“ฝ่ามือภูผาพิฆาต!” เย่เฟิงแผดเสียงะโพร้อมกับปล่อยฝ่ามือภูผาพิฆาตที่ผสานด้วยพลังหอก ก่อนจะโจมตีผู้ฝึกยุทธ์สามคนที่อยู่ทางขวาจนร่างกระเด็นออกไป กระดูกทั่วร่างพลันแตกหัก และจบชีวิตลงทันที
“เย่เฟิงคนนี้จะน่ากลัวเกินไปแล้ว ฆ่าศิษย์พรรคเทียนจีประหนึ่งหั่นผัก!” ผู้คนรอบข้างเห็นศิษย์พรรคเทียนจีถูกเย่เฟิงฆ่าต่างก็ใจเต้นโครมคราม นี่ไม่ใช่การต่อสู้ แต่เป็การเข่นฆ่า
“คุณหนูหลิงซวง คนผู้นี้แข็งแกร่งมาก พวกเรารีบไปกันเถอะ!” ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งกล่าวกับหนานกงหลิงซวงด้วยความร้อนใจ ซ้ำยังมองเย่เฟิงด้วยสายตาหวาดกลัว
หนานกงหลิงซวงกะพริบตาปริบ ๆ ครั้งหนึ่งนางเคยสูงส่งต่อหน้าเย่เฟิง เห็นเย่เฟิงเป็เพียงเศษสวะ แต่บัดนี้เมื่อนางได้เจอเย่เฟิงอีกครั้งภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี กลับต้องหนีเขาอย่างนั้นหรือ? ถึงอย่างนั้นเย่เฟิงในเวลานี้ก็แข็งแกร่งมาก นางไม่อยากถูกคัดออก จึงได้แต่ตามผู้ฝึกยุทธ์พรรคเทียนจีคนนั้นหนีออกไป
“พวกเ้าทำร้ายพวกศิษย์พี่ข้า ทั้งยังอยากฆ่าข้า แต่ตอนนี้คิดจะหนีงั้นหรือ?” ตอนที่หนานกงหลิงซวงและผู้ฝึกยุทธ์พรรคเทียนจีคนนั้นยังไปได้ไม่ไกล จู่ ๆ มีเสียงเยือกเย็นดังมาจากข้างหลัง พร้อมกับมีกลิ่นอายอันตรายปกคลุมพวกเขาสองคน ทำให้หนานกงหลิงซวงและผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นตัวแข็งทื่อ
“อั๊ก!” จากนั้นได้ยินเสียงโอดครวญจากผู้ฝึกยุทธ์พรรคเทียนจีคนนั้นดังขึ้น เขาถูกฝ่ามือของเย่เฟิงโจมตี ฉากนี้ทำให้ผู้คนรอบข้างต่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบ และต้องมองวิธีสังหารของเย่เฟิงใหม่
“ตุบ!” ผู้ฝึกยุทธ์พรรคเทียนจีคนนั้นล้มลงไปกองกับพื้น หนานกงหลิงซวงต้องตัวสั่นสะท้านและใบหน้าซีดขาว จากนั้นนางค่อย ๆ หันไปมองเย่เฟิงด้วยความหวาดผวา
“เ้าจะทำอะไร?” หนานกงหลิงซวงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลงกว่าตอนแรก
“คนของเ้าทำร้ายพวกศิษย์พี่ข้า เ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรล่ะ?” เย่เฟิงแสยะยิ้ม
“ถ้าเ้าทำอะไรข้า อ้าวเทียนเขาไม่ปล่อยเ้าไว้แน่!” หนานกงหลิงซวงกล่าวและพยายามใช้ชื่อเฉินอ้าวเทียนมากดดันเย่เฟิง
“น่าขัน!” เย่เฟิงเหยียดยิ้มขณะมองหนานกงหลิงซวง แต่ในใจรู้สึกรังเกียจขณะมอง ก่อนจะพูดต่อไปว่า “คนของตระกูลเฉินถูกข้าฆ่าไปไม่น้อย แล้วเขาเฉินอ้าวเทียนจะทำอะไรข้าได้?”
หนานกงหลิงซวงได้ยินเช่นนั้นก็เผยสีหน้าไม่สู้ดี นางทราบดีว่าเย่เฟิงมีนิสัยตรงไปตรงมา และเป็อย่างที่เขากล่าวเช่นนั้น ก่อนหน้านี้เย่เฟิงล่วงเกินตระกูลเฉินไปมาก บัดนี้ยังใช้ชีวิตอยู่ดี แล้วจะสนใจคำขู่ของนางไปทำไมกัน?
“แค่เห็นผู้หญิงไร้คุณธรรมอย่างเ้า ข้าก็รู้สึกรังเกียจยิ่งนัก ข้าไม่อยากเห็นเ้า ไสหัวไปซะ!” เย่เฟิงกล่าวเสียงเย็น หนานกงหลิงซวงถึงกับตัวสั่นสะท้าน นางเคยโดนดูถูกเยี่ยงนี้ั้แ่เมื่อไรกัน? หนานกงหลิงซวงเ็ปใจเป็อย่างมาก เพราะคนที่ดูถูกนางอยู่ในตอนนี้กลับเป็เศษสวะที่นางเคยดูถูกเหยียบย่ำ จากนั้นนางเหลือบมองเย่เฟิงแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินออกไป
เย่เฟิงไม่สนใจหนานกงหลิงซวง แต่หันไปมองฉู่หานและเฉิงเฟย “ศิษย์พี่ฉู่ศิษย์พี่เฉิง พวกท่านไม่เป็ไรใช่ไหม!”
ขณะนั้นฉู่หาน เฉิงเฟย และศิษย์พรรคเทียนเสวียนคนนั้นยังตกตะลึงไม่หายจากเหตุการณ์เมื่อครู่นี้
“ไม่เป็ไร แค่ถลอกนิดเดียว ศิษย์น้องเย่ไม่ต้องห่วง” ฉู่หานกล่าวพลางยิ้ม เฉิงเฟยและศิษย์พรรคเทียนเสวียนคนนั้นก็พยักหน้า
“ดีแล้ว ศิษย์พี่ฉู่ เหตุใดคนของพรรคเทียนจีถึงลอบสังหารพวกท่าน?” เย่เฟิงเอ่ยถาม ระหว่างทางเขาพบเจอพันธมิตรหลายกลุ่ม แต่มีคนของพรรคเทียนจีน้อยมากที่จะกำเริบเสิบสานเช่นนี้
“ไม่ใช่แค่พวกเราสามคน ศิษย์พรรคเทียนเสวียนคนอื่น ๆ ก็ถูกพันธมิตรของศิษย์พรรคเทียนจีไล่ฆ่า เท่าที่ข้ารู้ มีศิษย์พรรคเทียนเสวียนถูกพวกมันกำจัดไปหลายคนแล้ว!” ศิษย์พรรคเทียนเสวียนคนนั้นกล่าวด้วยความโมโห
“มีเื่เช่นนี้ด้วยหรือ!” เย่เฟิงได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดแน่นพร้อมกับมีไอเย็นแผ่ออกจากร่าง
“ในเมื่อพรรคเทียนจีหมายหัวศิษย์พรรคเทียนเสวียนข้า เช่นนั้นพรรคเทียนเสวียนข้าจะนั่งรอความตายไปทำไม?” เย่เฟิงกล่าวเสียงเย็น จากนั้นเขากวาดสายตามองคนรอบข้าง และกล่าวต่อ “พวกเ้ายินดีเข้าร่วมพันธมิตรกับข้าหรือไม่? หากเข้าร่วม จุดประสงค์คือกำจัดพันธมิตรของพรรคเทียนจี!”
ทุกคนได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็กะพริบตาถี่ ในใจผุดความคิดที่ต่างกันไป ถึงแม้เย่เฟิงจะแข็งแกร่ง แต่เหล่าศิษย์พรรคเทียนจีมีจำนวนมาก และเฉินอ้าวเทียนกับเว่ยจี้ก็ไม่ใช่คนที่เย่เฟิงจะยั่วยุได้ ทว่าบัดนี้เย่เฟิงกลับพูดว่า้ากำจัดพรรคเทียนของพรรคเทียนจี นี่จะไม่มากเกินไปหน่อยหรือ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากล่วงเกินพรรคเทียนจีและไปรนหาที่ตายเพียงเพราะเย่เฟิง
“ข้าเข้าใจใต้เท้า เพียงแต่พรรคเทียนจีทรงอำนาจ พวกเรามิอาจล่วงเกินเพียงเพราะคำพูดนั้นของใต้เท้าได้ ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับตั้งตัวเป็ศัตรูกับพรรคเทียนจี” ผู้ฝึกยุทธ์กล่าวพร้อมโค้งตัวให้เย่เฟิง
“เอาที่พวกเ้าสบายใจ” เย่เฟิงระบายยิ้มอย่างไม่สนใจ ผู้อื่นจะเลือกหรือตัดสินใจอย่างไร เขาเย่เฟิงไม่มีทางควบคุมความคิดของผู้อื่นได้
เมื่อได้ยินที่ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นพูดก็มีหลาย ๆ คนเดินออกไป ไม่อยากลงลุยน้ำสกปรกกับเย่เฟิง แต่ในใจกลับดูถูกเย่เฟิงที่ยโสโอหัง สุดท้ายแล้วผู้คนรอบข้างที่มีนับร้อยก็เหลือเพียงไม่กี่คน พวกเขาคือศิษย์พรรคเทียนเสวียนที่ยินดีเข้าร่วมกับพวกเย่เฟิง เช่นนี้จึงเป็การรับประกันความปลอดภัยของพวกเขา
ณ ใจกลางลานประลอง ศิษย์พรรคเทียนจีหลายคนตื่นขึ้นจากโลกมายา พร้อมกับสีหน้าตื่นใปนหวาดกลัว พวกเขาคือคนที่เย่เฟิงฆ่าในแดนมายา เพียงเวลาสั้น ๆ ก็มีคนล้มตายมากกว่าสิบคน นี่ทำให้เหล่าผู้าุโพรรคเทียนจีที่อยู่บนอัฒจันทร์หลักเผยสีหน้าไม่สู้ดี
“ใครเป็คนทำ?” แสงเยือกเย็นปะทุออกจากดวงตาของเฉินเซี่ยงเทียน ขณะมองศิษย์พรรคเทียนจีที่ถูกคัดออกในเวลาสั้น ๆ
ทางฝั่งพรรคเทียนเสวียน เยว่กู่เผยรอยยิ้มแฝงความหมายลึกซึ้ง คล้ายคาดเดาเื่บางอย่างออก
ภายในแดนมายา การต่อสู้เริ่มดุเดือดและโหดร้ายมากขึ้น พันธมิตรหลายกลุ่มเผยตัวมากขึ้น จากการต่อสู้ธรรมดาก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็สู้กลุ่ม
พันธมิตรของพรรคเทียนจีที่เหลืออยู่ในแดนมายาออกล่าเหยื่ออย่างไร้ความเกรงกลัวใด ๆ อาศัยจำนวนคนที่เยอะกว่าและแข็งแกร่งกว่า จึงกำจัดศิษย์จากพรรคอื่น ๆ ได้มากมาย โดยเฉพาะพรรคเทียนเสวียน ที่เป็เป้าหมายหลักของพรรคเทียนจี ดังนั้นศิษย์พรรคเทียนเสวียนที่ถูกกำจัด จึงรู้สึกหดหู่มาก
“ข้าี้เีลงมือ พวกเ้าจงฆ่าตัวตายซะ!” ขณะนั้นพวกเย่เฟิงปรากฏตัวที่ด้านหน้าศิษย์พรรคเทียนจีสองสามคน ก่อนหน้านี้คนเหล่านี้สังหารศิษย์พรรคเทียนเสวียนไปสองคน ช่างเหิมเกริมยิ่งนัก ในแดนมายาศิษย์พรรคเทียนจีคือเป้าหมายของพวกเย่เฟิง สองสามคนนี้ย่อมไม่มีข้อยกเว้น
“ให้พวกข้าฆ่าตัวตายเนี่ยนะ ฝันไปเถอะ ที่นี่นอกจากเ้า คนอื่น ๆ ก็แค่เศษสวะ เ้าคิดว่าลำพังเ้าจะจัดการพวกข้าได้งั้นหรือ?” ศิษย์พรรคเทียนจีคนหนึ่งกล่าวเสียงเย็น ขณะมองเย่เฟิงด้วยสายตาดูถูก
“ในเมื่อเป็เช่นนี้ ข้าก็คงต้องลงมือเองสินะ!” เย่เฟิงแสยะยิ้ม จากนั้นวาดฝ่ามือโจมตีอย่างไม่ลังเล พร้อมกับปลดปล่อยพลังทำลายล้าง เข้าโจมตีผู้ฝึกยุทธ์คนนั้น ทำให้คนผู้นั้นร้องโอดครวญ ก่อนจะตายในทันที
“ฆ่าคนของพรรคเทียนจี ช่างแกว่งเท้าหาเสี้ยนเสียจริง!” ผู้ฝึกยุทธ์พรรคเทียนจีคนอื่น ๆ เห็นฉากนี้ต่างะเิเพลิงโทสะออกมา
แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาไม่ต้องคิดให้เปลืองสมอง หลังจากเย่เฟิงบรรลุขั้นรวมชี่ที่ 3 ในระดับเดียวกันนั้นถือว่าเขาก็ไร้เทียมทานมาก ส่วนระดับการบ่มเพาะสูงที่สุดของศิษย์พรรคเทียนจีเหล่านี้อยู่แค่ขั้นรวมชี่ที่ 3 ดังนั้นคนเหล่านี้ไม่นับเป็สิ่งใดเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เฟิง
เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป ผู้ฝึกยุทธ์หลายคนก็ถูกเย่เฟิงเข่นฆ่าจนเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่คนเดียว
“หมอนี่โหดมาก ฆ่าคนของพรรคเทียนจีไม่เหลือแม้แต่คนเดียว!” มีคนมากมายผ่านมาทางนี้จึงเห็นการเข่นฆ่าของเย่เฟิง หนึ่งกระบวนท่าสังหารหนึ่งคน ศิษย์พรรคเทียนจีเ่าั้ไม่มีกำลังโต้กลับด้วยซ้ำ นี่เกินความคาดหมายของพวกเขาไปมาก
หลังจากศิษย์พรรคเทียนจีเหล่านี้ถูกกำจัด ทำให้หลายคนมีความมั่นใจมากขึ้นและเข้าร่วมพันธมิตรของพวกเย่เฟิง จากนั้นทุกคนก็ออกไปจากที่นี่ภายใต้การนำของเย่เฟิง
ระหว่างทาง พวกเย่เฟิงยังเจอพันธมิตรของพรรคเทียนจี จึงทำการสังหารโดยไร้ซึ่งความปรานีใด ๆ ศิษย์พรรคเทียนจีเหล่านี้ตั้งใจกดดันพรรคเทียนเสวียน กระทั่งข่มขู่คนข้างกายของเย่เฟิง เช่นนั้นเขาเย่เฟิงก็จะทำให้อีกฝ่ายต้องชดใช้หลายร้อยเท่า
เนื่องจากผู้ฝึกยุทธ์พรรคเทียนจีถูกพวกเย่เฟิงฆ่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ชมที่โลกภายนอกเริ่มฮือฮา และพากันคาดเดาว่าผู้ที่ทำให้ศิษย์พรรคเทียนจีถูกคัดออกมากขนาดนี้เป็ใคร
เหล่าผู้าุโของพรรคเทียนจีเริ่มมีสีหน้าย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ ศิษย์พรรคเทียนจีของพวกเขาถูกคัดออกเร็วขนาดนี้ มันผิดปกติมาก
“ผู้าุโเฉิน ข้าว่าจะต้องมีคนในแดนมายาตั้งตัวเป็ศัตรูกับพรรคเทียนจี เราควรทำเช่นไรดี?” ผู้าุโพรรคเทียนจีคนหนึ่งลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วส่งเสียงผ่านจิตไปหาเฉินเซี่ยงเทียน แม้พรรคเทียนจีเขาจะมีคนเข้าร่วมงานประลองจำนวนมาก แต่ก็ไม่อาจทนกับการเข่นฆ่าครั้งใหญ่เช่นนี้ได้ ไม่ว่าอย่างไรเื่นี้จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของพรรคเทียนจี
“กังวลอะไร? พรรคเทียนจีข้ามีตัวเต็งสองคนอยู่ในนั้น คนนั้นที่ตั้งตัวเป็ศัตรูกับพรรคเทียนจีข้าจะต้องชดใช้หลายเท่า!” เฉินเซี่ยงเทียนส่งเสียงผ่านจิตไปหาผู้าุโคนนั้น พลางดวงตาส่องประกายเยือกเย็น
“วูบ!” ขณะนั้นมีลำแสงสายหนึ่งพุ่งออกจากฝ่ามือของเฉินเซี่ยงเทียนไปยังม่านแสงมายาั์นั่น จากนั้นมีอักขระเคลื่อนไหวบนม่านแสง นาทีต่อมาลำแสงนั่นพุ่งเข้าไปยังหว่างคิ้วของเฉินอ้าวเทียนและเว่ยจี้ในม่านแสงจนทั้งสองตัวสั่นสะท้านพร้อมกัน คล้ายได้รับข้อความบางอย่าง