นางคุ้นเคย ท่าทีเช่นนี้มักมีเพียงผู้ที่มีตำแหน่งสูงศักดิ์หรือฝีมือแข็งแกร่งเท่านั้น
ท่าทีสงบเยือกเย็นไม่สนใจใคร
มันเป็กิริยาที่ผู้แข็งแกร่งใช้เหยียดหยามผู้อ่อนแอ หรือ...เขาคิดว่าทุกอย่างในตอนนี้ยังอยู่ภายใต้ความควบคุมของตน
ช่างน่าสนใจจริงๆ
นางตวัดลิ้นเลียริมฝีปากแดง แล้วส่งยิ้มยั่วให้ชายหนุ่ม “ข้าเป็คนมีมนุษยธรรมพอ ก่อนจะเชยชมเ้า ข้าขอถามเ้าเสียก่อนว่าเ้ายินยอมให้ข้าเชยชมหรือไม่?”
“เอาล่ะ ข้ารู้แล้ว”
“ถ้าข้า้าต่อให้เ้าไม่ยินยอม ยังไงเสียเ้าก็ต้องยอมอยู่ดี”
“หนุ่มน้อย วันนี้นับว่าเป็โชคดีของเ้า”
ชายหนุ่มที่ฟังนางพูดพร่ำมาั้แ่ต้น โดยไม่แสดงความรู้สึกใดๆ แต่พอได้ยินคำว่า ‘หนุ่มน้อย’ ครู่หนึ่งรอยยิ้มแปลกๆ ก็ผุดขึ้นบนหน้าของเขา
ก่อนจะถามย้ำ ราวกับไม่เข้าใจสิ่งที่นางพูด
“เ้าคิดจะร่วมเตียงกับใคร?”
“กับเ้ายังไงล่ะ” นางตอบคำถาม พลางถอดชุดที่สวมใส่ออกจนหมด แล้วยืนต่อหน้าเขาอย่างไร้ซึ่งความละอาย ท่าทางเย่อหยิ่งนั่น ไม่ต่างจากชายสูงศักดิ์ที่เข้าไปเด็ดดอมดอกไม้ในหอนางโลมไม่มีผิด
แหม ช่างดุดัน และมีเสน่ห์เสียจริง
ชายหนุ่มมองนางด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ไม่ได้หวั่นไหวไปกับความงามตรงหน้าแม้แต่น้อย แถมยังมองด้วยความเย้ยหยันเสียด้วยซ้ำ
ร่วมเตียงกับเขางั้นหรือ?
เมื่อเทียบกับเหล่าสตรีในอดีตที่พยายามเสนอตัวให้กับเขาแล้ว หญิงสาวนางนี้อาจหาญกว่าเหล่าสตรีที่ผ่านมาเป็ไหนๆ
“หากข้าเป็เ้า ข้าจะรีบวางมือเสียั้แ่ตอนนี้ เพราะอย่างน้อยก็ยังพอจะรักษามือของตัวเองเอาไว้ได้” ชายหนุ่มเตือนเสียงเรียบ ในระหว่างที่มือสวยราวกับหยกเคลื่อนไปยังขอบกางเกงของเขา
“น่ากลัวจัง” ชิงอีทำน้ำเสียงหวาดกลัว นางสบตากับชายหนุ่มโดยไม่มีทีท่าว่าจะหลบ ยิ่งทำให้นางไม่เพียงแค่วางท่าทีใหญ่โตยิ่งขึ้น แต่ยังทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นจนคิ้วกระตุก “ยิ่งเ้าพูดเช่นนี้ ข้าก็ยิ่งอยากลองน่ะสิ”
ชายหนุ่มหรี่ตามอง นางนี่ช่าง...
ในตอนนั้นเอง มือของนางก็เอื้อมมาที่ผ้าคาดเอว
พรึ่บ!
เสื้อผ้าถูกปลดเปลื้องออกจนหมด
ในที่สุดสีหน้าของชายหนุ่มก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ทั้งมึนงง ประหลาดใจ และโกรธเป็อย่างมาก
นี่นางกล้าลงมือจริงๆ หรือ?
หลิงเฟิงกับองครักษ์เงาที่คอยคุ้มกันอยู่ด้านนอก ทำไมถึงไม่มีใครได้ยินเสียงอะไรเลย? ชายหนุ่มรู้แล้วว่าทุกอย่างอยู่เหนือการควบคุมของเขา แต่ก็สายไปเสียแล้ว
ขายาวเรียวของนางย่างเท้าเข้ามาดุจดั่งนางพญา จากนั้นทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้น
ชิงอีค่อยๆ ลืมตาคู่สวยอย่างเชื่องช้า กล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ช่างไม่รู้อะไรเสียเลยหนุ่มน้อย ข้าบอกแล้วว่าจะร่วมเตียงกับเ้า เช่นนั้นข้าจะปล่อยให้พวกองครักษ์ไร้ฝีมือของเ้ามาทำให้เสียอารมณ์ได้อย่างไรล่ะ จริงไหม?”
ร่วมเตียงคือร่วมเตียง คำไหนคำนั้น นี่แหละคือวิถีของราชินี!
ทุกอย่างดำเนินไป
จนกระทั่งสุขสม
ชิงอียันตัวขึ้นแช่มช้า ความเจ็บแปล๊บเกิดขึ้นบนบางส่วนของร่างกาย จนนางต้องย่นหน้า พอหลุบตาก็พบกับรอยเืบนเตียง นางส่งเสียง ‘จิ๊’ ออกมา
ชายหนุ่มที่หลับตาอยู่ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ถึงแววตาจะเ็า แต่กลับไม่ได้รู้สึกโมโหเท่าที่คิด ออกจะเป็ความรู้สึกเฉยเมยราวกับเป็เพียงผู้ชม คล้ายว่าคนที่โดนขืนใจเมื่อครู่ไม่ใช่ตนเสียอย่างนั้น
หากมองข้ามเส้นเืที่ปูดขึ้นบนหน้าผากของเขาไป ไม่แน่ชิงอีอาจรู้สึกว่าเมื่อครู่เขาเองก็สุขสมไม่แพ้กัน?
“เ้าเป็ใคร?” สายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตของเขาจ้องไปที่นาง
ภายใต้ผ้าคลุมหน้า ชิงอีเบะปากรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
จากประสบการณ์ที่ได้ลองเองเมื่อครู่บอกเลยว่าไม่สบายตัวสักนิด ข้อแรกร่างกายนี้เพิ่งจะเสียความบริสุทธิ์ ข้อสองตลอดเวลาที่ร่วมเตียง ฝ่ายตรงข้ามเอาแต่ส่งสายตาพิฆาตมาให้ หากไม่ใช่เพราะฤทธิ์ยาทำให้นางทนไม่ไหวแล้วละก็ นางคงไม่มีแรงทำจนจบแน่
ไอ้ท่าร่วมรักให้ผู้หญิงอยู่บนเนี่ย เหนื่อยชะมัด
“จนถึงตอนนี้เ้ายังไม่รู้อีกหรือว่าข้าคือใคร? ที่แท้อาหารมันไปบำรุงแค่หน้าเ้าอย่างเดียวสินะ ไม่ได้ส่งไปบำรุงสมองเลยงั้นสิ” ชิงอีพิงเตียงพลางยิ้มอย่างเหนื่อยหน่าย พร้อมกับจ้องมองเรือนร่างอันสมบูรณ์แบบของชายหนุ่มอย่างมีความสุข ไร้ซึ่งความเกรงใจใดๆ ก่อนจะให้คำตอบที่ดีที่สุดแก่คนตรงหน้า “ข้าเสพสุขจากเ้าไปขนาดนี้แล้ว ก็ต้องเป็ลูกค้าน่ะสิ~”
“ถึงแม้ว่าหน้าตาเ้าจะไม่เลว แต่การปรนนิบัติกลับแย่มาก โดยเฉพาะสีหน้าอย่างกับศพ เมื่อครู่ผีหื่นในปรโลกเห็นเ้ายังหมดอารมณ์เลย”
อุณหภูมิในห้องลดฮวบไปยังจุดเยือกแข็งอย่างเฉียบพลัน แต่ชิงอีเหมือนจะไม่รู้ตัว นางยังคงสวมใส่เสื้อไปพลางพูดไปพลาง
หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ละก็ ร่างกายของนางคงจะมีรูพรุนนับไม่ถ้วนไปแล้ว
หลังจากแต่งตัวเสร็จ นางหันกลับมาก็พบว่าดวงตาดอกท้อที่เต็มไปด้วยจิตสังหารของหนุ่มรูปงามยังคงจับจ้องนางอยู่
นางจิ๊ปาก “เอาเถอะ ลูกค้าย่อมมีหลักการของลูกค้า เ้าวางใจได้ข้าไม่ให้เ้าเสียตัวฟรีๆ หรอก” พูดจบนางก็ค้นทั่วตัว มือบางััเข้ากับหยกที่ห้อยอยู่บนคอของตน ดูแล้วน่าจะมีราคาไม่น้อย นางกระตุกสร้อยหยกแล้วโยนลงบนร่างของชายหนุ่ม “เ้าไม่ได้ออกแรงเลยแม้แต่น้อย ใช้แค่ร่างกายเท่านั้น ข้าว่าต่อให้เด็กที่นี่ใช้วิธีมากมายบำเรอเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่โตคืนหนึ่งก็คงจะหาได้ไม่เยอะเท่าเ้า เฮ้อ ถึงแม้จะให้เ้าเยอะไปหน่อย ข้าจะถือเสียว่ายอมให้เ้าเอาเปรียบแล้วกัน”
ข้า-เนี่ย-นะ-เอา-เปรียบ?
เซียวเจวี๋ยหรี่ตาลงจนเป็เส้นเดียว นี่นางพูดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียว แล้วยังมาบอกว่าแม้แต่พวกเด็กรับแขกของหอนางโลม เขาก็สู้ไม่ได้เนี่ยนะ!
“หนุ่มน้อย ข้าไปก่อนล่ะ พวกเราคงไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว ต่อให้มีพรหมลิขิตก็ไม่มีทางเจอแน่นอน” ชิงอีเดินที่หน้าต่าง เตรียมหนี เสียงทุ้มต่ำเ็าของชายหนุ่มก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“เ้าหนีไม่พ้นหรอก”
ชิงอีชะงักส่งยิ้มท้าทายกลับไปให้ชายหนุ่ม “ก็ลองดูสิ?”
พูดจบเงาของนางก็หายไปในความมืดด้านนอกหน้าต่าง
เซียวเจวี๋ยเรียกหลิงเฟิงที่อยู่ด้านนอกอีกครั้ง ในที่สุด ด้านนอกก็มีความเคลื่อนไหว หลิงเฟิงรีบพาคนเข้ามา ภาพที่เห็นทำให้ลูกตาของหลิงเฟิงแทบหลุดออกมาจากเบ้า
ทะ ท่านอ๋อง ท่านทรงโดนอะไรมาพ่ะย่ะค่ะ!
เขาไม่รีรอรีบรุดเข้าไปช่วยท่านอ๋องแต่งตัว
“รีบไปจับหญิงสาวผู้นั้นกลับมาเดี๋ยวนี้”
หญิง หญิงสาว?
หลิงเฟิงมือค้าง “ท่าน ท่านอ๋อง หญิงสาวที่ไหนหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
เขาคุ้มกันอยู่ข้างนอกตลอด ไม่เห็นจะมีหญิงสาวสักนาง!
แววตาของเซียวเจวี๋ยเคร่งขรึมจนคนรอบข้างกลัว เขามองไปยังหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้
หลิงเฟิงตัวสั่นขึ้นมา ไม่รู้ตัวนานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้เห็นท่านอ๋องพิโรธถึงเพียงนี้? เมื่อเขามองไปที่หน้าต่างสีหน้าก็เปลี่ยนไปเช่นกัน หรือว่าเมื่อครู่จะมีหญิงสาวซ่อนตัวอยู่ภายในห้อง!
“เร็วเข้า! ตามหาให้ทั่ว พาตัวหญิงสาวทุกคนบนเรือลำนี้มาให้หมด!” หลิงเฟิงรีบออกคำสั่งเหลือบมองเซียวเจวี๋ยที่อยู่ข้างๆ ซึ่งยังคงแผ่ไอเย็นออกมาไม่หยุด หลิงเฟิงยังคงกังวลไม่หาย “ท่านอ๋อง ทะ ท่านทรงไม่ได้รับาเ็ใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ!”
หลิงเฟิงลองเลียบๆ เคียงๆ ถาม แต่พอสบเข้ากับสายตาพิฆาตของเซียวเจวี๋ยก็รีบหลบแทบไม่ทัน
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หญิงสาวคนนั้นทำอะไรกับท่านอ๋อง? ไหนจะสภาพของท่านอ๋องเมื่อครู่อีก? หรือว่านางอาศัย่ที่ท่านอ๋องโดนวางยาพิษขืนใจเขา?
แค่คิดหลิงเฟิงก็อกสั่นขวัญแขวนแล้ว หญิงสาวนางนั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรืออย่างไร นางจะใจกล้าเกินไปแล้ว!
เวลาผ่านไป
หลังจากที่เซียวเจวี๋ยเดินลมปราณขจัดพิษเสร็จ เขาก็ทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ ชายหนุ่มมองชุดนางรำบนพื้นที่หญิงสาวถอดทิ้งไว้ ผ้าปูเตียงที่อยู่ไม่ไกลยังคงมีรอยเืของนางเปื้อนอยู่
คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย เืนั่นคือ...
ทันใดนั้น หลิงเฟิงที่มีสีหน้าคร่ำเครียดก็เดินเข้ามา
“กระหม่อมไร้ความสามารถ หญิงสาวนางนั้น...หายตัวไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ...”
เซียวเจวี๋ยไม่แปลกใจเท่าไรนักนางฝีมือร้ายกาจไม่เบา ตอนนั้นเขาเรียกหลิงเฟิงจากข้างในห้อง แต่คนฝีมือระดับหลิงเฟิงกลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
“ตามหาต่อไป แม้จะต้องพลิกแผ่นดินก็ต้องหานางให้เจอ” ดวงตาสีดำราวกับสีหมึกของเซียวเจวี๋ยวาวโรจน์ขึ้น ชายหนุ่มกำหมัดแน่นรับรู้ถึงของแข็งๆ ภายในมือ เขาก้มลงมองหยกในมือตน
หลิงเฟิงที่เห็นเข้าก็เผลอถามออกมา “ท่านอ๋อง หยกนั่นคือ?”
ฮึ...
อยู่ดีๆ ใบหน้าราวกับภาพวาดของเซียวเจวี๋ยก็ปรากฏรอยยิ้มน่ากลัว นิ้วเรียวงามทั้งห้าบีบหยกในมือแน่
“นี่ก็คือเงินรางวัลของข้าไง...”
หลังจากหลิงเฟิงเห็นรอยยิ้มนั่น ขนทั่วร่างของเขาต่างพากันลุกชัน เงินรางวัลเนี่ยนะ?
หรือว่าหญิงสาวนางนั้นจะคิดว่าท่านอ๋องเป็พวกหนุ่มรับแขกของที่นี่เลยร่วมเตียงด้วย? แถมยังให้เงินรางวัลอีก?
นี่มันบ้าชัดๆ ปีศาจสาวนางนี้โผล่มาจากไหนกัน แล้วนางเติบโตมาด้วยดีหมีหรืออย่างไร?