บทที่ 110 กลับเมืองหลวงพรุ่งนี้
หลังจากกินข้าวเที่ยง ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยน ดูท่าทางคืนนี้คงมีหิมะตก สวี่จือจือเก็บของแล้วปั่นจักรยานไปหมู่บ้านเป่ยสุ่ย
เธอไม่ได้กลับบ้านตระกูลสวี่ทันที แต่ไปเยี่ยมสองผู้เฒ่าสวี่ก่อน พร้อมนำของเตรียมปีใหม่ไปให้
“ทำไมเอามาเยอะแยะอีกแล้ว?” โจวซื่อบ่นพึมพำ “ทำแบบนี้บ้านสามีหลานไม่รำคาญตายเหรอ? เด็กคนนี้ทำไมไม่เคยเชื่อฟังเลย?”
“นี่เงินที่หนูหามาเองค่ะ” สวี่จือจือยิ้ม “คุณย่ากับคุณปู่ต้องอยู่กันดีๆ นะคะ ต่อไปหนูจะซื้อของดีๆ มาให้เยอะกว่านี้”
“เด็กคนนี้…” โจวซื่อเช็ดน้ำตา แล้วก็ได้ยินสวี่จือจือถาม “แม่ของหนูป่วยเหรอคะ?”
“ซิ่วหลิงเหรอ? เปล่านะ” โจวซื่อตอบ “เมื่อวานย่ายังเห็นหล่อนนั่งรถเทียมวัวกลับจากอำเภออยู่เลย หรือว่าจะเป็หวัด?”
ไปอำเภอ?
สวี่จือจือไม่ได้ใส่ใจ “งั้นหนูจะไปดูหน่อยค่ะ” แล้วถามโจวซื่อเื่เวลานึ่งหมั่นโถว “วันนั้นหนูว่างพอดี คุณย่าเตรียมแป้งไว้นะคะ หนูจะไปช่วย”
“อย่ามาเลย” โจวซื่อพูดอย่างสงสาร “ขาจิ่งซานไม่สะดวก หลานอยู่บ้านดูแลเขาเถอะ” แล้วจับมือเธอ “จิ่งซานเป็คนดี ตอนนี้เจอเื่ร้ายแบบนี้ คงไม่สบายใจ จือจือเอ๊ย ทำไมชีวิตหลานถึงได้ลำบากแบบนี้นะ?”
ั้แ่ลู่จิ่งซานพิการกลับมา คนในหมู่บ้านเริ่มลือกันอีกว่าสวี่จือจือดวงแข็ง ตอนเกิดเอาเท้าออกเกือบฆ่าแม่แท้ๆ อย่างหวังซิ่วหลิง พอแต่งงานก็ทำให้ชายหนุ่มดีๆ อย่างลู่จิ่งซานพิการ
“ยายเฒ่านี่” ปู่สวี่หน้าดำ “พูดดีๆ กับเด็ก ไปพูดเื่พวกนี้ทำไมกัน?”
“คุณปู่ คุณย่า” สวี่จือจือยิ้ม “ไม่ต้องห่วงค่ะ ความสัมพันธ์ระหว่างหนูกับจิ่งซานดีมาก คุณย่าอย่าไปฟังคนอื่นพูดมั่วนะคะ”
“ไม่ได้ฟังคนอื่น” โจวซื่อพูดเบาๆ “เมื่อวานเจอแม่ของหลาน หล่อนบอกว่า…”
“ว่าอะไรคะ?” สวี่จือจือสงสัย
“ตอนนี้หลานกับจิ่งซานยังไม่ได้ร่วมหอกันใช่ไหม?” โจวซื่อพูด “จือจือเอ๊ย หลาน…ถึงมันจะไม่ค่อยดี แต่เื่นี้เกี่ยวกับชีวิตเธอทั้งชีวิตนะ”
“คุณย่าจะพูดอะไรคะ?” สวี่จือจือยิ้ม
“แม่หลานน่ะ” โจวซื่อบอก “บอกว่าช่วยให้หลานหย่ากับจิ่งซานได้”
หวังซิ่วหลิงให้เธอหย่ากับลู่จิ่งซาน?
ช่วย? ช่วยยังไง? ช่วยด้วยอะไร?
สวี่จือจือขำ “ไม่เจอกันพักนึง ตอนนี้เก่งขึ้นเยอะเลยนะ”
“จือจือ” ปู่สวี่พูด “ถ้าหลาน้า ปู่จะยอมสู้สุดชีวิต…”
“คุณปู่คะ” สวี่จือจือมองทั้งสองอย่างพูดไม่ออก “คิดอะไรกันอยู่คะ? ต่อให้หนูจะหย่าก็ไม่ใช่ตอนนี้แน่ หนูไม่โง่นะคะ จะให้คนมาแทงหลังเราหรือไง?”
“แต่ว่า…” โจวซื่อจะพูดต่อแต่สวี่จือจือขัด “ไม่มีแต่ค่ะ คุณปู่กับคุณย่าวางใจเถอะ อย่าไปฟังหวังซิ่วหลิงพูดจาส่งเดช
“จิ่งซานดีมาก” สวี่จือจือพูดเบา “ขาของเขาจะหายแน่นอนค่ะ”
“จริงเหรอ?” ปู่สวี่ถาม
“แน่นอนสิคะ” สวี่จือจือชี้ตัวเอง “นี่เื่ความสุขทั้งชีวิตของหนู หนูจะล้อเล่นได้ยังไง?”
สองปู่ย่ากึ่งเชื่อกึ่งสงสัย แต่ความสงสัยในใจสวี่จือจือกลับยิ่งเข้มข้น
“จือจือมาแล้วเหรอ” หวังซิ่วหลิงนอนอยู่บนเตียง เมื่อเห็นสวี่จือจือใบหน้ากลับยิ้มอ่อนโยนจนสวี่จือจือรู้สึกหนาวสันหลัง
จะวางแผนอะไรเลวๆ อีกล่ะ?
“แม่ไม่สบายเหรอ?” สวี่จือจือถาม “เป็อะไรคะ?”
“โอ๊ย ฉันก็ไม่รู้” หวังซิ่วหลิงพูดอ่อนแรง “แค่รู้สึกแน่นหน้าอกเท่านั้น”
“คลื่นไส้ไหมคะ?” สวี่จือจือถาม
“หา?”
“แน่นหน้าอกแล้วอยากอาเจียนไหม?” สวี่จือจือถามอย่างห่วงใย
“อ้อ มีสิ” หวังซิ่วหลิงพยักหน้า พูดน้ำเสียงอ่อนแรง
“มีจริงๆ เหรอคะ” สวี่จือจือตบมือดีใจ “แม่ของหนูเก่งมากเลย!”
หวังซิ่วหลิง “…” หรือเธอแกล้งป่วยไม่เนียน?
กำลังคิดอยู่ก็ได้ยินสวี่จือจือพูดกับสวี่เจวียนเจวียนและหวงรุ่ยเซิงที่เพิ่งเข้ามา “พวกพี่ต้องเรียนรู้จากพ่อแม่เราดีๆ นะคะ ดูสิ อายุเยอะขนาดนี้แล้วยังมีลูกได้อีก แล้วดูพวกพี่สิ แต่งงานกันมากี่ปีแล้ว ถึงตอนนี้ยังไม่มีแม้แต่ไข่
“จุ๊ๆ…” สวี่จือจือส่ายหน้า “โชคดีที่บ้านของหวงรุ่ยเซิงไม่ได้อยู่แถวนี้ ไม่งั้นแม่สามีคงให้เขาหย่ากับพี่ไปนานแล้ว”
“สวี่จือจือ!”
“สวี่จือจือ!”
สวี่เจวียนเจวียนและหวังซิ่วหลิงะโพร้อมกัน
“ฉันจะฉีกปากแก” สวี่เจวียนเจวียนะโพลางพุ่งเข้าใส่ แต่สวี่จือจือคว้ามือไว้ “ตื่นเต้นอะไร? หนูพูดความจริง”
สวี่เจวียนเจวียนโมโหแทบตาย
“ฉันไม่ได้ท้อง” หวังซิ่วหลิงแทบกระอักเืแล้วะโ “นังแพศยา ถ้าพูดมั่วอีกฉันจะตีแกให้ตาย”ยังกล้าตีพี่แกอีก นังเด็กน่าตายนี่”
พูดจบเธอโมโหจนลืมแกล้งป่วย ลุกจากเตียงจะตีสวี่จือจือ
“คุณแม่!” หวงรุ่ยเซิงะโ “นอนลงเดี๋ยวนี้ หมอบอกให้พักผ่อน”
หวังซิ่วหลิงลงจากเตียงใส่รองเท้าแล้ว พอได้ยินหวงรุ่ยเซิงพูด เธอก็รู้ตัวว่าเกือบหลุดเพราะโมโหใส่สวี่จือจือ
นังคนหน้าไม่อาย ตอนนี้เล่ห์เหลี่ยมเยอะขึ้นมาก
“โอ๊ย ฉันเจ็บหน้าอก” วินาทีต่อมาหวังซิ่วหลิงก็กุมหน้าอกแล้วนอนลง “โอ๊ย ฉันไม่ไหวแล้ว”
“จือจือ” สวี่จงโฮ่วที่นั่งเงียบมุมกำแพงพูดขึ้น “ดูสิ แม่แกป็นแบบนี้แล้ว อย่าทำให้แม่แกโมโหอีกเลย”
ก่อนหน้านี้สวี่จือจือคิดว่าสวี่จงโฮ่วเป็คนดี แต่ตอนนี้ยิ่งมองยิ่งเห็นว่าคนน่าสงสารมักมีอะไรนี่น่าชิงชัง
“ั้แ่จิ่งซานพิการ คุณแม่ก็กังวลจนกินข้าวไม่ลง” สวี่เจวียนเจวียนพูด “ตอนนี้คุณแม่ป่วยเพราะแก แบบนี้แกไม่ควรอยู่ดูแลแม่หน่อยเหรอ?”
“นังคนอกตัญญู” หวังซิ่วหลิงพูดอย่างเจ็บใจ “ตอนนั้นแกอยู่ในท้องตำแหน่งไม่ดี หมอถามว่าจะเอาเก็บผู้ใหญ่หรือเด็กไว้ ฉันเสี่ยงชีวิตคลอดแกออกมา รู้แบบนี้ว่าแกจะอกตัญญูแบบนี้ ฉันไม่น่าคลอดแกออกมาเลย
“ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ” หวังซิ่วหลิงชี้สวี่จือจือ “วันนี้กลับมาแล้วก็ไม่ต้องไปบ้านตระกูลลู่แล้ว ฉันคลอดแกออกมาไม่ใช่ให้ไปดูแลคนพิการ ยังไงแกยังเป็สาวบริสุทธิ์ แยกจากบ้านตระกูลลู่แล้ว ฉันจะหาคนที่ดีกว่านี้ให้”
“งั้นคราวนี้ พวกคุณจะขายหนูไปที่ไหนคะ?” สวี่จือจือยิ้มเยาะ
“อะไรเรียกว่าขาย?” สวี่เจวียนเจวียนโมโห “คุณแม่ทำเพื่อแก หรือแกอยากอยู่กับคนพิการไปทั้งชีวิต?
“พี่เขยแกจะกลับเมืองหลวง พรุ่งนี้แกไปเมืองหลวงกับเราเถอะ” สวี่เจวียนเจวียนพูดอย่างรำคาญ
ถ้าเลือกได้เธอก็ไม่อยากพาสวี่จือจือไปด้วย แต่ปัญหาคือเงื่อนไขฝั่งนั้นคือต้องพาสวี่จือจือไปถึงจะให้โควต้ากลับเมืองกับหวงรุ่ยเซิง
สวี่เจวียนเจวียนไม่เข้าใจว่าทำให้สวี่จือจือสลบแล้วพาไปขายบนูเาไม่ดีตรงไหน ทำไมถึงต้องพากลับไปเมืองหลวงด้วย
.............................