เล่มที่ 1 บทที่ 7
ยวี้เอ๋อร์นำอาหารมาให้ หลังจากรอให้มู่หรงฉิงรับประทานเสร็จ ก็สลับไปทานอาหารกลางวันกับแม่นมฟางและแม่นมจิ่น
จื่อเอ๋อร์ยังคงไม่กลับเรือน ด้วยเหตุนั้นทำให้มู่หรงฉิงทวีความรู้สึกไม่สบายใจเพิ่มมากขึ้น ในจังหวะที่นางกำลังจะส่งแม่นมฟางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง จู่ๆ นางก็ได้ยินเสียงบ่าวะโเรียกมาจากด้านนอกประตู “คุณหนูใหญ่ แย่แล้ว! แม่นางจื่อเอ๋อร์ เกิดเื่ขึ้นกับจื่อเอ๋อร์แล้ว”
หัวใจพลอยเต้นแรงขึ้น ก่อนลืมตาที่เพิ่งงีบหลับตื้นๆ เด็กสาวเห็นแม่นมจิ่นเข้ามาด้วยอาการกระวนกระวายระคนตื่นตระหนก
แม่นมจิ่นมักจะสุขุมสงบเสงี่ยม แต่ในเวลานี้นางกลับออกอาการตื่นตระหนก ย่อมเกิดเื่ใหญ่ขึ้นแล้วเป็แน่ “แม่นมจิ่น เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
“เรียนคุณหนูใหญ่ จื่อเอ๋อร์... เ้าเด็กจื่อเอ๋อร์ถูกจับได้ว่ายั่วยวนคุณชายจาง...”
“ยั่วยวนคุณชายจางหรือ?” ลุกพรวดขึ้นยืนทันควัน “มี… มี…”
“ย่อมมีหลักฐาน ในห้องรับรองแขกถูกจับได้ขณะอยู่บนเตียงกับคุณชายจางในสภาพที่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยนัก…” แม่นมจิ่นหยุดจังหวะการพูดชั่วขณะ และดูเหมือนว่าต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการพูดต่อ “ได้ยินคนอื่นพูดกันว่า เดิมทีจื่อเอ๋อร์ทำเพื่อ… ชักใย… ให้คุณหนูใหญ่”
ทำเพื่อชักใยให้คุณหนูใหญ่? ชักใยเื้ักระนั้นหรือ?
สองคำเป็เหมือนสายฟ้าฟาดจากฟากฟ้า
ปรากฏว่าแผนการของอนุหนิงอยู่ตรงนี้นี่เอง
อนุหนิงจัดแจงให้จื่อเอ๋อร์ไปรับใช้คุณชายชั่วร้ายนั่นเป็การเฉพาะ และต่อมาก็ถูกจับได้ว่าอยู่กับคุณชายจาง... ถ้ามีใครหมายจะบิดเบือนสิ่งที่เกิดขึ้น มันจะกลายเป็ว่ามู่หรงฉิงมีใจให้คุณชายจาง จึงให้จื่อเอ๋อร์รับใช้เป็ข้ออ้างเพื่อนำคุณชายจางไปที่ห้องรับรองแขก...
“จื่อเอ๋อร์เป็อย่างไรบ้าง?” สิ่งที่มู่หรงฉิงกลัวมากที่สุดก็คือ จื่อเอ๋อร์จะถูกคุกคาม หากเป็เช่นนั้น มู่หรงฉิงจะถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎของสตรีอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน โดยการยั่วยวนชายคนนอก
“จื่อเอ๋อร์ยืนยันว่านางมีใจให้คุณชายจางจริงๆ จึงพาคุณชายจางไปที่ห้องรับรองแขก” เ้าเด็กจื่อเอ๋อร์คนนั้นก็ภักดีนี่
คิดว่าจื่อเอ๋อร์ตระหนักถึงความผิดปกติในนั้นได้ และเพื่อผลประโยชน์ของมู่หรงฉิง นางจึงยืนยันว่าตัวเองมีใจให้คุณชายจาง
“เร็วเข้า รีบไปดูที่ห้องรับรองแขกเร็ว” นางยิ่งรู้สึกไม่สบายใจเพิ่มขึ้นอีก มู่หรงฉิงมักจะรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด
ทันทีที่เดินไปถึงห้องรับรองแขก มู่หรงฉิงก็ได้ยินเสียงคำรามอย่างหยิ่งผยองของคุณชายจางเป็อันดับแรก “เ้าบ่าวแพศยา ไม่แปลกใจเลยที่ในระหว่างทานอาหารในงานเลี้ยง เ้ารินสุราให้เปิ่นซ่าวแหย่มากถึงเพียงนั้น ปรากฏว่า เ้าทำเพราะอยากจะปีนขึ้นเตียงของเปิ่นซ่าวแหย่นี่เอง”
“จุๆ เ้าเด็กคนนี้ดูๆ ไปก็น่ารักเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็หญิงแพศยา”
“นั่นสิ ดูเป็เด็กสาวที่เรียบร้อย แต่เื้ักลับทำเื่ผิดๆ”
“เ้าไม่รู้อะไรเสียแล้ว ยิ่งคนที่ดูเรียบร้อยมากเท่าไร ในกระดูกของคนพวกนี้ก็ยิ่งร่านมากขึ้นเท่านั้น...”
“คุณหนูใหญ่มู่หรงเป็คนเรียบร้อยเงียบนิ่งเ็าไม่ใช่หรือ? บ่าวของนางทำเื่เช่นนี้ได้ เกรงว่าคุณหนูใหญ่ก็...”
“ไม่แน่เื่นี้อาจจะมาจากคุณหนูใหญ่ก็ได้ แต่ไม่คิดว่าบ่าวคนนี้จะออกมารับผิดแทน...”
แขกคนหนึ่งพูดขึ้น พลอยให้คนอื่น ๆ เอ่ยสมทบ ถึงแม้ว่าเสียงจะไม่ดังมาก แต่ทุกคำทุกประโยคก็ทำให้ผู้คนได้ยินชัดเจน
ตอนที่ก้าวเท้าถึงเรือนด้านนอก เสียงสนทนาของผู้คนที่ลานเรือนก็ทำให้มู่หรงฉิงโกรธขึ้ง ร่างกายถึงกับจะวูบลง
“คุณหนูอย่าคิดมากเลย คนมักไม่รู้ว่าความจริงเป็เช่นไร แต่ก็ชอบดูเื่ตลกของผู้อื่นอยู่เรื่อย” แม่นมฟางรีบช่วยประคองมู่หรงฉิง ระหว่างเอ่ยถ้อยคำ ดวงตาของนางก็จ้องเขม็งไปทางแเื่ผู้ไร้คุณธรรมซึ่งพูดพล่ามอยู่ในลานสนามหญ้าอย่างดุเดือด
“ไอ้หยา นี่ไม่ใช่คุณหนูใหญ่หรือ? ทำไมเพิ่งมาเอาป่านนี้ล่ะ?”
คนตาแหลมเปล่งเสียงขึ้นทันทีที่เห็นมู่หรงฉิง
ด้วยเสียงของบุคคลนั้น ทุกคนจึงหันขวับกลับไปมอง ทำให้เห็นมู่หรงฉิงเดินเข้ามาในลานเรือนพร้อมกับสาวใช้รวมถึงแม่นม ด้วยใบหน้าขาวซีดเล็กน้อย
“ฉิงเอ๋อร์น้อมคำนับท่านย่า น้อมคำนับท่านพ่อ”
นางเดินไปยังเบื้องหน้าฮูหยินผู้เฒ่า ก่อนที่จะคำนับให้ฮูหยินผู้เฒ่าและมู่หรงอั้น
“ฉิงเอ๋อร์ สาวใช้ในเรือนของเ้ามีวิสัยทัศน์ที่ไกลมากจริงๆ” ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเป็สีดำคล้ำและคำพูดของนางก็ไม่นุ่มนวลเช่นที่เคยเป็
วันนี้เป็วันคล้ายวันเกิดของนาง แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซึ่งน่าละอายจริงๆ
ถ้าคุณชายจางไม่โหวกเหวกโวยวาย ฮูหยินผู้เฒ่าหมายจะมอบจื่อเอ๋อร์แก่คุณชายจาง จะได้เป็การผูกสัมพันธ์ไมตรีกับจางช่างชูประจำกรมพิธีการ
แต่ไม่คาดคิดเลยว่าหลังจากคุณชายจางถูกคนจับได้ เขากลับร้องะโโหวกเหวก “ทำไมถึงเป็เ้าล่ะ? ทำไมคุณหนูใหญ่ของเ้าถึงไม่มาที่นี่?”
ด้วยเสียงะโจึงเป็การดึงดูดผู้คนจำนวนมากมายังที่เกิดเหตุ
ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้โง่เขลาเบาปัญญา นางฉลาดหลักแหลม ดังนั้นนางจึงเข้าใจว่ามู่หรงฉิงถูกคนวางกับดัก ไม่เพียงแต่ฮูหยินผู้เฒ่าเท่านั้น แม้กระทั่งผู้คนที่มีสมองที่อยู่ในลานสนามหญ้าในเรือนต่างก็คิดถึงจุดนี้ได้
คุณชายจางคือใคร? กินดื่มสุรา เล่นการพนัน เคล้านารี มีสิ่งใดบ้างที่ไม่ได้ข้องเกี่ยวด้วย เขาวนเวียนอยู่ในซ่องชิงโหลวทุกวัน ด้วยชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ มู่หรงฉิงจะชอบคนเช่นเขาได้อย่างไร?
ทว่าแต่ละคนต่างรู้อยู่แก่ใจ คราวนี้มีคนวางกับดักมู่หรงฉิง ผู้คนในใต้หล้าล้วนชอบดูความตื่นเต้น เื่แย่ๆ ของคนอื่น มักจะดูอย่างมีความสุขและสนุกสนานเสมอ
ดังนั้นแม้ทุกคนจะรู้ว่ามู่หรงฉิงถูกวางกับดัก คนเหล่านี้ก็ไม่ได้สนใจมากนัก พวกเขาแค่มองว่าเป็เื่สนุก และ้าดูว่าคุณหนูใหญ่มู่หรงจะคลี่คลายหายนะนี้ไปได้อย่างไร
“เ้าบ่าวคนนี้พูดเพียงว่าขอโทษเ้า ต้องรอให้เ้ามาถึงก่อนถึงจะอธิบายสาเหตุ เ้าถามนางสิว่านางทำไปเพื่ออะไร?” ฮูหยินผู้เฒ่ายังคงมีสีหน้านิ่งเฉย ดวงตาของนางเย็นเฉียบระหว่างเปิดปากถาม
เมื่อัักับสายตาของฮูหยินผู้เฒ่า มู่หรงฉิงรู้ว่าถ้าจื่อเอ๋อร์ไม่ได้ถูกซื้อตัวให้ใส่ร้ายนาง ก็หมายจะใช้โอกาสนี้ลอบถามจื่อเอ๋อร์ถึงผู้คนที่สมรู้ร่วมคิดที่อยู่เื้ัเหตุการณ์
“คุณหนูยกโทษให้บ่าวด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ล้วนเป็ความผิดของบ่าว” จื่อเอ๋อร์คุกเข่าตรงหน้าทันทีที่เห็นมู่หรงฉิง ก่อนโขกศีรษะของนางอย่างหนัก จากนั้นพูดว่า “ในวันนั้นบ่าวออกจากจวนไปซื้อขนมว่าง ก็เห็นคุณชายจางเดินออกจากร้านอาหาร บ่าวสมควรตาย ที่ั้แ่นั้นมาบ่าวก็ไม่เคยลืมการปรากฏตัวของคุณชายจาง วันนี้เป็วันคล้ายวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่า บ่าวไม่อยากปล่อยโอกาสนี้ไปจริงๆ เพียงแต่บ่าวเป็แค่สาวใช้ เป็เื่ยากที่จะเป็ที่สนใจของคุณชายจาง บ่าวจึงคิดว่าคุณหนูเป็หนึ่งในบรรดาสิบสาวงามในเมืองหลวง โดยอยู่ในสามอันดับแรกของสาวงาม ถ้าบอกคุณชายจางว่าคุณหนูเป็คนเชื้อเชิญ คุณชายจางย่อมต้องสนใจเป็แน่ ด้วยสาเหตุนี้ระหว่างยกสุราให้คุณชายจาง บ่าวได้นำหยกแขวนติดตัวของคุณหนูใหญ่ไปมอบให้คุณชายจาง...”
คำพูดต่อจากนั้น จื่อเอ๋อร์ไม่จำเป็ต้องเอ่ย ทุกคนก็เข้าใจ
ไม่น่าแปลกที่ในมือของคุณชายจางมีหยกแขวนติดตัวของมู่หรงฉิง คิดไม่ถึงว่าจะด้วยเหตุผลนั้นนี่เอง
ทว่ามู่หรงฉิงกลับรู้สึกเย็นเหยียบหลังจากได้ยินถ้อยคำนั้น หยกแขวนติดตัวของนางหรือ? หยกแขวนติดตัวของนางหายไปหลายเดือนก่อนแล้วนี่นา?
“บ่าวคนนี้ก็ดูซื่อสัตย์ไม่น้อย”
ขณะที่ทุกคนถอนหายใจถึงการกระทำของจื่อเอ๋อร์ ก็ได้ยินเสียงเบาเจือความเวทนาซึ่งเป็สาเหตุให้ผู้คนรอบด้านถึงกับต้องคิดพิจารณาอย่างลึกซึ้ง
เพียงประโยคง่ายๆ ก็ทำให้ทุกคนถอนหายใจมากขึ้นไปอีก ใช่น่ะสิ บ่าวคนนี้ซื่อสัตย์จริงๆ หลังจากช่วยชักใยให้เ้านายอย่างลับๆ ครั้นเหตุการณ์ปรากฏต่อสายตาของผู้คน นางก็ยอมรับความผิดด้วยตัวเอง
สักพักหนึ่งเสียงถอนหายใจและเยาะเย้ยก็ดังขึ้นอีกครั้ง
มู่หรงฉิงหันไปมองผู้พูด นางนึกเกลียดชังหนิงสุ่ยรั่วขึ้นมาทันที หากวันนี้ข้าสามารถรอดจากภัยพิบัติไปได้ วันข้างหน้าข้าจะแก้แค้นเ้าให้สาสมอย่างแน่นอน
“คุณหนูใหญ่ บ่าวรู้ผิดแล้ว ขอเพียงคุณหนูยอมให้บ่าวทำตามใจ แม้จะให้บ่าวเป็บ่าว บ่าวก็จะรับใช้เคียงข้างคุณชายจาง แม้จะต้องตาย บ่าวก็เต็มใจ”
เสียงจากรอบๆ ดังพึมพำ มือของจื่อเอ๋อร์ในแขนเสื้อกำหมัดแน่นซึ่งทำให้ข้อต่อถึงกับเป็สีขาว เมื่อนางปล่อยมือ นางจึงเงยหน้าขึ้นมองตรงไปที่มู่หรงฉิง ระหว่างพูดดวงตาของนางมีความอายอยู่สามส่วน และอีกเจ็ดส่วนนั้นเป็ความแน่วแน่
จากมุมมองของคนนอก จื่อเอ๋อร์ได้ตกหลุมรักคุณชายจางจริงๆ ดังนั้นนางต้องติดตามคุณชายจาง แม้ตัวนางจะต้องตายก็ตาม ทว่ามู่หรงฉิงกลับเห็นความเด็ดขาดในสายตาของจื่อเอ๋อร์ ท่าทีราวกับเห็นความตายดั่งคืนสู่มาตุภูมิ พริบตาต่อมามู่หรงฉิงก็รู้สึกใ จื่อเอ๋อร์คงจะรู้ความลับของคนที่อยู่เื้ัใช่หรือไม่?
โดยปกติแล้ว ถ้าเ้านายเกิดเื่ขึ้น บ่าวจะใช้ความตายเพื่อบ่งชี้ถึงความจริง แต่ว่าถ้าคนตายไปแล้ว ก็จะยิ่งทำให้ผู้คนสงสัยมากขึ้น จื่อเอ๋อร์เป็คนฉลาด นางคงคาดเดาได้ว่ามีการวางกับดักหลังจากนี้ ดังนั้นนางจึงใช้วิธีนี้เพื่อชะลอเวลาของกับดักถัดไป
“โธ่ คุณชายจาง ดูเหมือนว่าเ้าจะเป็คนมีพร์ และไม่ปฏิบัติตามกฎธรรมเนียมจริงๆ แม้กระทั่งสาวใช้ในเรือนชั้นในก็ยังหลงเสน่ห์เ้าจนโงหัวไม่ขึ้น”
“ก็ใช่น่ะสิ ข้าจะต้องให้สาวใช้เคียงข้างข้าอยู่ห่างๆ จากเ้าหน่อยแล้ว จะได้ไม่ถูกวางยาเสน่ห์ใส่อย่างไรล่ะ”
“นั่นสิ นั่นน่ะสิ”
ในบรรดาผู้คนที่ยืนดูแต่ละคนต่างกล่าวเยินยอจางเฟิงเฉิงว่าเป็คนเก่งกาจ เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์
วันนี้มีคนนำหยกแขวนติดตัวของมู่หรงฉิงมาให้เขาจริงๆ โดยบอกว่ามู่หรงฉิงนัดเขาไว้ในห้องรับรองแขก เพียงแต่คนที่ให้หยกแขวนติดตัวผู้นั้นไม่ใช่สาวใช้ที่อยู่ตรงหน้า แต่...
ทว่าเนื่องด้วยทุกคนเยินยอจางเฟิงเฉิง ฉะนั้นเขาจะพูดออกไปได้อย่างไร เขาทำได้เพียงมองไปทางมู่หรงฉิงพลางพูดอย่างดีอกดีใจ “คุณหนูมู่หรง เนื่องจากสาวใช้ที่อยู่เคียงข้างเ้ามีใจให้เปิ่นซ่าวแหย่ ถ้าเช่นนั้นจะเป็การดีกว่าที่จะมอบนางให้เป็ผู้เติมความอบอุ่นบนเตียงของข้า”
คำพูดของจางเฟิงเฉิงหยาบคายเป็อย่างมาก เมื่อเห็นใบหน้าอันเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของมู่หรงฉิง เขาก็รู้สึกคันที่หัวใจอย่างอดกลั้นไม่ไหว แต่อย่างไรก็ดีจางเฟิงเฉิงไม่ใช่คนไร้สมองอย่างสมบูรณ์ เขาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว มีคน้าทำร้ายมู่หรงฉิง ส่วนเขาก็แค่ถูกคนอื่นหลอกใช้ก็เท่านั้น
จางเฟิงเฉิงเหลือบมองแผ่นหลังของมู่หรงฉิงเล็กน้อยก่อนถอนสายตากลับมาทันควัน โดยไม่ต้องรอให้มู่หรงฉิงเอ่ยตอบ เขาเอื้อมมือออกไปดึงจื่อเอ๋อร์ที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น “หน้าตาของผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เลว มอบให้เปิ่นซ่าวแหย่เอาไปเล่นก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้”
เมื่อถูกจางเฟิงเฉิงดึงตัว จื่อเอ๋อร์ก็ขมวดคิ้ว หากไม่สังเกตอย่างระวังคงไม่เห็นความรู้สึกขยะแขยงในดวงตาของนางซึ่งปรากฏขึ้นชั่ววูบ จากนั้นนางก็จับมือของมู่หรงฉิง “คุณหนู บ่าวขอโทษท่านสำหรับการชุบเลี้ยงอย่างใส่ใจ บ่าวรู้ว่าตัวเองมีความผิด ขอแค่คุณหนูใหญ่โปรดอย่าโกรธจนส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพ...”
“ขอบคุณ คุณหนูใหญ่ที่มอบหญิงงามคนหนึ่งให้ข้า ฮูหยินผู้เฒ่าดูเหมือนว่าจวนช่างชูกับจวนของท่านจะมีวาสนาต่อกันจริงๆ” พลางดึงจื่อเอ๋อร์ให้ลุกขึ้น จางเฟิงเฉิงพานางไปยังตรงหน้าฮูหยินผู้เฒ่าและมู่หรงอั้น “โขกศีรษะให้ฮูหยินผู้เฒ่าและนายท่านมู่หรงเถอะ”
จางเฟิงเฉิงไม่สบอารมณ์เป็อย่างมาก เขาถูกคนหลอกใช้ ทว่าเขากลับทำอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นในเวลานี้เขาจึงหมายจะตบหน้าตระกูลมู่หรง
ด้วยเสียงดังเซ็งแซ่ส่งผลให้ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าถึงกับซีดเผือด ทางด้านใบหน้าของมู่หรงอั้นก็เผยความขุ่นเคือง แต่มู่หรงฉิงย่อมไม่มีใจไปสนใจทั้งสองคนนั้น
ร่างกายของมู่หรงฉิงเย็นเยียบ มือที่ถูกจื่อเอ๋อร์ดึงไว้ยังคงกำเป็หมัดแน่น กระดูกข้อมือของนางถึงกับเป็สีขาว และแขนของนางก็สั่นระริก...
เป็ไปได้อย่างไร? เป็หญิงผู้นั้นไปได้อย่างไร? นางเคยสงสัยปี้เอ๋อร์และเคยสงสัยจื่อเอ๋อร์ แต่นางไม่นึกเลยว่า คนที่ทรยศต่อนางจะเป็เ้าคนนั้น...
นางจึงรู้สึกแน่นหน้าอกชั่วขณะหนึ่งและดวงตาก็แปรเปลี่ยนเป็สีดำ ก่อนร่างกายจะโงนเงนไปมาเล็กน้อย
“คุณหนูอย่าโกรธเลย คนมีความทะเยอทะยานสูง พบทางออกด้วยตัวเองแล้ว ท่านอย่าโกรธเลย” แม่นมจิ่นรีบเข้าไปช่วยประคองมู่หรงฉิงพลางพูดอย่างขมขื่น
“เอาล่ะ... นางมีเส้นทางเดินของนาง ดังนั้นข้าจะไม่ขวางนาง...” ระหว่างเอ่ยคำพูด จางเฟิงเฉิงก็ดึงจื่อเอ๋อร์พร้อมเดินเข้ามา “คุณชายจาง จื่อเอ๋อร์เป็คนสนิทของข้า ข้าหวังแค่คุณชายจางจะดูแลจื่อเอ๋อร์อย่างดี”
จื่อเอ๋อร์ เ้าจะต้องไม่เป็อะไรนะ เ้าจะต้องอดทนจนกว่าข้าจะคิดหาวิธีช่วยเ้า
ในขณะเลื่อนสายตามองไปทางจื่อเอ๋อร์ มู่หรงฉิงเห็นจิตมุ่งสู่ความตายอย่างแน่วแน่ในดวงตาของจื่อเอ๋อร์
“ขอบพระคุณคุณหนูใหญ่ที่มีบุญคุณต่อบ่าว บ่าวจะรับใช้คุณชายจางอย่างดีแน่นอน”
คุณหนูใหญ่ จื่อเอ๋อร์สามารถทำเพื่อท่านได้เท่านี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้