บทที่ 3: เดิมพันด้วยชีวิต
คบไฟในมือชาวบ้านสาดเงาปีศาจเต้นระริกไปทั่วผนังดินของกระท่อม กลิ่นน้ำมันสนและควันไฟลอยคละคลุ้ง ปลุกสัญชาตญาณเอาตัวรอดของถังเหมยหลินให้ตื่นขึ้นอย่างเต็มพิกัด นางไม่เหลือเวลาให้หวาดกลัวหรือสับสนอีกต่อไป
"ช้าก่อน!"
เสียงของนางดังขึ้น ไม่ใช่เสียงตวาด แต่เป็เสียงที่เปี่ยมด้วยอำนาจอันน่าประหลาด มันสงบนิ่งและเยือกเย็นจนทุกคนต้องชะงัก แม้แต่ผู้เฒ่าฉีก็หรี่ตามองอย่างประเมิน
ถังเหมยหลินค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นยืน แม้ร่างกายจะยังสั่นเทา แต่แววตาของนางกลับมั่นคงไม่ไหวเอน นางจ้องตรงไปยังผู้นำหมู่บ้าน ไม่ได้มองเขาในฐานะผู้คุมกฎ แต่ในฐานะ...คนไข้คนแรกของนาง
"ท่านผู้เฒ่า" นางกล่าวต่อ น้ำเสียงเรียบเรื่อย "ท่านกล่าวหาว่าข้าเป็ปีศาจ แต่หากเป็จริง...เหตุใด์จึงต้องประทานความรู้ในการรักษาชีวิตให้แก่ข้าแทนที่จะเป็อำนาจทำลายล้าง?"
คำถามนั้นแทงใจดำผู้เฒ่าฉีและชาวบ้าน ความเชื่อเื่์และเทพเซียนฝังรากลึกในจิตใจพวกเขามากกว่าความกลัวปีศาจเสียอีก
ผู้เฒ่าฉีแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ แต่แล้วก็ต้องไอโขลกออกมาอย่างรุนแรงจนตัวงอ ใบหน้าเหี่ยวย่นกลายเป็สีแดงก่ำ เสียงหายใจของเขาดังหวีดหวิวน่าทรมาน
“แค่กๆ ...อย่า...เ้าอย่ามาเล่นลิ้นกับข้า! ความรู้บ้าบออะไรกัน!"
ถังเหมยหลินมองภาพนั้นนิ่ง ความทรงจำของซูเหยียนบอกนางว่า ท่านผู้เฒ่าป่วยด้วยโรค "ลมปราณติดขัด" นี้มานานหลายปี อากาศชื้นหรือเวลาที่โมโห อาการจะกำเริบหนัก แต่ในสายตาของแพทย์ยุค 2025 มันคือโรคหอบหืดรุนแรงที่กำลังขาดออกซิเจน
นี่คือโอกาสของนาง!
"ความรู้...ที่จะรักษาอาการป่วยเรื้อรังของท่านอย่างไรเล่า"
ทั้งกระท่อมตกอยู่ในความเงียบงัน ทุกสายตาจับจ้องไปที่ผู้เฒ่าฉีซึ่งเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง เขาป่วยด้วยโรคนี้มานานจริง ไปหาหมอมานับไม่ถ้วนก็ทำได้เพียงบรรเทา ไม่มีใครเคยล่วงรู้รายละเอียดอาการของเขาได้ในตอนนี้
"ท่านผู้เฒ่ามีอาการไอแห้งในยามค่ำคืน หายใจติดขัดเมื่ออากาศเปลี่ยน และจะเจ็บแน่นหน้าอกทุกครั้งที่ใช้โทสะใช่หรือไม่?" นางร่ายอาการออกมาอย่างแม่นยำราวกับตาเห็น "นั่นไม่ใช่เพราะลมปราณติดขัด แต่เป็เพราะมีเสมหะเหนียวข้นเกาะกุมอยู่ในปอดของท่านต่างหาก"
ชาวบ้านเริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่มีใครเคยได้ยินคำอธิบายเช่นนี้มาก่อน
"ซูก๋วน!" ซูเหยียนหันไปสั่งน้องชายที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ "ไปประคองท่านผู้เฒ่าไว้"
เด็กหนุ่มสะดุ้ง แต่ก็รีบทำตามอย่างว่าง่าย เขารีบเข้าไปพยุงร่างของผู้เฒ่าที่กำลังหอบจนตัวโยน
"ท่านผู้เฒ่า" นางกล่าวเสียงเฉียบขาดขึ้น "ข้าจะพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่าข้าคือผู้ที่ได้รับพรจาก์ มิใช่ปีศาจจากขุมนรก...อย่างที่พวกท่านกล่าวหาข้าในตอนนี้ จงหันหลังให้ข้า!" ผู้เฒ่าฉีลังเล แต่ความทรมานจากการหอบทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่น จึงยอมหันหลังให้แต่โดยดี
"ซูก๋วน" นางชี้ไปยังจุดกึ่งกลางของแผ่นหลัง ระหว่างกระดูกสะบักทั้งสองข้าง "ใช้ปลายนิ้วของเ้า กดลงไปที่จุดนั้น...นับหนึ่งถึงสิบในใจแล้วปล่อย ทำซ้ำสามครั้ง!"
มันคือตำแหน่งของ จุดเฟ่ยซู จุดฝังเข็มสำคัญที่ช่วยบำรุงปอดและระงับอาการหอบ แม้นางจะไม่มีเข็ม แต่การกดจุดอย่างแรงก็สามารถกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหลอดลมคลายตัวได้ชั่วคราว ซูก๋วนทำตามอย่างไม่ลังเล ปลายนิ้วของเด็กหนุ่มกดลงไปบนแผ่นหลังที่ผอมเกร็งของผู้เฒ่า
ครั้งที่หนึ่ง...ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ครั้งที่สอง...เสียงหอบยังคงดังอยู่ แต่เมื่อกดลงไปเป็ครั้งที่สาม...และราวกับปาฏิหาริย์!
เสียงหวีดหวิวในลำคอของผู้เฒ่าฉีเริ่มสงบลง อาการไอที่รุนแรงค่อยๆ ทุเลา เขาสามารถสูดลมหายใจเข้าปอดได้ลึกขึ้นเป็ครั้งแรกในรอบหลายนาที ใบหน้าที่เคยแดงก่ำเริ่มกลับมามีสีเืฝาด
ผู้เฒ่าฉีหันขวับกลับมามองซูเหยียน ดวงตาที่เคยแข็งกร้าวบัดนี้เต็มไปด้วยความสับสนพรั่นพรึงและ...ความหวัง เขายกมือขึ้นลูบหน้าอกตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ชาวบ้านที่ถือคบไฟต่างอ้าปากค้าง บางคนถึงกับลดคบไฟในมือลงโดยไม่รู้ตัว ภาพที่เห็นมันขัดแย้งกับทุกสิ่งที่พวกเขาเคยเชื่อมาทั้งชีวิต ปีศาจที่ไหนจะรักษาคนได้?
ถังเหมยหลินรู้ดีว่านี่เป็เพียงการบรรเทาอาการชั่วคราว แต่มันก็เพียงพอที่จะซื้อเวลาและชีวิตของนางในตอนนี้เท่านั้น
"เป็อย่างไรเล่า ท่านผู้เฒ่า" นางเอ่ยถาม ย้ำชัยชนะของตนเอง
"ไฟของท่านจะเผาปีศาจได้...หรือจะเผาผู้ที่สามารถรักษาชีวิตคนในหมู่บ้านได้กันแน่?" ผู้เฒ่าฉีอับจนด้วยวาจา เขากำลังจะพ่ายแพ้ให้กับเด็กสาวที่เขาตราหน้าว่าเป็ปีศาจต่อหน้าชาวบ้านทุกคน แต่การจะยอมรับง่ายๆ ก็เท่ากับทำลายอำนาจและความน่าเชื่อถือของตนเองจนหมดสิ้น
เขาหรี่ตามองนางอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป แม้จะยังแฝงความไม่ไว้ใจ แต่ก็ไม่มีเจตนาฆ่าฟันอีกต่อไป
"เ้าอย่าเพิ่งลำพองใจไป! การรักษาเล็กๆ น้อยๆ นี้ยังพิสูจน์อะไรไม่ได้!" เขากล่าวเสียงดังเพื่อให้ชาวบ้านได้ยิน "ถ้าเ้ามีความสามารถจาก์จริงดังที่โอ้อวด...ก็จงไปรักษาคุณชายของท่านนายอำเภอให้หาย เช่นนั้นพวกข้าคงพอจะเชื่อเ้าได้บ้าง!"
คำประกาศนั้นทำให้ทุกคนตกตะลึงยิ่งกว่าเก่า!
"คุณชายจ้าวลู่ป่วยหนักมาหลายเดือนแล้ว!" ซูเจินร้องออกมาด้วยความใ "ขนาดหมอหลวงจากในเมืองยังส่ายหัว! ท่านจะให้ลูกข้าไปเดิมพันด้วยชีวิตหรือตาเฒ่าฉี ทำไมเ้าถึงได้โหดร้ายกับลูกข้าแบบนี้!"
ผู้เฒ่าฉียิ้มเย็น "ก็ใช่น่ะสิ! หากนางทำสำเร็จ หมู่บ้านจิ่งสุ่ยไม่เพียงแต่จะยอมรับนาง แต่ยังจะยกย่องนางดุจเทพธิดาก็ยังได้ แต่หากนางล้มเหลว..."เขาเว้น่ ทอดสายตามองไปยังคบไฟที่ยังคุโชนในมือชาวบ้าน
"...ก็จงรู้ไว้ว่า ไฟโทสะของชาวบ้านนั้นร้อนแรงกว่าไฟนรกเสียอีก!"คำกล่าวนั้นมันแย้บเย็นถึงไขกระดูก ของแม่ลูกทั้งสาม นี่คือทางรอดที่มาพร้อมกับทางตายที่น่ากลัวยิ่งกว่าเดิม ถังเหมยหลินได้หนีจากปากเหยี่ยว แต่กลับต้องมาเผชิญหน้ากับพญาครุฑแทน
นางมองไปยังใบหน้าของมารดาที่ซีดเผือด และน้องชายที่กำหมัดแน่นด้วยความกังวลนางไม่มีทางเลือกอื่น...นอกจากจะต้องเดินหน้าต่อไป
"ตกลง" ซูเหยียนตอบรับคำท้าด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ดวงตาของนางสบกับผู้เฒ่าฉีอย่างไม่เกรงกลัว "ข้าจะไปรักษาคุณชายจ้าวลู่...พรุ่งนี้ท่านเตรียมเกวียนให้ข้าด้วยแล้วกัน.!"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้