ซิ่งฮวามองไปที่ฉือหางด้วยความลำบากใจ พูดด้วยเสียงแ่เบาอ่อนโยน "คุณชายฉือ คุณหนูของเรามีเื่สำคัญที่จะต้องไปทีู่เาจริงๆ ขอท่านโปรดช่วยคุณหนูของพวกเราด้วยเถอะ"
สายตาของหลินกู๋หยู่จดจ้องไปที่ร่างของเจียงโหรว ผมของนางเกล้าทรงมวยตกหลังม้า พาดด้วยปิ่นดอกเหมยหยกสีขาวบนศีรษะ สวมเสื้อแขนกว้าง กระโปรงร้อยจีบสีชมพูกลีบบัว และสวมรองเท้าปักดอกไม้หลายร้อยดอก
"สกุลฉือ เ้าตั้งราคาได้ตามใจ" เจียงโหรวมองไปที่ฉือหางอย่างมีชัย ราวกับว่านางได้ให้ความเมตตาแก่ฉือหางอย่างไรอย่างนั้น "คนอื่นไม่ได้ค่าตอบแทนเช่นนี้ เ้าพูดมาเถอะ เ้าคิดว่าจะเข้าไปได้เมื่อไร?”
ฉือหางขมวดคิ้ว และพูดอย่างหมดหนทาง "ข้าขอโทษ ข้าจะไม่เข้าไปในูเาใน่นี้"
"เ้าคิดว่าค่าตอบแทนน้อยเกินไปหรือ?" เจียงโหรวมองไปที่ฉือหางด้วยสีหน้าบูดบึ้ง น้ำเสียงของนางเย่อหยิ่ง "เ้า้าเท่าไร ข้าจะให้ตามที่เ้า้า"
หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ฉือหางปราดหนึ่ง เมื่อเห็นท่าทางที่ทำตัวไม่ถูกของเขา จึงก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว "แม่นาง ท่านสามารถหาคนอื่นติดตามเ้าไปทีู่เาได้"
"ไม่ได้!" เจียงโหรวกล่าวปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
นางไม่ใช่คนโง่
นางหาคนมากมายที่เก่งทักษะการต่อสู้และติดตามพวกนางไปทีู่เา ทว่าทุกครั้งก็ต้องล้มเหลวอย่างน่าสังเวช และทั้งสองครั้งที่ผ่านมาพวกนางก็ได้รับการช่วยเหลือจากฉือหาง
ฉือหางคุ้นเคยกับูเาเป็อย่างดี สามารถรับประกันความปลอดภัยของนางได้อย่างแน่นอน
หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่เจียงโหรวอย่างสงสัย "มีคนที่คุ้นเคยบนูเามากกว่าสามีของข้าจำนวนมาก เ้าหาคนอื่นได้หรือไม่?"
เจียงโหรวไม่สนใจคำของหลินกู๋หยู่แม้แต่น้อย นางจ้องไปที่ฉือหางด้วยสายตามุ่งมั่น
"เรากลับกันเถอะ" ฉือหางกล่าว พร้อมเอื้อมมือไปอุ้มหลินกู๋หยู่ขึ้นไปบนเกวียนลากลา จากนั้นดึงลาเพื่อเตรียมออกเดินทาง
เจียงโหรวโกรธเป็ฟืนเป็ไฟ นางก็เดินไปที่ด้านหน้าเกวียนลาอย่างรวดเร็ว โดยกางแขนทั้งสองข้างเพื่อขวางทางฉือหาง
“โหรวโหรว เ้าก่อเื่อะไรหรือ?”
เสียงผู้ชายที่อ่อนโยนแว่วดังมาจากด้านหลัง หลินกู๋หยู่มองไปตามแนวสายตา เห็นชายในชุดดำไล่ตามมาพร้อมกับคนรับใช้สองคนด้านหลัง
เห็นเพียงผมสีดำสนิทของชายคนนั้นมัดรวบสูง ดูสะอาดและเป็ระเบียบเรียบร้อย ั์ตาดอกท้อที่เรียวยาวอยู่ภายใต้คิ้วรูปดาบคู่หนึ่ง มุมปากของเขาดูเหมือนจะยกขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
"ใครบอกให้เ้าออกมา?" เมื่อเจียงโหรวเห็นคนๆ นั้นตามมา นางเดินไปยังด้านหน้าคนๆ นั้นอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งเท้าสะเอว และอีกข้างหนึ่งชี้ไปที่คนๆ นั้น "จิ้นซู ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเ้าแม้แต่น้อย หลายวันนี้เ้าจะสะกดรอยตามข้ามาทำไม?”
ฉือหางเฝ้าดูทั้งสองคนเถียงกันไม่รู้จบ และภายใต้สายตาตื่นตระหนกใของซิ่งฮวา เขาก็ดึงเกวียนลาออกไป
"เ้ารู้หรือไม่ว่าที่นั่นมันอันตรายแค่ไหน ถ้าเข้าไปแล้วอาจไม่ได้กลับออกมา" ั์ตาดอกท้อคู่สวยงามเปี่ยมไปด้วยความวิตกกังวล จิ้นซูขมวดคิ้วมุ่น "นี่เวลาก็ผ่านไปนานกี่ปีแล้ว เ้าเข้าในเวลานี้จะมีความหมายอะไรหรือ?"
"นี่เป็กิจการของข้า เกี่ยวอะไรกับเ้าเล่า?" เจียงโหรวมองจิ้นซูด้วยสายตาเย็น ผลักจิ้นซูออกไป "ถ้าไม่ใช่เพราะการฟ้องของเ้า ครั้งนั้นข้าจะถูกกักบริเวณหลายเดือนได้อย่างไร?"
"โหรวโหรว เ้าอย่าเข้าไปเลย ท่านพ่อของเ้าก็ไม่อยากให้เ้าเข้าไปเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว ..."
เพียะ!
เจียงโหรวมองไปที่จิ้นซูด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำ มือขวาที่ปล่อยลงมาของนางสั่นเทา เสียงของนางคล้ายจะร่ำไห้ "ถ้าศพของท่านแม่ของเ้าถูกโยนทิ้งที่นั่น เ้าไม่้าให้พานางออกมาฝังลงดินเพื่อไปสู่สุคติภพหรือ!"
ใบหน้าด้านซ้ายของจิ้นซูเหลือร่องรอยนิ้วของฝ่ามือห้านิ้วอย่างชัดเจน
เจียงโหรวหันกลับมาด้วยความโกรธขึ้ง มองไปที่พื้นที่ว่างเปล่า ะโใส่ซิ่งฮวาด้วยน้ำตาคลอเบ้า "เขาไปไหนแล้ว?"
ร่างกายของซิ่งฮวาสั่นเล็กน้อย กระซิบเสียงเบา "คุณหนู คุณชายฉือไปแล้ว"
ด้วยความโกรธถมึงทึง เจียงโหรวรีบเดินไปผลักจิ้นซู "คราวนี้เ้าพอใจแล้วใช่หรือไม่!"
นางเดินจากไปโดยไม่หันศีรษะกลับมาอีก
ฉือหางรีบขับเกวียนลาออกจากเมือง จากนั้นเขาก็ทอดถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่เข้าไปในูเาคราวก่อนใช่หรือไม่?” หลินกู๋หยู่จำได้ว่าเมื่อฉือหางอยู่ในโรงหมอ ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นก็อยู่ที่นั่นด้วย
"อืม" ฉือหางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "เห็นบอกว่าจะเข้าไปในูเาเพื่อหาของ นางไม่ได้บอกว่าจะไปหาอะไร"
หลินกู๋หยู่เพียงแค่ตอบเบาๆ และไม่ได้เอ่ยวาจาใดอีก
เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน พวกเขาก็เห็นฟางซื่อยืนอยู่ที่ประตู พิงกำแพงข้างๆ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "น้องชายสาม พวกเ้าซื้ออะไรมา ในบ้านมีเงินแล้วหรือ"
หลินกู๋หยู่ลงจากเกวียนลา อุ้มโต้ซาลงมาแล้วมองไปที่ฟางซื่อ "พี่สะใภ้รอง ครอบครัวของพี่มีเงินห้าสิบตำลึงแล้วไม่ใช่หรือ? เงินของเราก็คือเงินสิบตำลึงที่ท่านแม่มอบให้ข้าก่อนหน้านี้”
เมื่อได้ฟังสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด การแสดงออกทางสีหน้าของฟางซื่อก็เปลี่ยนไป นางเดินออกไปพร้อมกับบ่นพึมพำ
หลินกู๋หยู่เฝ้าดูฉือหางขนย้ายสิ่งของเข้าบ้าน ทันใดนั้นนางก็นึกบางอย่างขึ้นได้ "ใช่แล้ว น้องชายสี่ไปไหนหรือ เมื่อเช้านี้ข้าไม่เห็นเขา"
"เขากลับไปสถานศึกษาั้แ่เช้าตรู่แล้ว" ฉือหางพูดพร้อมกับขนย้ายข้าวของทั้งหมดเข้าไปในบ้าน จากนั้นเขาก็ลากเกวียนลาไปที่บ้านสกุลหวัง
ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูงบนท้องฟ้า คาดว่าเวลาเที่ยงวันจวนจะผ่านไปแล้ว
“เ้าหิวหรือไม่?” หลินกู๋หยู่เติมฟืนลงในเตา ยิ้มและมองไปทางโต้ซาที่อยู่ข้างๆ
โต้ซาเอนกายพิงหลินกู๋หยู่ในท่าที่ง่วงนอน โดยไม่เอ่ยไม่วาจาสักคำ
หลังจากต้มน้ำแล้ว หลินกู๋หยู่ก็ล้างผักด้วยน้ำอุ่น ผัดผักสองชามอย่างเรียบง่าย
หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน หลินกู๋หยู่และโต้ซาก็งีบหลับไป ส่วนฉือหางไปทีู่เาเพื่อเก็บฟืนคนเดียว
บางครั้งมีเวลา แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย เวลาไหลผ่านไปเช่นนั้น เมื่อหลินกู๋หยู่ตื่นขึ้นมาก็เป็เวลาพลบค่ำแล้ว
หลินกู๋หยู่สรุปการใช้ชีวิตที่นี่สั้นๆ นอกจากการรับประทานอาหารและนอน ดูเหมือนจะไม่มีอะไรสำคัญแล้ว
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฉือหางก็จัดเตรียมสิ่งของที่นำไปให้ที่บ้านสกุลหลิน มือข้างหนึ่งถือไก่ อีกข้างอุ้มโต้ซา เดินไปที่บ้านสกุลหลินกับหลินกู๋หยู่
เพราะถึงแม้ทั้งสองหมู่บ้านจะตั้งอยู่คนละหมู่บ้านกัน แต่กระนั้นระยะทางก็ไม่ไกลกันนัก
เมื่อพวกเขามาถึงบ้านสกุลหลิน หลินกู๋หยู่ก็ได้ยินเสียงพูดคุยและหัวเราะลอดดังมาจากข้างในบ้าน
หลินกู๋หยู่ยืนอยู่ที่ประตู ะโเสียงดัง "ท่านแม่!"
"กลับมาแล้วหรือ!" เสียงของจ้าวซื่อเปี่ยมไปด้วยความปีติ
จ้าวซื่อวิ่งออกจากบ้านด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นหลินกู๋หยู่ รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็ชัดเจนเพิ่มมากขึ้น
"กู๋หยู่ เ้ามาได้อย่างไรหรือ?" จ้าวซื่อมองไปที่หลินกู๋หยู่ด้วยรอยยิ้ม จับมือของหลินกู๋หยู่อย่างสนิทสนม
"เวลานี้พวกเรามีเวลาว่าง พี่ฉือหางและข้าจึงมาหาท่านแม่" หลินกู๋หยู่ยิ้มและชำเลืองมองฉือหางที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ท่านยาย!” โต้ซาเรียกด้วยเสียงอ่อนหวาน
สีหน้าของจ้าวซื่อชะงักงันชั่วพริบตา เมื่อเห็นฉือหางยืนอยู่ข้างๆ นางเม้มริมฝีปากเบาๆ เกือบลืมทักทายแล้ว น้ำเสียงของนางไม่เป็ธรรมชาติ ฝืนยิ้มขณะเอ่ย "เข้ามาเถอะ!"
“ท่านแม่ ใครมาหรือ?!” เสียงผู้หญิงที่คุ้นเคยลอดดังมาจากในบ้าน น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนและไพเราะ
เมื่อหลินกู๋หยู่เห็นหลินลี่เซี่ยเดินออกมาจากห้อง สีหน้าของนางน่าเกลียดมาก
สีหน้าของหลินลี่เซี่ยแข็งทื่อเล็กน้อยเมื่อเห็นหลินกู๋หยู่ ริมฝีปากของนางก็แยกออกเล็กน้อย "กู๋หยู่ เ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?"
หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตามองไปที่จ้าวซื่อด้านข้างด้วยความไม่มั่นใจหลายส่วน "ท่านแม่ นี่..."
ใบหน้าของฉือหางก็ดูผิดธรรมชาติเล็กน้อย เมื่อมองไปที่หญิงสาวที่เดิมควรเป็ภรรยาของเขา เขาก้มลงวางโต้ซาลงบนพื้น
หลินลี่เซี่ยยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความงุนงง เมื่อเห็นฉือหาง ใบหน้าของนางก็ฉายแววไม่สบายใจ
โต้ซาเอียงศีรษะมองไปที่คนสวยตรงหน้า จับชายเสื้อผ้าของหลินกู๋หยู่ด้วยมือข้างหนึ่ง สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่สาวสวยคนนั้น "ท่านป้า?"
การแสดงออกบนใบหน้าของหลินลี่เซี่ยเพิ่มความกระอักกระอ่วนใจมากยิ่งขึ้น
"ทุกคนเข้ามาก่อนเถอะ" จ้าวซื่อขมวดคิ้วแน่น "อากาศด้านนอกหนาวนัก ยืนนิ่งด้านนอกอยู่ทำไม!"
หลินกู๋หยู่ลดศีรษะลงเดินตามเข้าไปในบ้าน
ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใด หลินกู๋หยู่รู้สึกไม่ชอบหลินลี่เซี่ยที่อยู่เบื้องหน้านางจากก้นบึ้งของหัวใจ
ในความทรงจำของนาง หลินลี่เซี่ยเป็คนที่อยู่สูงมาโดยตลอด นางคร้านที่จะทำงานบ้าน มักจะสั่งหลินกู๋หยู่และหลินเสี่ยวหานทำงานเสมอ
ฉือหางไม่แม้แต่จะมองหลินลี่เซี่ยที่อยู่ด้านข้างด้วยซ้ำ เดินตามหลินกู๋หยู่เข้าไปด้านในบ้าน
หลินลี่เซี่ยยืนอยู่ข้างนอกรู้สึกใจหายหลายส่วน เม้มริมฝีปากเล็กน้อยแล้วตามเข้าไป
พอเดินเข้าไปในบ้าน หลินลี่เซี่ยก็ก้มศีรษะลงพูดเสียงเบา "ท่านแม่ วันนี้ข้ามีเื่อื่นที่จะต้องทำ ข้าขอตัวกลับไปก่อน"
โดยไม่รอให้จ้าวซื่อกล่าวรั้ง หลินลี่เซี่ยก็จากไปทันที
จ้าวซื่อก็ไม่ได้ไปส่งหลินลี่เซี่ยเช่นกัน สายตาของนางจับจ้องไปที่ร่างของหลินกู๋หยู่ และนางพูดอย่างไม่เป็ธรรมชาติว่า "พี่สาวของเ้ากลับมาบ้านเมื่อสองวันก่อน บอกว่าได้งานทำในเมืองแล้ว จึงไม่ได้กลับมา"
หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมองจ้าวซื่อ และมอบทุกอย่างให้กับจ้าวซื่อ จากนั้นพูดว่า "พี่สาวกลับมาแล้ว ทำไมท่านไม่บอกข้า?"
จ้าวซื่อก้มหน้าลงอย่างทำตัวไม่ถูก เม้มริมฝีปากแน่น พูดเสียงเบาว่า "ก็เพราะคิดว่าเ้ายุ่งไม่มีเวลาอย่างไรละ ข้าได้ยินมาว่าเ้ามีงานทำแล้ว เ้าทำงานเป็ผู้ช่วยในโรงหมอในเมืองใช่หรือไม่?"
หลินกู๋หยู่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองฉือหางที่อยู่ข้างๆ เห็นว่าเขากำลังครุ่นคิดจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเล็กน้อย
"เป็ความผิดของแม่เอง" จ้าวซื่อพูดด้วยรอยยิ้ม ขณะที่มองดูสีหน้าของคนสองคน "พวกเ้าสองคนอยู่ทานอาหารที่นี่ก่อนเถอะ ข้าจะไปทำอาหารตอนนี้เลย"
“ขอบคุณท่านยาย” โต้ซากล่าวอย่างตื่นเต้น
นี่เป็ครั้งแรกที่จ้าวซื่อรู้สึกว่าลูกติดคนนั้นน่ารักเป็พิเศษ จึงยื่นมือแตะที่ศีรษะของโต้ซา
เมื่อเห็นจ้าวซื่อออกไป หลินกู๋หยู่ก็ก้มศีรษะลง พูดเบาๆ ว่า "ข้าจะไปช่วยท่านแม่ทำอาหาร"
“กู๋หยู่”
หลินกู๋หยู่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าออกไป มือของนางก็ถูกคว้าไว้
“มีอะไร?” หลินกู๋หยู่หันกลับมาและมองไปที่ฉือหาง นางรู้สึกว้าวุ่น หงุดหงิด ใจเต้นไม่เป็จังหวะ อึดอัดเป็ครั้งแรก
"ข้าแค่อยากจะบอกว่า..."
ก่อนที่ฉือหางจะพูด เสียงอุทานของโต้ซาก็ลอดดังมาจากข้างนอก
หลินกู๋หยู่สะบัดแขนของฉือหางออกแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ก็เห็นโต้ซานอนคว่ำอยู่บนพื้นอย่างสมบูรณ์
“เ้าวิ่งอย่างไรกัน?” หลินกู๋หยู่มองดูสภาพของโต้ซาก็รีบอุ้มขึ้นมา เช็ดฝุ่นบนตัวของโต้ซาอย่างระมัดระวัง “อย่าวิ่งเร็วนัก ถ้าเ้าล้มอีกครั้งจะทำอย่างไร?”
โต้ซาก็ไม่โกรธเช่นกัน เขาฉีกยิ้มขณะมองไปที่หลินกู๋หยู่ ผละออกจากอ้อมกอดของหลินกู๋หยู่ แล้ววิ่งไปที่คอกไก่
“กู๋หยู่” ฉือหางเดินไปที่ด้านข้างของหลินกู๋หยู่ และเรียกเบาๆ
หลินกู๋หยู่หันไปมองฉือหางด้วยสายตาเ็าหลายส่วน
เดิมทีคนที่ฉือหางควรจะแต่งงานด้วยคือหลินลี่เซี่ย และพวกเขาสองคนก็เคยสนิทกันมากด้วย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้