สิ่งที่เผยมิ่งหยวนดเห็น หากมีใครเอามาเล่าให้เขาฟังเห็นยากที่จะเชื่อยิ่งนัก เขายืนอยู่ตรงนี้แทบไม่ได้จะทำอะไรเลย นางทำทุกอย่างด้วยตนเองจัดการเื่เช่นนี้เหมือนเป็เื่เล็กๆเท่าฝ่ามือของนาง
“เรียบร้อยแล้วหรือ” อวิ๋นเสียนหนานอยากจะพยักหน้าว่าเรียบร้อยแล้วแต่สิ่งที่อยู่ข้างในก็ยังไม่ได้จัดการ
“ตรงนี้เรียบร้อย เหลือข้างใน”
ยังมีอีกหรือ เผยมิ่งหยวนเริ่มเข้าใจคำว่ากลัวผีเสียอย่างนั้น เห็นครั้งแรกก็ดันเยอะเกินไป หากครั้งที่สองเยอะมากกว่านี้ แค่คิดเขาก็ขนลุกเกลียวขึ้นมาทันที
ขณะที่อวิ๋นเสียนหนานเดินนำเข้าไปในเรือน เผยมิ่งหยวนก็ถามสิ่งที่เขาสงสัยออกมา
“เหตุใดต้องทำถึงขั้นนี้ หาก้าให้ปกป้องเรือนนี้ ใช้คนก็ไม่ได้ใช่หรือ”
“ก็ใช่ แต่สิ่งที่ใช้ผีเฝ้าคือผีของคนที่ตายข้างใน ท่านไม่เห็นหรือว่าเรือนนี้อยู่เกือบท้ายจวนไม่จำเป็ต้องใช้คน หากต่อให้ใช้ก็ไม่มีใครกล้ามา หึเ้าลูกเต่าหัวหด” อวิ๋นเสียนหนานอธิบายพลางด่าหลี่กุ้ยไปพลาง
เพียงเท่านี้เผยมิ่งหยวนก็เข้าใจได้ทันที ยามฆ่าคนตายไม่กลัว กับมากลัวิญญาเ่าั้หลอกหลอนงั้นหรือ
ถ้าเช่นนั้นจำนวนที่ฝั่งคนเป็ทำเป็ผีเฝ้าเรือนเช่นนี้ คนข้างในคง...
สภาพในเรือนแห่งนี้ หากคนปกติมองก็คงเป็เรือนปกติ แต่กับไม่ใช่อวิ๋นเสียนหนาน ค่ายกลลวงตา หรืออีกชื่อเรียกว่าค่ายกลของเทพเซียน เป็การวางค่ายกลให้ดูเหมือนสภาพเรือนข้างในเป็เรือนปกติ
ค่ายกลเช่นนี้หากไม่ใช่ปรมาจารย์ระดับสูงหรือเทพเซียนจริงๆมักจะแก้ได้ง่ายและไม่มีประสิทธิภาพอย่างมาก แต่เท่าที่นี้ประเมิณค่ายกลนี้แล้ว อยู่ในระดับกลาง ขอเพียงหาจุดวางเจอ ทำลายก็ปิดค่ายกลได้ทันที
สิ่งที่เผยมิ่งหยวนเห็นคือท่านนักพรตสือหนานกำลังเดินหา ขยับแจกัน เอายันต์แปะรูปภาพ และเอ่อกำลังยันต์ลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง นี่นางกำลังทำลายค่ายกลอยู่อย่างนั้นจริงๆหรือ
หลังจากที่อวิ๋นเสียนหนานได้ทำลายจุดวางค่ายกลตัวสุดท้าย พลันภายในเรือนกลับปรากฏ ห้องปริศนาเพิิ่มขึ้นหนึ่งห้อง
“นี่มัน” เผยมิ่งหยวนมั่นใจมากว่าเขาได้เดินผ่านจุดนีี้ ไม่เห็นประตูเลย
ประตูทั้งบาน บานใหญ่เชียวนะมันควรเป็จุดสังเกตุไม่ใช่หรือ
อวิ๋นเสียนหนานส่ายหัวและคร้านจะเอ่ยปากบอกใต้เท้าเผย นี่เขายังจะตะลึงใอะไรอีกกี่รอบกันเชียว
“ใต้เท้าเผยท่านส่งสัญญาณให้ลูกน้องของท่านเข้าจับหลี่กุ้ยได้เลย หากช้าไปเขาจะหนีได้”
เผยมิ่งหยวนพยักหน้าก่อนหยิบนกหวีดออกมาจากใต้แขนเสื้อตัวเอง ก่อนเป่าส่งสัญญาณหันมองอวิ๋นเสียนหนาน อวิ๋นเสียนหนานพยักหน้ายืนยันเป็การให้คำตอบ
เสียงนกหวีดเสียงดังในยามรัตติกาลแห่งจวนท่านเ้าเมืองหลี่ ปลุกให้ผู้คนทั่วทั่งเรือนไม่ว่าจะเป็บ่าวรับใช้จวบจนผู้เป็นายต่างลุกขึ้นตื่นมาว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นกันแน่ เสียงอึกทึก ตามมาด้วยเสียงกองกำลังทหารที่ล้อบรอบจวนแห่งนี้ วิ่งกรูบุกเข้าจับตามคำสั่งของผู้เป็นาย
ห้องที่ถูกค่ายกลบังตาแห่งนี้ คือทางเดินลงไปใต้ดิน ใช่แล้ว เรือนแห่งนี้มีสถานที่ใต้ดิน หากเรียกให้ถูกคุกใต้ดินได้หรือไม่นะ
เผยมิ่งหยวนเดินนำอวิ๋นเสียนหนานลงไป ในมือกุมดาบแแ่ประชิดตัวมากขึ้น ยิ่งเดินลงไปยิ่งมืด กลิ่นอับชื้น กลิ่นคาวเืรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เมื่อลงมาถึงห้องที่เรียกว่าคุกใต้ดิน เผยมิ่งหยวนจุดไฟเพื่อให้ความสว่างแก่ห้องนี้ ปรากฏชายผู้หนึ่งสภาพเนื้อตัวโดนทรมาณสาหัส แผลทั่วทั้งร่างกาย น่าจะโดนทรมาณมาอย่างหนัก เหมือนกำลังโอบกอดอะไรสักอย่างไว้กับตัวไม่ยอมปล่อย
อวิ๋นเสียนหนานรีบเดินเข้าไปจับชีพจร ยังมีชีวิต อวิ๋นเสียนหนานโล่งใจ “โม่เซียน ท่านได้ยินข้าหรือไม่”
เจียงซานหรือ โม่เซียนที่กำลังจะสติหลุดลอย ก่อนเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งมองต้นเสียงที่ถามออกมา
หากแต่ปรากฏเป็ นักพรต หญิง ไม่รู้เหตุใดเขาถึงได้ยินเสียงคนตรงหน้าเป็เสียงของชายคนรักตนเอง หรือเจียงซานพยายามช่วยเขากันนะ
“ใต้เท้าเผย ท่านรีบมาพยุงเขาเร็วเข้า” เขายืนทำอะไรอยู่นะเหตุใดไม่มาช่วยกัน
อวิ๋นเสียนหนานลุกขึ้นยืนไปหาเผยมิ่งหยวน ก่อนจะหันสังเกตุกวาดสายตามองรอบๆห้องแห่งนี้อย่างถี่ถ้วน
ภายในห้องแห่งนี้ปรากฏโถสีขาวเรียงราวกับเป็ชั้นหนังสือเต็มทั่วไปทั้งห้อง เมื่อเดินสำรวจดีแล้วๆโถสีขาวจะกระดาษแปะอยู่ พร้อมตัวอักษรเหมือนชื่อคน
คิดได้ดังนั้นอวิ๋นเสียนหนานรีบหันก้มลงมองสิ่งที่โม่เซียนกอดไว้แนบอกราวกับปกป้องกลัวใครมาทำร้าย โถสีขาวที่โม่เซียนกอดไว้มีกระดาษแปะอยู่สลักคำว่าเจียงซานอยู่บนนั้น ไอ้โรคจิตเอ้ย อวิ๋นเสียนหนานสบถด่าในใจ
เผยมิ่งหยวนที่สติหลุดกับสิ่งตรงหน้าไปแล้วถูกอวิ๋นเสียนหนานทุบหลังเรียกสติ “ท่านมาช่วยคนก่อน” เผยมิ่งหยวนเมื่อได้สติรีบเข้าไปพยุงโม่เซียน
ฆ่าคนตาย ทรมาณคน เขามั่นใจมากว่าเขาเห็นมาทุกรูปแบบ แต่สิ่งนี้เขาเห็นเป็ครั้งแรก เขามั่นใจเป็อย่างมาก โถสีขาวนั้นมีกระดูกของคนแน่นอน หากแต่เอาใส่โถเช่นนี้ เผางั้นหรือ
จับคนมาฆ่าทรมาณแล้วเผา นำกระดูกมาใส่โถแล้วจัดเรียงราวกับเป็หนังสือที่ถูกจัดเรียงใส่ชั้น อย่างกับมานำมาตั้งอวดใครอย่างไรอย่างนั้น
“ใต้เท้าท่านพาโม่เซียนออกไปก่อน จัดการศพตรงเสาด้วยเหล่า ส่วนตรงนี้ข้าจัดการแล้วจะตามไป”
เผยมิ่งหยวนพยักหน้าลงอย่างว่าง่าย หากนางจะจัดการคงเป็การทำพิธีกรรมอะไรสักอย่างเกี่ยวิญญาพวกนี้ งั้นตรงนี้ก็ปล่อยให้เป็หน้าที่นางไป เขาจะขึ้นไปจัดการคนผู้นั้นเอง
หลังจากเผยมิ่งหยวนพาโม่เซียนขึ้นไป อวิ๋นเสียนหนานถอนหายใจออกมาอย่างหดหู่ใจ สิ่งตรงหน้านางมันทำนางพูดไม่ออก
คนผู้นี้หากเป็โลกเก่าของนาง เรียกได้ว่าเป็ฆาตกรโรคจิตอย่างสมบูรณ์ นางไล่มองทีละชั้นที่วางโถสีขาว
มีมากมายเกินไป หลี่กุ้ยจับคนมาฆ่าทรมาณไปตั้งมากมายขนาดนี้เชียวหรือ เผาศพเก็บกระดูกใส่โถสีขาว มาเรียงอวดเหมือนไว้ให้ตนเองได้นั่งชมผลงาน
นางแตะไปที่โถกระดูกหนึ่ง ััได้ว่ามีการทำพิธีกรรมสวดส่งอย่างถูกต้อง
“ตลกสิ้นดี ทำเช่นนี้ คิดว่าิญญาไม่อาฆาตหรืออย่างไร”
คนตายอย่างทรมาณ คิดว่าทำพิธีสวดตามศาสนาให้ คาดหวังว่าจะไปอย่างดีเช่นนี้หรือ
“ข้าชักจะอย่างรู้แล้วสิว่านักบวชโง่เง่าตัวไหนมันทำขัดหลักคำสอนมาช่วยคนอย่างหลี่กุ้ย” เข้าทางสายมืด สายปีศาจงั้นหรือ
อวิ๋นเสียนหนานครุ่นคิดกับตัวเอง ก่อนจดบัญชีไว้ นางจะตามหาคนผู้นี้อย่างนี้แน่นอน
สิ่งที่นางต้องทำตอนนี้คือ เรียกขวัญเหล่าิญญากลับมาเสียก่อน ก่อนจะิญญาเหล่านี้จะแค้นเคืองมากจนเปลี่ยนตนเองให้ปีศาจได้
อวิ๋นเสียนหนานนั่งขัดสมาธิ กำหนดลมปราณอย่างสม่ำเสมอ อันเชิญเทพทั้งสาม ก่อนกล่าวบทสวดออกมา
“ขวัญจงกลับมา พวกท่านอยู่ที่นั้นไม่ได้ ที่นั้นมีอสูรร้าย ตัวหลายเศียร ฉวัดเฉวียนไปมา มันสุอุราเมื่อได้กัดกินิญญา ขอขวัญเอย จงกลับมา” สิ้นเสียง ภายในห้องปรากฏิญญามากมาย
“หากมากันแล้ว ขอให้พวกท่านได้เกิดใหม่ในสถานที่ที่ดี” จากนั้นสวดส่งิญญาเ่าั้ตามพิธีกรรม ิญญาเหล่านี้ต่างกับิญญาที่อยู่ตรงเสา นางทำเพียงเรียกขวัญและสวดส่งเป็อันจบพิธี
เื่ราวจบลงตรงที่ใต้เท้าเผยนำคนเข้าจับกุมหลี่กุ้ย คุมตัวท่านเ้าเมืองหลี่และคนทั้งตระกูลหลี่ ไปคุมขังรอฟังคำตัดสิน ผลปรากฏก็ตามที่อวิ๋นเสียนหนานรับรู้มาจากเหล่าิญญา
หลี่กุ้ยชื่นชอบบุรุษเพศเดียวกัน ซึ่งนั้นนางมองว่าเป็เื่ปกติ ความรักไม่จำเพศ หากแต่การฉุดคราเหล่าผู้ชายในเมืองนี้
ไม่ว่าจะเด็กหรือคนหนุ่ม พ่อค้าขายเร่ หรือซื้อขายนายคณิกา อ้างว่าเอาไปเลี้ยงดูแต่จริงๆเอามาทำทรมาณและสุดท้ายก็ตายอย่างไม่เป็ธรรม
ใต้เท้าเผยตัดสินให้ปะาหลี่กุ้ย ส่วนท่านเ้าเมืองหลี่โดนปะา ละเลยต่อหน้าที่เ้าเมือง ใช้อำนาจราวกับเป็พระาา ปกปิดการกระทำผิดของลูกชายตนเอง ปลดให้เหล่าคนที่เหลือไปเป็ทาสประจำชายแดน จะเข้ารับราชการได้ก็ต่อเมื่อใช้ความผิดครบสามรุ่นต่อจากนี้
ส่วนฮวาเหนียงนายหญิงแห่งหอหมื่นบุปผายอมรับผิด รู้เห็นการกระทำของหลี่กุ้ย ใต้เท้าเผยเห็นว่ายอมรับสารภาพและช่วยรูปคดี จึงยึดทรัพย์ทั้งหมดและส่งไปเป็ทาสหลวง เมื่อครบวาระสิบปีีจึงจะใช้ชีวิตปกติได้
อวิ๋นเสียนหนานนั่งจิบชาอยู่กับเผยมิ่งหยวนบนโรงเตี๊ยมที่ได้เจอกับพวกเขาได้เจอกันเป็ครั้งแรก
“เกือบสองวันมานี้ ต้องขอบคุณนักพรตสือหนาน ทำให้คดีนี้จบลงได้ง่าย” เผยมิ่งหยวนเอ่ยกล่าวขอบคุณอวิ๋นเสียนหนานด้วยใจจริง
เป็สองวันที่เขารู้สึกเหนือความคาดหมายยิ่งนัก เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เจอทำให้เขาได้รู้สึกว่าตัวเองยังไม่รู้ไม่เห็นอะไรอีกหลายอย่างไม่ได้แปลว่ามันไม่มี
“ท่านก็ถ่อมตนเกินไป เื่นี้ได้อำนาจท่านจัดการเห็น ๆ ” จริงด้วยเขาเข้าใจแจ่มแจ้งว่าเหตุใด นางถึงต้องให้เขาจัดการเื่นี้ สกุลหลี่เป็ญาติกับฉินกุ้ยเฟย เื่นี้เขาอาจจะทำให้พี่สาวของเขาที่ปกครองหกวังหลังปวดหัวเป็แน่นอน
จู่ ๆ เขานึกได้เื่หนึ่งจึงเอ่ยกล่าวกับอวิ๋นเสียนหนาน มันเป็สิ่งที่เขานั้นสงสัย
“ท่านนักพรต ท่านรู้หรือไม่เหตุใดหลี่กุ้ยถึงลงมือกระทำโเี้เช่นนี้” อวิ๋นเสียนหนานเงยหน้ามองเผยมิ่งหยวน ชายผู้นี้ช่างหน้าตาหล่อเหล่ายิ่งนัก แต่สิ่งที่เขากล่าวมามีหรือที่นางจะไม่รู้
“กล่าวตอบท่านตามตรง ข้าไม่อยากรู้สาเหตุที่หลี่กุ้ยมากระทำเช่นนี้กับผู้อื่น ไม่ว่าเขาจะเจออะไรมาในตอนเด็ก เขาเ็ปจากอะไรมาแต่การฉุดคราฆ่าคนบริสุทธิ์ก็ไม่ใช่ทางออก คนเราเลือกที่จะเดินทางที่ดีได้นี่ คนทุกคนมีคุณค่าเช่นกัน หลี่กุ้ยเป็ลูกชายของท่านหลี่ แล้วผู้ชายคนอื่นที่หลี่กุ้ยฉุดครามาไม่ใช่ลูกชายของใครสักคนหรืออย่างไร ข้าไม่อยากเปิดโอกาสให้อดีตตอนเด็กของเขา มาหักล้างกับการกระทำของเขาตอนนี้”
อวิ๋นเสียนหนานเอ่ยกล่าวตอบจากความรู้สึกตัวเอง
นางช่างเป็สตรีที่เถรตรงยิ่งนัก สิ่งที่นางกล่าวมาล้วนเป็ความจริงทั้งสิ้น เผยมิ่งหยวนชื่นชมอวิ๋นเสียนหนานด้วยใจจริง
“จริงที่ท่านนักพรตกล่าวมา อ่อโถกระดูกเ่าั้ ข้านำไปประกาศหาครอบครัวแล้ว มีบางส่วนมารับกลับไป และบางส่วนไม่มีผู้มารับ ข้าควรทำเช่นไร” เขาเอ่ยถามอย่างกังวล
ดีแล้วที่มีคนมารับบ้าง บางคนก็ไม่กล้ารับโถกระดูกลูกหลานตัวเองเพราะเพียงอับอายที่ลูกชายตายเพราะโดนบุรุษฉุดคราไป อวิ๋นเสียนหนานหน่ายใจยิ่งนัก คนที่นี้เห็นหน้าตัวเองมากกว่าผู้ตายเสียอีก
“หากเป็เช่นนั้น ท่านก็นำเถ้ากระดูกเ่าั้ไปปล่อยตามลมบนเชิงเขาก็เท่านั้น” กล่าวจบนางก็ปัดแขนเสื้อ จัดระเบียบเครื่องแต่งกาย ลุกขึ้นยืนโค้งคำนับ และเอ่ยกล่าวลากับเผยมิ่งหยวน
“ใต้เท้าเผยนี่ก็ได้เวลาที่ข้าต้องกลับอาราม ข้ากล่าวลาท่านตอนนี้เลยละกัน”
“หากมีวาสนาเราจะได้พบกันอีก” เผยมิ่งหยวนเอ่ยกล่าวตอบอย่างไม่คิดอะไร เขาเองก็ต้องกลับเมืองหลวงแล้วเช่นกัน มีงานที่ต้องกลับไปจัดการอีกยกใหญ่
หากแต่อวิ๋นเสียนหนานได้ยินเช่นนั้นถึงกับคิ้วกระตุก ท่านเอ่ยเช่นนี้เองนะ นางถอนหายใจก่อนเอ่ยประโยคสุดท้ายออกมา
“ข้าขอเตือนท่านในฐานะสหายก็แล้วกัน เมื่อท่านจัดการเื่ในเมืองหลวง ภายในสามวันท่านมาหาข้าที่อารามมู่หญง ท่านต้องมาให้ได้นะ” ไม่ทันที่เผยมิ่งหยวนได้เอ่ยกล่าวอะไรออกมา อวิ๋นเสียนหนานเดินออกมาอย่างว่องไวจนเขามองตามไม่ทัน
นางหมายความว่าเช่นไรกันนะ
อวิ๋นเสียนหนานเดินออกมาจากโรงเตี๊ยมก่อนะโขึ้นรถม้าที่เสี่ยวชางเตรียมรอไว้อยู่แล้ว ขณะที่กำลังเคลื่อนรถม้า มีชายผู้หนึ่งได้เข้ามาขวางทางไว้
“คุณหนูมีคนขวางทางขอรับ” เสี่ยวช่างเอ่ยะโบอกผู้เป็นาย
อวิ๋นเสียนหนานครุ่นคิดเล็กน้อย หรือว่าเป็ใต้เท้าเผยหรือไม่นะ เลยชะโงกหน้าออกไปดู
“ท่านโม่เซียนหรือ” อวิ๋นเสียนหนานขมวดคิ้ว เหตุใดโม่เซียนมาขวางทางนางนะ ก่อนนางจะลงรถม้าเดินมาพบโม่เซียน
“ท่านมีอะไรกับข้าหรือ”
“ท่านนักพรตให้ข้าได้พบกับเจียงซานเป็ครั้งสุดท้าย” โม่เซียนคุกเข่าลงตรงหน้านาง
พี่น้องคู่นี้คุกเข่าเก่งกันเกินไปแล้ว! หากแต่สายตาของคนผู้ ทำให้อวิ๋นเสียนหนานเป็ห่วงยิ่งนัก
“ท่านลุกขึ้นเถิด ข้าทำไม่ได้ ท่านกลับไปดีกว่า” กล่าวจบอวิ๋นเสียนหนานหมุนตัวกำลังจะขึ้นรถม้า จึงหันกลับมาเอ่ยกล่าวกับโม่เซียนเป็ครั้งสุดท้าย
“คนตายไปแล้ว ท่านยังมีชีวิตท่านก็ควรมีชีวิตอยู่ต่อไป หากตอนนี้ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมต้องอยู่ ก็ให้นึกถึงเจียงซาน เจียงซานเป็คนที่อยากให้ท่านมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี”
กล่าวจบอวิ๋นเสียนหนานขึ้นรถม้าไม่หันมามองโม่เซียนอีกเลย “เสี่ยวชางออกเดินทาง”
โม่เซียนนัั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้นกว่าเขาจะได้สติรถม้าก็ไปไกลเสียแล้ว เขาไม่มีโอกาสได้ร่ำลากับคนรักเขาเลยสักนิด เขาหวังเพียงเจียงซานจะมีชีวิตจึงส่งจดหมายไปที่ใต้เท้าเผย
หรือตอนที่เขายอมโดนหลี่กุ้ยจับตัวไป เพียงเพราะอยากเจอเจียงซาน แต่นั้นก็ทำให้เขาได้รู้ว่าเจียงซานจากไปแล้วเขาแทบจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วด้วยซ้ำ
โม่เซียนไม่รู้ตัวว่าเขาเดินไปไกลขนาดไหน เขาเดินมาเรื่อยๆจนถึงเชิงเขาแห่งหนึ่งแต่แล้วจู่ๆเขาก็ได้ยินเสียง เสียงหนึ่งลอยมาสายลม
โม่เซียนลาก่อน ข้ารักท่าน ได้โปรดใช้ชีวิตอย่างดี ไม่ผิดแน่นี่คือเสียงเจียงซาน
แต่เขาหันมองรอบ ๆ กลับไม่เจอใคร ได้ปล่อยให้ตัวเองร่ำไห้อยู่ตรงนั้น
อวิ๋นเสียนหนานไม่รู้ว่าโม่เซียนจะคิดได้หรือไม่ นางก็หวังว่าเพียงเขาจะใช้ชีวิตต่อจากนี้ไปอย่างดี ให้สมกับที่เจียงซานมาร้องขอความช่วยเหลือจากนาง นางนวดขมับให้กับตัวเองเบาๆ
“คุณหนูท่านลืมอะไรหรือไม่ขอรับ” อวิ๋นเสียนหนานขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำถาม
นางลืมอะไรงัั้นหรือ นางคิดว่าไม่มีแล้วนะ จัดการเื่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนี่หน่า
“ข้าว่าไม่มีแล้วนะ ข้าลืมอะไรอย่างนั้นหรือ”
เสี่ยวชางได้แต่ถอนหายใจออก “คุณหนูท่านไม่ได้เก็บเงินค่าปราบผีขอรับ”
ตายแล้วนางลืมเสียสนิทเลย ท่านเทพข้าตายแน่นอน ศิษย์น้องบ่นนางหูชาแน่นอน
แต่ว่าผีมาขอความช่วยเหลือนางควรเก็บเงินจากใครได้บ้าง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้