เฉินิแสยะยิ้ม "หากพูดมากอีกคำ เปิ่นหวางจะกัดเ้าเลย"
ถังชิงหรูหน้าเสียยกมือขึ้นคลำลำคอที่ถูกกัดคราก่อน พลางกล่าวว่า "ช่างเถอะ เล่นข่มขู่กันขนาดนี้ ข้าไม่กล้ายั่วโทสะท่านอีกแล้วล่ะ"
"หรูเอ๋อร์ เ้าไปพักผ่อนเถิด" น่าหลันหลิงเอ่ยกับนางอย่างอ่อนโยน "วันนี้คงเหนื่อยมากสินะ ดูสิ หน้าซีดหมดแล้ว เห็นแล้วพานปวดใจยิ่งนัก"
ถังชิงหรูอ่อนเพลียจริงดังว่า แต่ความอ่อนเพลียนี้หาใช่ที่ร่างกาย แต่เป็เพราะระบบเสียหายมากเกินไป ประกอบกับนางทำแต้มจิตพิสัยมาหล่อเลี้ยงไม่ทัน เลยส่งกระทบมาถึงสุขภาพของนางโดยตรง
ถังชิงหรูหันไปกล่าวกับเฉินรุ่ย "คุณชายเฉิน จะว่าไปแล้วก็น่าขันยิ่ง ท่านอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว แต่ข้ายังไม่ทราบนามของท่านเลย ทว่านั่นคงหาใช่สิ่งที่ข้าสามารถรู้ได้ เช่นนั้นข้าขอเรียกท่านว่าคุณชายเฉินก็แล้วกันนะเ้าคะ พวกท่านค่อยๆ รับประทานกันไป ภายภาคหน้าหากมีวาสนาได้พบกัน ข้าจะทำอาหารดีๆ ต้อนรับท่านอีก"
ถังชิงหรูเดินทางออกไปโดยมีรถม้าของจวนอ๋องมาส่งที่บ้าน นางเหนื่อยมาก ตอนทำอาหารเมื่อครู่ก็ปรุงไปชิมไปจนแน่นท้อง หลังทิ้งตัวนอนลงจึงผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงกลางดึก ได้ยินเสียงโหวกเหวกอึกทึก ยามลืมตาขึ้นมา ก็เห็นว่าองครักษ์เงากำลังอุ้มนางทะยานออกไปด้านนอก นางถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเวียนหัวจนแทบอาเจียนอยู่รอมร่อ
"เ้าทำอันใดน่ะ" ถังชิงหรูใจนขวัญหนีดีฝ่อ
องครักษ์เงาวิ่งไปกล่าวไป "แม่นาง ล่วงเกินแล้ว เ้านายของพวกเราเพิ่งถูกลอบสังหาร ตอนนี้โลหิตยังไหลไม่หยุด จึงต้องเชิญแม่นางไปช่วยรักษาขอรับ"
"นายของพวกเ้า? ชิ่งอ๋องหรือ" ถังชิงหรูนึกอยู่ครู่หนึ่ง ก็จำได้ว่าคนผู้นี้คือองครักษ์เงาของเฉินิ
"ขอรับ" องครักษ์เงาตอบสั้นๆ เพื่อมิให้ถังชิงหรูใกลัวพวกเขาถึงยอมสนทนากับนางมากขึ้นอีกหน่อย การพูดน้อยสงวนวาจาคือกฎเกณฑ์ที่องครักษ์เงาพึงปฏิบัติ
ถังชิงหรูถูกอุ้มมา ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนรถม้า ไม่ช้าจวนอ๋องก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า องครักษ์เงาพานางเข้าไปในห้องนอนของเฉินิ ยามนี้เฉินรุ่ยยังเฝ้าอยู่ที่นั่น โดยมีน่าหลันหลิงติดตามอยู่ด้านข้าง
พวกเขาดื่มสุรากัน กลิ่นน้ำเมาตลบอบอวลไปทั้งห้อง เฉินิเปลี่ยนอาภรณ์แล้ว าแภายนอกก็ถูกจัดการเรียบร้อย
"แม่นางหรูเอ๋อร์..." เฉินรุ่ยเห็นนางก็รีบเข้ามารับ "แม่นางหรูเอ๋อร์ ครานี้ต้องรบกวนเ้าแล้ว"
น่าหลันหลิงหน้านิ่วคิ้วขมวด เอ่ยกับถังชิงหรู "ชิ่งอ๋องถูกแทงตรงหัวใจ กระบี่เล่มนั้นเข้าลึกมาก เ้าลองดูว่า..." เขาไม่กล่าวให้จบ แต่ประโยคครึ่งหลังก็คือลองดูว่ายังมีทางช่วยชีวิตได้หรือไม่ หากช่วยได้ก็ดีไป แต่หากหมดหนทาง เกรงว่าคงไม่อาจหาคำอธิบายให้เฉินรุ่ย อย่าเห็นว่าเขาเป็คนคุยง่าย หากไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของตนเอง ปรกติคนผู้นี้จะไม่แสดงความอ่อนโยนออกมาให้เห็น
ถังชิงหรูนั่งอยู่หน้าเตียง ตรวจชีพจรให้เฉินิก่อน หลังจากนั้นก็ตัดผ้าพันแผลออกเพื่อตรวจสภาพาแให้แน่ชัด
หน้าอกของเฉินิปรากฏาแถูกมีดแทงลึกมากเหมือนเช่นที่น่าหลันหลิงกล่าวไว้ าเ็ถึงหัวใจ หากเป็หมออื่น อาการหนักขนาดนี้คงรักษาไม่ได้ แต่ถังชิงหรูหาใช่หมอธรรมดาสามัญ แน่นอนว่าย่อมให้คำตอบที่แตกต่าง นางกล่าวเพียงเรียบๆ "าแลึกมาก ครานี้อาจต้องนอนพักราวสิบถึงสิบห้าวันจึงจะลงจากเตียงได้"
"แม่นางหรูเอ๋อร์..." เฉินรุ่ยอุทานด้วยความตื่นเต้นแกมยินดี "ความหมายของเ้าก็คือ... น้องิไม่เป็อันใด?"
"เ้าค่ะ พักผ่อนให้มากก็จะหาย" ถังชิงหรูกล่าว "เคราะห์ดีที่าแไม่มีพิษ หากมือสังหารใช้พิษทาบนอาวุธ แม้แต่ข้าคงไม่อาจรับรองได้ โชคของเขายังดีอยู่ ดังนั้น์จึงยังไม่รับกลับคืนไป"
"เช่นนั้นก็ประเสริฐ ข้ารู้อยู่แล้วว่าแม่นางมีทักษะการแพทย์สูงส่ง หมอเถื่อนทั่วไปไม่อาจเทียบเทียมได้ แม่นางปักหลักอยู่ที่เมืองชิ่งนับเป็วาสนาของประชาชนโดยแท้" เฉินรุ่ยอารมณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถ้อยคำสรรเสริญเยินยอพรั่งพรูออกมาจากปากโดยไม่ต้องควักเงินจ่าย "เช่นนั้น ข้าคงต้องมอบน้องิให้แม่นางช่วยดูแลแล้ว คนเ่าั้มีเป้าหมายอยู่ที่ข้า ข้ารั้งอยู่ที่นี่รังแต่จะสร้างปัญหาให้น้องชาย ดังนั้นข้าต้องไปแล้ว หากแม่นาง้าสิ่งใดสามารถให้คนของน้องิส่งสารมาที่ข้าได้ทุกเมื่อ"
"เ้าค่ะ" ถังชิงหรูไม่นึกแปลกใจกับคำพูดของเขา สถานะของคนผู้นี้แม้ไม่เปิดเผยออกมาโดยตรง แต่นางก็พอรู้ว่าคือผู้ใด เขาจากเมืองหลวงมานานเพียงนี้ คิดว่าคงมีคนพบเบาะแสของเขาแล้ว จึงฉวยโอกาสที่เขายังไม่กลับลงมือสังหารระหว่างทางจากนั้นค่อยใช้ตัวแทนที่อยู่ในวังผู้นั้นดำเนินการบางอย่าง อำนาจการปกครองย่อมตกไปอยู่ในมือของคนเ่าั้
เฉินรุ่ยรั้งอยู่จนกระทั่งอาการของเฉินิมั่นคงดีแล้วถึงจากไป ยามนี้พ่อบ้านหลินกลับมาควบคุมสถานการณ์โดยรวม หลังจากเฉินรุ่ยออกเดินทางแล้ว น่าหลันหลิงก็กลับไปเป็อาจารย์สอนหนังสือต่อไป
เพื่อความสะดวกในการดูแลเฉินิ ่นี้ถังชิงหรูจึงไม่อาจกลับบ้าน พ่อบ้านหลินประกาศข่าวออกไปว่าถังชิงหรูต้องรั้งอยู่ในจวนชิ่งอ๋องเพื่อรักษาอาการาเ็ให้ท่านอ๋อง คนไข้ที่มาหาเ่าั้จึงไม่กล้าพร่ำบ่น ส่วนบรรดาคนอาชีพเดียวกันที่คิดร้ายต่อถังชิงหรูก็จำต้องเก็บเขี้ยวเล็บของตนเองให้มิดชิด พวกเขาไหนเลยจะกล้าลงมือกับหมอที่ได้รับความเชื่อมั่นจากจวนชิ่งอ๋อง
ชิ่งอ๋องคือคนที่รับมือยาก แต่ไรมาไม่เคยเชิญหมอจากข้างนอก แพทย์ประจำจวนล้วนเป็หมอหลวงจากในวัง หากแม้แต่พวกเขายังจนปัญญา ก็ไม่มีผู้ใดรักษาได้อีกแล้ว ไม่นึกว่าหมอหนุ่มรุ่นเยาว์คนนี้นอกจากจะได้การยอมรับจากชาวบ้าน ยังได้รับความเชื่อมั่นจากชิ่งอ๋อง ครั้นแล้วทุกคนจึงเริ่มอยากทำความรู้จักกับเขา
สองสามวันผ่านไป ถังชิงหรูกำลังนั่งอ่านตำราอยู่ข้างเตียงอย่างจริงจัง จนไม่ได้สังเกตว่าชายหนุ่มบนเตียงฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาจ้องมองใบหน้าซีกข้างของนาง สายตาเหม่อลอยค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็ความหลงใหล ทว่าเพียงชั่วพริบตาแววเสน่หาก็จมดิ่งลงไปใต้ก้นบึ้ง
"เปิ่นหวางหิวแล้ว" เฉินิเม้มริมฝีปาก เอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว "ตอนที่เปิ่นหวางสลบอยู่ เ้าคงไม่แอบปองร้ายข้าหรอกนะ ถึงได้ไม่มีเรี่ยวแรงสักนิดเดียว"
ถังชิงหรูได้ยินเสียงของชายหนุ่ม ก็รีบวางตำราลง ร้องะโออกไปด้านนอก "ท่านอ๋องฟื้นแล้ว พวกเ้ารีบส่งของกินเข้ามาเร็ว"
เฉินิคว้ามือนางไว้ เอ่ยว่า "เ้ายังไม่ตอบข้าเลย ได้แอบเล่นลูกไม้กับข้าหรือเปล่า เหตุใดข้าถึงอ่อนเพลียขนาดนี้"
"ท่านไม่ประเมินตนเองเสียบ้างเลย ยังจะมาว่าผู้อื่นลอบทำร้าย กายวัชระเช่นท่านก็รู้จักเหนื่อยเป็เหมือนกันหรือ" ถังชิงหรูตอบอย่างหงุดหงิด
เฉินิยกมุมปากเผยให้เห็นฟันซี่ขาวแลดูน่ามอง ดวงหน้าอ่อนโยนยามประดับด้วยรอยยิ้มเช่นนี้ งามล้มแคว้นล่มแผ่นดินอย่างแท้จริง ชั่วยามนั้น ถังชิงหรูถูกความงามดั่งบุปผาสีขาวน้อยๆ ตรงหน้าล่อลวงจนเคลิบเคลิ้ม แม้แต่ชื่อแซ่ของตนเองยังจำไม่ได้
"เ้าเป็ห่วงเปิ่นหวางรึ" พอเฉินิเอ่ยประโยคนี้ออกมา ถังชิงหรูซึ่งกำลังเหม่อลอยก็ได้สติคืนกลับมาทันควัน
นางแค่นเสียงเยาะเอ่ยว่า "หลงตนเองให้น้อยหน่อยเถิด ข้าเป็แค่ชาวบ้านตัวเล็กๆ ด้วยสถานะของท่าน หากช่วยชีวิตไม่ได้ ข้าคงถูกสังหารไปนานแล้ว"
"พี่ชายข้าหรือ" เฉินิอึ้งไปพักหนึ่ง ความว้าวุ่นผุดวาบในแววตา "ขออภัยที่ทำให้เ้าต้องเดือดร้อน"
ถังชิงหรูนึกไม่ถึงว่าเฉินิจะเป็คนมีเหตุผลอยู่บ้างเหมือนกัน ปรกตินางกล่าวอันใด เขาเป็ต้องเถียงเสมอ เห็นอีกฝ่ายทำตัวมีมารยาทแบบนี้ ก็ไม่คิดยั่วประสาทเขาอีก ถึงอย่างไรนางก็ไม่ใช่คนพาลไร้เหตุผล
"ท่านฟื้นได้ก็แสดงว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว" ถังชิงหรูกล่าว "หากไม่มีธุระอื่น ข้าขอตัวกลับก่อนล่ะ" ถ้าไม่รีบกลับตอนนี้ จิตพิสัยจรรยาแพทย์ของนางก็คงเหลือศูนย์เป็แน่แล้ว ถึงแม้จะช่วยชีวิตเฉินิได้ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดถึงไม่มีแต้มเพิ่มขึ้นมาเลย ทั้งที่เสี่ยวอีก็บอกอยู่ชัดๆ ว่าเฉินิต่างหากที่เป็ลูกค้ารายใหญ่
หรือเพราะว่าตนเองยังรักษาเขาไม่หายขาด?
นางเริ่มต้นจากขับพิษในร่างกายให้เฉินิก่อน ทั้งยังกำจัดพิษตกค้างที่สะสมมาก่อนหน้านี้ให้จนหมด ต่อมาก็รักษาอาการาเ็ให้ แม้าแจะยังไม่ฟื้นฟู แต่อย่างน้อยก็พ้นขีดอันตราย ยามนี้เพียงสิ่งเดียวที่ยังรักษาไม่หายก็คือโรคที่เวลาเขาแตะต้องสตรีแล้วเกิดผื่นพิษ โรคนี้ไม่เคยมีกรณีตัวอย่างมาก่อน นางเลยไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เพราะเพียงแค่นางัั อาการของเขาก็จะหายโดยอัตโนมัติ แบบนี้ก็น่าจะนับว่ารักษาหายอยู่กระมัง
หากถามว่ามีส่วนไหนที่ยังไม่ได้รับการรักษา ก็เหลือแค่... ส่วนนั้นของเขานั่นแหละ
นางรู้ได้จากชีพจรว่าส่วนนั้นของเขาผิดปรกติ เนื่องจากต้องได้รับความร่วมมือจากคนไข้ หากไม่รู้สภาพว่าเป็อย่างไรก็มิอาจรักษาได้ตรงจุด ประกอบกับคนโบราณค่อนข้างหวงเนื้อหวงตัว ไม่อาจขอดูตรงๆ ได้ และหากทำเช่นนั้นจริง ก็เลิกคิดไปจากเขาได้เลย นางไม่้าเสียสละชั่วชีวิตของตนเองเพียงเพราะ้าช่วยเหลือคนคนหนึ่ง
ดังนั้นจะมีวิธีการไหนบ้างที่สามารถรักษาให้เขาได้โดยที่ไม่ต้องตรวจด้วยการสังเกตภายนอก
"เสี่ยวอี..." ถังชิงหรูได้แต่ขอความช่วยเหลือจากเสี่ยวอี
เสี่ยวอีแกล้งตาย
ถังชิงหรูรู้อุปนิสัยของมันเป็อย่างดี ยิ่งเสี่ยวอีแสดงออกเช่นนี้ ก็แสดงว่าทราบวิธี แต่ถ้าหากมิทราบ เขาจะไม่แสร้งทำเป็หูหนวกเป็ใบ้
"ถ้าไม่ยอมบอกกันดีๆ ฉันจะเขี่ยนายทิ้ง ถึงอย่างไรตอนนี้ฉันก็รู้ศาสตร์การแพทย์แผนโบราณแล้ว อยู่ที่นี่ได้สบายมาก" ถังชิงหรูพูดจาข่มขู่
เสี่ยวอีตอบกลับมาอย่างอ่อนระโหยแรง "นายหญิง... สิ่งนั้น… คือ ดู ดม สอบถาม ัั หากท่านอยากรักษาเขาให้หาย ก็ต้องเริ่มจากก้าวแรก..."
"นายนึกหรือว่าฉันจะเชื่อ?" ถังชิงหรูเืขึ้นหน้า
"ถ้านายหญิงไม่เชื่อ ผมก็จนปัญญา ที่จริงอาการของเขาไม่ซับซ้อน นายหญิงไม่คิดบ้างเล่า เขาถูกผู้หญิงเ่าั้เข้าหาทุกวัน แต่ละคนอยากจะขึ้นเตียงกับเขาทั้งนั้น เวลานานไป เขาไม่เพียงแต่รังเกียจผู้หญิง ยังกลายเป็โรคหวาดกลัวอีกด้วย" เสี่ยวอีหัวเราะแหะๆ
"นายหญิง หากท่านอยากได้แต้มก็ต้องรักษาโรคแฝงของเขาให้หายด้วย เพราะว่า... โรคนี้ร้ายแรงมากสำหรับผู้ชาย และนี่ก็คือสาเหตุที่นายหญิงยังไม่ได้รับจิตพิสัยจรรยาแพทย์ในส่วนของเขา" เสี่ยวอีชี้แจง "นายหญิงโปรดเชื่อเสี่ยวอีสักครั้ง หากท่านรักษาเขาจนหายได้ จะต้องได้โบนัสก้อนใหญ่อย่างแน่นอน"
"โบนัสก้อนใหญ่นี่มันเท่าไรกันหรือ สักพันหนึ่งได้ไหม?" ถังชิงหรูเอ่ยถาม
"ช่วยมีความทะเยอทะยานให้มากกว่านี้อีกหน่อยสิครับ นายหญิง ชิ่งอ๋องเป็ลูกค้ารายใหญ่ คะแนนนิยมของเขาย่อมสูงมาก" เสี่ยวอีพยายามหลอกล่อ "แค่รักษาเขาให้หาย ถึงเวลานายหญิงก็จะรู้เอง”
พอเสี่ยวอีพูดมาแบบนี้ ถังชิงหรูก็อยากรู้ยิ่งว่าโบนัสก้อนใหญ่ที่ว่ามันจะสักแค่ไหน
เพราะขบคิดถึงเื่นี้ ถังชิงหรูก็เลยเหม่อลอยทั้งวัน ยามอยู่ต่อหน้าเฉินิ สองตาก็พลอยเหลือบลงล่างโดยไม่รู้ตัว
เฉินิรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว ความรู้สึกเหมือนตกเป็เหยื่อของสตรีเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ครานี้ต่างไปจากเดิม นอกจากไม่รู้สึกรังเกียจแล้ว กลับยัง... ตื่นเต้นอีกด้วย
ถึงขนาดเฝ้ารออยากให้นางกระโจนเข้ามา หลังจากนั้นก็จับตนเองกลืนลงท้องเหมือนของว่าง เพียงแต่... ตนเองประสาทไปหรือเปล่า ไฉนถึงเกิดความคิดพิเรนทร์แบบนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้