นี่มัน...
ถังจงเวยกับถังเหล่ยมองหน้ากัน พวกเขารู้ว่าเมื่อสามปีก่อนมีคนจ้องจะเล่นงานตระกูลถัง เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ได้เปิดเผยตัว พวกเขาจึงไม่รู้สถานะ
แต่ตอนนี้คำพูดของอวิ๋นเมิ่งอธิบายได้สมเหตุสมผลว่าทำไมอีกฝ่ายถึงไม่เปิดเผยตัว
หากเฮยฉานฉู่คือคนร้ายของจักรวรรดิ เขาจึงไม่อาจออกหน้าสังหารตระกูลถังได้ ไม่เช่นนั้นเขาต้องถูกจักรวรรดิไล่ล่า
หรือตระกูลตงฟางจะแอบติดต่อกับเฮยฉานฉู่ลับๆ?
ถังจงเวยคาดเื่นี้ไม่ถึง ทว่าถังเหล่ยกลับโยงเื่เข้าด้วยกันเสร็จแล้ว เพราะตอนที่ตงฟางอวิ๋นชิงลงมือกับถังเหล่ยคนเก่า เขาไม่เพียงทำลายิญญายุทธ์ แต่ใช้พิษเล่นงานอีกด้วย
หลังจากที่ถังเหล่ยยืมศพคืนิญญาเกิดใหม่ในร่างนี้ ลำพังแค่กำจัดพิษในร่างกายก็สิ้นเปลืองเวลามากโข พิษร้ายเเบบนี้ต้องไม่ใช่สิ่งที่ศิษย์จากตระกูลเล็กๆ ในเมืองอวิ๋นหลิวจะเรียนรู้เองได้แน่
บางทีตงฟางอวิ๋นชิงอาจจะเป็ศิษย์ของเฮยฉานฉู่
หากเขาคิดถูก เื่ทั้งหมดก็กระจ่างแจ้ง คนที่ลอบทำร้ายตระกูลถังจากเงามืดจะต้องเป็เฮยฉานฉู่เป็แน่ “ยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์ ทำไมคนเช่นนั้นถึงเพ่งเล็งตระกูลข้า หรือว่า์้าจะทำลายตระกูลถังของข้าจริงๆ !?”
หลังจากถังจงเวยรู้ว่าเฮยฉานฉู่เป็ถึงยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์ จิตใจของเขาพลันหนักอึ้ง
หากเป็ตระกูลตงฟางกับตระกูลอื่นๆ ถังจงเวยยังมั่นใจว่าเขาจะสามารถปกป้องตระกูลได้ ทว่าจะให้เขาจัดการกับยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์คนหนึ่ง นี่แทบจะเป็ไปไม่ได้เลย
“ท่านปู่อย่าเพิ่งกังวลไป ในเมื่อผู้าุโอวิ๋นเมิ่งมาที่นี่เพราะเื่ของเฮยฉานฉู่ เช่นนั้นต้องมีวิธีจัดการกับเขาแน่!”
ถังเหล่ยกล่าวปลอบใจ
อวิ๋นเมิ่งผู้นี้ก็เป็ถึงยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์คนหนึ่ง หากมีนางคอยช่วย ตระกูลถังอาจจะผ่านพ้นหายนะครั้งนี้ไปได้
“มิผิด ผู้นำถังโปรดวางใจ ที่ข้าน้อยมาหนนี้ก็เพื่อกำจัดภัยร้ายให้จักรวรรดิ!”
“ดีๆๆ เช่นนี้ก็ต้องขอบคุณท่านหญิงแล้ว!”
ในเมื่ออวิ๋นเมิ่งมั่นใจว่าสามารถสังหารเฮยฉานฉู่ได้ เช่นนั้นนางก็ต้องเป็ยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์แน่ ถังจงเวยจึงเปลี่ยนคำเรียกเป็ท่านหญิงทันที
จากนั้นอวิ๋นเมิ่งจึงถามไถ่อาการของพิษในร่างถังจงเวย แล้วมั่นใจว่าเป็ฝีมือของเฮยฉานฉู่อย่างไม่ต้องสงสัย
สุดท้ายถังเหล่ยก็พูดเื่ที่เฮยฉานฉู่กับตระกูลตงฟางร่วมมือกันออกมา เื่ที่ตระกูลตงฟางคือเขี้ยวเล็บของเฮยฉานฉู่ในเมืองอวิ๋นหลิวนี้มีความเป็ไปได้สูง
ตอนนี้เฮยฉานฉู่อาจจะซ่อนตัวอยู่ในตระกูลตงฟาง เพราะที่ศิษย์ของเขาปรากฏตัวในเมืองอวิ๋นหลิวและเข้าร่วมการแข่งขันหวู่เต้าได้ คงเพราะตระกูลตงฟางเตรียมการให้ แค่ทำให้คนนอกสองคนเข้าร่วมการแข่งขันนั้นไม่ได้ยากนัก
“ในเมื่อเื่ราวกระจ่างเช่นนี้ เหตุใดพวกเราถึงไม่ลงมือกับตระกูลตงฟางตอนนี้เลย พวกมันจะได้ตั้งตัวไม่ทัน!”
ถังจงเวยกล่าวด้วยความร้อนรน หากใช้โอกาสนี้กำจัดตระกูลตงฟางสำเร็จ เขาจะได้กำจัดความกังวลใจนี้ไปได้เสียที
“ใช่แล้ว ทำไมท่านาุโอวิ๋นเมิ่งถึงไม่ลงมือตอนนี้เลย? ตระกูลถังของข้าจะได้ช่วยเหลือท่านอีกแรง!”
ถังเหล่ยก็อยากจะใช้โอกาสนี้ลงมือกับตระกูลตงฟางเช่นกัน มีท่านอวิ๋นเมิ่งอยู่เช่นนี้ ก็ไม่ต้องกังวลพวกตงฟางป้าเทียนอีกต่อไป
ใครจะคิดว่าอวิ๋นเมิ่งจะส่ายหน้าปฏิเสธเบาๆ
“เื่ราวไม่ได้ง่ายขนาดนั้น บนลานประลองเมื่อครู่ พวกเ้าคงเห็นท่านทูตของเมืองอวิ๋นหลิวแล้วกระมัง เขามีนามว่าเยียนหลิงซาน ในจักรวรรดิเทียนอวี่ก็เป็คนที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้มาเป็ทูตครั้งนี้ ข้าสงสัยว่าพวกเขาสองคนจะสมคบคิดกัน ไม่เช่นนั้นศิษย์ของเฮยฉานฉู่คงไม่แฝงตัวเข้ามาง่ายขนาดนั้น!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ในใจของถังเหล่ยพลันสั่นไหวอีกครั้ง อย่าบอกนะว่าทูตผู้นี้ก็เล็งตระกูลถังไว้เช่นกัน
“ข้าคิดว่าอย่าเพิ่งเคลื่อนไหวจะดีกว่า รอดูว่าพวกเขาจะมาไม้ไหน ในการประลองวันพรุ่งนี้เยียนหลิงซานต้องเพ่งเล็งตระกูลถังก่อนแน่ ถึงเวลานั้นคอยดูว่าพวกเ้าจะรับมือเช่นไร!?”
อวิ๋นเมิ่งคิดถึงภาพรวม นางไม่อยากลงมือกับตระกูลตงฟางทันที เพราะตอนนี้ยังไม่รู้แผนการของเฮยฉานฉู่กับเยียนหลิงซาน พวกเขาทั้งสองล้วนไม่ยอมโผล่หน้าออกมา
ถ้าลงมือตอนนี้ เกรงว่าจะเป็การแหวกหญ้าให้งูตื่น
“ข้าเข้าใจแล้ว การประลองในวันพรุ่งนี้ผู้าุโไม่ต้องกังวลไป ศิษย์ของเฮยฉานฉู่เ่าั้มอบให้ข้าจัดการเถิด ผู้าุโรอเพียงเฮยฉานฉู่ปรากฏตัวก็พอ!”
ถังเหล่ยกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
เป้าหมายของอวิ๋นเมิ่งหาใช่ปกป้องตระกูลถัง แต่เป็การกำจัดเฮยฉานฉู่ ถ้าตระกูลถังอยากจะรอดจากอันตรายครั้งนี้คงต้องพึ่งตัวเอง
“โอ้ เ้ามั่นใจขนาดนั้นเลยหรือถังเหล่ย? ข้าได้ยินเื่ราวของเ้ามาไม่น้อย บอกตามตรงข้าเองก็สงสัยว่าทำไมเฮยฉานฉู่ต้องลงมือกับตระกูลถังของพวกเ้า ถึงขนาดใช้เวลาสามปีเพื่อวางแผนการทั้งหมดนี้อย่างไม่เสียดายเวลา!”
อวิ๋นเมิ่งมองถังเหล่ยด้วยรอยยิ้มจางๆ
“ตระกูลถังของข้าเป็เพียงตระกูลเล็กๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าไปหาเื่เฮยฉานฉู่ตอนไหน แล้วผู้าุโสงสัยเื่ใดหรือ?”
ถังเหล่ยไม่ได้หวาดกลัวสายตาของอวิ๋นเมิ่ง ถึงอย่างไรชาติที่แล้วถังเหล่ยก็เป็ถึงระดับราชันยุทธ์ เื่ใหญ่แบบไหนบ้างที่ไม่เคยเห็น แค่ผู้ฝึกตนระดับยอดยุทธ์คนหนึ่งคิดจะขู่ถังเหล่ยหรือ? ช่างน่าขัน!
“เหล่ยเอ๋อร์ อย่าเสียมารยาท!”
ถังจงเวยรีบกล่าวเตือน อวิ๋นเมิ่งผู้นี้เป็ถึงยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์ เขาไม่อยากให้ตระกูลถังต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์สองคน ถ้าล่วงเกินมากไป ตระกูลถังคงไม่มีที่ให้ยืนในเมืองอวิ๋นหลิวอีกแล้ว
“เป็อวิ๋นเมิ่งเองที่พูดจาละลาบละล้วง ข้ากับศิษย์ขอพักในจวนตระกูลถังได้หรือไม่? จะได้ตรวจสอบเื่ของเฮยฉานฉู่ง่ายขึ้น หวังว่าท่านจะไม่ว่าอะไร”
อวิ๋นเมิ่งหาได้ใส่ใจคำพูดแฝงด้วยความท้าทายของถังเหล่ยไม่ แต่หลินเนี่ยนยังคงถลึงตาใส่ถังเหล่ย ชายหนุ่มผู้นี้กล้าพูดกับอาจารย์ของนางเช่นนี้เลยหรือ
ถังเหล่ยจ้องกลับด้วยสายตาไม่ยอมแพ้ เพื่อแสดงว่ายังไงข้าก็จะพูดเช่นนี้ เ้าจะทำไม?
ในเมื่ออีกฝ่าย้าพักในตระกูลถัง ถังจงเวยก็้าเช่นกัน หากทำเช่นนี้ก็เท่ากับว่าตระกูลถังอยู่ภายใต้การคุ้มครองของยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์
ถังจงเวยจึงเตรียมที่พักเงียบสงบให้อวิ๋นเมิ่ง อีกทั้งยังสั่งการองครักษ์เอาไว้ ห้ามมิให้คนตระกูลถังคนอื่นๆ เข้าใกล้เด็ดขาด
ในเวลาเดียวกันก็ส่งศิษย์ตระกูลถังไปหาข้อมูลของตระกูลตงฟางเพิ่ม
วันนี้ทั้งเมืองอวิ๋นหลิวคึกคักมาก การต่อสู้อย่างดุเดือดบนลานประลองแพร่กระจายปากต่อปาก และทุกคนต่างก็คาดหวังกับการต่อสู้ในวันพรุ่งนี้
ตกกลางคืนถังเหล่ยยังคงพยายามฝึกฝนเคล็ดวิชาัคชสาร แต่ตอนนี้ปราณแท้พลังยุทธ์ในร่างกายของเขาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
นอกจากทะลวงระดับก็ไม่อาจเพิ่มพลังได้อีก
ทว่าสิ่งกีดขวางบางๆ ชั้นนั้น ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไรก็ไม่อาจทะลวงผ่านไปได้เสียที ยิ่งมีอวิ๋นเมิ่งอยู่ด้วยแล้ว เขาก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวใหญ่โต เวลาหนึ่งคืนจึงผ่านไปเช่นนี้
เช้าวันที่สอง อวิ๋นเมิ่งมาหาถังเหล่ย นางมอบยาสีม่วงเม็ดหนึ่งให้เขา
นี่คือยาที่ถังเหล่ยคุ้นเคยดี ยาเสริมเกราะ
สรรพคุณของมันคือสามารถสร้างเกราะใต้ชั้นิัของผู้ฝึกตนชั้นหนึ่งเพื่อปกป้องจุดสำคัญของผู้ฝึกตนเอาไว้ได้ อีกทั้งยังไม่มีใครััเกราะนี้ได้ด้วย
มูลค่าของยาเสริมเกราะนับว่าไม่ธรรมดา เพราะการปรุงยาค่อนข้างยุ่งยาก ถึงแม้ถังเหล่ยจะสามารถปรุงออกมาได้ แต่ไม่อาจหาวัตถุดิบในเมืองอวิ๋นหลิวนี้ได้
อวิ๋นเมิ่งบอกวิธีการใช้และประโยชน์ของยากับถังเหล่ย หลินเนี่ยนบ่นพึมพำอยู่ด้านข้าง นางรู้สึกว่าอาจารย์ทำดีกับถังเหล่ยมากเกินไป
“ขอบคุณผู้าุโ”
คนรู้จักก็ไม่ใช่ ศัตรูก็ไม่ใช่ แต่อีกฝ่ายยินดีมอบยาเสริมเกราะให้เขา ในใจถังเหล่ยรู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้