เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ความเงียบสงบดุจภาพวาดของเมืองแซมบอร์ดค่อยๆ กลายเป็คึกครื้นขึ้นมา
อีกไม่ถึงสี่วัน องค์าาอเล็กซานเดอร์ก็จะอายุครบสิบแปดปีเต็ม และจะได้รับการแต่งตั้งจากตัวแทนของจักรพรรดิยาซิน องค์หญิงนาตาชาแห่งราชอาณาจักรเซนิท ขึ้นเป็าาอย่างเป็ทางการ กลายเป็าาองค์ที่แปดของอาณาจักรแซมบอร์ด อาณาจักรบริวารระดับหกแห่งราชอาณาจักเซนิท
ใน่ครึ่งเดือนที่ผ่านมา มีเื่ราวมากมายที่เมืองแซมบอร์ดได้ประสบพบเจอ และในตอนนั้นก็เป็อเล็กซานเดอร์ที่ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าอย่างไม่น่าเชื่อ จากเด็กปัญญาอ่อนที่ผู้คนหัวเราะเยาะ กลายเป็าาที่แท้จริงที่ทุกคนในเมืองแซมบอร์ดให้การเคารพ ดังนั้น ทุกคนในเมืองจึงเฝ้ารอคอยให้วันนั้นมาถึง
เมื่อเวลาใกล้จะมาถึง ทุกคนต่างเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเฉลิมฉลองการแต่งตั้งาา
เื่อะไรก็ตามที่จำเป็สำหรับพิธีที่ยิ่งใหญ่ต้องหลีกทางให้ก่อน แม้แต่บรู๊คและเลขานุการเบสท์ สองผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองและทางการทหารของเมืองแซมบอร์ดที่แม้ว่าจะยุ่งอยู่กับการปฏิรูปทางทหารและการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นก็ยังต้องวางงานหนักๆ นั้นลงก่อนและเริ่มทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดในการเตรียมงานเฉลิมฉลองาาภิเษกของอเล็กซานเดอร์
ตามประเพณีปฏิบัติของเมืองแซมบอร์ด สถานที่จัดพิธีจะถูกเลือกยอดูเาที่สูงที่สุดทางทิศตะวันออกในเมือง หลังจากนี้อีกสี่วัน เมื่อแสงแรกของพระอาทิตย์สีทองสาดส่องทะลุผ่านเมฆหมอกลงมา ก็ถือว่าได้เวลาสำหรับการขึ้นครองบัลลังก์ของอเล็กซานเดอร์แล้ว
ถึงแม้ซุนเฟยจะขอร้องให้จัดพิธีแบบเรียบง่าย แต่ในทุกๆ วันก็ยังคงมีวัสดุที่ใช้ในพิธีจำนวนมากอยู่ดี ซึ่งทั้งหมดถูกลำเลียงขึ้นไปบนยอดูเาทางทิศตะวันออกอย่างต่อเนื่อง ทุกคนต่างทุ่มเททุกอย่างเพราะอยากเตรียมพิธีการขึ้นครองบัลลังก์ครั้งนี้ให้กลายเป็เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองแซมบอร์ด การกระทำก่อนหน้านี้ของซุนเฟยได้เอาชนะใจประชาชนทุกคนในเมืองทั้งหมด ในก้นบึ้งของหัวใจของทุกคนยินดีที่จะอยู่ภายใต้การปกครองขององค์าาที่แสนเมตตาคนนี้ ชายหญิงเด็กชราต่างพากันมะรุมมะตุ้มช่วยกัน ใครมีเงินออกเงิน ใครมีแรงออกแรง ใครมีวัสดุออกวัสดุ ทั้งหมดจัดเตรียมกองทัพใหญ่เข้าร่วมพิธี
ที่หลายคนประหลาดใจมากก็คือ นักบวชแมซโซลาและอัศวินลูเซียโนของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์แซมบอร์ดก็มาเข้าร่วมด้วย นักบวชและเหล่าอัศวินข้าราชบริพารของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ต่างแสดงท่าทางตื่นเต้นคึกคักอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนออกมา พวกเขาต่างให้การสนับสนุนทางการเงินเป็จำนวนมาก แมซโซลาและลูเซียโนต่างขึ้นไปบนยอดเขาด้วยตัวเองเพื่อทำการสวดมนต์ในตอนเช้าด้วยท่าทางสุขุมจริงจังเหมือนสี่วันต่อจากนี้ ผู้ที่ขึ้นครองบัลลังไม่ใช่อเล็กซานเดอร์ แต่เป็บิชอปเซิร์จเยเรมี
และตอนนี้ก็มีแขกที่เดินทางไกลเข้ามาที่เมืองแซมบอร์ดแล้ว
พวกเขาได้ยินข่าวที่ว่าอเล็กซานเดอร์จะขึ้นครองบัลลังก์ อาณาจักรเล็กๆ ที่เป็อาณาจักรบริวารของราชอาณาจักรเซนิทในระดับเดียวกันจำนวนไม่น้อยที่อยู่รอบๆ เมืองแซมบอร์ดต่างส่งตัวแทนมาอวยพร แน่นอนว่าอาณาจักรบริวารของราชอาณาจักรเซนิทมีทั้งหมดสองร้อยห้าสิบอาณาจักร และพวกเขาต่างตั้งคำถามอย่าสงสัยว่าอาณาจักรแซมบอร์ดจะสามารถรักษาตำแหน่งอาณาจักรบริวารระดับหกได้หรือไม่ในการซ้อมรบของราชอาณาจักรเซนิทที่ใกล้จะมาถึง
……
ยามเช้า เสียงนกร้องดอกไม้แย้มบาน
ห้องโถงราชวงศ์
ในสระน้ำเล็กกลางห้องโถงที่มีน้ำไหลเชี่ยวกราก หมู่ปลาสีแดงต่างสะบัดหางว่ายซุกซน บนเก้าอี้สองฝั่งของสระน้ำเต็มไปด้วยเหล่าผู้นำเมืองแซมบอร์ดที่มาชุมนุมกัน และกำลังจัดการประชุมเกี่ยวกับพิธีขึ้นครองบัลลังก์ของอเล็กซานเดอร์
การประชุมใหญ่ครั้งนี้ นอกจากผู้นำเหล่าทหารและเหล่าขุนนางแล้ว ยังได้เชิญบุคคลที่มีพฤติกรรมที่ดีและได้รับความเคารพจากคนในอาณาจักรมาเข้าร่วมการประชุมบางส่วนอีกด้วย
บนเก้าอี้หินตัวแรกที่อยู่ทางซ้ายมือใต้บัลลังก์เป็เลขานุการเบสท์ที่กำลังนำเสนอข้อมูล
“...องค์ชายโอบินนาแห่งอาณาจักรเธรซ องค์ชายมอดริชแห่งอาณาจักรเล็กซัส องค์ชายต้าเหลยแห่งอาณาจักรเซินฮัว ทูตแนตูอาณาจักรแบล็กสโตน ทูตจากอาณาจักรฉ่านป้า ทูตจากอาณาจักรหลู่เหนิง อาณาจักรจินอ้าว อาณาจักรจินซาน อาณาจักรเหิงต้า อาณาจักรเรย์เมอร์...”เบสท์ร่ายชื่ออาณาจักรยี่สิบกว่าอาณาจักรจนครบ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่ทุกคนบนเก้าอี้หิน จากนั้นก็พูดต่อไปว่า “นี่คือรายชื่อทูตของทุกอาณาจักรที่มาอวยพรองค์าาอเล็กซานเดอร์ขึ้นครองบัลลังก์”
“อาณาจักรเธรซ อาณาจักรบริวารระดับสามก็ยังส่งคนมาหรือ?” บรู๊คที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านขวามือใต้บัลลังก์ซุนเฟย ได้ยินชื่อนี้ก็ต้องขมวดคิ้ว ดูเหมือนคิดอะไรบางอย่างก่อนจะโพล่งออกมา “พวกเขาไม่ใช่พันธมิตรของเมืองแบล็กสโตนหรือ? แม้แต่องค์ชายโอบินนาที่ถูกเรียกว่าหนึ่งใน ‘ห้าอินทรี’ ขององค์ชายในอาณาจักรทั้งสองร้อยห้าสิบแห่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็ยังมาหรือ?”
“ห้าอินทรี?” ชื่อนี้ทำให้ซุนเฟยรู้สึกแปลกๆ
“ขอรับฝ่าา ในบรรดาอาณาจักรสองร้อยห้าสิบอาณาจักรภายใต้ราชอาณาจักรเซนิท ในบรรดาองค์ชายของทุกราชวงศ์จะปรากฏองค์ชายยอดฝีมือขึ้นมาไม่น้อย พวกเขาแต่ละคนต่างมีพร์ที่ยอดเยี่ยมจนน่าใ และได้รับการปลูกฝังเลี้ยงดูจากราชวงศ์ และถูกผู้คนจัดกลุ่มเรียกกันว่า ‘สิบวีรบุรุษ’ ‘เก้าผู้ทรงอำนาจ’ ‘แปดยอดอัจฉริยะ’ ‘เจ็ดหมาป่า’ ‘หกผู้ทรนง’ ‘ห้าอินทรี’ ‘สี่คมดาบ’ ‘สามผู้เย่อหยิ่ง’ ‘สองผู้ซ่อนเร้น’ ‘หนึ่งกระบี่’ องค์ชายโอบินนาก็คือ ‘ปีกอินทรี’ หนึ่งใน ‘ห้าอินทรี’ ตามข่าวลือ ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับสี่ดาว นอกจากนี้อาณาจักรขององค์ชายโอบินนาก็อยู่ในระดับอาณาจักรบริวารระดับสามอีกด้วย แต่เขามักสนิทสนมกับคู่แข่งของเราอย่างอาณาจักรแบล็กสโตน ถือเป็หนึ่งในศัตรูของเมืองแซมบอร์ด คาดไม่ถึงว่าเขาจะส่งคนมาเข้าร่วมพิธีขึ้นครองบัลลังก์ของฝ่าา และคนที่มาก็ยังเป็องค์ชายโอบินนา ‘ปีกอินทรี’ ...ข้าสงสัยว่าพวกเขามีไม่ได้มาดี ต้องมีเจตนาร้ายเป็แน่”
บรู๊คได้ยินคำถามของซุนเฟยจึงรีบลุกขึ้นแล้วแนะนำความเป็มาของ ‘ห้าอินทรี’ อย่างคร่าวๆ และอธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเมืองแซมบอร์ดและอาณาจักรเธรซให้ฟัง
ซุนเฟยพยักหน้า ในใจก็เริ่มกระจ่างขึ้น
แค่อาณาจักรบริวารระดับสาม มีองค์ชายที่มีความแข็งแกร่งระดับสี่ดาว ก็ทำให้ในใจของซุนเฟยตะลึงเล็กน้อย และนอกจาก ‘ห้าอินทรี’ ก็ยังมี ‘สิบวีรบุรุษ’ ‘เก้าผู้ทรงอำนาจ’ ‘แปดยอดอัจฉริยะ’ ‘เจ็ดหมาป่า’ ‘หกผู้ทรนง’ ‘สี่คมดาบ’ ‘สามผู้เย่อหยิ่ง’ ‘สองผู้ซ่อนเร้น’ ‘หนึ่งกระบี่’ เห็นได้ชัดว่าบทบาทของคนเหล่านี้ไม่คนธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิบคนที่เป็ ‘สี่คมดาบ’ ‘สามผู้เย่อหยิ่ง’ ‘สองผู้ซ่อนเร้น’ ‘หนึ่งกระบี่’ ก่อนหน้า ‘ห้าอินทรี’ ต้องมีพลังที่อาจจะมากกว่าสี่ดาว เห็นได้ชัดว่าต้องมีพลังที่น่าเกรงขามเป็แน่
การค้นพบครั้งนี้ทำให้ซุนเฟยรู้สึกเร่งร้อน เหมือนกบตัวน้อยนั่งอยู่ที่ด้านล่างของบ่อน้ำ...ทีแรกคิดว่าการพัฒนาเมืองแซมบอร์ดเร็วๆ นี้ไม่เลว แต่ต้องพบว่ามันยังไม่พอ อาศัยแค่ ‘น้ำยาฮัลค์’ คงไม่พอ
“แต่นอกจากนี้ อาณาจักรเล็กซัสที่อยู่ในระดับสี่ก็เป็พันธมิตรกันกับอาณาจักรแซมบอร์ด องค์าาบล็องก์แห่งราชอาณาจักรเล็กซัสกับพระบิดาของฝ่าาก็มีความสัมพันธ์สนิทชิดเชื้อกันเหมือนพี่น้อง ครั้งนี้ได้ส่งองค์ชายน้อยมอดริชมาร่วมแสดงความยินดีกับฝ่าา อายุเพียงสิบหกปีก็ได้เป็หนึ่งใน ‘สิบวีรบุรุษ’ มีความแข็งแกร่งสองดาว อนาคตไม่มีที่สิ้นสุด ข้าคิดว่าฝ่าาควรพบปะกับองค์ชายมอดริชเสียหน่อย” เบสท์เสนอขึ้นมา
“อืม เกี่ยวกับเื่การต้อนรับทูต เื่นี้ท่านไปจัดการเถอะ มีผลอะไรก็มาแจ้งข้าด้วย”
ซุนเฟยได้รับความคิดมากมายจากการประชุมครั้งนี้ เื่เล็กน้อยนับไม่ถ้วนทับถมกันจนยิ่งยุ่งยาก ไม่ใช่เื่ง่ายๆ ที่ตัวเองจะชอบ เขาคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็โยนงานไปให้บรู๊คและพ่อตาในอนาคต จากนั้นก็ปัดตูดเดินออกจากห้องโถง
บรรดาขุนนางในห้องโถงต่างมองหน้ากัน
มีกี่คนในโลกนี้ที่้าที่จะขึ้นไปสู่บัลลังก์อันสูงส่ง หลายคนที่ขึ้นครองบัลลังก์แล้วก็พากันกุมอำนาจไว้ในมืออย่างแ่าด้วยกลัวว่าจะถูกคนอื่นแบ่งไป แต่อเล็กซานเดอร์กลับตรงกันข้าม เขาเหมือนหลบหนีภัยพิบัติของพระเ้า ช่างเป็องค์าาที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครเลยจริงๆ แต่ใครจะช่วยให้เหล่าขุนนางในห้องโถงออกจากบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจนี้ได้กัน?
“พวกเรา...ประชุมกันต่อเถอะ”
เบสท์ส่ายหน้าแล้วยิ้มอย่างขมขื่น “ได้ข้อสรุปอย่างไรข้าจะนำไปแจ้งแก่ฝ่าาเอง ให้ท่านตัดสินใจอีกที”
เมื่อไม่มีทางเลือก ลูกเขยี้เีแล้วจะบังคับอะไรได้ แต่เพื่อลูกสาวสุดที่รักของตัวเอง เขากลับี้เีไม่ได้ จำเป็ต้องช่วยลูกเขยจอมี้เีเช็ดทำความสะอาด
……
ด้านหลังูเาเมืองแซมบอร์ด เรือนจำหลังเก่า
ที่นี่ถูกสั่งให้เป็เขตหวงห้ามและถูกปิด แน่นอนว่าดูเผินๆ เหมือนไม่มีเงื่อนงำใดๆ ทหารก็ยังคงเฝ้ารักษาการเหมือนเดิม มีสี่ห้าคนเท่านั้น พวกเขายืนกระจายกันตรงทางเข้า ท่าทีดูหละหลวมอย่างมาก แต่ในความมืดมีนักรบยี่สิบสองคนอยู่ตรงขอบบันไดหิน เดินทางผ่านทหารที่ลาดตระเวนเดินเลียบเคียงขึ้นไปยังเส้นทางบนูเาอย่างเงียบๆ แม้แต่ยุงก็ไม่สามารถตรวจพบได้
ซุนเฟยในฐานะาา สามารถเข้าออกเขตหวงห้ามได้อย่างราบรื่น ตลอดการเดินทาง ไม่มีใครมาขวางเขาที่ตรงไปยังเขาวงกตใต้ดิน
ภายในเขาวงกตใต้ดินที่เงียบและมืดสนิทไร้แสงตะวัน ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
เมื่อเทียบกับด้านนอกที่เงียบสงบ ด้านในกลับดูคึกคักมาก ทุกที่เต็มไปด้วยเสียงโลหะกระทบดังกึงๆ พัศดีโอเลเกร์และผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์แปเตอร์ แช็คกำลังโบกมือสั่งการทหารจำนวนนับร้อยนายที่ถูกคัดเลือกมาตามพิมพ์เขียวที่ซุนเฟยวาดลงบนม้วนคัมภีร์หนังสัตว์ พวกเขากำลังซ่อมแซมเรือนจำกันอยู่
ทหารหนึ่งร้อยกว่านายที่กำลังทำงานต่างเป็ทหารชั้นยอด ภูมิหลังสะอาด มีความจงรักภักดี ซึ่งบรู๊คคัดเลือกมาจากในเมืองแซมบอร์ดตามคำบัญชาของซุนเฟยก่อนหน้านั้น พวกเขาต่างดื่มน้ำที่มี ‘น้ำยาฮัลค์’ เจือจางเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง แม้ว่าจะไม่มีใครสามารถสู้กับนับกรบหนึ่งดาวได้ แต่พลังกล้ามเนื้อของทุกคน อย่างน้อยก็สามารถยกของได้ประมาณพันจิน เทียบเท่าได้กับนักรบทั้งยี่สิบสองคนในการต่อสู้บนสะพานก่อนหน้านี้ได้ ยิ่งผ่านการฝึกอบรมจากยอดฝีมืออย่างแปเตอร์ แช็คอย่างเข้มงวด กองทัพเหล็กไหลจึงเริ่มเป็รูปเป็ร่างมากขึ้น
เรือนจำยังคงมืดมิด กำลังเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย
เครื่องมือทรมานและรั้วเหล็กที่เปื้อนเืถูกถอดออก ทางเดินลึกเข้าไปจะมีพื้นที่กว้างขวางใหญ่โตเหมือนในห้องโถงั์ ตอนนี้ได้สร้างเตาหลอมเหล็กขึ้นหลายสิบเตา ปรมาจารย์ช่างตีเหล็กที่ดีที่สุดของเมืองแซมบอร์ดได้นำลูกศิษย์ของตัวเองมาที่นี่ภายใต้การช่วยเหลือของเหล่าทหาร พวกเขาส่งรั้วเหล็กเข้าเตาเพื่อหลอมละลายอย่างต่อเนื่อง ตามพิมพ์เขียวที่ซุนเฟยวาดให้สร้างของแปลกๆ ออกมาใหม่ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ดาบหรือชุดเกราะ คนส่วนใหญ่ก็ดูไม่ออกเช่นกันว่าสิ่งแปลกๆ พวกนี้คืออะไร
--------------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้