คำพูดของมู่อวิ๋นจิ่นทำให้มู่อวิ๋นหานเข้าใจอย่างไร้ข้อกังขา
หลังจากพูดคุยกันสักระยะหนึ่ง มู่อวิ๋นจิ่นก็ขอตัวกลับจวนองค์ชายหก ก่อนที่จะกลับนางััได้ถึงความสำคัญของตนเองในจวนอัครเสนาบดีมู่แห่งนี้ มีมากกว่าเมื่อก่อนเป็อย่างมาก
ระหว่างที่เดินกลับจวนองค์ชายหก จื่อเซียงรู้สึกดีใจแทนมู่อวิ๋นจิ่นเป็พิเศษ “คุณหนู ตอนนี้พวกเราผ่านทุกข์ระทมจนพบหวานหอมแล้ว”
“อืม” มู่อวิ๋นจิ่นพยักหน้า มิอาจเก็บความดีใจไว้ข้างในใจได้
……
พอกลับมาถึงจวนองค์ชายหก มู่อวิ๋นจิ่นก้าวข้ามประตู มีคนในชุดเขียววิ่งพุ่งหมายปะทะนาง
มู่อวิ๋นจิ่นรีบหลบทันใด จากนั้นกรีดร้องด้วยความใ เหลือบมองเห็นฉู่ชิงหยวนล้มลงที่พื้น
“ชิงหยวนเป็เ้าไปได้ยังไง?” มู่อวิ๋นจิ่นเบือนปาก ส่วนจื่อเซียงรีบเข้าไปประคองฉู่ชิงหยวนลุกขึ้น
ฉู่ชิงหยวนปัดฝุ่นที่ติดชุด พลางพูดขึ้นว่า “พี่สะใภ้หก ทำไมไม่รับข้าล่ะ”
“......” มู่อวิ๋นจิ่นแสยะยิ้ม “เ้ามาได้ยังไง?”
ฉู่ชิงหยวนฟังที่มู่อวิ๋นจิ่นถามขึ้น รีบเข้ามาลากมู่อวิ๋นจิ่น “พี่สะใภ้หก น้องจะเล่าอะไรให้ฟัง……”
“เมื่อคืนที่ผ่านมา เสด็จพ่อเรียกข้าเข้าเฝ้าเป็การส่วนพระองค์ บอกว่าพี่ห้าต้องแต่งงานไปอยู่ที่อาณาจักรตงหลิน ส่วนพี่เจ็ดอาจแต่งไปที่อาณาจักรหนานถิง หรือไม่ก็อาณาจักรเป่ยิ มีเพียงน้องที่อายุยังน้อย ทั้งยังเป็องค์หญิงที่เสด็จพ่อรักที่สุด ดังนั้นอาจจะให้น้องแต่งกับพี่ฉินมู่หนาน”
ฉู่ชิงหยวนเล่าด้วยความยินดีปรีดา แต่กลับไม่พบสีหน้าของมู่อวิ๋นจิ่นเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
มู่อวิ๋นจิ่นหันมองฉู่ชิงหยวนที่ใบหน้าดูไร้เดียงสา “เ้าชอบแม่ทัพฉินขนาดนั้นเลยหรือ?”
“ชอบมากที่สุด! พี่สะใภ้หกอาจยังมิทราบ ตอนนี้ขุนนางมากมายต่างอยากทำความรู้จักกับพี่ฉินมู่หนาน แต่ไม่ว่าอย่างไร น้องก็เป็องค์หญิงเก้า แข่งอย่างไรก็ชนะ”
มู่อวิ๋นจิ่นฟังไปเดินเข้าไปในห้องโถง “เื่นี้น้องบอกกับพี่ชายหกแล้วหรือยัง?”
ฉู่ชิงหยวนหยุดฝีเท้าลง
มู่อวิ๋นจิ่นก็หยุดฝีเท้าเช่นกัน “เป็อะไรไป?”
“น้องเก้าอยู่ในวังหลวง พอได้ยินเื่นั้นเื่นี้ของตระกูลฉินมาบ้าง ดังนั้นเื่นี้น้องไม่กล้าบอกพี่ชายหกหรอก” พอฉู่ชิงหยวนนึกถึงเื่ที่ถามฉู่ลี่ในวันนั้น นางยังจำสายตาพิฆาตของเขาได้แม่นยำ
“ในเมื่อจิตใจของน้องอยากแต่งกับแม่ทัพฉินขนาดนั้น เื่นี้ยังไงก็ควรฟังความเห็นของพี่ชายหกเสียหน่อย เพราะอย่างไรเสียก็มีท่านแม่คนเดียวกัน เขาคงไม่คิดให้ร้ายน้องสาวแท้ๆ หรอก”
ฉู่ชิงหยวนเข้าใจทุกอย่างที่มู่อวิ๋นจิ่นพูด จากนั้นเอ่ยเสียงขึ้นอย่างอเนจอนาถ “น้องมาวันนี้ เพื่อจะมาถามเื่นี้กับพี่ชายหกนี่แหละ แต่น้องมิกล้าไปถามคนเดียว จึงอยากให้พี่สะใภ้หกช่วยน้องด้วยจะได้ไหม?”
มู่อวิ๋นจิ่นถอนหายใจ ผินหน้าไปมองฉู่ชิงหยวนด้วยความเสียดาย “ชิงหยวนเอ๋ย เื่นี้พี่มิอาจช่วยน้องได้ นิสัยของพี่ชายหกยากที่ใครจะคาดเดาได้……”
“พี่สะใภ้หก……”
……
ทั้งสองคนสนทนากันจนเดินมาถึงเรือนลี่เฉวียน ฉู่ชิงหยวนเกิดตัวสั่นมิกล้าก้าวเข้าไปด้านใน
มู่อวิ๋นจิ่นยกมือกอดอก ในฐานะของนางมิอาจยับยั้ง ขัดขวางให้ฉู่ชิงหยวนหยุดรักฉินมู่หนานได้ ทว่ามีเพียงฉู่ลี่ที่น่าจะหาวิธีได้
เดิมทีมู่อวิ๋นจิ่นคิดอยากพาฉู่ชิงหยวนเข้าไปด้านในด้วยกัน แต่นางกลับนึกขึ้นได้ว่าหากฉู่ชิงหยวนค้นพบว่านางและฉู่ลี่แยกห้องกันนอน อาจเป็เื่ขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงให้นางไปนั่งรอที่สวนบุปผาด้านหลังก่อน
ฉู่ชิงหยวนยอมทำตามอย่างว่าง่าย
มู่อวิ๋นจิ่นเดินเข้าไปหาฉู่ลี่ในห้องได้ไม่กี่ก้าว ติงเซี่ยนก็ปรากฏตัวขึ้นมา
“พระชายามาหาองค์ชายหรือพ่ะยะ่ค่ะ?”
“ใช่ เขาอยู่ข้างในไหม?” มู่อวิ๋นจิ่นถามขึ้น
ติงเซี่ยนพยักหน้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เวลานี้องค์ชายกำลังชำระร่างกายพ่ะย่ะค่ะ”
“อ่อ”
เดิมทีติงเซี่ยนนึกว่ามู่อวิ๋นจิ่นจะไปรอด้านนอกประตู คิดไม่ถึงนางพูดจบยังไม่ทันขาดคำ ก็เดินเข้าไปผลักประตูห้องฉู่ลี่ เดินเข้าไปข้างใน
ติงเซี่ยนสะดุ้งโหยงสั่นไปทั้งตัว รีบหลบเข้ามุม เพื่อมิให้ถัยมาถึงตัว
มู่อวิ๋นจิ่นเห็นติงเซี่ยนหายวับไปอย่างรวดเร็ว ได้แต่เบะปาก ไหนบอกว่ากำลังชำระร่างกาย ทำเสียว่านางไม่เคยเห็นฉู่ลี่อาบน้ำอย่างนั้นแหละ……
มู่อวิ๋นจิ่นก้าวเข้าไปหยุดยืนหน้าห้องนอนฉู่ลี่ กลืนน้ำลายให้ชุ่มคอ เอ่ยถามขึ้น “ฉู่ลี่ เ้าอยู่ข้างในไหม?”
หลังจากนั้นหลายอึดใจ มีเสียงตอบ “อืม” ดังมาจากข้างใน
“ข้ามีเื่บางอย่างจะคุยด้วย สะดวกให้ข้าเข้าไปข้างในไหม?” มู่อวิ๋นจิ่นพูดไปพลาง มือทั้งสองข้างจับประตูไว้แล้ว
“เข้ามาได้” ฉู่ลี่ตอบเสียงนิ่ง
มู่อวิ๋นจิ่นจึงผลักเข้าไปด้านใน เห็นบ่อน้ำพุร้อนเหมือนครั้งที่แล้ว ที่เต็มไปด้วยไอร้อนตลบอบอวล เห็นเพียงแผ่นหลังของฉู่ลี่ที่แช่น้ำร้อนอยู่
“ตะวันยังไม่ตกดิน เ้าก็ช่างเสพสุขแต่หัววันเลย” มู่อวิ๋นจิ่นเอ่ยปากขึ้น แต่มิได้ก้าวเข้าไปใกล้ๆ
“มีเื่ด่วนอะไร?” ฉู่ลี่หัวเราะเบาๆ
มู่อวิ๋นจิ่นทำหน้าตาจริงจัง เสียงเคร่งขรึม “น้องเก้าของเ้า ชอบฉินมู่หนานเข้าแล้ว”
จากนั้นมู่อวิ๋นจิ่นเห็นฉู่ลี่สะดุ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก้มหน้าก้มตาราวกับครุ่นคิดอยู่
“เ้าออกไปก่อน” ฉู่ลี่สั่งนาง
“อืม อย่างนั้นเ้ารีบหน่อย น้องเก้ารออยู่ในสวนบุปผา”
ก่อนที่มู่อวิ๋นจิ่นจะกลับตัว นางพยายามชะโงกหน้า มองเข้าไปด้านใน แต่เ้ากรรมควันร้อนลอยตลบอบอวลมากเกินไป ทำให้มองไม่เห็นด้านใน
มู่อวิ๋นจิ่นจึงหันหลังเดินกลับออกไป
……
ไม่นานนัก มู่อวิ๋นจิ่นและฉู่ชิงหยวนที่นั่งรออยู่ในสวนบุปผา ได้เห็นร่างฉู่ลี่ปรากฏขึ้น
ฉู่ชิงหยวนเห็นฉู่ลี่เท่านั้นรู้สึกหายใจไม่โล่งอก รีบกุมมือมู่อวิ๋นจิ่นไว้แแ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
มู่อวิ๋นจิ่นกุมมือนางกลับเพื่อให้ผ่อนคลายความกังวลลง
ฉู่ลี่เดินเข้ามาในศาลา หรี่สายตาลง มองไปที่ร่างของฉู่ชิงหยวน เผยรอยยิ้มที่เ็ามากที่สุดขึ้นมา
“น้องเก้า เ้าชอบฉินมู่หนาน?”
น้ำเสียงที่เย็นะเืของเขาทำให้ฉู่ชิงหยวนสั่นสะเทิ้มไปทั้งตัว โชคยังดีที่มู่อวิ๋นจิ่นนั่งอยู่ด้านข้าง จึงพอระงับอาการได้บ้าง
เพียงอึดใจเดียว ฉู่ชิงหยวนสูดลมหายใจเต็ม รวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้น “ใช่แล้วพี่ชายหก วันนั้นพี่มู่หนานช่วยชีวิตน้องไว้ น้องจึงคิดว่าเขาเป็คนที่สามารถฝากผีฝากไข้ไปได้ทั้งชีวิต ที่สำคัญเขายังชนะการทำศึกมาหลายครั้ง นับเป็วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรซีหยวน น้องเก้าชอบเขาในจุดนี้” ฉู่ชิงหยวนพูดด้วยเสียงที่ดังค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ
สีหน้าของพี่ชายหกในขณะนี้ น่าสะพรึงกลัวกว่าครั้งไหนๆ
“ไม่ได้” ฉู่ลี่ตอบด้วยเสียงเรียบนิ่ง ปฏิเสธความรักที่ฉู่ชิงหยวนมีให้ฉินมู่หนานอย่างเด็ดเดี่ยว
ฉู่ชิงหยวนตะลึงไปชั่วขณะ ไม่นึกไม่ฝันว่าฉู่ลี่จะปฏิเสธอย่างไรเยื่อใย “พี่ชายหก ทำไมไม่ได้ละ?”
ฉู่ลี่เหลือบมองไปที่มู่อวิ๋นจิ่น
มู่อวิ๋นจิ่นสบตากับฉู่ลี่พลันเข้าใจความหมายที่เขา้าสื่อ นางจึงดึงแขนเสื้อให้ฉู่ชิงหยวนนั่งลงก่อน “ชิงหยวน พี่ชายหกกวังดีกับเ้า น้องก็ได้ยินมามิใช่หรือ ตระกูลฉินในเวลานี้มีแต่เื่มากมาย หากวันใดเกิดคิดฏขึ้นมา นั่นอาจสั่นคลอนไปถึงบังลังก์เสด็จพ่อของน้องได้”
“พี่……” คำพูดของมู่อวิ๋นจิ่น เอ่ยเข้าประเด็นที่ฉู่ชิงหยวนมิกล้าเอ่ย
ยิ่งคิดเื่นี้ฉู่ชิงหยวนก็ยิ่งเสียใจ จึงสูดหายใจเข้าลึกๆ “ถ้าเขาไม่ได้คิดฏ! น้องก็ถือว่าพลาดคนที่ดีไปอย่างนั้นสิ……”
มู่อวิ๋นจิ่นตะลึงพรึงเพริศกับตรรกกะของฉู่ชิงหยวน มิรู้ว่าตอนนี้ควรโน้มน้าวอย่างไร จึงส่งสายตาไปที่ฉู่ลี่
ฉู่ลี่จนปัญญาจะห้ามปราม จึงเอ่ยประโยคสั้นๆ “ถ้าน้องมิอยากแต่งงานไปอยู่ในอาณาจักรอื่น จงตัดใจจากฉินมู่หนานเสีย!”
“พี่ชายหก น้อง……” ฉู่ชิงหยวนกระทืบเท้าตึงตังด้วยความโมโห ด้วยรู้ว่าพี่ชายหกของเขาพูดแล้วทำ จึงมิกล้าต่อความยาวสาวความยืด
ช่างเถอะๆ เื่นี้คุยกับพี่ชายหกกับพี่สะใภ้หกคงไม่ได้เื่ สงสัยต้องหาโอกาสไปคุยกับพี่มู่หนานเป็การส่วนตัวดีกว่า
คิดมาถึงตรงนี้ ฉู่ชิงหยวนเม้มปาก ยอมอ่อนข้อลง “ชิงหยวนผิดไปแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นน้องเก้าขอตัวกลับก่อน วันหลังจะมาเยี่ยมพี่ชายหกกับพี่สะใภ้หกใหม่” ฉู่ชิงหยวนกล่าวจบ ไม่รอให้ทั้งสองเอ่ยคำใด รีบสาวเท้าออกไปปานสายลม
ฉู่ลี่เรียกติงเซี่ยนด้วยสีหน้าดุดัน “เ้าตามไปดูน้องเก้า อย่าให้นางเข้าใกล้คนตระกูลฉินเด็ดขาด!”
“พ่ะย่ะค่ะ องค์ชาย”
ภายในศาลาเวลานี้ มู่อวิ๋นจิ่นได้แต่ถอดใจ รินน้ำใส่แก้ว ยกขึ้นดื่ม แล้วเอนตัวลงไปกับโต๊ะด้านหน้า
“ถ้ารู้ว่าตระกูลฉินจะสร้างเื่สร้างราวได้มากมายถึงเพียงนี้ ข้าอยากให้อยู่ชายแดนทำสงคราวต่อไปอย่าได้กลับมาเลย” มู่อวิ๋นจิ่นรู้สึกว่าเื่ราววุ่นวายใน่นี้ เกิดมาจากคนตระกูลฉินก่อขึ้น
ฉู่ลี่ได้แต่ส่ายหน้าอย่างห่อเหี่ยวใจ
……
เวลาล่วงเลยมาถึงยามค่ำคืน ฉินมู่หนานเดินทางมาที่จวนองค์ชายหก
มู่อวิ๋นจิ่นกับฉู่ลี่ที่กำลังทานอาหารเย็นอยู่พอดี ทราบว่าฉินมู่หนานมาที่จวน จึงหันมองไปที่ประตู
“องค์ชายหก พระชายาหก” ฉินมู่หนานเดินเข้ามาทำความเคารพฉู่ลี่และมู่อวิ๋นจิ่น
ด้านมู่อวิ๋นจิ่นก้มหน้าก้มตาทานอาหาร ทำเหมือนไม่ได้ยิน
ฉู่ลี่ยกน้ำชาขึ้นจิบ ก่อนเอ่ยเสียงนิ่ง “แม่ทัพฉินมิได้มาที่นี่นานแล้ว มิทราบว่ามีเื่อันใด?”
“กระผมมาหาอวิ๋นจิ่นขอรับ” ฉินมู่หนานพูดด้วยรอยยิ้ม พลางยกมือชี้ไปที่มู่อวิ๋นจิ่น
ด้านฉู่ลี่ขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีที่ได้ยินฉินมู่หนานเอ่ยชื่อ “อวิ๋นจิ่น” ขึ้นมาโดยตรง เขารู้สึกว่าเสียงนี้ช่างระคายหู จึงมองค้อนมู่อวิ๋นจิ่นไปหนึ่งที
มู่อวิ๋นจิ่นทำตัวไม่ถูก จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “แม่ทัพฉินหาข้าด้วยเื่อันใด?”
“วันนี้บ่าวใช้ที่จวนได้เก็บกวาดทำความสะอาดห้องพบสิ่งนี้เข้า กระผมคิดไปคิดมา รู้สึกว่าควรนำของชิ้นนี้มาคืนให้เ้าของดีกว่า” ฉินมู่หนานยื่นกล่องเล็กให้กับมู่อวิ๋นจิ่น
มู่อวิ๋นจิ่นรู้สึกถึงสายตาของคนรอบข้างจับจ้อง จนร่างของนางหนาวเย็นขึ้นในพริบตา นางยื่นมือออกไปเปิดกล่องเล็กใบนั้น ภายในเป็ต่างหูไข่มุกหนึ่งคู่
มู่อวิ๋นจิ่นเห็นแล้วรีบเผยอมุมปาก ของชิ้นนี้ต้องมีความหมายแฝงเป็แน่แท้!
ชั่วพริบตาเดียว มู่อวิ๋นจิ่นหยิบขึ้นมาไว้ในมือ ออกแรงกำจนต่างหูไข่มุกแตกละเอียด จากนั้นโยนทิ้งลงพื้นอย่างไร้เยื่อใย
“แม่นมเสิ่น ประเดี๋ยวมาเก็บกวาดทำความสะอาดด้วยล่ะ”
สีหน้าของฉินมู่หนานที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับตกตะลึงหน้าชาไปหมด
“ในเมื่อของมาคืนแล้ว แม่ทัพฉินก็สามารถกลับได้แล้ว ต่อจากนี้เื่เล็กน้อย ใช้ให้บ่าวใช้มารายงานก็พอ ไม่จำเป็ต้องให้ท่านแม่ทัพมาด้วยตนเองหรอก” มู่อวิ๋นจิ่นพูดอย่างไร้เยื่อใย
ฉินมู่หนานมองดูต่างหูไข่มุกที่ป่นเป็ผง ด้วยสายตาที่ละห้อยอาวรณ์ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
พอฉินมู่หนานกลับไปแล้ว สายตาด้านข้างที่จับจ้องยังคงอยู่
มู่อวิ๋นจิ่นด่าฉินมู่หนานในใจไปถึงโคตรเหง้าศักราช การมาในวันนี้ของเขาตั้งใจเพื่อสร้างความร้าวฉานโดยแท้
ไอ้ต่างหูไข่มุกคู่นี้ ช่างมาสร้างปัญหาให้นางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกโดยแท้
“ข้าทานอิ่มแล้ว” มู่อวิ๋นจิ่นวางตะเกียบในมือลง เลือกไม่อธิบาย ก่อนออกไปได้กระทืบผงไข่มุกให้ละเอียดเป็ผุยผงอีกหลายครั้ง
ฉู่ลี่มองนางจากด้านหลังด้วยสายตาที่เ็า