จ้าวอี้และเจี่ยงจาวตี้ล้อมรอบเป็วงกว้าง ล้อมพ่อลูกจากคนละทาง
ถ้ามองลงจากท้องฟ้า ก็อาจพบว่า เส้นทางการขึ้นและลงเขาได้ถูกปิดตายแล้ว
เมื่อเข้าใกล้พวกเขาได้ประมาณยี่สิบเมตร ชายวัยกลางคนะโเสียงดังอย่างตื่นตัวในทันที “ใคร! ใครอยู่ตรงนั้น!”
เขาพบแล้ว!
ท้ายที่สุด ฝีมือของเฉินตงดีมาก แต่กลับไม่ได้เรียนรู้วิธีการซ่อนตัวโดยเฉพาะ จึงไม่ทันระวังเผยร่องรอยออกมา ั้แ่ถูกพบ เฉินตงก็ไม่ได้ซ่อนตัวต่อไป เดินตรงเข้าหาอีกฝ่าย
สี่คนต่างสวมชุดนอกเครื่องแบบ ชายวัยกลางคนหยิบไม้ท่อนหนึ่งด้านข้างขึ้นอย่างตื่นตระหนก
“พวกคุณเป็ใคร? ใช่แล้ว ฉันรู้แล้ว พวกคุณต้องเป็คนที่พวกนั้นส่งให้มาจัดการพวกเราสองพ่อลูก อย่าหวัง! เสี่ยวเชา ตามมาด้านหลังแล้วฆ่ามัน!”
ชายวัยกลางคนนี้สองตาเบิกกว้าง ไม่หลบหลีก พุ่งไปยังเฉินตง!
การเคลื่อนไหวของเขาเร็วมาก เฉินตงยังไม่ทันได้พูดอะไร ท่อนไม้ก้เกือบฟาดที่ไหล่ของเฉินตง!
ดีที่เฉินตง เขาเพียงแค่เบี่ยงตัวไปด้านข้าง มือข้างหนึ่งก็จับไปบนท่อนไม้ได้ทันที ขณะเดียวกันทั้งตัวก็เข้ามาใกล้ ราวกับท่วงท่าเทียซานค่าว1 ้าให้ชายวัยกลางคนคนนี้วางไม้ แต่ คนคนนี้ไม่เพียงไม่ยอมแพ้ ทั้งยังก้าวย่างอย่างดื้อดึงไม่เผยให้เห็นความอ่อนแอ
ปึง!
เฉินตงถูกกระแทกจนถอยกรูดหลายก้าวถึงยืนอย่างมั่นคงได้ มองเขาอย่างค่อนข้างงงงวย
ต้องรู้ว่า ขณะเดียวกันเฉินตงได้วิ่งเหยาะๆเพื่อช่วยในการส่งแรงมาก่อน อีกฝ่ายออกแรงอยู่กับที่ นี่หมายความว่า อย่างน้อยอีกฝ่ายต้องมีกำลังมากกว่าเฉินตง
“ยกมือขึ้น อย่าขยับ!”
ปัง!
เซี่ยตันยกปืนในมือขึ้นอย่างมั่นคง ยิงขึ้นฟ้าไปหนึ่งนัด นัดนี้แสดงถึงการเตือน
ชายวัยกลางคนมองฟ้าคำรามด้วยความเสียใจ “เสี่ยวเชา ไม่ต้องห่วงฉัน! ฉัน! ฉันจะฆ่าพวกมัน! แกต้องล้างแค้นให้ฉัน!”
พูดจบก็คิดจะโยนตัวเองเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ไม่สนว่าเซี่ยตันอาจจะยิงปืน!
เซี่ยตันสูดหายใจลึก คิดจะยิงปืน เธอเล็ง แต่ไม่ได้้าทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต
“พ่อ พ่อจำคนผิดแล้ว พวกเขาไม่ใช่คนเลว น่าจะเป็คนของประตูทั้งหก2 ...” คำพูดของเสี่ยวเชาทำให้การเคลื่อนไหวของชายวัยกลางคนคนนี้หยุด จากนั้นเขาจึงคร่ำครวญคำหนึ่ง “ข้าราชการชั้นเลวของราชสำนัก คนชั่วย่อมจับกลุ่มกันกับหมาหัวเน่าพวกนั้น เสี่ยวเชาไปเจรจากับพวกเขา อย่าให้มารบกวนการพักผ่อนของเราที่นี่”
พูดจบ ชายวัยกลางคนนี้ก็ถอยกลับไป จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิ ท่าทางราวกับผู้สูงส่ง
จ้าวอี้รู้สึกไม่ค่อยดี ทำไมจู่ๆฉากนี้ก็มีความรุนแรงอัดแน่น อะไรคือประตูทั้งหก อะไรคือราชสำนัก นี่ทำให้จ้าวอี้จับต้นชนปลายไม่ถูก
“ขอโทษ ทุกท่าน ค่อยๆพูดกันได้ไหม?” คนคนนี้คือเสี่ยวเชาเด็กชายที่เห็นได้ชัดว่าอายุไม่ถึงสิบสี่สิบห้าปี แต่การแสดงออกดูพยายามแสร้งทำเป็ผู้ใหญ่
“พวกคุณเป็ตำรวจใช่ไหม ขอโทษจริงๆ พรุ่งนี้พวกเราค่อยไปจากเขาไถซานได้ไหม? วันนี้สายมากแล้ว” ไม่รอให้พวกจ้าวอี้อ้าปาก เสี่ยวเชาก็พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ค่อนข้างทำให้ผู้คนงุนงง
“พวกเราเป็ตำรวจจริง นี่คือใบรับรองของเรา ต้องดูสักหน่อยไหม? พรุ่งนี้พวกนายจะไปแล้ว?” เซี่ยตันเผยใบรับรองของตนออกมา ขณะเดียวกันก็นำปืนเก็บ ตอนนี้ ดูเหมือนจะมีการเข้าใจผิด
“พวกคุณไม่ได้มาไล่พวกเราเหรอ?”
เสี่ยวเชาค่อนข้างประหลาดใจ
“ทำไมต้องไล่พวกนาย?”
เซี่ยตันมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ผมคิดว่าเขาไถซานกับที่ท่องเที่ยวอื่นเหมือนกัน ห้ามนักท่องเที่ยวค้างคืนกลางแจ้ง และพวกคุณมาไล่เราโดยเฉพาะ ดูแล้วเหมือนผมจะเข้าใจผิด พวกคุณมีเื่อะไรเหรอ?” เสี่ยวเชาถอนใจโล่งอกอย่างชัดเจน
“สถานที่ท่องเที่ยวให้ค้างแรมหรือไม่ฉันไม่แน่ชัด แต่ที่พ่อของนายเพิ่งพูดนั่นประหลาดมาก นายสามารถอธิบายหน่อยได้ไหม?” เซี่ยตันถามตรงๆด้วยความสงสัย
“นี่...ก็ได้ ตอนแรกพ่อของผมเคยเป็เ้าของศูนย์ศิลปะการต่อสู้ ต้าหงเฉวียน ตอนผมอายุสิบสอง ได้ถูกคนของศูนย์เทควันโดในเมืองเดียวกันเตะ ได้รับาเ็ทางประสาท คำพูดที่หมอวินิจฉัยพวกนั้นผมก็ไม่เข้าใจ ั้แ่ตอนนั้น เขาก็จมอยู่ในจินตนาการของตนเอง มักคิดว่าตนเองเป็จอมยุทธยุคโบราณ ถูกคนวางยาพิษจึงพ่ายแพ้ แม่ของผมรับสภาพนี้ของพ่อไม่ได้ จึงหนีไป อาการป่วยของพ่อผมยิ่งหนักขึ้น เขาคิดว่ามีศัตรูมา่ชิงแม่ของผมไป ดังนั้นตระเวนไปทั่วประเทศเพื่อหาที่อยู่ของแม่ผม ขณะเดียวกันก็ผลักดันให้ผมฝึกมวยอย่างหนัก”
“ตอนนี้ศูนย์เทควันโดก็มีความผิดนี่?” เซี่ยตันใช้สายตาเห็นใจมองเสี่ยวเชาคนนี้ เด็กคนนี้เห็นได้ชัดว่าต้องลำบากมาไม่น้อย
“ใช่แล้ว พวกเขาได้ให้เงินชดเชย ไม่อย่างนั้น ชีวิตของผมและพ่อผมคงไม่ได้สุขสบายแบบนี้”
เสี่ยวเชาใช้คำว่าสุขสบายมาบรรยายชีวิตตอนนี้ของพวกเขา
“นายชอบชีวิตตอนนี้เหรอ?” เซี่ยตันมองเสี่ยวเชาอย่างแปลกใจ เกรงว่าคนทั่วไปน่าจะทนชีวิตเช่นนี้ไม่ได้ไปนานแล้ว
“ค่อนข้างดีเลย ผมชอบฝึกศิลปะการต่อสู้ พูดแล้วสถานการณ์เช่นพ่อผม ไม่เหมาะกับการปรากฏตัวในที่ที่มีผู้คนเยอะ ส่งเขาไปโรงพยาบาล ผมก็ไม่วางใจ หมอเ่าั้ก็พูด ว่าเขามีแนวโน้มมีความรุนแรงอย่างมาก ให้พยายามหลีกเลี่ยงจากผู้คน ที่จริง นอกจากการพบปะผู้คน ใช้คำว่าจอมยุทธในหนังสือมาพรรณนาถึงการกระทำของพ่อผมตอนนี้ ก็เข้าใจได้ไม่ยาก เช่น เขาคิดว่าจอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่รังเกียจข้าราชการอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถกล่าวโทษพวกเขา ดังนั้น ตอนนี้เขาจึงให้ผมรับหน้าแทน” คำพูดของเสี่ยวเชาทำให้คนในตอนนี้ต่างค่อนข้างรู้สึกเศร้า
“งั้นนายไม่เคยนึกถึงชีวิตของนายหลังจากนี้เหรอ? ไม่เรียน ไม่มีการศึกษา ชีวิตของนายหลังจากนี้จะทำยังไง?”
เซี่ยตันพูดอย่างอ่อนโยน ใช้สายตากังวลมองเสี่ยวเชา
“เดินทางไป ก็อ่านไป สถานการณ์เช่นพ่อของผมไม่สามารถห่างไปได้ ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเื่วุ่นวายแค่ไหน ฝีมือของเขาก็ดีกว่าเมื่อก่อนมาก ถึงให้ผู้ชายสามถึงห้าคนก็เข้าใกล้เขาไม่ได้”
พูดเช่นนี้ เสี่ยวเชายังใช้สายตาคลุมเครือมองเฉินตงเล็กน้อย ใบหน้าเฉินตงจึงมีสีแดงขึ้น
สู้คนบ้าไม่ได้เป็เื่ที่เฉินตงมองว่าเสียหน้ามาก แต่ เขาลืมคำพูดพวกนั้นไป ฟ้าปิดประตูหนึ่ง ย่อมต้องเปิดอีกประตูหนึ่ง3 ตั้งใจมองพวกเขา พวกเขาได้รับความสำเร็จที่คนทั่วไปยังประหลาดใจ
“ฉันดูบัตรประชาชนของพ่อนายหน่อยได้ไหม?”
“ไม่มีปัญหาแน่นอน เื่ของพ่อผมเคยประกาศบนหนังสือพิมพ์มาก่อน ผมลองหา”
เสี่ยวเชาตอบรับอย่างมีความสุข
ตอนที่เขาหาบัตรประชาชน ทั้งสี่คนก็ปรึกษากันเสียงเบา
“ดูแล้วน่าจะไม่ใช่ ถ้ามีข่าว แค่หาก็น่าจะหาเจอ ฝีมือของฆาตกรดีมากนั้นไม่ผิด แต่สติของเขาน่าจะชัดเจนดี และมีความละเอียด ผู้ป่วยทางจิตเช่นนี้ต้องทำไม่ได้แน่” เจี่ยงจาวตี้ที่สังเกตอย่างละเอียดมาตลอด เธอคิดว่าข้อสงสัยของพ่อลูกคู่นี่ไม่มาก
คนพ่อเปลือยท่อนบนมาโดยตลอด ท่อนบนที่ว่างเปล่า ไม่มีร่องรอยาแจากะุใด และไม่น่าเป็เด็กชายอายุสิบสี่สิบห้าก่อคดีหรอก?
จ้าวอี้คิด โทรเข้าโทรศัพท์ของเจี่ยงจาวตี้ เจี่ยงจาวตี้มองจ้าวอี้ด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจวิธีการของจ้าวอี้
“รับสาย...จากนั้นวางไว้ตรงนี้ พวกเราลองฟังว่าพวกเขาคุยอะไรกันหลังพวกเราไป”
จ้าวอี้กดเสียงต่ำ นำโทรศัพท์ของตนวางไว้ด้านหลังก้อนหิน ถ้าไม่หาอย่างละเอียด ก็ยากที่จะมองเห็น
เวลานี้เสี่ยวเชาก็หาบัตรประชาชนเจอ ส่งให้เซี่ยตัน
จำเลขบัตรประชาชนของเขา จากนั้นไม่กี่คนจึงปลอบใจเด็กน้อยเข้าใจยากคนนี้ แล้วจากไป
ไปจากสายตาของพวกเขาสองพ่อลูก จ้าวอี้ได้ส่งสัญญาณให้แอบฟัง เสียงพูดของพ่อลูกลอดผ่านออกมาอย่างคลุมเครือ
“หึ! ข้าราชการพวกนั้นไปแล้ว?”
“พ่อ พวกเขาไปแล้ว ฝึกต่อไหม?”
“แน่นอน แท้จริงราชสำนักไม่อาจเชื่อถือ ้าหาแม่ของแก ต้องพึ่งกำลังของเราเอง! รอให้หาเจอ พวกเราค่อยกำจัดมันซะ!”
“ได้ๆ...ผมเชื่อพ่อ” เสียงช่วยไม่ได้ของเสี่ยวเชาลอดผ่านมา
ฟังไปสักครู่ บทสนทนาของสองพ่อลูกแตกต่างจากยุคปัจจุบัน ดูแล้วไม่น่าใช่พวกเขา
จ้าวอี้วางสาย “เอาอย่างนี้ อีกสักครู่หยิบชุดมาชุดหนึ่ง ดูเสื้อผ้าของพวกเขาสองพ่อลูกก็มีรอยขาดอยู่บ้าง พอดี ฉวยโอกาสนี้ ดูว่าบนร่างกายของเด็กชายมีาแไหม”
บนรถปฏิบัติการ ได้เปลี่ยนชุดใหม่ นี่เป็ชุดสำรอง แม้ว่าจะพูดไม่ได้ว่าสภาพดี แต่ก็สะอาดมาก
เลือกมาสองชุด จ้าวอี้และเฉินตงไปที่พักแรมของพวกเขาสองพ่อลูกอีกครั้ง
สำหรับเสื้อผ้าที่เฉินตงสองคนส่งให้ เสี่ยวเชารู้สึกขอบคุณอย่างมาก เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความหวังดีในนั้น ภายใต้การชักชวนของพวกจ้าวอี้ จึงได้เปลี่ยนชุดเพื่อดูว่าเหมาะหรือไม่ โดยที่ไม่รู้แผนการของพวกจ้าวอี้
ผลลัพธ์เป็ไปตามคาด บนร่างกายของเด็กชายดูแข็งแกร่งกว่าเด็กวัยเดียวกัน และไม่มีาแอะไร
ตั้งใจทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ ให้เขามีเื่อะไรต้องโทรมาบอก พวกเขาจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ จากนั้นทั้งสองจึงจากไป
แม้ว่าเจตนาของการส่งเสื้อผ้าไม่บริสุทธิ์ แต่พวกจ้าวอี้ยังคงสงสารเด็กชายคนนี้
มาถึงรถปฏิบัติการ เจี่ยงจาวตี้ก็ได้หาข้อมูลเบื้องต้นของเสี่ยวเชาสองพ่อลูก
“นายดู ตรงนี้มีรายงานหนึ่ง พูดถึงเื่ของพวกเขาสองพ่อลูก”
ข่าวละเอียดมาก ก่อนหน้าเสี่ยวเชาคนนี้ได้เคยฝึกกังฟูด้วยตนเองในโรงเรียน และเคยทำเื่แกล้งเพื่อนร่วมห้อง แต่ด้วยความผิดปกติทางประสาทของพ่อ หลังสูญเสียแม่ไป ก็มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบพ่อ อายุยังน้อย ชีวิตกลับไม่ง่าย เพราะอาการป่วยของพ่อ เขาจึงทำได้เพียงเลือกสถานที่ที่คนไม่พลุกพล่านเพื่อหยุดพัก เวลาที่หยุดพักก็ไม่นาน ไม่อย่างนั้นพ่อของเขาจะไม่พอใจ
“ข้อสงสัยของพวกเขาพ่อลูกโดยพื้นฐานได้ตรวจสอบชัดเจนแล้ว น่าจะไม่ใช่พวกเขา เมื่อครู่เมื่อพวกเขาพ่อลูกเห็นเซี่ยตันและเฉินตง ท่าทางสงบมาก เหมือนกับไม่เคยพบมาก่อน ตอนนี้เวลาก็พอสมควรแล้ว พวกเราไปคณะละครสัตว์เถอะ” จ้าวอี้ปิดข้อมูล แล้วเสนอความเห็นเช่นนี้
คณะละครสัตว์ยังคงได้รับความนิยมเหมือนเมื่อวาน
ในเมือง J คณะละครสัตว์นับว่าเป็การแสดงที่หาได้ยาก ผู้ใหญ่หรือเด็กเล็กต่างก็ชอบ
จัดเตรียมกำลังคนเรียบร้อย จ้าวอี้สี่คนซื้อบัตรเหมือนกับผู้ชมทั่วไป วางแผนที่จะเข้าไปสำรวจสถานการณ์ก่อน มีเพียงต้องยืนอยู่บนแสตนด์ ถึงจะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่แท้จริงได้มากขึ้น
มองการแสดงที่ต่างจากเมื่อวาน อารมณ์ของเจี่ยงจาวตี้และจ้าวอี้ย่อมไม่เหมือนเดิม
ผู้ที่เข้ามาก่อนคือตัวตลกที่กระตือรือร้น
“เหล่าผู้ชมทั้งหลาย สวัสดีตอนเย็น พบกับทุกคนอีกครั้ง อารมณ์ของฉันก็ตื่นเต้นผิดปกติ...ดูท่า ที่รักทั้งหลายของเราก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เอ้าๆ ดูท่าพวกเราอดไม่ไหวที่จะขึ้นเวทีแล้ว”
ตัวตลกพูดอย่างแปลกประหลาด ในทางเข้าอีกด้าน เหล่าสัตว์กลุ่มใหญ่สวมเสื้อผ้า เริ่มขึ้นเวทีเช่นกัน กู่ร้องเสียงดัง ราวกับเหมือนที่ตัวตลกพูด รีบร้อนที่จะขึ้นมาแสดงแล้ว
“เหล่าที่รักอย่าเพิ่งรีบ แนะนำตัวกันสักนิด...”
ตัวตลกเดินะโไปท่ามกลางสัตว์กลุ่มใหญ่ แนะนำชื่อพวกมันทีละตัว จากนั้นพูดว่าพวกมันสามารถทำอะไรได้บ้าง ท่าทางเกินจริงดูมีชีวิตชีวา ทำให้มีเสียงหัวเราะอยู่ตลอด
ทันใดนั้น เสือใช้หัวดันๆตัวตลก ตัวตลกถูกเสือผลักไปหลายก้าว ปากของเขายังคงพูด “ดูท่าเสือน้อยของเราไท่เกอจะอยากแสดงมากแล้ว อย่ารีบ อย่ารีบ เดี๋ยวฉันจะมอบเวทีให้นาย...”
[1] หนึ่งในท่ามวยแปดสุดยอด
[2] คำเรียกหน่วยงานกฎหมายสมัยยังมีระบบศักดินา
[3] หมายถึง เมื่อสูญเสียบางอย่าง ก็ได้รับบางอย่างมาแทน