เจียงห้าวอวี่แพ้แล้ว?
ดวงตาทั้งสองข้างของบรรดาศิษย์สำนักในเบิกกว้างมองเจียงห้าวอวี่ที่กระเด็นถอยหลังไป ได้รับาเ็อย่างไม่น่าเชื่อ!
ชั่วขณะนั้น ทุกคนตะลึงจนนิ่งงัน
เสวียนเทียนเอาชนะจี่ตงเฉิงก็เหนือความคาดหมายในใจบรรดาศิษย์ในแล้วเพราะฉู่เฟิงอัจฉริยะแห่งยุคของสำนักกระบี่์ตอนที่อยู่ชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งก็ไม่สามารถสู้ชนะศิษย์ชั้นเบิกนภาขั้นสองที่อยู่ขั้นที่หนึ่งได้สิ่งนี้จำกัดกรอบความคิดของบรรดาศิษย์ในเอาไว้
ดังนั้นบรรดาศิษย์ในถึงตื่นตะลึงแต่อย่างไรข้ามระดับหนึ่งขั้น ต่อสู้ชนะคู่ต่อสู้ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้อยู่
จี่ตงเฉิงพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นสองส่วนเจียงห้าวอวี่เป็ถึงชั้นเบิกนภาขั้นสาม
ระหว่างเสวียนเทียนกับเจียงห้าวอวี่ห่างกันถึงสองขั้นนอกจากนี้ เจียงห้าวอวี่ก็ยังเป็ชั้นเบิกนภาขั้นสาม่ปลาย เป็คนที่เด่นดังในหมู่ศิษย์ชั้นเบิกนภาขั้นสามเป็อันดับที่เก้าของสำนักใน หนึ่งในสิบศิษย์เอกสำนักในของสำนักกระบี่์
สามารถข้ามระดับชั้นสองขั้น เอาชนะคู่ต่อสู้นี่แทบจะเกินสามัญสำนึกในใจของบรรดาศิษย์ทั้งหลายไปแล้ว
เป็หัวแถวในระดับขั้นเดียวกันก็นับว่าได้ชื่ออัจฉริยะแล้ว
เป็สุดยอดของระดับขั้นเดียวกันก็เป็อัจฉริยะที่แท้จริงสมชื่อแล้ว
สามารถต่อสู้ข้ามระดับชั้นได้หนึ่งขั้นนั่นเป็อัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ
ต่อสู้ข้ามระดับชั้นได้สองขั้นอีกทั้งยังเอาชนะคู่ต่อสู้ นี่มันอัจฉริยะระดับใดกัน? เป็ปีศาจชัดๆ
ต่อให้เป็ฉู่เฟิงเทียบกันแล้วก็ยังหม่นแสงดับรัศมีในศิษย์สำนักกระบี่์ไม่มีสักคนที่มีความสามารถต่อสู้ข้ามระดับชั้นสองขั้น
จากที่ได้ยินมาในชนรุ่นหลังของอาณาจักรเสินเตาทั้งหมด ปีศาจที่ต่อสู้ข้ามระดับชั้นสองขั้นได้มีเพียงคนในสำนักดาบเทวะสำนักอันดับหนึ่งเท่านั้นซึ่งมีอยู่คนหนึ่งนั่นแทบเป็ตำนานของอาณาจักรเสินเตา
ศิษย์ชั้นพลังวัตรขั้นหนึ่งคนหนึ่งกลายเป็หนึ่งในสิบศิษย์เอกสำนักในนี่เป็เื่ที่ในรอบสองร้อยปีไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของสำนักกระบี่์ต่อให้เป็หลิงอี้เฉินจอมยุทธ์ผู้พิทักษ์สำนักคนปัจจุบันของสำนักกระบี่์ตอนที่พลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งก็แค่เอาชนะศิษย์ชั้นเบิกนภาขั้นสามที่อยู่หลังจากอันดับยี่สิบในขั้นที่หนึ่งเท่านั้นห่างจากสิบอันดับแรกของสำนักในอยู่อีกไกล
บรรดาศิษย์สำนักในตื่นตะลึง ไม่อยากเชื่อศิษย์ทั้งหลายที่มากับเจียงห้าวอวี่ใบหน้าล้วนตะลึงงัน ในใจของพวกเขา ‘ศิษย์พี่เจียง’ เป็หนึ่งในสิบศิษย์เอกสำนักใน เป็คนที่ไม่อาจสู้ชนะได้แต่กลับพ่ายแพ้ในเงื้อมมือของเสวียนเทียน ทั้งยังได้รับาเ็ผลลัพธ์นี้พวกเขาไม่อาจยอมรับได้ นี่เท่ากับทำลายสิ่งที่ในใจของพวกเขาศรัทธา
ชิ้ง!
‘กระบี่แรกฟ้า’ กลับเข้าฝัก เสียงสูงเบาๆ ดังขึ้น ทำให้บรรดาศิษย์ตื่นกลับมาจากอาการตื่นตะลึงสายตามองไปทางเสวียนเทียน
สายตาของเสวียนเทียนมองไปทางเจียงห้าวอวี่ที่อยู่ห่างไปยี่สิบกว่าเมตรเอ่ยว่า “ศิษย์น้องเจียงเ้าแพ้แล้ว”
“เ้ากล้าทำร้ายข้า?” เจียงห้าวอวี่สกัดจุดห้ามเืตรงหน้าอก กินยาควบปราณรักษาอาการาเ็ไปเม็ดหนึ่งสายตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น มองเสวียนเทียนพูดเสียงเย็นขึ้น
เสวียนเทียนเฉยชาต่อสายตาที่จ้องเขม็งมาของเจียงห้าวอวี่เอ่ยว่า “ศิษย์น้องเจียงระหว่างการต่อสู้ าเ็เล็กน้อยยากจะเลี่ยง หากเ้าทำข้าาเ็ได้ข้าก็ไม่อาจทำอะไรได้ แต่ก็แปลก ศิษย์น้องเจียงฝีมือไม่ถึงขั้น วิชาไม่ทัดเทียมผู้อื่นอันดับเก้าสำนักในคงมีแต่ชื่อ”
“เ้า!” เจียงห้าวอวี่มองเสวียนเทียน อยากพูดอะไรบ้างแต่ก็ไม่มีคำพูดมาโต้ตอบ ในใจคับแค้นไม่อาจสงบเสียงกระอักดังขึ้น กระอักเืสดออกมาคำหนึ่ง
“ศิษย์พี่เจียง!”
จี่ตงเฉิงและซือซิ่วเฉิง เป็ต้นรีบก้าวมาตรงหน้าเจียงห้าวอวี่แต่ละคนสีหน้าร้อนรน
หยางเวยรีบร้อนแสดงความภักดี เดินมาข้างหน้า ะโออกมาชี้เสวียนเทียนพลางด่าทอเสียงดัง “หวงเทียน เ้าถึงกับทำร้ายศิษย์พี่เจียงเ้ารู้หรือไม่ ศิษย์พี่เจียงเป็คนของศิษย์พี่ฉู่เฟิง เ้า...เ้ามันพวกนอกคอกเ้ามันเดรัจฉาน ศิษยพี่ฉู่เฟิงต้องไม่ปล่อยเ้าไว้...เฮ้ย!”
หยางเวยกำลังด่าทอเสียงดังอยู่ฝ่ามือหนึ่งก็ตบมา ร่างของหยางเวยลอยขึ้นมา พลิกตลบกลางอากาศหลายรอบฟันเต็มปากล้วนถูกตบแตกพร้อมกับเืสดที่พ่นออกมา
เดือนที่แล้วหยางเวยถูกเสวียนเทียนตบหนึ่งฝ่ามือเพิ่งรักษาหายดี แต่ฟันในปากยังไม่ทันได้งอกใหม่ดีครั้งนี้โดนตบเข้าอีกหนึ่งฝ่ามือ เสวียนเทียนลงมือหนักมากกว่าครั้งก่อนตบฟันของเขาร่วงหมดปากไปจริงๆ
หยางเวยร้องโอดโอย นอนหมอบอยู่ที่พื้นใบหน้าบวมปูด ปูดสูงเท่ากำปั้น หน้าทั้งหน้าราวกับหัวหมูเช่นนั้น
ร่างเงาของเสวียนเทียนราวกับภูตผีพลิ้วถอยกลับมาที่เดิมพูดเสียงเย็นว่า “ด่าทอดูิ่ศิษย์พี่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เ้านั่นแลที่เป็พวกนอกคอกไม่รู้ธรรมเนียมตบเ้าหนึ่งฝ่ามือเป็การลงโทษ ไสหัวไป!”
“เ้า...”
เจียงห้าวอวี่กดหน้าอก กดความโกรธแค้นในใจลงไปพูดว่า “รอศิษย์พี่ฉู่กับศิษย์พี่เติ้งกลับมาพวกเขาต้องจัดการเ้าแน่”
เสวียนเทียนยิ้มไม่สนใจ เอ่ยว่า “ต่อให้พวกเขากลับมาแล้วอย่างไร?พวกเ้ากล้าไม่เคารพศิษย์พี่ จะตบหน้าพวกเ้าเหมือนกันในสิบลมหายใจไสหัวไปจากสายตาข้า ไม่อย่างนั้นวันนี้พวกเ้าจะต้องคลานกลับไป”
คนเ่าั้มองเสวียนเทียนด้วยสายตาเคียดแค้นแล้วในใจก็เกิดความหวาดหวั่นตามมา พวกเขาเห็นความแน่วแน่ในดวงตาของเสวียนเทียน คำพูดที่พูดไม่ใช่ล้อเล่นเป็แน่
“พวกเราไป!” เจียงห้าวอวี่กัดฟันโบกมือ เดินนำถอยออกไป
คนเ่าั้รีบติดตามไป แต่เทียบกับตอนก่อนหน้าที่มาอย่างเชิดหน้าผยองในมือสะบัดพัดหญิงงาม ท่าทีสำราญใจ ตอนนี้กลับสะบักสะบอมจากไป
“ศิษย์พี่หวง พวกเราก็ขอลาแล้ว!”
ศิษย์ในรอบด้านหลังจากที่พวกเจียงห้าวอวี่เดินจากไปก็ทยอยกันเปิดปากพูด หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แยกย้ายกลับไป
พลังของเสวียนเทียนในวันนี้ทำให้ศิษย์สำนักในทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตื่นตะลึงไปแล้วแม้เสวียนเทียนจะเก็บซ่อนความสามารถที่แท้จริงชนะได้ ‘ยาปราณแท้ชั้นล่าง’ จากพวกเขาไปไม่น้อย แต่นี่ก็ไม่ใช่สาเหตุ
ถ้าไม่ใช่พวกเขาเห็นเสวียนเทียนเพิ่งเข้าสำนักในมาใหม่มองว่าเสวียนเทียนรังแกได้ง่ายๆ ชื่อดังเกินความสามารถจริงคิดอยากเอาชนะเสวียนเทียน เพื่อพิสูจน์ตำแหน่งของตนเองไหนเลยจะวิ่งมาท้าเสวียนเทียนสู้?
ไม่นาน ศิษย์ในด้านนอก ‘เรือนหวงเทียน’ ล้วนแยกย้ายกลับไป เหลือเพียงเฟิงปู๋จื้อ ซุนอี้ชิว กู้เชียนโหรวสสามคน
สามคนเดินมาหาเสวียนเทียนเฟิงปู๋จื้อเอ่ยว่า “ศิษย์น้อง...ตอนนี้ควรเรียกเ้าศิษย์พี่หวงแล้วนี่เป็ ‘ยาควบปราณแท้ชั้นล่าง’ ของเ้า”
เสวียนเทียนรับ ‘ยาควบปราณแท้ชั้นล่าง’ สี่ขวดมา เอ่ยว่า “ศิษย์พี่ศิษย์น้องก็เป็แค่คำเรียกขานตามมารยาทขอแค่เข้ากันได้ จะเรียกอย่างไรข้าก็ไม่สนใจ พวกเ้าไม่ต้องใส่ใจ”
“ศิษย์พี่หวง ท่านช่าง...ช่างทำให้พวกเราเปิดหูเปิดตานักไม่เพียงเหนือความคาดคิดของพวกเราแต่ก้าวล้ำไปกว่าหลักการธรรมดาที่ในใจพวกเราเคยรู้จัก ช่างเหลือเชื่อจริงๆ!” ซุนอี้ชิวสีหน้าตะลึงเอ่ยขึ้น
กู้เชียนโหรวที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าอย่างแรงเห็นด้วยกับคำพูดของซุนอี้ชิว
เฟิงปู๋จื้อพูดขึ้น “ศิษย์พี่ฉู่เฟิงตอนที่ชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งเอาชนะได้เพียงศิษย์ขั้นที่สองทั้งหมด แพ้ให้กับศิษย์ขั้นที่หนึ่งเทียบกับศิษย์พี่หวงแล้ว เห็นได้ชัดว่าศิษย์พี่ฉู่เฟิงหม่นแสงกว่าดูท่าศิษย์พี่หวงจะเป็ัที่แท้จริงตนหนึ่งของสำนักกระบี่์เราความสำเร็จในภายภาคหน้า ไร้ขีดจำกัด!”
เสวียนเทียนยิ้มบางๆ ทีหนึ่ง เอ่ยว่า “พลังวัตรของเ้าก็ก้าวขึ้นชั้นเบิกนภาขั้นสามแล้วอีกไม่นานต้องได้เป็หนึ่งในสิบศิษย์เอกสำนักในภายภาคหน้ากลายเป็ผู้าุโสำนักในของสำนักเราก็เป็เื่แน่นอน”
“ศิษยพี่เฟิงเป็แบบอย่างของข้า”ซุนอี้ชิวเอ่ยขึ้น
เฟิงปู๋จื้อเอ่ยว่า “ไม่เอาไหน จะหาคนเป็แบบอย่างนั่น เ้าต้องดูศิษย์พี่หวง”
ซุนอี้ชิวมองเสวียนเทียนทีหนึ่ง คอหดลงไปนิดหน่อยเอ่ยว่า “นี่จะห่างชั้นไกลเกินไปแล้วระยะห่างระหว่างกันไกลเกินหวัง ไม่มีวันตามทันได้”
เฟิงปู๋จื้อเอ่ยว่า “มีเป้าหมายที่ไล่ตามไม่ทันถึงจะเป็เส้นทางวิถียุทธ์ เดินไปไกลกว่าเดิม แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมก่อนหน้านี้เป้าหมายของข้าคือศิษย์พี่ฉู่เฟิงตอนนี้ต้องเปลี่ยนมาเป็ศิษย์พี่หวงแล้ว”
เสวียนเทียนไม่พูดจา มองคนทั้งสองทีหนึ่ง “พวกเ้าสองคนพอเถอะ ขืนยกยอต่อไปข้าจะขนลุกแล้ว”
ทั้งสองยิ้มอย่างเขินอาย เฟิงปู๋จื้อเอ่ยว่า “ที่ข้าพูดเป็ความจริงนะ แต่ศิษย์พี่หวงสิบศิษย์เอกสำนักในที่เป็ลูกน้องของศิย์พี่ฉู่เฟิง ไม่ใช่แค่เจียงห้าวอวี่คนเดียวเติ้งเฟยที่อยู่อันดับหนึ่ง มู่เหวินเจาอันดับสี่ หยางเทียนจวินอันดับห้าหลินหรูไห่อันดับเจ็ดล้วนเป็ลูกไล่ของศิษย์พี่ฉู่เฟิง ท่านเอาชนะเจียงห้าวอวี่ได้ย่อมต้องมีศิษย์ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าดาหน้ามาท้าสู้กับท่าน แต่ศิษย์เหล่านี้ล้วนอยู่ข้างนอกเก็บประสบการณ์เจียงห้าวอวี่วันนี้ก็เพิ่งกลับมาเอง”
เสวียนเทียนยิ้มบางแล้วเอ่ยว่า “ข้าศึกมาแม่ทัพต้าน น้ำมาดินขวางขอเพียงพวกเขาอยากสู้กับข้า เช่นนั้นข้าก็มีเพียงต้องร่วมมือด้วยแล้ว แต่ข้าเตรียมตัวจะออกไปเก็บประสบการณ์ข้างนอกสักระยะหาแต้มภารกิจ ภายในเวลาอันใกล้นี้ พวกเขาอย่าได้คิดมาท้าสู้กับข้า”
“ศิษย์พี่หวงก็จะออกไปเก็บประสบการณ์?เตรียมตัวทำภารกิจอะไรของสำนักหรือ?” ซุนอี้ชิวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ยังไม่ได้คิดถึงเวลาไปตำหนักภารกิจดูเสียหน่อย สำนักมีภารกิจอะไร ได้แต้มภารกิจโดยเร็วบ้าง”
เสวียนเทียนมองสีหน้าของทั้งสามคน ถามขึ้น “ทำไมพวกเ้าก็จะออกไปเก็บประสบการณ์ด้วยหรือ?”
ทั้งสามคนพยักหน้า เฟิงปู๋จื้อเอ่ยขึ้น “ถ้าพูดถึงจะหาแต้มภารกิจได้มากหน่อยก็ต้องเป็สังหารมหาโจรแห่งยุทธภพที่สำนักประกาศ้าตัวเ่าั้เพียงแต่โจรร้ายแห่งยุทธภพเหล่านี้น้อยนักจะเปิดเผยร่องรอยอีกทั้งยังเ้าเล่ห์ยิ่งนัก โชคดีทำภารกิจสำเร็จในเวลาอันสั้นถึงจะได้ผลประโยชน์มากหน่อย โชคไม่ดี ตามหาหลายเดือน อาจถึงขั้นที่หน้าก็ยังไม่ได้พบนอกจากภารกิจนี้ การเสาะหาวัตถุดิบทำ ‘ยาควบปราณแท้’ ให้สำนักก็เป็ภารกิจที่ไม่เลว เพียงแต่วัตถุดิบ ‘ยาควบปราณแท้’ ล้วนเป็สมุนไพรทิพย์ชั้นนิลโดยทั่วไปเติบโตอยู่ในเขตที่สัตว์อสูรขั้นสามขั้นสี่มักจะออกมาเพ่นพ่าน เทียบกันแล้วค่อนข้างอันตราย”
‘ยาควบปราณแท้’ แบ่งออกเป็ชั้นสูง ชั้นกลาง ชั้นล่าง เป็ยาควบปราณที่ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาจำเป็ต้องใช้ฝึกฝนปริมาณความ้ามากอย่างยิ่ง แม้ว่าสำนักกระบี่์จะมีสวนสมุนไพรของตนเองแต่ก็ไม่เพียงพอกับความ้าอีกมาก ดังนั้นต้องออกไปข้างนอกเพื่อซื้อหาแล้วสถานที่ซึ่งอัดแน่นด้วยไอิญญาลึกเข้าไปในยอดเขาสูงชันหลายแห่งก็ง่ายที่จะปรากฏสัตว์อสูรดังนั้นสถานที่ซึ่งสมุนไพรทิพย์เติบโตขึ้นเองข้างนอกโดยส่วนใหญ่จะเป็สถานที่ซึ่งสัตว์อสูรใช้ชีวิตอยู่
สำนักกระบี่์มีภารกิจเก็บวัตถุดิบสมุนไพรทิพย์ของ ‘ยาควบปราณแท้’ โดยเฉพาะศิษย์สำนักใน เพียงเก็บสมุนไพรทิพย์วัตถุดิบ ‘ยาควบปราณแท้’ มา ก็นำมาแลกแต้มภารกิจที่สอดคล้องกันที่สำนักได้แน่นอนว่าสมุนไพรทิพย์ชั้นนิลชนิดอื่นก็นำมาแลกเปลี่ยนได้เช่นกัน
ซุนอี้ชิวตื่นเต้นพูดขึ้น “ครั้งก่อนพวกเราตามล่ามือกระบี่เงาผีหนึ่งเดือนกว่าแล้วไม่ได้พบหน้าเขา หากไม่ใช่ว่าได้ศิษย์พี่หวงช่วย อาจต้องตามเสียเปล่าแล้วตามล่าโจรร้ายแห่งยุทธภพเอาแน่เอานอนไม่ได้ ศิษย์พี่หวง ไม่สู้ท่านไปกับพวกเราเข้าไปในเขตลึกเทือกเขาเร้นลม ตามหาสมุนไพรทิพย์ชั้นนิลกันเถอะ”
เสวียนเทียนพยักหน้า เอ่ยว่า “ก็ดี ไปด้วยกันจะได้มีคนดูแลกันและกันได้”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้