ทักษะปีศาจจะกัดกินเนืุ้์และพลังเจินหยวน ทำให้ร่างกายเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกจนดูราวกับซากศพ
แต่ม่อชั่งหลันได้กลืนกินทุกสิ่งเข้าไปโดยตรง ซึ่งมันเหี้ยมโหดเหลือคณานับ
เพื่อพละกำลังที่แข็งแกร่งแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์ย่อมทำได้ทุกอย่าง แต่ในทักษะยุทธ์มากมายก็มีข้อจำกัดอยู่ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่แตกต่างอะไรกับสัตว์อสูรปีศาจ
ทักษะปีศาจนี้ทำให้ผู้คนมากมายยากที่จะทนรับได้ แน่นอนว่าก็มีหลายคนที่โหยหาความแข็งแกร่งในทักษะปีศาจ หากพวกเขาสบโอกาส ก็จะฝึกทักษะนี้อย่างแน่นอน เส้นทางแห่งนักรบนั้น เพื่อความแข็งแกร่งแล้วไม่ว่าอย่างไรก็ต้องได้มันมา
ม่อชั่งหลันเหลือบมองหลินเฟิงอย่างชั่วร้าย พลางกล่าวว่า “ไม่ต้องรีบหรอก รอข้ากลืนกินตาแก่นี่ ต่อไปก็ตาเ้าแล้ว”
กล่าวจบเขาก็หันไปมองท่านหัวทันที
ดวงตาของท่านหัวแฝงไปด้วยความระมัดระวัง เพราะม่อชั่งหลันได้ฝึกทักษะปีศาจที่ชั่วร้ายอย่างมาก ยามนี้เขาจึงประมาทไม่ได้แม้แต่น้อย
“จงอยู่ห่างจากข้าเสีย หลินเฟิง” ท่านหัวกล่าว ตอนนี้ร่างกายของเขามีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่โดยรอบ เปลวไฟดังกล่าวไม่ได้ดูแ่ลงไปเลยแม้จะต่อสู้มาเป็เวลานาน เขาดูราวกับเทพาแห่งเปลวเพลิง แสงแห่งเปลวเพลิงนั้นก็คือพลังเจินหยวนที่มีคุณสมบัติเป็ไฟ
“ก็ได้” หลินเฟิงพยักหน้าและถอยหลังไป ผู้ที่อยู่ขอบเขตลี้ลับขั้นที่ 1 เขาย่อมจัดการได้ แต่สำหรับขอบเขตลี้ลับขั้นที่ 3 แล้ว มันยังห่างชั้นเกินไปจนเขาในตอนนี้ยังไม่สามารถจัดการได้ ดังนั้นเขาจึงจำเป็ต้องพึ่งพาท่านหัว
“หึ ขอบเขตลี้ลับขั้นที่ 3 ถือว่าเป็อาหารอันโอชะ”
ม่อชั่งหลันแสยะยิ้มอย่างน่าขนลุก ตอนนี้เองเถาวัลย์สองเส้นได้พุ่งเข้าหาท่านหัว แต่ขณะนั้นบนฝ่ามือของท่านหัวได้ปรากฏเปลวไฟอันร้อนแรงขึ้น จากนั้นเปลวเพลิงทั้งสองลูกก็กลายเป็ัสองตัว ก่อนจะพุ่งโจมตีเถาวัลย์ทันที ทำให้เถาวัลย์ถูกเผาจนวอดวายไป
อีกด้านหนึ่งปิงเหอเถิงก็เคลื่อนไหวแล้ว เกล็ดหิมะกระจายไปทั่วและปกคลุมพื้นดิน ทักษะอาณาจักรหิมะของเขาทำให้พื้นที่โดยรอบถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามเจตจำนงอันเยือกเย็นที่น่าหวาดกลัวนี้ ไม่เพียงแต่ไม่ได้ทำให้เมิ่งฉิงรู้สึกหนาวเท่านั้น แต่กลับทำให้นางดูเ็ามากกว่าเดิม
เมิ่งฉิงเชี่ยวชาญในทักษะน้ำแข็ง เจตจำนงอันเยือกเย็นจะทำอะไรนางได้อย่างไร ในทางกลับกันมันทำให้นางรู้สึกสบายมากยิ่งขึ้น
“อาณาจักรหิมะ!”
ปิงเหอเถิงกล่าวอย่างแ่เบา ทันใดนั้นหิมะสีขาวได้ปกคลุมไปทั่วบริเวณและมันก็หนาขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นพื้นที่ทั้งหมดจึงกลายเป็อาณาจักรหิมะ
“เย็นมาก!”
ฝูงชนต่างสั่นสะท้านด้วยความหนาว เป็อย่างที่ได้ล่ำลือไว้ว่า ผู้คนจากหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานล้วนเชี่ยวชาญในเื่น้ำแข็ง จึงมีทักษะน้ำแข็งที่ทรงพลังมาก
ขณะนั้นเมิ่งฉิงตัวสั่นและทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นได้มีเสียงะเิดังขึ้นเสียงหนึ่ง โดยที่ไม่มีใครคาดคิด น้ำแข็งในจุดที่หญิงสาวยืนอยู่เมื่อครู่ได้แตกออก แล้วเสี้ยวน้ำแข็งที่แหลมคมได้พุ่งตามเมิ่งฉิงไปอย่างไร้ซึ่งความปรานี ซึ่งฉากดังกล่าวทำให้ม่านตาของผู้คนต้องหดแคบลง
ปิงเหอเถิง ทำให้พื้นดินถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง แล้วยังใช้น้ำแข็งที่ตนเองสร้างขึ้นโจมตีฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ให้ทันตั้งตัว ช่างเป็วิธีที่ร้ายกาจยิ่งนัก
“น้ำแข็ง์!”
ปิงเหอเถิงผสานมือเข้าด้วยกัน จากนั้นท้องฟ้าก็ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง
“น้ำแข็งนิรันดร์!”
เมิ่งฉิงเองก็กล่าวอย่างแ่เบา ตอนนี้เองได้มีกลิ่นอายที่เยือกเย็นปกคลุมไปทั่วบริเวณ เพียงพริบตานางและปิงเหอเถิงก็ราวกับถูกฝังอยู่ในกองหิมะ มีเพียงเจตจำนงอันเยือกเย็นที่ทำให้ผู้คนต่างหนาวสั่น
การต่อสู้ของผู้ที่อยู่ขอบเขตลี้ลับทั้งสี่นั้น หลินเฟิงกำลังยืนมองดูอยู่เงียบๆ
ท่านหัวอยู่ขอบเขตลี้ลับขั้นที่ 3 เหมือนกับม่อชั่งหลัน นอกจากนี้ประสบการณ์การต่อสู้ของท่านหัวก็มีมากมาย เขาสามารถควบคุมลูกไฟทั้งสองได้ดั่งใจ ทำให้จิติญญาเถาวัลย์ของม่อชั่งหลันไม่อาจเข้าใกล้ท่านหัวได้ เขาไม่สามารถเอาชนะเปลวเพลิงของท่านหัวได้
แต่สำหรับเมิ่งฉิงแล้ว แม้การบ่มเพาะของนางจะด้อยกว่าอีกฝ่าย แต่หลินเฟิงกลับไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย เมิ่งฉิงเชี่ยวชาญในทักษะน้ำแข็ง แล้วนางจะหวาดกลัวน้ำแข็งได้อย่างไร นอกจากนี้เมิ่งฉิงก็แข็งแกร่งมาก แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่านางแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่ เพราะทุกครั้งที่ต่อสู้ ดูเหมือนเมิ่งฉิงจะยิ่งแกร่งกล้าขึ้นทุกครั้ง
ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็วันที่ยุ่งยากและวุ่นวายสำหรับกลุ่มป้อมอีแร้ง และหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานเสียแล้ว
ผู้คนเองก็รู้สึกว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน สถานการณ์มันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่พวกเขาคิดว่าหลินเฟิงจะต้องถูกสังหาร พวกเขากลับพบว่าความจริงนั้นมันไม่ใช่อย่างที่คิด
ไม่ต้องพูดถึงป้อมอีแร้งที่ร่วมมือกับยอดฝีมือจากหมู่บ้านเสวี่ยอิงซาน หลินเฟิงก็ยังคงหยุดพวกเขาได้ การสังหารหลินเฟิงถือเป็เื่ยากมาก
หลินเฟิงหันไปมองกลุ่มคนที่มาพร้อมกับปิงเหอเถิงและยิ้มอย่างเ็า
คนเหล่านี้ไม่มีใครที่อยู่ขอบเขตลี้ลับเลยสักคน
เหมือนกับััได้ถึงสายตาของหลินเฟิง ผู้คนจากหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานต่างชะงักค้างไป จากนั้นพวกเขาก็ััได้ถึงเจตจำนงอันเยือกเย็นที่แผ่ปกคลุมไปทั่งร่างพวกเขา
“หลินเฟิง้าสังหารพวกเขา”
หัวใจของกลุ่มคนที่อยู่บนหลังม้าเริ่มสั่นไหว หลินเฟิงสามารถจัดการกับผู้ที่อยู่ขอบเขตลี้ลับได้ สำหรับพวกเขาแล้วถือเป็ภัยคุกคามที่อันตรายอย่างมาก
หลินเฟิงเดินไปหาพวกเขาช้าๆ แต่ละก้าวของเขาทำให้ผู้คนต่างสั่นสะท้านไปด้วยความกลัว
“เ้าจะทำอะไร?” หนึ่งในคนของหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานะโถามขึ้น ขณะที่ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ข้าจะทำอะไร?” หลินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม คนเหล่านี้เดินทางมานับพันลี้เพื่อสังหารเขา แต่ตอนนี้กลับถามเขาว่าจะทำอะไร?
ผู้ที่้าสังหารเขา แน่นอนหลินเฟิงเองก็้าชีวิตของพวกเขาเช่นกัน!
ไม่มีคำพูดไร้สาระอีกต่อไป ด้านหลังหลินเฟิงในขณะนั้นได้ปรากฏผืนน้ำสีม่วงขึ้น และมันก็คำรามออกมา
“ท่าไม่ดีแล้ว!”
เมื่อเห็นจิติญญาสีม่วงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ผู้คนจากหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานก็ถึงกับหน้าถอดสี จิติญญาสีม่วงของหลินเฟิงนั้น แม้แต่ยอดฝีมือที่อยู่ขอบเขตลี้ลับก็ต้องพ่ายแพ้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขาเลย
พวกเขาทั้งหมดต่างหันหลังกลับและวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่คิดจะสู้
หลินเฟิงแสยะยิ้มขณะที่จิติญญาอันบ้าคลั่งได้ปะทุออกมา ปีศาจงูสีม่วงได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาก็ห่อหุ่มร่างกายผู้คนจากหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานและกระชากกลับไปที่ตัวมัน ทำให้ผู้คนของหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานต่างจมอยู่ในของเหลวสีม่วง
“อ๊าก…!!!”
เกิดเสียงกรีดร้องดังขึ้น ผู้คนจากหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานล้วนจมอยู่ในของเหลวสีม่วง เพียงพริบตาพวกเขาก็รู้สึกได้ว่าร่างของตัวเองกำลังละลาย จึงได้แต่กรีดร้องอย่างสิ้นหวัง
พวกเขากำลังจะตาย!
พวกเขาล้วนติดตามผู้าุโใหญ่ปิงเหอเถิงมาที่นี่ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่า แค่ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตแห่งจิติญญาคนหนึ่งจะกลายเป็ฝันร้ายของพวกเขา และเป็ฝันร้ายที่พวกเขาจะไม่มีวันได้ตื่นขึ้นมาอีก
“เ้ากล้า...?!”
ในขณะนั้นได้มีเสียงอันเยือกเย็นดังขึ้น นั่นคือเสียงของปิงเหอเถิง คนเหล่านี้ที่ติดตามเขามาล้วนเป็อนาคตของหมู่บ้าน เขาตั้งใจให้พวกเขามาที่นี่เพื่อหาประสบการณ์ ทว่าตอนนี้หลินเฟิงกำลังสังหารพวกเขาทั้งหมด
ปิงเหอเถิงทิ้งเมิ่งฉิงไว้และทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า แล้วพุ่งไปหาหลินเฟิงพร้อมปลดปล่อยอาณาจักรหิมะที่ทรงพลังออกมา
อย่างไรก็ตาม เมิ่งฉิงไม่มีทางปล่อยให้ปิงเหอเถิงได้แตะต้องตัวหลินเฟิงอย่างแน่นอน
ดวงตานิ่งค้าง จิติญญาบ้าคลั่ง เมิ่งฉิงในตอนนี้มีเจตจำนงอันเยือกเย็นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันทำให้ผู้คนต้องหนาวสั่นจนไปถึงจิติญญา
“หัวใจน้ำแข็ง!”
เมิ่งฉิงกล่าวเสียงเบา จากนั้นพลังน้ำแข็งที่ทรงพลังก็กระจายไปทั่ว ซึ่งทำให้ปิงเหอเถิงต้องสั่นสะท้าน เขารีบหันหลังกลับในทันที แต่วินาทีต่อมาผมสีดำสลวยของเขากลับถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งเสียแล้ว
“พวกเ้า้าสังหารข้า แต่พวกเ้ากลับคิดว่าข้าจะไม่กล้าสังหารพวกเ้า? มันใช่เหรอ!”
หลินเฟิงกล่าวอย่างเ็าพร้อมกับผืนน้ำสีม่วงที่เคลื่อนกลับเข้าสู่ร่างกายของตน ในตอนนี้ผู้คนจากหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานต่างหายไปจากสายตาของผู้คน ไม่เหลือร่องรอยไว้แม้แต่น้อย
ปิงเหอเถิงถึงกับหน้าซีดขาว จิตสังหารได้ปะทุออกมาจากร่างของเขา แต่เมิ่งฉิงในขณะนั้นก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง แม้เขาจะมีจิตสังหารที่แข็งกล้า แต่เมิ่งฉิงก็ยังไม่ปล่อยให้เขาได้เข้าใกล้หลินเฟิงแม้เพียงก้าวเดียว
ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเ็าและเมินเฉย มีเพียงหัวใจที่แข็งแกร่งราวกับหินผา!
“หมู่บ้านเสวี่ยอิงซานดวงซวย เพราะไปยั่วยุหลินเฟิง!”
ผู้คนต่างพึมพำ เดิมทีเป็เพราะปิงหยวนไปยั่วยุหลินเฟิง ในท้ายที่สุดมันก็เป็เขาเองที่ถูกสังหาร
หลังจากนั้นปิงเหอเถิงได้นำศิษย์บุกมาอย่างองอาจ เพื่อสังหารหลินเฟิง แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ ปิงเหอเถิงกลับถูกเมิ่งฉิงโจมตีและยอดฝีมือของหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานก็ถูกสังหารไปทั้งหมด
ไม่เพียงแต่หมู่บ้านเสวี่ยอิงซานเท่านั้น แม้แต่ผู้นำทูก็ไปยั่วยุเขาด้วยเช่นกัน
รองผู้นำกลุ่มป้อมอีแร้งทั้งสองต่างอยู่ขอบเขตลี้ลับ ผู้นำอิงได้ย่างกรายเข้าไปในภัตตาคารเทียนซานจึงถูกสังหาร แม้แต่ตายอย่างไรก็ไม่มีใครรู้
ผู้นำทูเองก็ถูกหลินเฟิงโจมตี จากนั้นก็ถูกม่อชั่งหลันกลืนกินจนกลายเป็ซากศพ อย่างน่าสมเพช
ตอนนี้ผู้คนของป้อมอีแร้งต่างกลัวว่าตัวเองจะหายไปในเร็ววัน หลังจากวันนี้เมืองเทียวลั้ว อาจไม่มีกลุ่มป้อมอีแร้งอีกต่อไปก็เป็ได้
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็เพราะหลินเฟิง ชายหนุ่มผู้อยู่ขอบเขตแห่งจิติญญา หากใครขัดใจเขา มันผู้นั้นต้องตาย
ด้วยพร์ที่แปลกประหลาด ขนาดเหลิ่งเยว่ผู้เป็ศิษย์ของนิกายเฮ่าเยว่ที่มากไปด้วยพร์และแข็งแกร่งที่สุด ยังถูกตัดแขนไปเพียงดาบเดียว ตอนนี้หลินเฟิงราวกับุ์!!!