ห้องเก็บของของตระกูลหานตั้งอยู่ด้านหลังเรือนไป๋เฉ่าซึ่งเป็ที่อยู่อาศัยหลักของหานฉงอัน มันเป็ห้องเก็บของลับใต้ดิน มีองครักษ์คอยผลัดเวรเฝ้าห้องเก็บของที่ประตูทางเข้า และองครักษ์เหล่านี้ก็มีความสามารถไม่น้อย แต่ละคนล้วนแต่เก่งกาจด้านวิทยายุทธ์ แม้ว่าหานฉงอันจะถูกคุมขัง ทว่าพวกเขาก็ยังคงอยู่ที่นี่เพื่อรอให้ผู้นำตระกูลคนต่อไปปรากฏตัว
ห้องเก็บของเป็พื้นที่ต้องห้าม ไม่อนุญาตให้เข้าใกล้ตามอำเภอใจ ไกลจากห้องเก็บของ คนรับใช้ก็หยุดฝีเท้าลง “เชิญหวังเฟยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะรอท่านอยู่ที่นี่”
หานอวิ๋นซีเดินเข้าไป ทันใดนั้นองครักษ์ก็ก้าวมาขวางนางไว้ “ใครกัน กล้าเข้าใกล้ห้องเก็บของโดยไม่ได้รับอนุญาต?”
“หานอวิ๋นซี บุตรสาวคนโต” หานอวิ๋นซีตอบอย่างเ็า
องครักษ์มองอย่างจริงจัง เช่นนั้นจึงจะจำหานอวิ๋นซีขึ้นมาได้ ทว่ายังคงมีสีหน้าที่เรียบเฉย “ในเมื่อเป็คุณหนูใหญ่ เช่นนั้นก็ควรที่รู้กฎของตระกูลหาน”
หานอวิ๋นซีหยิบกุญแจห้องเก็บของออกมาอย่างใจเย็น “การเห็นกุญแจห้องเก็บของก็เหมือนกับการได้พบผู้นำของตระกูล พวกเ้าเองก็คงจะรู้เหมือนกันสินะ”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ องครักษ์ก็ใ เหล่าองครักษ์หลายคนก็โน้มตัวมาและรู้ว่านั่นคือกุญแจของห้องเก็บของของจริง
แน่นอนว่าการได้เห็นกุญแจห้องเก็บของก็เหมือนได้พบผู้นำของตระกูล พวกเขาที่เป็คนรับใช้ ไม่มีสิทธิ์ถามหานอวิ๋นซีว่าได้กุญแจมาจากไหน ทำได้เพียงปล่อยนางไปด้วยความเคารพเท่านั้น
หานอวิ๋นซีเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ั้แ่ยังเด็ก นางได้ยินมาว่าห้องเก็บของของตระกูลหานนั้นใหญ่มาก แต่เมื่อเดินเข้าไปด้วยตัวเองถึงได้รู้ว่ามันใหญ่มากขนาดไหน
เมื่อใช้กุญแจเปิดประตูห้องเก็บของใหญ่ ก็พบว่ามีสองห้องทางซ้ายและขวา ทางซ้ายคือคลังเงิน เต็มไปด้วยทองแท่งและเงินมากมายซึ่งเป็เงินสำรองของตระกูลหาน มันจะไม่ถูกนำมาใช้อย่างเด็ดขาด เว้นแต่จะเป็ทางเลือกสุดท้าย
ทางด้านขวาคือคลังยา ทันทีที่หานอวิ๋นซีมาถึงประตู กลิ่นของยาก็โชยมากระทบใบหน้า กลิ่นที่คุ้นเคยนี้ทำให้นางรู้สึกดีขึ้นมาก
คลังยานี้เป็เหมือนห้องตำราเล็กๆ มีชั้นวางยาสูงตระหง่านหลายชั้น มีการแบ่งประเภทของวัตถุดิบยาที่ด้านข้างของชั้นวางยาแต่ละชั้น และชื่อของยาจะเขียนไว้ที่ด้านหน้าของลิ้นชักบนชั้นวาง การจำแนกประเภทมีรายละเอียดชัดเจนและง่ายต่อการค้นหา
ในไม่ช้า หานอวิ๋นซีก็พบยาพิษชนิดหนึ่ง ตระกูลหานไม่ใช่ตระกูลยาพิษแต่เป็ตระกูลแพทย์ ยาพิษในที่นี้ไม่ใช่ยาพิษในความหมายที่แท้จริง แต่เป็สมุนไพรพิษที่สามารถใช้เป็ยาได้
ถ้าไม่หาดูก็คงไม่รู้ แต่เมื่อหาเจอก็ใ ตำแหน่งที่เก็บยาของตระกูลหานนั้นอยู่สูงกว่าที่หานอวิ๋นซีคิดไว้มาก เพียงแต่น่าเสียดายที่นางค้นลิ้นชักทุกลิ้นชักในหมวดหมู่ยาพิษทีละรายการ แม้กระทั่งตู้ที่แอบอยู่นางก็ค้นหาทั้งหมดแล้ว ทว่ากลับพบแค่เพียงพิษงูทั่วไปของงูเจ็ดชนิด และไม่พบอีกสามชนิดที่นางกำลังมองหา
ดูเหมือนว่าพิษงูสามชนิดไม่ได้มาจากตระกูลหาน และเงื่อนงำนี้ก็ถูกตัดไปอีกครั้ง
หานอวิ๋นซีปิดลิ้นชักสุดท้ายและถอนหายใจเบาๆ ในขณะเดียวกัน หางตาก็เหลือบไปเห็นโต๊ะที่มีหนังสือหลายเล่มวางอยู่ จึงพลิกดูไปมาอยู่ครู่หนึ่ง
หานอวิ๋นซีเดินเข้าไป พลิกไปที่ปกและเห็นคำว่าตำราแพทย์ตระกูลหานตัวโตๆ อยู่บนหน้าปก ที่แท้สิ่งนี้ก็อยู่ที่นี่นี่เอง!
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หานอวิ๋นซีก็เก็บตำราแพทย์ตระกูลหานลงในแขนเสื้อ ริมฝีปากของนางก็ยกยิ้มอย่างมีเลศนัย และพูดกับตัวเองว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะให้อี้เอ๋อร์ ข้าเก็บไว้ก่อนก็แล้วกัน!”
ตลอดทางออกจากห้องเก็บของ หานอวิ๋นซีก้มหน้าลงครุ่นคิด ความสงสัยในตระกูลหานสามารถตัดออกได้แล้ว ตอนนี้ต้องดูว่าทางฝั่งมู่ชิงอู่พบเบาะแสบ้างหรือไม่
หวังเป็อย่างยิ่งว่าจะได้เจอกับกู้เป่ยเยวี่ยในเร็วๆ นี้ หากมีหนทางของเขา นางจะได้ไม่ต้องตามหาอย่างลำบากเช่นนี้
หลังจากออกจากห้องเก็บของได้ไม่นาน คนรับใช้ที่เฝ้าอยู่ที่ประตูก็เดินเข้ามาหา “หวังเฟย จะเสด็จกลับจวนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? กระหม่อมจะได้ไปส่งท่าน”
หานอวิ๋นซีหรี่ตามองเขาและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เ้าชื่ออะไร?”
“ทูลหวังเฟย กระหม่อมมีนามว่าหวังเสี่ยวซื่อ เป็หัวหน้าที่ประตูใหญ่ กระหม่อมรู้ทุกเื่ที่เข้าออกในจวนพ่ะย่ะค่ะ” หวังเสี่ยวซื่อตอบอย่างเร่งรีบ
หานอวิ๋นซีที่กำลังกังวลว่าจะไม่มีใครว่าง แต่คิดไม่ถึงว่าจะส่งคนที่มีประโยชน์เช่นนี้มาให้นาง
นางพูดกระซิบว่า “ดูแลทางฝั่งอี๋เหนียงเจ็ดให้มากหน่อย เข้าใจหรือไม่?”
ขณะที่พูด ก็โยนเงินให้ “ไปดื่มกับพวกพี่น้องเสีย ข้าจำทางไปจวนตระกูลหานได้!”
หวังเสี่ยวซื่อที่เป็คนฉลาด รับเงินมาอย่างมีความสุขและพูดขอบคุณนางครั้งแล้วครั้งเล่า “ขอบพระทัยสำหรับความกรุณาของหวังเฟย กระหม่อมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อท่าน”
หานอวิ๋นซีที่เดินออกไปไกลแล้ว ทว่าหวังเสี่ยวซื่อยังคงยืนอยู่ที่เดิมและจมอยู่ในความสุข เขาเป็องครักษ์เฝ้าประตูมาหลายปีแล้ว และในที่สุดวันนี้เขาก็ได้รับโอกาสเลื่อนขั้น แล้วจะไม่ให้เขามีความสุขได้อย่างไรกัน?
ไม่ต้องพูดถึงสถานะอันสูงส่งของฉินหวังเฟยหรอก แค่บอกว่านางมีกุญแจห้องเก็บของอยู่ในมือ ในภายภาคหน้า หากไม่ใช่นางที่เป็ผู้นำตระกูลแล้วจะเป็ใครล่ะ? ในการต่อสู้ของตระกูลใหญ่ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนตัวเล็กๆ อย่างเขาในการยืนหยัดในฝักฝ่าย ตราบเท่าที่เขาติดตามฉินหวังเฟย ไม่ผิดฝ่ายในการต่อสู้เพื่อการเป็ผู้นำตระกูลอย่างแน่นอน
หลังจากเลือกฝ่ายได้แล้ว แน่นอนว่าเขาต้องลากเหล่าพี่น้องมาเพื่อรับใช้อี๋เหนียงเจ็ด เมื่อคิดเช่นนี้ หวังเสี่ยวซื่อก็รวบรวมเงินอย่างมีความสุขก่อนที่จะรีบออกไป
ในขณะเดียวกัน หลี่ซื่อที่อยู่ข้างๆ ก็เดินออกมาจากพุ่มไม้ นางมองไปยังทางเข้าห้องเก็บของซึ่งอยู่ไม่ไกล จากนั้นก็มองไปที่ด้านหลังของหวังเสี่ยวซื่อด้วยรอยยิ้มเหยียดหยาม...
การแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลหานเป็เื่เร่งด่วน แต่การเดิมพันระหว่างหานอวิ๋นซีและมู่หลิวเยวี่ยนั้นเร่งด่วนยิ่งกว่า มีเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น และเพียงพริบตาเดียวก็ผ่านไปเกือบสิบวันแล้ว
หานอวิ๋นซีกลับมาที่จวนและรอเป็เวลาสองวัน เดิมทีนางคิดว่ากู้เป่ยเยวี่ยน่าจะมีเวลาพบนางได้แล้ว ใครจจะรู้ว่าการรอคอยนี้จะมีข่าวที่น่าสลดใจอย่างมากมาถึง
“หวังเฟย พ่อบ้านของจวนกู้บอกว่าหมอหลวงกู้จะไม่ออกจากวังเป็เวลาหนึ่งเดือน ส่วนรายละเอียดนั้น กระหม่อมบอกไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ” คนรับใช้บอกความจริง
“อะไรนะ?” หานอวิ๋นซีใ
คนรับใช้คิดว่านางไม่เข้าใจจึงรีบพูดอีกครั้งว่า “พ่อบ้านของจวนกู้บอกว่าหมอหลวงกู้จะอยู่ในวังและจะไม่ออกจากวังเป็เวลาหนึ่งเดือน กระหม่อมถามถึงเหตุผล แต่พ่อบ้านบอกว่าเขาไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ”
ใบหน้าของหานอวิ๋นซีถึงกับซีดเซียว ถ้าหมอหลวงกู้ไม่ออกจากวังเป็เวลาหนึ่งเดือน แสดงว่าอาการของฮ่องเต้เทียนฮุยทรุดลง! เื่แบบนี้ พ่อบ้านอาจจะไม่รู้ แต่ถึงจะรู้ ก็คงไม่กล้าพูด
“ซวยแล้ว!"
หานอวิ๋นซีพึมพำกับตัวเอง นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วไปที่จวนแม่ทัพมู่ทันที
“หวังเฟย กระหม่อมกำลังจะไปรายงานพอดีเลยพ่ะย่ะค่ะ ไม่คาดคิดว่าท่านจะมาที่นี่” มู่ชิงอู่รู้สึกประหลาดใจและแอบดีใจอยู่ในใจ โชคดีที่หลิวเยวี่ยถูกเพื่อนชวนออกไปข้างนอก ไม่เช่นนั้นหากให้นางได้เจอกับฉินหวังเฟย ไม่รู้ว่าจะมีเื่วุ่นวายอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่
“มีอะไรผิดปกติกับสิ่งที่เ้าไปตรวจสอบครั้งก่อนหรือไม่?” หานอวิ๋นซีถาม
ครั้งที่แล้ว จากการวิเคราะห์คุณสมบัติทางยาและความถี่ของพิษงูหมื่นตัว คนที่วางยาอาจเป็คนจากตระกูลมู่หรือคนที่มาเยี่ยมตระกูลมู่บ่อยๆ หากเป็คนภายใน ก็ต้องมีคนที่มาส่งพิษให้เป็ประจำ
มู่ชิงอู่เองก็จนปัญญาอย่างมาก “หวังเฟย กระหม่อมได้ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้ว...”
ก่อนที่มู่ชิงอู่จะพูดจบ หานอวิ๋นซีที่เห็นคิ้วขมวดอย่างคร่ำเครียดของเขาก็รู้ได้ว่าไม่มีผลลัพธ์ใดๆ และเงื่อนงำนี้ก็พังทลายเช่นกัน
ทำไมถึงกลายเป็แบบนี้?
เหตุผลของพวกเขาไม่มีทางผิดพลาด พิษงูหมื่นตัวต้องใช้ให้หมดภายในหนึ่งวันหลังจากเตรียม มิฉะนั้น มันจะมีสีและกลิ่น ด้วยความระมัดระวังของมู่ชิงอู่แล้ว ไม่มีทางที่เขาจะไม่สังเกตเห็นอย่างแน่นอน
และหาก้าสะสมสารพิษในร่างกาย อย่างน้อยต้องวางยาทุกๆ สองหรือสามวัน และไม่ว่าจะพูดอย่างไร ผู้ที่วางยาจะต้องมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับจวนแม่ทัพอย่างมาก
เพียงแต่ทุกคนที่มีความเป็ไปได้ ก็ได้ทำการสอบสวนและสอบปากคำเพื่อตรวจสอบหมดแล้ว และไม่พบผู้กระทำความผิด
เป็ไปได้หรือไม่ที่พวกเขามองข้ามรายละเอียดบางอย่างไป แล้วละเลยตัวละครบางตัว?
มีเพียงสองวิธีในการค้นหาคนทรยศ วิธีหนึ่งคือสืบหาผู้ต้องสงสัยในจวนแม่ทัพต่อไป และอีกวิธีหนึ่งคือใช้พิษงูหายากสามชนิด และวิธีหลังคือจุดประสงค์ที่หานอวิ๋นซีมาที่นี่
หานอวิ๋นซีหยิบรายการยาออกมาแล้วส่งให้มู่ชิงอู่ “แม่ทัพใหญ่ นี่คือพิษงูอีกสามชนิดที่เหลือ เป็พิษงูที่หาได้ยากอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงร้านขายยาทั่วไป แม้แต่ตระกูลแพทย์ส่วนใหญ่ก็อาจไม่มี บางทีหากเริ่มต้นด้วยพิษงูทั้งสามชนิดนี้ อาจจะเร็วขึ้น”
ก่อนหน้านี้นางเก็บมันไว้เป็ความลับทั้งหมด แต่ตอนนี้ไม่สามารถเจอกู้เป่ยเยวี่ยได้ จึงทำได้เพียงให้เบาะแสนี้กับมู่ชิงอู่เท่านั้น อย่างน้อยเส้นสายของมู่ชิงอู่คงจะกว้างกว่านาง ดังนั้นจึงมีความหวังมากขึ้นมาหน่อย
มู่ชิงอู่มองไปที่รายการยา ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว มองไปที่หานอวิ๋นซีอย่างตรงไปตรงมา และถามตรงๆ ว่า “ฉินหวังเฟยไม่เคยพูดถึงพิษงูสามชนิดนี้มาก่อน เพราะกลัวว่า...กลัวว่าข้ากับท่านพ่อจะเห็นแก่ญาติพี่น้องตัวเองหรือไม่?”
คำถามที่ถามอย่างกะทันหัน ทำให้หานอวิ๋นซีไม่ทันตั้งตัว แต่มู่ชิงอู่ก็พูดได้ถูกต้อง นางมีความคิดเช่นนั้นจริงๆ
นางพนันกับมู่หลิวเยวี่ยไว้เป็เวลาหนึ่งเดือน ผู้ที่แพ้ต้องถอดเสื้อผ้าออกแล้ววิ่งไปรอบๆ ถนนเสวี่ยนอู่ ทั้งนางและมู่หลิวเยวี่ยไม่สามารถรับผลที่ตามมาได้ ไม่ว่าอย่างไรการเดิมพันแบบนี้มีเพียงผลแพ้หรือชนะเท่านั้น ไม่มีเสมอ และหนึ่งในนั้นจะต้องแพ้อย่างแน่นอน
หากการสืบสวนขึ้นอยู่กับแม่ทัพมู่และแม่ทัพใหญ่ สองพ่อลูกสามารถผัดวันประกันพรุ่งและรอจนถึงหนึ่งเดือนแล้วค่อยหาคนทรยศ ด้วยวิธีนี้พวกเขาก็จะไม่มีอะไรสูญเสียและมู่หลิวเยวี่ยก็จะไม่แพ้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ มู่หลิวเยวี่ยนางก็เป็บตรสาวคนเดียวของแม่ทัพมู่ แน่นอนว่านางต้องยั้งมือและสอบสวนด้วยตัวเอง แต่ใครจะไปรู้ว่ากู้เป่ยเยวี่ยจะไม่สามารถออกจากวังได้?
ในเมื่อมู่ชิงอู่ถามมาขนาดนี้แล้ว หานอวิ๋นซีก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง นางยิ้มอย่างตรงไปตรงมาและยอมรับว่า “ใช่!”
โดยไม่คาดคิด มู่ชิงอู่ผู้ที่ถ่อมตนอยู่เสมอกลายเป็เคร่งขรึมและจริงจังขึ้นมา ดวงตาที่ชัดเจนของเขามองไปที่หานอวิ๋นซี พร้อมกับพูดอย่างจริงจังว่า “ฉินหวังเฟย ท่านคิดว่าข้าเป็คนเช่นไรอย่างนั้นหรือ?”
เอ่อ…
เมื่อเห็นความดื้อรั้นและความตรงไปตรงมาในดวงตาของมู่ชิงอู่แล้ว หานอวิ๋นซีก็รู้สึกว่าตนเองต้องระมัดระวังในเื่การคาดเดาเกี่ยวกับตัวเขา แต่นางไม่คิดว่ามันผิดที่จะปกป้องตัวเองเช่นนี้
“แม่ทัพใหญ่ ถ้าน้องสาวของท่านแพ้ ท่านจะยอมรับได้จริงๆ แล้วปล่อยให้นางถอดเสื้อผ้าออกวิ่งไปรอบๆ ได้อย่างนั้นหรือ?” หานอวิ๋นซีถามอย่างจริงจัง
แต่ใครจะคิดว่ามู่ชิงอู่จะพูดโดยไม่ลังเลว่า “ข้ายอมได้!”
หานอวิ๋นซีตกตะลึงเล็กน้อย นางไม่อยากเชื่อ แต่ดวงตาที่ชัดเจนและสดใสของมู่ชิงอู่กลับทำให้นางอดสงสัยไม่ได้
“หลายวันก่อน ข้ากับท่านพ่อเกลี้ยกล่อมนาง ให้นางได้ชดใช้เสียบ้าง การเดิมพันนี้ก็ถือว่าแล้วไป น่าเสียดายที่เด็กคนนั้นไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ” มู่ชิงอู่พูดอย่างเฉยชา
“ดังนั้น...ท่าน้าที่จะเกลี้ยกล่อมข้า?” หานอวิ๋นซีขมวดคิ้วและถาม
“ไม่ ทุกคนต้องชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป หวังเฟย นี่เป็การเดิมพันระหว่างท่านกับหลิวเยวี่ย สิ่งเดียวระหว่างข้าและท่านคือการสืบสวนคดี โปรดหวังเฟยอย่ากังวลไป ข้าให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่แน่นอน” มู่ชิงอู่พูดอย่างจริงจัง
เมื่อมองไปที่มู่ชิงอู่ หานอวิ๋นซีก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ไม่น่าแปลกใจที่มู่ชิงอู่ได้เป็แม่ทัพใหญ่ั้แ่อายุยังน้อย เขามาจากตระกูลขุนนางที่มีชื่อเสียง แต่มีหลักการและตรงไปตรงมา ซึ่งหายากจริงๆ ในกองทัพอาณาจักรเทียนหนิงจะมีกันสักกี่คน?
หานอวิ๋นซีรู้ว่านางสามารถวางใจได้
“แม่ทัพใหญ่ ข้าเชื่อใจท่าน ประการแรก หาคนมาตรวจสอบพิษงูสามชนิดนี้ให้โดยเร็ว ประการที่สอง ในความคิดของข้า ใครก็ตามที่เข้าใกล้ท่านต้องได้รับการสอบสวนอย่างลับๆ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในสถานะใด รวมทั้งญาติสนิท” หานอวิ๋นซีพูดอย่างจริงจัง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มู่ชิงอู่ก็ใ “ญาติสนิท?”
“ถูกต้อง แม่ทัพใหญ่ เรามองข้ามจุดที่สำคัญไปมาก คนที่วางยาพิษสามารถยืมมือคนอื่นได้ และคนที่โดนยืมมืออาจยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ!” หานอวิ๋นซีพูดออกมาอย่างหมดเปลือก