ขณะที่นึกถึงเื่นี้ สายตาของผู้าุโชิวก็จับจ้องไปที่หยวนจุน เขาััได้ว่าหยวนจุนต้องมีบางอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาซ่อนอยู่ในร่างกายแน่นอน!
“ฟ้าว”
ปราณกระบี่สีขาวที่ออกมาจากกระบี่หยวนจุนกลายเป็พระจันทร์เสี้ยวที่พุ่งไปเฉียดหัวไหล่ของสวีจิ้ง แม้เขาจะสามารถหลบปราณกระบี่ได้ แต่ร่างกายกลับได้รับผลกระทบจากปราณกระบี่ เห็นได้จากาแขนาดใหญ่ที่กำลังมีเืไหลออกมา
“กระบี่หยวนจุนนั้นยากที่จะออกจากฝัก เมื่อก่อนเป็อย่างไร ตอนนี้ก็ยังคงเป็อย่างนั้น!”
หยวนจุนพึมพำในใจแล้วกระแทกเท้าลงพื้น เขานำกระบี่ไปจ่อที่ลูกกระเดือกของสวีจิ้งโดยที่ไม่ทันตั้งตัว!
“ไอ้เด็กอวดดี ข้าจะทำลายวิถีกระบี่ของเ้า!”
สวีจิ้งพยายามออกแรงขัดขืน เขาเคลื่อนไหวด้วยท่าทางที่คุ้นเคยโดยไม่สนใจว่าเืจะไหลออกมาเพียงใด เห็นได้ชัดว่าเขามีการเตรียมตัวมาอย่างดี
“ตูม ครืนครืน”
พลังปราณที่สวีจิ้งเค้นออกมาจากร่างกายได้แตกออกมาเป็สาย ทำให้เมื่อปะทะเข้ากับอากาศจึงเกิดเสียงดังสะท้านของสายฟ้าฟาด
เมื่อพิจารณาวิธีการและคลื่นพลังของปราณดาราแล้ว เห็นได้ชัดว่านี่เป็พลังที่มีความแข็งแกร่งเป็อย่างมาก
“กายธรรมสัตว์อสูร!”
สวีจิ้งหรี่ตาลง ปราณดาราในร่างกายจึงเปลี่ยนเป็เงาจระเข้ที่เต็มไปด้วยไอสังหาร ด้วยลักษณะของเงาที่มีขนาดหลายจั้ง ทำให้สิ่งรอบข้างที่ถูกเสียงคำรามนั้นปะทะได้ถูกกวาดล้างออกไปจนไม่เหลือ!
“กายธรรมสัตว์อสูรจระเข้ั์!” หยวนจุนใกับเงาขนาดใหญ่จนเหงื่อเย็นเยียบไหลลงมาทันที
เงาจระเข้ั์ที่ปกคลุมร่างของสวีจิ้งอยู่นี้คือกายธรรมสัตว์อสูร เป็พลังที่นักยุทธ์จะได้รับหลังจากทำให้สัตว์อสูรบางชนิดเชื่อฟัง ซึ่งแตกต่างจากวิชายุทธ์ชนิดอื่นโดยสิ้นเชิง เพราะเป็พลังที่ต้องผสานระหว่างปราณดาราที่ทำให้เกิดโครงร่าง และจิติญญาของสัตว์อสูรที่ทำให้เกิดรูปร่าง!
เมื่อเทียบกับปางมือราชสีห์นอกที่หยวนจุนใช้ วิธีนี้จะเป็รูปธรรมมากกว่า เพราะสามารถนำพลังและความสามารถของสัตว์อสูรมาใช้ได้
สัตว์อสูรที่อยู่ในร่างกายสวีจิ้งน่าจะเป็จระเข้ฟันดาบ มันเป็สัตว์อสูรระดับสองที่โดดเด่นในเื่การป้องกัน!
นักยุทธ์ได้แบ่งสัตว์อสูรออกเป็ 3 กลุ่ม ได้แก่ าาสัตว์อสูร จักรพรรดิสัตว์อสูร และมหาสัตว์อสูร!
แต่ละกลุ่มแบ่งออกเป็ 9 ระดับ คือ สัตว์อสูรระดับหนึ่งถึงระดับสามเทียบได้กับระดับดารา ระดับสี่ถึงระดับหกเทียบได้กับระดับจันทรา และระดับเจ็ดถึงระดับเก้าเทียบได้กับระดับตะวัน ทั้งนี้ ระดับของนักยุทธ์ยังสอดคล้องกับกลุ่มของสัตว์อสูรด้วย โดยระดับดาราจะสอดคล้องกับกลุ่มของาาสัตว์อสูร ระดับจันทราจะสอดคล้องกับกลุ่มของจักรพรรดิสัตว์อสูร และระดับตะวันจะสอดคล้องกับกลุ่มของมหาสัตว์อสูร
กล่าวได้ว่า จระเข้ฟันดาบเป็สัตว์อสูรระดับสองที่เทียบได้กับนักยุทธ์ระดับดาราขั้นสี่ถึงหก ซึ่งทำให้ร่างกายที่ถูกผสานเข้ากับจิติญญาของมันมีพลังการป้องกันที่แข็งแกร่งมากขึ้น
หาก้าใช้ทักษะวิชานี้ ขั้นตอนแรกคือต้องทำให้พวกมันเชื่อฟัง ซึ่งถือเป็วิธีการที่ยากมาก เพราะสัตว์อสูรมีนิสัยดุร้ายและเย่อหยิ่ง ดังนั้นจึงไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำให้พวกมันเชื่อฟังได้
หยวนจุนเคยทำให้คชสารัซึ่งเป็มหาสัตว์อสูรเชื่อฟังมาแล้ว!
หากเขาใช้พลังกายธรรมสัตว์อสูรนั้นต่อสู้ จะไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานได้ แม้แต่ฟ้าดินก็ยังต้องพังทลาย! น่าเสียดายที่หลังจากที่เขาตาย คชสารัก็หายสาบสูญไปด้วย
“กรรซ์”
จระเข้ั์ที่กำลังปกคลุมร่างกายของสวีจิ้งอยู่นั้นใช้ดวงตาขนาดใหญ่เท่ากับระฆังทองเหลืองจ้องมาที่หยวนจุน มันส่งเสียงขู่ออกมาจากปาก
ราวกับว่ามันมิได้เห็นเหยื่อมานาน จึงอดไม่ได้ที่จะแสดงความ้าออกมาอย่างชัดเจน
ผู้าุโชิวมองไปที่สัตว์อสูรขนาดั์ ใบหน้าชราที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นเปลี่ยนอารมณ์ไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มมุมปากแล้วกล่าวว่า “เพิ่งบ่มเพาะพลังยุทธ์ถึงแค่ระดับดาราขั้นแปดแต่สามารถทำให้สัตว์อสูรระดับสองเชื่อฟังได้ ทำได้ไม่เลวเลย!”
“การทำให้สัตว์อสูรเชื่อฟังได้เป็เพียงแค่ส่วนหนึ่ง การผสานจิติญญากับสัตว์อสูรจนสำเร็จต่างหากจึงจะสามารถใช้พลังยุทธ์ให้แสดงกายธรรมสัตว์อสูรได้ สวีจิ้งผู้นี้มีความสามารถเหนือกว่าคนทั่วไปจริงๆ เหอะเหอะ”
แม้ผู้าุโชิวจะมิได้สนใจทักษะกายธรรมสัตว์อสูรนี้เท่าไร แต่เขาก็รู้ว่าเหตุการณ์ต่อไปจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
แม้หยวนจุนจะใช้กระบี่หยวนจุนทำลายพลังยุทธ์ของสวีจิ้งจนเหลือระดับหก แต่หลังจากที่สวีจิ้งแสดงพลังกายธรรมสัตว์อสูรออกมา เขาได้เพิ่มพลังของจระเข้ฟันดาบเข้าไปแทน
เมื่อผสานพลังเข้าด้วยกัน เกรงว่าแม้แต่ระดับดาราขั้นเจ็ดก็ยังต้องหลบพลังนี้ แม้หยวนจุนจะมีทักษะวิชามากมาย แต่สวีจิ้งนั้นมีประสบการณ์การต่อสู้มากกว่า แน่นอนว่าเทียบกับเจียงย่งที่เป็ระดับวงแหวนเล็กขั้นเจ็ดไม่ได้เลย
หากหยวนจุนไม่ชิงลงมือก่อน เขาจะต้องทรมานอยู่ภายใต้น้ำมือของสวีจิ้งอย่างแน่นอน!
ขณะที่ผู้าุโชิวกำลังจะลงมือช่วยเขา กระบี่หยวนจุนได้เกิดปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งขึ้น มันเตรียมพร้อมที่จะทำลายกายธรรมสัตว์อสูรของสวีจิ้ง
ปราณกระบี่นี้แตกต่างจากปราณกระบี่โดยทั่วไป เพราะสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกโกรธเดือดดาลได้แม้จะไม่มีพลังที่ดุร้ายแผ่ออกมาจากตัวกระบี่ก็ตาม!
แม้แต่ผู้าุโชิวที่ได้รับผลกระทบจากปราณกระบี่ ยังสามารถััได้ว่าความโกรธกำลังก่อตัวขึ้นในจิตใจ
“เหอะเหอะ นึกไม่ถึงว่าเ้าหนุ่มผู้นี้ยังมีความสามารถที่ซ่อนไว้อีก!” ผู้าุโชิวมองหยวนจุนแล้วเอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น จากนั้นจึงแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
“เ้าคิดว่าการใช้กายธรรมสัตว์อสูรจะสามารถเปลี่ยนแปลงจุดจบได้หรือ? เช่นนั้นก็ดี เพราะวันนี้ข้าว่าจะนำเ้ามาทดสอบกระบี่พิโรธที่ข้าเพิ่งดัดแปลงเสียหน่อย!”
หยวนจุนหัวเราะเยาะจนกล้ามเนื้อบนใบหน้าเกร็งขึ้นเล็กน้อย แม้เขาจะสามารถดัดแปลงกระบี่พิโรธท่าที่หนึ่งออกมาได้ แต่อย่างไรก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
สำหรับเขาแล้ว การใช้วิชายุทธ์วิถีกระบี่ระดับเนี่ยผานขั้นสูงนั้นเสี่ยงเกินไป
แต่หลังจากที่ดัดแปลงจนได้เป็กระบี่ท่าที่หนึ่งแล้ว มันสามารถเทียบได้กับพลังยุทธ์ระดับเ้าฮั่วขั้นกลางไปจนถึงขั้นสูง!
“แคร่ก แคร่ก”
ยิ่งหยวนจุนแกว่งแขนก็ยิ่งเกิดความเร็วมากขึ้น จนทำให้กระบี่หยวนจุนกระแทกเข้ากับบางอย่างที่ค่อนข้างรุนแรงจนเกิดเสียงดัง
พลังของกระบี่ทำให้จระเข้ั์ต้องถอยหลังออกไป แต่ด้วยการควบคุมของสวีจิ้งจึงทำให้มันสามารถฟื้นฟูพลังได้ในเวลาไม่นาน ซึ่งมันได้ส่งเสียงคำรามออกมา
“หึ คิดว่าปราณกระบี่แค่นี้จะสามารถทะลุกายธรรมสัตว์อสูรได้หรือ? เกล็ดของจระเข้ฟันดาบนั้นมีความแข็งเทียบเท่ากับเหล็ก เรียกได้ว่าเป็วิธีการป้องกันที่สมบูรณ์แบบ และดีที่สุดในบรรดาสัตว์อสูรระดับสองทั้งหมด!
หยวนจุนเล็งคมกระบี่ไปที่หัวของจระเข้ฟันดาบโดยไม่สนใจคำพูดที่เต็มไปด้วยความอวดดีของสวีจิ้ง
คลื่นพลังบนตัวกระบี่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันเหมือนกับน้ำที่กำลังจะล้นออกมาจากถ้วยจนทำให้หยวนจุนไม่สามารถบังคับวิถีของมันได้ เรียกได้ว่าตอนนี้กระบี่อยู่เหนือการควบคุมของหยวนจุนแล้ว
“หนึ่งกระบี่์พิโรธ ทลายฟากฟ้า!”
เมื่อหยวนจุนะโออกไป ตัวกระบี่มีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เขาไม่สามารถควบคุมกระบี่หยวนจุนได้เหมือนอย่างเคย ตัวกระบี่เหมือนมีความคิดเป็ของตนเอง ดังนั้นเขาที่กลัวว่าพลังนี้จะย้อนกลับมาทำร้าย จึงอยากใช้สองมือเพื่อป้องกันตนเองเช่นกัน
แต่ถ้าหากหยวนจุนวางกระบี่ วิชายุทธ์นี้จะยุติลงได้อย่างไร? เพราะในเมื่อกระบี่พิโรธออกมาแล้ว มันย่อมต้องทำร้ายคน หากเขาเก็บพลังของกระบี่ท่าที่หนึ่งในตอนนี้ เขาต้องถูกพลังจากปราณกระบี่ปะทะอย่างแน่นอน!
เพื่อป้องกันมิให้ปราณกระบี่อันทรงพลังทำลายจวนตระกูลเจียง หยวนจุนจึงต้องเค้นพลังจิตจากจุดตันเถียนบนออกมาเพื่อควบคุมพลัง ซึ่งส่งผลให้ปราณกระบี่พุ่งเข้าใส่จระเข้ั์กับสวีจิ้งอย่างไม่ทันตั้งตัวจนทำให้ทั้งสองลอยขึ้นไปในอากาศทันที
เงาของจระเข้ั์ใทันทีที่กระเด็นลงบนพื้น มันสะบัดหางอย่างรุนแรงจนทำให้ตัวกระดอนออกไปหลายสิบจั้ง!
“ฟ้าว”
ปราณกระบี่ที่เต็มไปด้วยสายฟ้าทะลุผ่านอากาศลงมา มันนำพลังที่สามารถทำลายล้างทุกสิ่งฟาดไปบนเงาของจระเข้ั์โดยตรง
จากมุมที่หยวนจุนมอง หนึ่งกระบี่พิโรธที่แผ่พลังเพียงไม่กี่เมตรออกมาได้เปลี่ยนเป็แผ่พลังออกไปหลายร้อยเมตร ซึ่งทำให้เงาของจระเข้ฟันดาบเหลือขนาดเท่ากับเมล็ดข้าว!
“ในเมื่อแสงหิ่งห้อยกล้าที่จะแข่งกับแสงจันทร์ มันย่อมต้องกลายเป็เถ้าถ่านภายใต้หนึ่งกระบี่พิโรธเช่นนี้แหละ!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้