“อ้าว หลานสาวคนนี้หรือนี่ หน้าตาสวยมากเลย”
เมื่อคราวก่อนที่ลงเงินเดิมพันไปหนึ่งพันหยวนว่าทีมเกาหลีใต้จะชนะ ทำให้หลิวชิ่งกั๋วได้เงินมาสี่พันหยวน สองพันหยวนมอบให้ภรรยา เก็บไว้เองสองพันหยวน เพราะเงินที่ให้สองวันที่ผ่านมานี้ภรรยาดีจึงดีกับเขามาก ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ดูแลปรนนิบัติ ทำให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หลิวชิ่งกั๋วอารมณ์ดี ไม่ว่ามองไปที่ใครก็อารมณ์ดีทั้งนั้น
โดยเฉพาะซูอินสาวน้อยหน้าตาสะสวย
“ฉันจะแนะนำให้รู้จัก เหล่าหลิว นี่คืออินอิน หลานของฉัน อินอิน นี่คือหลิวชิ่งกั๋ว เป็เพื่อนของฉันมาหลายปี เธอเรียกเขาว่าคุณอาหลิวก็แล้วกัน”
ซูอินยืนตรงขาชิดกัน ยิ้มหวานเป็เอกลักษณ์ ก่อนจะก้มศีรษะทักทายอย่างสุภาพ “สวัสดีค่ะคุณอาหลิว”
แค่เด็กสาวยิ้มก็หวานไปจนถึงหัวใจของผู้พบเห็น การเจอกันครั้งแรกหลิวชิ่งกั๋วรู้สึกประทับใจไม่น้อย ระหว่างทางที่ไปหาครอบครัวนั้น เขาจึงเผยข้อมูลให้ฟังหลายอย่าง
“มีแม่หม้ายคนหนึ่งเลี้ยงลูกชายตามลำพัง ไม่รู้ว่า่นี้ไปได้เงินมาจากที่ไหน เธอจึงอยากขายบ้านเก่าเพื่อซื้อบ้านใหม่ จะดีกว่านี้หากแม่หม้ายคนนั้นอยากขายบ้านให้เร็วกว่านี้สักสองสามปี ตอนนี้เธอรวยแล้ว ก็น่าจะพอกดราคาลงได้บ้าง แน่นอนว่าห้ามบอกเธอเด็ดขาดว่ารู้เื่พวกนี้มาจากฉัน”
ซูอินพยักหน้า พร้อมให้คำมั่นสัญญา “คุณอาหลิววางใจเถอะค่ะ ที่คุณพูดแบบนี้ก็เพื่อฉัน ไม่ว่ายังไงฉันไม่มีทางหักหลังคุณแน่นอน”
เมื่อได้ยินเขาพูดว่า “จู่ๆ ก็ได้เงินมาก้อนหนึ่ง” ซูอินพลันนึกถึงแม่เฒ่าสวีที่อยู่ในชุมชนนั้นโดยไม่รู้ตัว
อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น
ระหว่างพูดคุย พวกเขาก็มาถึงหน้าบ้านผู้ขาย ซูอินส่ายหน้าเพื่อขจัดความคิดที่ตีกันยุ่งเหยิงออกไป
หลิวชิ่งกั๋วเดินเข้าไปเคาะประตู “พี่ซุน อยู่บ้านไหม ฉันพาคนมาดูบ้าน”
“อยู่!”
เสียงแข็งกร้าวของผู้หญิงดังออกมาจากหลังประตู ก่อนจะตามมาด้วยเสียงคำสั่ง “เจี้ยนเจี้ยน แม่กำลังยุ่ง ลูกไปเปิดประตูให้อาหลิวหน่อยสิ”
ก่อนจะมีเสียงพูดอย่างไม่พอใจ “ถึงตอนสำคัญพอดี รอเดี๋ยว”
“รีบไป!”
น้ำเสียงที่คุ้นเคย ซูอินเบิกตากว้าง คงไม่ใช่หรอกมั้ง
และแล้วลางสังหรณ์ของเธอก็เป็จริง เมื่อประตูเปิด เผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
เป็ซุนเจี้ยนจริงๆ!
ด้วยความใทำให้ซูอินเผลอร้องออกมา
ซุนเจี้ยนกำลังนอนดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา ซึ่งกำลังฉายรายการที่สนุกที่สุด เมื่อถูกมารดาบังคับให้ไปเปิดประตู ก็ตั้งใจว่าเปิดเสร็จจะรีบวิ่งกลับมาที่หน้าโทรทัศน์
เดินกลับไม่ถึงสองก้าว เสียงผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังก็ดังขึ้น หลายวันก่อนปวดจนนอนไม่หลับ ตอนที่เข้าห้องน้ำเป็่เวลาที่ทรมานที่สุด ซุนเจี้ยนกัดฟันด้วยความแค้น โกรธซูอินที่ทำให้เขาต้องเจ็บ ทำให้เขาไม่ลืมเธอง่ายๆ
เมื่อหันไปมอง เขาก็เห็นใบหน้านั้น
“นี่เธอ!”
ซุนเจี้ยนไม่สนใจดูโทรทัศน์แล้ว เขาลากรองเท้าแตะพุ่งตรงไปตรงหน้าซูอินราวกับนักกีฬาโอลิมปิก “เธอมาทำอะไรที่นี่ ที่นี่บ้านของฉัน รีบไสหัวไป!”
“เจี้ยนเจี้ยน~”
หญิงวัยกลางคนที่กำลังยุ่งอยู่ในครัวโผล่ออกมาพร้อมกับมีดทำครัว ใบหน้าของเธอเหมือนซุนเจี้ยนอย่างกับแกะ ไม่ใช่แค่หน้า นิสัยเ้าอารมณ์ก็ค่อนข้างคล้ายกัน แค่มองก็รู้ว่าเป็แม่ลูกกัน
“นี่มันเื่อะไร”
“แม่ คนนี้นี่แหละ”
ซุนเจี้ยนก้มมองเป้ากางเกงของตัวเอง ซูอินช่างโหดร้าย ผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว อาการบวมแดงยังไม่หายสนิท เวลาที่เข้าห้องน้ำยังรู้สึกปวดอยู่เลย
ซุนลี่เหมยเดินมามองหลินเฉวียนด้วยความโกรธพร้อมยกมีดขึ้นมา “แกทำร้ายลูกชายฉันหรือ และยังทำให้เขาเข้าสอบสายด้วย”
“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่เขา เธอต่างหาก”
“อะไรนะ”
สีหน้าโกรธเคืองพลันเปลี่ยนเป็ความสงสัย ซุนลี่เหมยมองร่างผอมบางของซูอิน “รูปร่างแบบนี้จะต่อยแกคว่ำได้หรือ”
ซุนเจี้ยนรู้สึกขายหน้า แต่ยังคงอธิบายต่อ “ยายนี่มีคนช่วย ผู้ชายคนนั้นทำให้ผมล้ม จากนั้นเธอก็เข้ามาเตะ…”
ในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงดูบุตรชายคนเดียวจนเติบใหญ่ ซุนลี่เหมยเลี้ยงดูเขาจนมีนิสัยหยาบคาย รังแกคนอ่อนแอกว่า แต่หวาดกลัวคนที่แข็งแกร่งกว่า
หลังจากบุตรชายอันเป็ที่รักได้รับาเ็ เธอก็รีบไปที่สถานีตำรวจ เมื่อรู้ว่าบุตรชายทำผิด และอีกฝ่ายมีภูมิหลังไม่ธรรมดา เธอก็อ่อนลงทันที ไม่เพียงไม่ไล่หาความรับผิดชอบ ยังกลัวอีกฝ่ายจะมาแก้แค้น
แต่สถานการณ์พลิกผันอย่างรวดเร็วโดยไม่คาดคิด เมื่อกลับถึงบ้านบุตรชายได้เล่าสถานการณ์อย่างละเอียดให้ฟังว่า อีกฝ่ายเป็เด็กสาวบ้านนอกที่ถูกอุ้มผิดตัวมา และยังทำให้พ่อแม่บุญธรรมต้องขุ่นเคืองใจ ภูมิหลังที่แสนธรรมดา เทียบกับครอบครัวของพวกเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เมื่อรับรู้เื่ราว ซุนลี่เหมยก็ฟื้นนิสัยรังแกผู้อ่อนแอ เกรงกลัวผู้ที่แข็งแกร่งกว่าขึ้นมาอีกครั้ง ลับมีดและอยากไปเอาเื่
แต่พวกเขาไม่รู้ว่าซูอินอาศัยอยู่ที่ไหน
หลายวันมานี้ในใจของซุนลี่เหมยร้อนรุ่ม คิดไม่ถึงว่าเวลานี้อีกฝ่ายจะมาเคาะประตูเข้าหาเธอเอง
“เธอมันเด็กเหลือขอที่กล้าทำร้ายลูกชายของฉัน…”
ด้วยความโมโหสุดขีด ซุนลี่เหมยไม่คิดจะเอ่ยถาม เธอยกมือขึ้นทักทายใบหน้าของซูอิน
เธอใช้โอกาสตอนที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปี เธอไม่เคยพลาดสักครั้ง
แต่คาดไม่ถึงว่าครั้งนี้เมื่อเธอโบกมือ จะถูกคนคว้าไว้ได้ มืออีกข้างที่ถือมีดถูกคว้าไว้เช่นกัน มือที่คว้านั้นทำให้เธอเห็นใบหน้าที่มีรอยบากของอีกฝ่าย รูปลักษณ์ดุดันทำให้เธอตัวสั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้
เธอเริ่มส่งเสียงโหยหวนอยู่ที่หน้าประตู
“ช่วยด้วย มีคนรังแกแม่หม้าย รังแกพวกเราสองแม่ลูก ยังมีศีลธรรมกันอยู่ไหม รีบมาช่วยกันเร็ว!”
ในชุมชนมีคนค่อนข้างเยอะ และตอนนี้เป็่วันหยุดสุดสัปดาห์ ผู้คนส่วนใหญ่อยู่บ้าน เสียงแหกปากของซุนลี่เหมยเรียกความสนใจจากเพื่อนบ้านได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นเช่นนั้นเธอก็ยิ่งร้องดังขึ้น “เด็กเหลือขอคนนี้ทำร้ายเจี้ยนเจี้ยนลูกชายของฉัน ทำร้ายจนเขาต้องเข้าโรงพยาบาลตั้งหลายวัน แค่นั้นยังไม่พอ ตอนนี้ยังพาคนมาที่บ้านเพื่อรังแกเราสองแม่ลูก พวกคุณคิดดูสิ…”
เพื่อนบ้านซ้ายขวาที่อยู่ร่วมกันมาหลายปี มีใครไม่รู้บ้างว่าซุนลี่เหมยเป็คนหน้าด้านหน้าทนขนาดไหน ส่วนบุตรชายของเธอ…ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
และการชี้นิ้วบอกว่าเป็ความผิดของเด็กสาวผิวขาวผุดผ่อง ดวงตาเป็ประกาย แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็เด็กดี จะต้องเป็เพราะซุนเจี้ยนไปยั่วโทสะอะไรเข้าแน่นอน
ในใจคนเหมือนดังกระจกเงา มนุษย์ทุกคนล้วนเห็นอกเห็นใจผู้ที่อ่อนแอ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านเหล่านี้ ทุกคนต่างคิดว่าการที่หล่อนเลี้ยงลูกคนเดียวย่อมไม่ใช่เื่ง่าย ทำให้ในเวลานี้เกิดความรู้สึกลำเอียง
“เื่มันก็ผ่านไปแล้ว ทำไมต้องตามมาถึงที่นี่”
“เป็แม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ใช่เื่ง่ายนะ ตีเขาจนเข้าโรงพยาบาลยังไม่พออีกหรือ”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ทำให้ซูอินยกมุมปากด้วยรอยยิ้มเ็า
“พวกคุณรู้ไหมคะว่าทำไมเขาถึงโดนตี”
เสียงเ็านั้นทำให้ทุกคนใ ซุนเจี้ยนมีท่ามีเปลี่ยนไปทันที เธอไม่ปล่อยโอกาสให้เขาได้พูด และเล่าถึงสาเหตุที่แท้จริง
“เช้าวันสอบขึ้นชั้นมัธยมปลาย เขารับจ้างวานจากคนอื่น นำพวกอันธพาลพร้อมถือไม้มาขัดขวางระหว่างที่ฉันกำลังเดินทางไปสอบ ตั้งใจลากฉันเข้าไปในที่เปลี่ยว โชคดีมีคนมาช่วยไว้ทัน ตอนนั้นฉันโกรธมาก จึงเตะไปที่หว่างขาของเขา ฉันไม่ใช่คนแรงเยอะ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเข้าโรงพยาบาลได้”
ทุกคนมองร่างผอมบางของซูอิน ในเวลานี้พวกเขารู้สึกลังเลเช่นเดียวกับซุนลี่เหมย รูปร่างแบบนี้จะทำร้ายคนให้าเ็ได้หรือ
นอกจากขัดขวางการเข้าสอบของผู้อื่น ยังคิดทำร้ายเด็กสาวตัวเล็กๆ คนนี้ พอทำไม่สำเร็จก็บอกว่าตนเองเข้าโรงพยาบาล ปัดความรับผิดชอบให้ผู้อื่น…
มันเกินไปแล้ว!
เพื่อนบ้านที่ตั้งใจออกมาดูเื่น่าสนุกพากันสูดลมหายใจ แม้แต่หลิวชิ่งกั๋วที่ทำหน้าที่ดูแลบ่อนไพ่กระจอก เมื่อพบเจอเื่ชั่วร้ายเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ
“แต่เธอก็ปลอดภัยดี ไม่ได้เป็อะไรไม่ใช่หรือไง” ซุนเจี้ยนแก้ตัว
ประโยคนี้อีกแล้ว เมื่อนึกถึงท่าทางที่สองแม่ลูกตระกูลหลิงเอ่ยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในใจของซูอินก็รู้สึกสะอิดสะเอียน
เธอไม่้ารู้สึกแย่อีก จึงเดินไปตรงหน้าแล้วยกมือตบซุนเจี้ยนอย่างแรงโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว
