คนในยุทธภพได้ฉายาว่าร่อนไปร่อนมาอย่างสูงส่ง เหยียดหยามกฎหมายแห่งาา แต่พอมาพบยอดฝีมือของฝ่ายทหารทรงอำนาจของจริง กลับรู้สึกคล้ายไม่อยู่กับร่องกับรอย โดยเฉพาะหลิวจงหยวนยอดฝีมือวรยุทธ์แห่งกองทหารที่เข่นฆ่าอาบเืในสมรภูมิ พวกเขาย่อมต้องรู้สึกไม่สบายใจอยู่แล้ว
วินาทีที่เห็นแม่ทัพหลิวจงหยวนเรียกเด็กหนุ่มชุดขาวว่า ‘น้องเย่’ คนบางกลุ่มก็ตะลึงลาน พวกเขาล่วงรู้แล้วว่าเด็กหนุ่มชุดขาวท่าทางลูกคุณหนูนี้มิใช่เคี้ยวง่ายเหมือนที่พวกเขาเคยคิด
“ขอโทษที ทำให้พี่ใหญ่ทั้งสองต้องรอเสียแล้ว” เ่ิูทำเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น เขาละมุนละม่อมยามยิ้มพลางยืนขึ้น “พวกเราไปเถอะ”
หลิวจงหยวนพยักหน้า
สายตาเขาปราดมองกลุ่มคนจากพรรครอบด้าน นอกจากผู้าุโพรรคจื่อเวยเคราดำผู้นั้นแล้ว ไม่มีใครกล้าสบตาคมกริบเหมือนเหล็กดาบของเขาเลยสักคน ล้วนแต่ก้มหน้างุดเป็ทิวแถว
หวงหร่านเทพวานรเหินนภากระอักกระอ่วน เขายืนอยู่ตรงนั้น จะไปต่อก็ไม่ได้จะถอยหลังก็หาใช่ นิ่งเหมือนกลายเป็รูปปั้น
เหว่ยเทียนิที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะไกลๆ หน้าเขียวแต่ไม่กล้าเอ่ยปาก
“ฮ่าๆ เยี่ยม พวกเราไปกันเถิด เสือบ้าเวินรอจนร้อนรนแล้ว อีกครู่หนึ่งคงไม่พ้นต้องคลั่งแน่” หลิวจงหยวนหัวเราะร่า
ด้านข้างของเขามีเ้าของหอรายย่อยสวมชุดไหมสีทองคอยเดินตามเอาใจ ดูเคารพหลิวจงหยวนเป็อย่างมาก
เมื่อเห็นภาพนั้นแล้ว ชาวยุทธแห่งพรรคทั้งหลายยิ่งใจตุ้มๆ ต่อมๆ
หอลมฝนปรอยเป็สถานที่พิเศษที่สุดแห่งหนึ่งในด่านโยวเยี่ยน มีชื่อเสียงเลื่องลือ ในยุทธภพนับได้ว่ามีชื่อ กฎระเบียบของในหอนั้นชาวยุทธส่วนมากรู้ดีกันอยู่แล้ว สี่ชั้นลงมามีเสี่ยวเอ้อร์คอยดูแล ชั้นห้าขึ้นไปมีเ้าของรายย่อยดูแล ต้อนรับเพียงผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงและชนชั้นสูงมากยศศักดิ์เท่านั้น
เมื่อเ้าของรายย่อยสวมชุดไหมทองนอบน้อมต่อแม่ทัพเกราะดำผู้นี้ถึงเพียงนี้ นั่นย่อมหมายความว่าตำแหน่งของเขาไม่ธรรมดาแน่แล้ว
แม่ทัพเช่นนี้ กลับเกรงใจเด็กหนุ่มชุดขาวคนนั้นมากถึงเพียงนั้น อีกทั้งยังแฝงความเคารพอีกด้วย...เด็กหนุ่มชุดขาวผู้นี้ เป็ใครกันแน่?
กลุ่มคนอดตกตะลึงไม่ได้
เ่ิูและไป๋หย่วนสิงลุกขึ้นยืน เดินตรงสู่บันไดหยกขาวของชั้นสี่
ตอนที่เดินผ่านหวงหร่านนั้นเอง เ่ิูไม่พูดอะไร แต่หลิวจงหยวนกลับหยุดฝีเท้า
แม่ทัพคาวเืมองเทพวานรเหินนภา รอยยิ้มบนใบหน้าเลือนหายและแทนที่ด้วยจิตสังหารระบายออกมาบางเบา “หวงหร่าน? สามเดือนก่อนหน้านี้ เ้าลอบสังหารศิษย์รุ่นสามของพรรคจื่อเวย หลิวโหย่วเทียนที่น้ำตกเจ็ดแสงอรุณ ทิศใต้ของเทือกเขากวางตัด ขโมยเอาคัมภีร์วิชาลับต้าหลัวของพรรคจื่อเวยไป ป้ายความผิดให้คนในหมู่บ้านเจ็ดแสงอรุณ ทำไมวันนี้กลับมาผูกมิตรกับคนของพรรคจื่อเวยเสียแล้วเล่า?”
เอ่ยไม่ทันจบ
หวงหร่านเหมือนถูกฟ้าผ่า เขาสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างน่าใ
เขาตัวสั่นไปทั้งตัว โต้แทบจะเป็กรีดร้อง “เ้า...เ้าเป็ใคร เ้าเหลวไหล ใส่ความข้า...”
อีกด้านหนึ่ง คนของพรรคจื่อเวย รวมทั้งกระบี่ตัดเวหาเหว่ยเทียนิค่อยๆ เปลี่ยนอารมณ์บนใบหน้า
กระบี่ดาวตกหลิวโหย่วเทียนเพิ่งถูกฆ่าไปเมื่อสามเดือนก่อน เป็เื่สลดน่าโกรธแค้นของพรรคจื่อเวย ภายหลังเมื่อสืบหาเจอว่าฆาตกรน่าจะเป็คนของหมู่บ้านเจ็ดแสงอรุณ พรรคจื่อเวยกำลังเตรียมถอนรากถอนโคนหมู่บ้านเขาเจ็ดแสงอรุณ ล้างเืด้วยเื ภายหลังมียอดฝีมือาุโผู้หนึ่งคิดว่าเื่นี้น่าสงสัย จึงสั่งระงับไว้ก่อน ความขุ่นเคืองของคนทุกคนในพรรคจื่อเวยเป็เพราะต้องสูญเสียศิษย์รุ่นสามคือกระบี่ดาวตกหลิวโหย่วเทียน ความโกรธยังคุกรุ่นไม่หายไปไหน...
ใครเล่าจะรู้ ว่าแม่ทัพนายนี้จะเผยความลับอันขมขื่นออกมาจากปาก
เห็นปฏิกิริยาตอบโต้ของหวงหร่านแล้ว คนที่สติปัญญาเฉียบแหลมหน่อยก็มองออกแล้วว่าเื่นี้น่าจะมีเงื่อนงำ
โถงใหญ่บรรยากาศพลันประหลาดอีกครา
หลิวจงหยวนเอ่ยคำนี้แล้วก็ไม่เอ่ยอะไรอีก เขาเดินตรงไปยังบันไดหยกขาวกระบวนอักขระเคลื่อนย้ายกับเ่ิู หัวเราะบ้างคุยกันบ้าง
หวงหร่านกำลังแก้ตัวเสียงดัง
ยอดฝีมือนักรบคู่ใจคนหนึ่งที่เดินตามหลังหลิวจงหยวนหยุดเดิน แล้วหันหลังไปมองหวงหร่าน เขาหัวเราะเสียงเย็นแล้วเอ่ย “กล้าทำไม่กล้ารับ พูดไร้สาระเยอะเหลือเกิน...แซ่หวงนี่ ได้ยินมาว่าเป็กระบองวายุฟ้าคะนองสามสิบเจ็ดกระบวน ฉายาว่าน้ำพุิญญายี่สิบตาลงมาไม่มีใครเป็คู่ต่อสู้ได้งั้นหรือ?”
หวงหร่านทั้งชังทั้งโกรธ เขาได้ยินแล้วก็ตวาด “ถ้าใช่แล้วทำไม?”
นักรบชุดเกราะผู้นี้อายุไม่พ้นยี่สิบกว่าๆ ใบหน้าหมดจดสดใส เขามองหวงหร่านแล้วยิ้มเยาะ “งั้นก็เอากระบองวายุฟ้าคะนองของเ้าออกมา!”
หวงหร่านชะงัก
นักรบเกราะชักดาบยาวออกมาจากฝักอย่างเชื่องช้า ดาบโผล่พ้นออกมาจากฝักทีละนิ้ว...ละนิ้ว เขาจับด้ามดาบเอาไว้ในมือหนึ่ง แล้วย้ำ “หยิบกระบองวายุฟ้าคะนองของเ้าออกมา”
หวงหร่านเพิ่งเข้าใจความหมายของอีกฟาก
เขาโกรธจัด
เมื่อครู่แม่ทัพเกราะดำวรยุทธ์แข็งแกร่ง ตัวข้าอาจไม่ใช่คู่มือ แต่เ้าเป็แค่นักรบเกราะต๊อกต๋อยเท่านั้น กล้าชักดาบต่อหน้าข้า คิดว่าข้าเป็ชาวยุทธที่ดีแต่ชื่อเสียง พลังกับความสามารถไม่มีอย่างนั้นใช่ไหม?
หวงหร่านตวัดมือคว้าอากาศ กระบองทองแดงยาวหนาราวกับไข่เป็ดปรากฏอยู่ในฝ่ามือ ้ามีลวดลายัจำศีล แสงิญญาระยิบระยับ เป็อาวุธิญญาอย่างจริงแท้
“มาก่อนเลย...” หวงหร่านกระชับกระบองไว้ในมือ ท่าทีได้ใจ เขาหัวเราะมากเล่ห์
วันนี้ข้าจะให้เ้าได้เห็นพลานุภาพของกระบองวายุฟ้าคะนอง
ใครจะรู้ว่าพูดไม่ทันจบ แสงเย็นเยียบเหมือนแม่น้ำสีเงินที่ร่วงหล่นสู่โลกมนุษย์ได้ผ่าเข้ามาหาหน้าแล้ว
หวงหร่านยกกระบองรับการปะทะ
ตึ้ง!
เสียงโลหะกระทบกันแสบแก้วหู
ดาบมาตรฐานของดาบทหารฟันส่วนกลางกระบอง กระบองวายุฟ้าคะนองในมือหวงหร่านสั่นสะท้านเหมือนัอสรพิษใกลัว พละกำลังมหาศาลทำให้หวงหร่านพ่นเืออกมาจากปาก ข้อมือคล้ายกระดูกจะหัก ยกแขนไม่ขึ้นอีกแล้ว...
เทพ์ พลังอะไรกันวะเนี่ย?
น่ากลัวเหลือเกิน
พริบตาต่อมา ดาบมาตรฐานของทหารก็กดทับลำคอเขาเสียแล้ว
หวงหร่านนิ่งงัน เหงื่อเย็นผุดเป็ดอกเห็ด หน้าซีดขาว ทั้งตัวเขาเหมือนหมาถูกทิ้ง สีหน้าท่าทางจนตรอก...
นักรบวัยหนุ่มยิ้มเย็น “ระดับแค่นี้ สมควรกับฉายาน้ำพุิญญายี่สิบตาลงมาต่อกรไม่ได้แล้วหรือ? กบในกะลาเสียจริง ในค่ายทัพหน้าของข้า หานักรบน้ำพุิญญาสิบห้าตาขึ้นไปสักคนมาแบบขอไปที ยังฆ่าเ้าได้ในพริบตาเดียว! ระรานไม่เลือกแดน หลงคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ กล้ากระโจนออกมาไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ทำความลำบากให้นายท่านเย่!”
นักรบเกราะนายนั้นอยู่น้ำพุิญญาที่สิบเก้า
ความจริงเขาชนะได้อย่างขาวสะอาด
หวงหร่านไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียว เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะเชือดคอหอยเขาให้ถึงตายจริงๆ
นักรบเกราะเอ่ยจบแล้วก็สะบัดข้อมือ
ดาบมาตรฐานทหารกลายเป็ไอแสงดั่งฟ้าแลบ แล่นเข้าตัดย่ามสารพัดอย่างของเขา ของสารพัดชนิดร่วงหล่นลงมากองอยู่บนพื้น ในนั้นมีหนังสือสีม่วงอ่อนที่ดึงดูดสายตาที่สุดอยู่ด้วย...
“คัมภีร์วิชาต้าหลัวของจื่อเวย?” สาวกคนหนึ่งตาแหลม มองเห็นร้องก็อุทานออกมาทันที
นักรบหนุ่มเหยียดยิ้ม เขาเก็บดาบเข้าปลอกแล้วเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรอีก
ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว
เพราะตอนนี้ คนทั้งหมดในโถงใหญ่มิได้สนใจนักรบหนุ่มเลย
สาวกพรรคจื่อเวยทุกคนจ้องหนังสือเล่มนั้นเป็ตาเดียว
“คัมภีร์วิชาต้าหลัวของศิษย์พี่หลิวโหย่วเทียน ทำไมไปอยู่ที่เ้าได้? หวงหร่าน ตอบข้ามา” เหว่ยเทียนิตะคอกอย่างทนไม่ไหว
คิดโยงไปถึงเื่ที่หลิวจงหยวนเพิ่งพูดไปแล้ว ทุกอย่างชัดเจน น้ำมันลดตอก็ผุดขึ้นมา
การตายของหลิวโหย่วเทียน กระบี่ดาวตกที่เป็ศิษย์รุ่นสามของพรรคจื่อเวย น่ากลัวว่าเป็ฝีมือของเทพวานรเหินนภาผู้หวงหร่านผู้นี้อย่างแน่นอน
หวงหร่านตื่นตะลึงจนอ้าปากพูดแต่ไม่มีเสียง ไม่เหลือบุคลิกแข็งกล้าเหมือนตอนชี้หน้าต่อว่าใส่ความเ่ิูก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย
“ไอ้ชั่วหวงหร่าน รู้หน้าไม่รู้ใจ กล้าทำเื่แบบนี้”
“ถุย เสียดายน้ำลายข้าที่เรียกเ้าว่าจอมยุทธ์หวง ตาบอดไปจริงๆ”
“ทุกท่าน ข้าคิดว่าเทพวานรเหินนภาผู้นี้ตกต่ำเข้าเส้นทางสายมืดไปแล้ว ลอบสังหารจอมยุทธ์หลิวโหย่วเทียน อยู่ไปก็หนักแผ่นดิน พวกเราจะปล่อยเขารอดต่อไปไม่ได้”
เหล่าชายชาตรีที่ดีแห่งยุทธภพ เปลี่ยนหน้าเร็วยิ่งกว่าเปลี่ยนหน้ากระดาษ คำยกย่องว่าจอมยุทธ์หวงก่อนหน้านี้เปลี่ยนเป็คำด่ากราดไม่ไว้หน้าเสียแล้ว
กระบี่ตัดเวหาเหว่ยเทียนิทุบโต๊ะแล้วยืน เขาตวาด “หวงหร่าน เสียแรงที่ข้าคิดว่าเ้าเป็พี่น้อง ข้ามีน้ำใจซื่อสัตย์ต่อเ้า เสนอเ้าให้รู้จักพวกเดียวกันในยุทธภพ คุ้มครองเ้าตลอดมา ใครจะรู้ว่าเ้ามันใจคด ฆ่าศิษย์พี่หลิวโหย่วเทียนเพื่อคัมภีร์ลับ ผิดอย่างไม่อาจให้อภัย วันนี้ พวกเราจะแก้แค้นเพื่อศิษย์พี่หลิวโหย่วเทียน!”
ว่าพลางชักกระบี่ยาวออกมา
เหว่ยเทียนิกลายเป็เหมือนลำแสงพุ่งปรี่เข้าสังหาร
กระบี่ยาวในมือกลายเป็แสงเฉกเช่นอสรพิษเลื้อย เร็วยิ่งกว่าสิ่งใด แรงทะลักล้น คนในห้องโถงรู้สึกเหมือนมองแสงอาทิตย์สาดส่องเข้าตา ะเืจนดวงตาไม่อาจลืมตื่น ต้องพากันยกมือปิดหน้า...
แสงอันสว่างจ้า ลาลับไปในชั่วพริบตา
ตอนที่ดวงตาทุกคู่กลับสู่สภาวะปกติ หน้าอกของหวงหร่านก็ถูกกระบี่ยาวเสียบทะลุไปแล้ว
ด้ามกระบี่อยู่ในมือเหว่ยเทียนิ
“เ้า...ข้า...เ้า” หวงหร่านเบิกตาโพลงมองเหว่ยเทียนิอย่างไม่เชื่อสายตา ในแววตานั้นมีความทุกข์และเกลียดแค้น ปากพะงาบๆ จะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกเหว่ยิเทียนเสือกกระบี่เข้ามาแทงซ้ำอีกที
หวงหร่านพ่นเืสดออกมาอย่างบ้าคลั่ง ร่างหงายหลังล้มลงไป
ตาเขายังลืมอยู่ ตายตาไม่หลับ
“ศิษย์พี่หลิว ข้าแก้แค้นให้ท่านแล้ว!” เหว่ยเทียนิมองเบื้องฟ้าแล้วทอดถอนใจยาว
กลุ่มคนรอบด้านพูดปลอบใจเหว่ยเทียนิกันเป็พัลวัน
มีเพียงอาจารย์อาเคราดำผู้เดียวเท่านั้นที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะ ดวงตามีแววฉงนแลบแล่น ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่...
หญิงงามหนานหัวกลับมองไปทางบันไดหยกขาวอย่างไม่อาจละสายตา
ร่างของเ่ิูหายไปจากกระบวนอักขระเคลื่อนย้ายนั่นนานแล้ว
แต่หนานหัวยังไม่คืนสติกลับมา
“ไม่นึกเลยว่าบุรุษผู้ดีชุดขาวคนนั้นจะมีที่มาไม่ธรรมดา น่ากลัวว่าอาจเป็คุณชายของชนชั้นสูงพวกนั้นกระมัง มิน่าเล่าถึงได้หล่อเหลาเป็สง่าถึงเพียงนี้ เพียบพร้อมนัก น่าเสียดายจริง ถ้าข้ารู้ก่อนหน้า มีโอกาสได้ใกล้ชิดตั้งหลายครั้ง ข้ากลับปล่อยมันหลุดมือไปเสียได้”
หนานหัวเสียดายยิ่งนัก
แต่ไม่นานนัก มุมปากของนางก็ยกขึ้นเป็ยิ้มมั่นใจ
“กลับกัน ข้ายังต้องอยู่ในด่านโยวเยี่ยนนี่อีกนาน หากมีโอกาส หนุ่มรุ่นเืร้อนเช่นนี้ ง่ายนักจะรับมือ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ติดกับข้า ข้าจะหาโอกาส ใช้วิธีการเสียหน่อยก็จะรู้แกวเขาอย่างง่ายดาย ฮึๆ ลูกผู้ดีชุดขาวคนนี้น่าจะเป็คนสนับสนุนที่ดีไม่เบาเลยนะ”
ดรุณีพรรคจื่อเวยคิดเช่นนี้
ในเวลาอันรวดเร็ว จลาจลในโถงใหญ่ก็สิ้นสุดลง
ศพของหวงหร่านมีฝ่ายโรงเตี๊ยมมาเก็บไปเอง กฎหมายของอาณาจักรเสวี่ยแม้จะเคร่งครัด แต่ไม่ห้ามคนในพรรคไม่ให้แก้แค้น เหว่ยเทียนิฆ่าหวงหร่าน เป็บุญคุณความแค้นในยุทธภพ ฝ่ายบ้านเมืองจะไม่ตามสืบสาวในเื่นี้
เื่ของยุทธภพ ทิ้งให้ยุทธภพจัดการเองเถิด
เป็ธรรมเนียมสืบทอดต่อกันมา
เพียงแต่บรรยากาศและอารมณ์ของชาวยุทธในชั้นสี่นั้น กลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด
คนของพรรคต่างๆ เหล่านี้ เดิมทีมีจิตตั้งมั่นเสมอมา ว่าตนนั้นเป็คนไร้พ่ายในใต้หล้า เป็ตัวตนดั่งเทพเซียนมองโลกียะ ใจเชื่อมั่นในตัวเอง เติบโตจนฉุดไม่อยู่ มาที่ด่านโยวเยี่ยนก็เพื่อรับบทเป็ผู้ช่วยเหลือ แต่ไม่นึกไม่ฝันว่าต้องมาพบเจอเื่เช่นนี้
ยังไม่ทันเข้าสมรภูมิเลย ก็ถูกเด็กหนุ่มชุดขาวกับนักรบเกราะนายหนึ่งตีแสกหน้าเข้าให้แล้ว
ประโยคเดียว ดาบเดียว กลับะเืจนพูดยังพูดไม่ออก...
เวลานี้เอง ที่คนทั้งหมดไม่ถือดีคอยพาลใครไปทั่วเหมือนเมื่อก่อน
ทุกๆ คนล้วนสงบเสงี่ยมขึ้นโข
“ที่แท้แล้วหนุ่มชุดขาวคนนั้นเป็ใครกันแน่นะ?”
หลายคนถามคำถามนี้ในใจ
และก็มีบางคนเริ่มพูดคุยกันเสียงเบา