ขบวนเกี้ยวเ้าสาวถูกหามด้วยแปดคนตามหลักพิธีการ เพื่อบ่งบอกว่าเ้าสาวผู้นี้แต่งเข้าไปจะอยู่ตำแหน่งใดในบ้านสามี
สินสอดบวกกับสินเดิมเ้าสาวมีหลายหีบจนนับไม่ถ้วน ของทุกอย่างด้านในที่เปิดให้เห็นล้วนมีค่าจนชาวบ้านธรรมดายากจะมีได้
ทว่าขบวนมงคลยิ่งใหญ่เช่นนี้กลับไม่ได้รับความสนใจจากผู้คนที่เคลื่อนผ่าน พวกเขาแค่เพียงมองและหันหน้าหนี หรือร้ายแรงที่สุด บางบ้านถึงกลับปิดประตูทันทีที่ขบวนเกี้ยวผ่าน
แม้แต่ของขวัญมีค่าที่โปรยตามทางก็ไม่คิดสนใจเก็บ เหตุเพราะกลัวถูกไออัปมงคลจากขบวนเ้าสาวแผ่โชคไม่ดีมายังพวกเขา
นี่มิใช่ครั้งแรกที่มีขบวนรับเ้าสาวยิ่งใหญ่เช่นนี้ ในระยะเวลาเกือบสองปี ขบวนเ้าสาวตรงหน้านับเป็ขบวนที่ห้าแล้ว
และเป็เหมือนกันทุกครั้ง ขบวนเ้าสาวต่างมุ่งหน้าเข้าจวนตระกูลต้วน ทว่าในรุ่งเช้าหรืออีกไม่กี่วันต่อมา จากขบวนมงคลก็แปรเปลี่ยนเป็ขบวนศพกลับออกมาแทน ทำให้พวกเขาเกิดความกลัวว่าหากเข้าใกล้ขบวนเ้าสาวนี้ จะมีสิ่งไม่ดีติดตัว กลายเป็ร้ายมากกว่าดี
เมื่อเป็เช่นนี้ พอคล้อยหลังขบวนเ้าสาวที่หายลับไปจากสายตา ทุกคนจึงได้แต่ภาวนา ขอให้สตรีในเกี้ยวครั้งนี้รอดปลอดภัย อย่าได้โชคร้ายเหมือนกับสตรีนางอื่น ที่แต่งให้ต้วนโหวซื่อจื่อที่ขึ้นชื่อว่าเป็ตัวอัปมงคลผู้นั้น
"รับเกี้ยวเ้าสาว"
เสียงร้องจากแม่สื่อผู้นำพิธี แจ้งกับผู้เป็เ้าของบ้านว่าขบวนเ้าสาวของพวกเขามาถึงจวนแล้ว ทว่าทั้งที่ขบวนเ้าสาวถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต แต่กลับไร้แเื่มาร่วมแสดงความยินดี ภายในจวนเ้าบ่าวมีเพียงกระดาษคำว่ามงคลแผ่นเล็ก ๆ ติดไว้ไม่กี่จุดเท่านั้น
"คุณหนูเ้าคะ"
มือเรียวตบหลังมือสาวใช้คนสนิทที่ช่วยจับประคองเดิน หมายให้อีกฝ่ายอย่าตื่นกลัว ก่อนจะเดินเข้าจวนเพื่อทำพิธีการลำดับต่อไป
แม้เ้าบ่าวจะเป็เพียงแค่ไก่ตัวผู้ และผู้ใหญ่ในตระกูลที่ร่วมในพิธี จะเป็เพียงสาวใช้าุโผู้หนึ่งก็ตาม
หญิงสาวไม่ได้สนใจว่าผู้ใดจะอยู่ร่วมพิธีบ้าง นางไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือยินดีที่ต้องแต่งกับไก่ หรือจะเรียกให้ถูกคือไม่มีความรู้สึกใดเลย
เพราะสำหรับนางแล้ว ไม่ว่าจะเป็คนหรือไก่ ขอแค่เพียงพิธีนี้ผ่านพ้นไป และยังสามารถมีชีวิตรอดจนถึงรุ่งเช้าของวันใหม่ นั่นหมายความว่านางได้หลุดพ้นจากตระกูลเดิม ไม่จำเป็ต้องอยู่เรือนหลังเก่าทรุดโทรมหลังนั้นอีกต่อไป
"ฮูหยินน้อยเชิญ"
"ขอบคุณ" เสียงหวานตอบรับสตรีสูงวัยอย่างรู้มารยาท ก่อนจะเดินเข้าห้องหอที่ถูกจัดเตรียมไว้
หลังประตูใหญ่ปิดลง หญิงสาวแอบมองจนมั่นใจแล้วว่าไม่มีผู้ใดอยู่นอกจากนาง มือเรียวจึงโยนพัดลายวิจิตรที่ถือปิดหน้าไว้ตลอดทั้งวันทิ้งอย่างไร้ค่า ก่อนจะเดินสำรวจภายในห้องกว้างที่อนาคตจะเป็ที่อยู่ของนาง
ทว่าแค่เพียงมองยังไม่ได้จับััสิ่งของดูให้ดี ก็ทำให้หญิงสาวต้องประหลาดใจ เพราะที่นางเคยได้ยินมา ตระกูลต้วนถูกจัดให้เป็ตระกูลที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งของเมืองหลวงมิใช่หรือ
แต่จากที่นางดูเครื่องเรือนทุกชิ้นที่ตกแต่งห้องอยู่ในตอนนี้ เหตุใดถึงมีแต่ของปลอมเล่า
"ฮูหยิน"
เสียงเรียกที่ดังขึ้นในความเงียบ ทำให้ร่างบางใจนตัวโยน ยังดีที่นางยังยั้งสติไม่เผลอหลุดส่งเสียงกรีดร้องออกมา
หญิงสาวลืมไปเลย ว่าภายในห้องยังมีเ้าบ่าวอยู่ด้วยอีกคน
ทว่าร่างบางยังไม่ทันได้ตอบรับอีกฝ่าย ก็มีอันต้องยืนนิ่งงันราวกับตกอยู่ในภวังค์ หลังได้เห็นใบหน้าของบุรุษในชุดสีแดงมงคลอย่างชัดเจน
ั์ตาดอกท้อทอดมองสำรวจร่างหนาอย่างไร้มารยาท เมื่อมองครบจบแล้วนางถึงเข้าใจ ว่าเหตุใดยามทำา เขาถึงต้องสวมใส่หน้ากากไว้ตลอดเวลา
หากนางเห็นศัตรูที่มีรูปโฉมงดงาม ใบหน้าดุจเทพบุตรมาจุติจากเบื้องบนมายืนอยู่ตรงหน้า นอกจากนางจะไม่เกรงกลัวแล้ว คงหาทางจับเขากลับไปเป็คู่ครองอย่างแน่นอน
นางเคยได้ยินเื่รูปโฉมของบุรุษผู้นี้มาอยู่บ้าง ตอนได้ฟังแน่นอนว่าไม่มีความเชื่อสักเพียงนิด ล้วนเป็คำเล่าลือเกินจริงทั้งสิ้น
แต่พอได้มาเห็นวันนี้ ทำให้นางรู้แล้วว่าคำเล่าลือเ่าั้ไม่เกินจริงเลย
์ ท่านคงรักบุรุษผู้นี้มากใช่หรือไม่ ถึงได้ประทานใบหน้าสมบูรณ์แบบจนยากหาใครเทียบให้เขาเยี่ยงนี้
"ฮูหยิน"
เสียงเรียกอีกครั้ง ทำให้หญิงสาวได้คืนสติ รอยยิ้มชื่นชมด้วยความเคลิบเคลิ้มที่มีให้อีกฝ่ายก่อนหน้า แปลเปลี่ยนเป็ความรู้สึกเวทนาขึ้นมาแทน
จะว่า์รักบุรุษผู้นี้เสียทีเดียวก็คงไม่ได้ เพราะถ้าหากรักจริง สุดท้ายคงไม่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
"น้องอยู่นี่เ้าค่ะ" มือเรียวยื่นจับฝ่ามือใหญ่ที่คว้าหานางในอากาศอย่างไร้ทิศทาง หมายให้เขารู้ว่านางอยู่ข้าง ๆ
"ลำบากฮูหยินแล้ว เพราะข้าเป็เช่นนี้ ทำให้ออกไปร่วมพิธีด้วยไม่ได้" น้ำเสียงชายหนุ่มเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ที่ต้องปล่อยให้ภรรยาเข้าพิธีกับไก่ตัวผู้แทนที่จะเป็เขา
"ไม่ลำบากเ้าค่ะ จะเป็ไก่หรือท่านพี่ อย่างไรพิธีก็ผ่านไปแล้ว"
"ถ้าอย่างนั้นเราดื่มสุรามงคลกันเถอะ สิ่งนี้ข้าทำเองได้ ไม่จำเป็ต้องให้ผู้อื่นทำแทน"
เมื่อชายหนุ่มทำท่าจะลุกขึ้นเดิน หญิงสาวจึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องช่วยจับประคอง แต่หลังจากร่างหนาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทำให้นางถึงกลับต้องเงยหน้าตั้งคอขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ
บุรุษผู้นี้เอาความสูงมาจากที่ไหนกัน หากต้องคุยกับเขาทั้งวัน นางไม่ปวดคอตายก่อนหรือ
"ฮูหยินดื่ม"
"ดื่มเ้าค่ะ" ถึงปากจะตอบรับ แต่มือเรียวข้างที่ไม่ได้ถือจอกกลับยกขึ้นโบกไปมาหน้าสามีหมาด ๆ เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่าเขามองไม่เห็นจริง ๆ ก่อนจะแอบเทสุราลงโคนต้นไม้ใกล้ ๆ
หญิงสาวไม่ได้รังเกียจที่จะดื่มสุรามงคลกับสามี แต่สุรานี้นางดื่มไม่ได้จริง ๆ
นางเป็โรคแพ้สุรามาั้แ่ยังเล็ก น้ำจากสุราแค่เพียงหยดเดียวก็ส่งผลให้ิัขึ้นผื่น จนสุดท้ายถึงขั้นหายใจไม่ออก หากนางดื่มเข้าไปจริง ๆ วันพรุ่งคงมีขบวนศพออกจากจวนเหมือนทุกครั้งเป็แน่
พอนึกถึงเื่ขบวนศพ ก็ทำให้หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะมองไปรอบห้องกว้างด้วยความระแวดระวัง เพราะก่อนหน้านี้มิใช่เป็แค่เพียงข่าวลือ แต่ฮูหยินน้อยของต้วนโหวซื่อจื่อ ได้กลายเป็ร่างไร้ิญญาจริง ๆ
นางไม่รู้สาเหตุที่ทำให้สตรีทั้งสี่ต้องตายเป็เพราะอันใด นางไม่เชื่อคำลือที่ว่าดวงต้วนโหวซื่อจื่อเป็ตัวอัปมงคล มีดวงพิฆาตภรรยา เลยทำให้คู่ชีวิตอาภัพต้องตกตาย ไม่สามารถเคียงคู่อยู่ด้วยกันได้ แต่เชื่อว่าต้องมีสาเหตุอื่นหลบซ่อนไว้อย่างแน่นอน
และนางจะไม่ยอมเป็ศพที่ห้าโดยเด็ดขาด
ชีวิตมู่อวี่เจียผู้นี้ เพิ่งจะได้เริ่มต้นใหม่ จะเอามาทิ้งไว้ที่นี่ง่าย ๆ ได้อย่างไร
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้