เซียวเจวี๋ยเตรียมจะกลับไปยมโลกอีกครั้ง แต่ก็ต้องเบิกตากว้างพร้อมกับสงสัยว่าเหตุใดเ้าตัวปัญหาถึงได้กลับมาอีกล่ะ?
เขาผลักประตูออกไป โดยเขาไม่รู้ว่ามีรอยยิ้มระบายอยู่บนใบหน้า เขาก้าวพรวดๆ ไปยังห้องโถงด้านหน้า
เสี่ยวไป๋ที่อยู่หน้าประตูก็รู้สึกประหลาดใจกับท่าทางของเซียวเจวี๋ย ก่อนจะมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นในแววตาของมัน
“ท่านอ๋องทรงจะรีบไปไหนหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
หลิงเฟิงที่เฝ้าอยู่ตรงประตูลานอดถามขึ้นมาไม่ได้เมื่อเห็นเซียวเจวี๋ย
เซียวเจวี๋ยราวกับถูกน้ำเย็นสาดให้ตื่น เขาชักขาที่ก้าวออกไปแล้วกลับมา แล้วเปลี่ยนทิศ อารมณ์ดีทั้งหมดก่อนหน้านี้จมหายไป
“พระจันทร์สวย จะไปสวน เพื่อชมจันทร์น่ะ”
แก้ตัวเสร็จ เซียวเจวี๋ยก็ตรงไปที่สวนทันที
ชมจันทร์? หลิงเฟิงแหงนหน้ามองท้องฟ้า คืนนี้พระจันทร์ยังไม่ปรากฏเลย คืนก่อนยังพอว่า ทว่า ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามีเมฆดำปกคลุมเหนือจวนอ๋อง คาดว่าอีกไม่นานน่าจะมีพายุฝนรุนแรง
เสี่ยวไป๋ที่เห็นว่าบรรยากาศถูกทำลาย มันรวบรวมลมปราณแล้วพุ่งไปงับหลิงเฟิง
“โอ๊ย เสี่ยวไป๋ กัดข้าทำไมเนี่ย!”
ข้าก็กัดเ้าไง!
“ไม่ เ้าหมาบ้า!”
ข้าไม่ได้บ้า เ้านั่นแหละโง่! เ้ามันคนโง่!
ทุกคนในจวนอ๋องต่างประหลาดใจ องค์หญิงเสด็จออกไปแล้วไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงเสด็จกลับมาดึกดื่นอีกรอบล่ะ? โอ้ ท่าทางอาฆาตเช่นนี้ ดูอย่างไรก็ดูเหมือนวิ่งไปแก้แค้นท่านอ๋อง!
แล้วเหตุใดองครักษ์ฉู่รีบร้อนถึงขนาดรองเท้าหลุดไปหนึ่งข้างเช่นนั้นล่ะ?
ชิงอีไม่จำเป็ต้องมีคนนำทางั้แ่ไหนแต่ไร แค่ตามกลิ่นิญญาร้ายไป นางก็รู้แล้วว่าเซียวเจวี๋ยอยู่ที่ไหน
ณ สวนของจวนอ๋อง นางเห็นแผ่นหลังของหนุ่มรูปงามมาั้แ่ไกล เขายืนเอามือไพล่หลังอยู่ข้างสระน้ำ
นางเหยียดยิ้มเยาะ กล้าไล่นางงั้นหรือ? ดึกดื่นไม่นอนมาอยู่ข้างสระน้ำทำเป็หนุ่มบทกวีไปได้ เ้าเตรียมแต่งบทกวีสักสองบทแล้วหรือ?
ข้าจะให้เ้ากลับไปกอดขาแม่เอง!
ชิงอีพุ่งตัวไปด้วยระยะกว่า 30 จั้ง[1] นางยกเท้าน้อยๆ ขึ้น โดยมีเป้าหมายคือเอวของเขา การทำให้หนุ่มรูปงามเจ็บ ไม่สิ! เตะลงสระให้เป็ลูกหมาตกน้ำดีกว่า!
นางพุ่งทะยาน ด้วยความคิดที่ว่าแผนของนางต้องสำเร็จแน่
เซียวเจวี๋ยหันกลับมาราวกับมีตาหลัง เขาคว้าหมับเข้าที่เท้าของนาง
สายลมพัดเบาๆ ที่ริมสระน้ำ
ทั้งสองสบตากัน ช่างเป็ภาพที่ดูน่ามองและงดงาม คล้ายว่าเป็ราวกับเทวดาและนางฟ้าคู่หนึ่ง
ทว่า คนหนึ่งเ็าดั่งน้ำแข็ง อีกคนร้อนราวดั่งเปลวไฟ
เซียวเจวี๋ยจับเท้าของนางไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างไพล่ไว้ข้างหลัง
เพราะเท้าข้างหนึ่งถูกจับเอาไว้ ชิงอีเลยต้องยืนด้วยเท้าข้างเดียว กระนั้นวิทยายุทธ์ของนางก็ไม่ได้น้อยลงตาม นางยังเท้าสะเอวจ้องเซียวเจวี๋ยอย่างดุดัน
พ่อหนุ่มนี่ ตอบสนองไวพอควร!
“ปล่อย!” นางออกคำสั่ง
เซ่อเจิ้งอ๋องคงไม่ทำร้ายนางหรอกใช่ไหม?
เขาไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยมือ ทว่า ยังยกสูงขึ้นไปอีกและค้างไว้สองสามนาที
ซี้ด ชิงอีรู้สึกว่าเส้นเอ็นที่ต้นขาและสะโพกของตนเองกำลังถูกทดสอบ
“ทำไมเ้าไม่กลับวัง?” เซียวเจวี๋ยถาม คล้ายว่าไม่เห็นสายตาดุดันของนาง
ดวงตาสวยของชิงอีจ้องเขม็งไปที่มือของเขา ซึ่งจับขาของตนไว้ “เ้าให้ข้าไป ข้าก็ต้องไป? เ้าเป็ลูกข้าหรือไร? ข้าต้องเอ็นดูเ้า ยอมเ้า?”
สีหน้าของเซียวเจวี๋ยมืดลงเล็กน้อย เ้าตัวปัญญานี้อยากพูดอะไรก็พูดจริงๆ
เขายกมือขึ้นสูงกว่าเดิม
“ซี๊ด” ชิงอีรู้สึกว่ากล้ามเนื้อต้นขาของนางเริ่มกรีดร้องแล้ว ไม่สิ...ทำไมร่างนี้ถึงได้ตึงนัก?
หากทำตัวอ่อนแอก็กลายเป็ว่านางแพ้น่ะสิ
“เ้า...ปล่อยมือก่อน” ชิงอีกัดฟันพูดอย่างอดทน
เมื่อเซียวเจวี๋ยเห็นว่านางพยายามทน ั์ตาของเขาก็เกิดยิ้มพราย ทว่า ใบหน้ายังคงนิ่ง เขากล่าวถามอย่างใจเย็นว่า “ปล่อยเ้า แล้วเ้าจะเตะอีกหรือไม่?”
“ไม่เตะแล้ว” ชิงอีทำตาใส พร้อมฉีกยิ้มให้ด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูไม่น้อย
มันเป็เื่ยากสำหรับเซียวเจวี๋ยที่จะได้เห็นนางยอมแพ้แบบนี้ แต่เพราะเกรงว่านางจะยืนไม่ไหวเลยบรรจงวางเท้านาง เป็จังหวะเดียวกับที่ดวงตาของชิงอีฉายแววเ้าเล่ห์
มือน้อยๆ อันแสนชั่วร้ายออกแรงผลัก
ตูม!
มวลน้ำแตกฉานซ่านเซ็น
เซียวเจวี๋ยลงไปอยู่ในสระน้ำ ซึ่งน้ำไม่ได้ลึกมากนัก มันอยู่ประมาณอกของเขาเท่านั้น เขารีบลุกขึ้นยืนและจ้องไปที่บนฝั่งด้วยความประหลาดใจ
เ้าตัวปัญหาตัวน้อยยืนเท้าสะเอว สีหน้าเย่อหยิ่งและพึงพอใจ
“ข้าไม่ต้องใช้เท้า แต่ใช้มือก็ได้!” ชิงอีพ่นลมหายใจอย่างหยิ่งยโส จนปีกจมูกเล็กๆ กระพือจนเกือบจะบินได้อยู่แล้ว “แช่น้ำล้างความคิดสกปรกของเ้าไปเถอะ!” พูดจบนางก็กลับหลังหันเตรียมวิ่งหนี แต่กลายเป็ว่าต้นขาเป็ตะคริว นางเลยเกือบล้มหน้าคะมำ นางเดินโซซัดโซเซ แต่ไม่วายพยายามวางมาดเดินต่อไป
เซียวเจวี๋ยที่ยืนอยู่ในสระน้ำมองนางเดินต่อไปอน่างไม่สนใจใคร เขามีสีหน้าลังเลไปชั่วขณะหนึ่ง กระทั่ง ฉู่สือรีบวิ่งเข้ามา เห็นสภาพอันน่าอับอายของาาก็ตกตะลึง
เซียวเจวี๋ยโบกมือปฏิเสธความช่วยเหลือจากฉู่สือ และเดินขึ้นฝั่งด้วยตัวเอง
“าาทรงอภัยให้กระหม่อมด้วย กระหม่อม...”
ยังไม่ทันที่ฉู่สือจะพูดจบ เขาก็เห็นเซียวเจวี๋ยเดินออกไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด แววตาคู่นั้นตาของเขามีความชั่วร้ายบางอย่างและ...ความสุขที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
าา นี่มัน...
ฉู่สือยืนตะลึงอยู่ข้างสระน้ำด้วยความประหลาดใจ มองดูเซียวเจวี๋ยเดินจากไป
เสี่ยวไป๋เข้ามาหาช้าๆ มันเงยหน้ามองเขา แล้วพูดว่า “มีบางอย่างที่ต่อให้ท่านจะพยายามสักไหน ท่านก็ไม่อาจหยุดยั้งได้”
ฉู่สือก้มลงมอง “าาทรงไม่มีความคิดเช่นนั้นหรอก”
“ท่านคิดอย่างนั้นหรือ?” เสี่ยวไป๋เสนอ “พนันกันไหมล่ะ?
ฉู่สือกัดฟันแน่น ไม่ยอมใจอ่อน
“เดิมพันด้วยอะไร?”
เสี่ยวไป๋หันหน้ามาพูดว่า “ก็เดิมพันกับขนหางหงส์ตัวที่ท่านขโมยมาเมื่อตอนนั้นไง!”
เ้าสุนัขตัวนี้ช่างโลภนัก ฉู่สือเห็นว่าแววตาของมันเย่อหยิ่งสุดๆ เหมือนกับสาวน้อยผู้นั้นไม่มีผิด ทันใดนั้น เขาก็สงสัยขึ้นมาว่าคำด่าทอเ่าั้ ไม่ใช่ว่าชิงอีไปเรียนรู้มาจากเ้าสุนัขนี่หรอกใช่ไหม?
ยิ่งคิดมากเท่าไรก็ดูเป็ไปได้มากเท่านั้น หลายปีมานั้น เย่เหยียนยุ่งจนหัวหมุนจะไปมีเวลาสอนน้องได้อย่างไร หญิงสาวผู้นั้นและเ้าสุนัขตัวนี้คลุกคลีกันมาเป็พันปีแล้ว คำด่าเ่าั้ต้องเรียนรู้จากมันไม่มากก็น้อยแน่!
“ได้สิ! มาพนันกัน!” ฉู่สือตอบตกลงและเดินจากมา พอเดินไปได้ไกลระยะหนึ่ง เขาจึงรู้ตัวว่ามีแค่เขาที่วางเดิมพัน แต่เ้าสุนัขตัวนั้นยังไม่ได้ว่าเดิมพนันเลย!
ฉู่สือถึงกับตบหน้าผากตนเอง!
นี่มัน จับเสือมือเปล่านี่!
เ้าสุนัขสารเลวนั่น!
อย่างไรก็แล้วแต่...เขาไม่มีทางแพ้แน่!
ฉู่สือกัดฟันและพึมพำเงียบๆ าา ท่านต้องชนะให้ได้! ปกป้องตัวเองไว้ อย่าปล่อยให้หญิงสาวผู้นั้นเหนือกว่า มิฉะนั้นลูกรักของกระหม่อมได้ตกไปอยู่ในมือของเ้าสุนัขสารเลวนั่น!
เมื่อแก้แค้นได้สำเร็จ ชิงอีเดินไปร้องเพลงไป จนกระทั่งถึงลานบ้านของเซียวเจวี๋ย
“ทำไงได้ล่ะ ก็ข้าแข็งแกร่งเสียขนาดนี้ ลา ลา ลา ลา ลา ลา~”
เซ่อเจิ้งอ๋องที่ตามมาข้างหลัง ได้ยินนางร้องเพลงอย่างมีความสุขก็ยิ้มออกมาทันที
แข็งแกร่งงั้นหรือ?
ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเ้าจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน!
************************
[1] 1 จั้ง เท่ากับ 3.33 เมตร
