ภายในห้องเงียบงัน ฉินชิงหร่านนั่งแน่นิ่ง ราวกับร่างไร้ิญญา แต่ในแววตากลับลุกโชนไปด้วยเพลิงแห่งความชิงชัง นางสาบานกับตนเองฉินเซียนหรู น้องสาวต่างมารดาผู้นั้น คือต้นตอของหายนะทั้งหมด และเป็ศัตรูที่ไม่มีวันอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกันได้
ตลอดหลายเดือนมานี้ ฟ้าดินดูราวกับตั้งใจลงทัณฑ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพียงแค่ความอัปยศจากการถูกบ่าวรับใช้ย่ำยีก็ทำให้หัวใจนางแทบแหลกสลายแล้ว ไหนเลยยังต้องทนมองสายเืต่ำต้อยเติบโตอยู่ในครรภ์ทุกวัน ฟ้าดินยังไม่สาแก่ใจ ถึงกับส่ง ซ่งห้าวหรานบุรุษเสเพลต่ำช้าแห่งเมืองหลวงมาเป็คู่ครองของนางอีก
ความเคียดแค้นกัดกินหัวใจจนดวงตาที่ครั้งหนึ่งใสกระจ่างกลับขุ่นมัวเป็สีดำสนิท ริมฝีปากที่เคยงามระเรื่อเอ่ยถ้อยคำสั่นพร่าเต็มไปด้วยพิษแค้น
“นางแพศยา…เ้าคิดจะจองเวรข้าไปจนถึงเมื่อใด หากเ้ามีชีวิตอยู่ ข้าย่อมไร้ที่ยืน หากข้ายังหายใจ เ้าก็อย่าหวังจะอยู่อย่างสงบสุข!”
แม้ใบหน้าของชิงหร่านยังคงงดงาม หากแต่ความแค้นชิงชังที่ฉาบอยู่ในแววตากลับทำให้ความงามนั้นอัปลักษณ์ยิ่งกว่ามารร้าย
เพียงไม่กี่วันให้หลัง พิธีแต่งงานระหว่างตระกูลฉินและตระกูลซ่งก็ถูกจัดขึ้นอย่างมโหฬาร หอพิธีถูกประดับด้วยแพรไหมสีแดงสดทอดยาวจากประตูใหญ่สู่แท่นพิธี โคมไฟรูปัและหงส์แขวนเรียงรายส่องสว่างราวกลางวัน เสียงกลองพิธีและดนตรีบรรเลงขับขานดังสะท้อนทั่วทั้งนคร
อัครเสนาบดีซ่งกวงเหริน รักษาสัญญาที่ให้ไว้ต่อแม่ทัพฉิน เขาจัดงานนี้ให้หรูหราสมเกียรติยิ่งกว่างานใด ๆ ของปี ของขวัญแต่งงานล้วนแล้วแต่เป็สิ่งล้ำค่า ทั้งทองคำแท่ง และอัญมณีที่หาชมได้ยาก ถูกขนมาตั้งเรียงรายเป็ูเาเล็ก ๆ แเื่ผู้สูงศักดิ์จากราชสำนักล้วนได้รับเชิญให้มาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
“ท่านแม่ทัพฉินเทียนหง…ข้าหวังว่าท่านคงจะพึงพอใจ เพราะในวันนี้ ข้าได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจไปไม่น้อย”
แม้จะเป็บุรุษผู้มากด้วยเล่ห์เหลี่ยม แต่สำหรับวันมงคลของบุตรชาย เขากลับเต็มใจทุ่มทุกสิ่งไม่ออมแรง งานที่หรูหราโอ่อ่านี้คือหลักฐานแห่งชัยชนะของตระกูลซ่ง สำหรับซ่งกวงเหรินแล้วการได้ ฉินชิงหร่าน เป็ลูกสะใภ้ เปรียบเสมือนของขวัญจาก์ที่ฟ้าประทาน
แม่ทัพฉินเทียนหงนั่งนิ่งอยู่เบื้องหน้า สีหน้าเข้มขรึมทว่าเริ่มคลายลงเล็กน้อย ความอับอายที่กัดกินหัวใจเขาตลอดหลายวันดูเหมือนจะถูกกลบฝังลงด้วยความโอ่อ่าของงานในวันนี้ชั่วขณะ
ทว่าภายใต้ใบหน้าที่พยายามสงบกลับแฝงไว้ด้วยความขมขื่นลึกสุดใจ เพราะเขารู้ดีผู้ที่ต้องแบกรับเคราะห์กรรมครั้งนี้มิใช่ตระกูล หากเป็บุตรสาวที่เขาเคยภาคภูมิใจยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
แม่ทัพเอื้อนเอ่ยช้า ๆ เสียงต่ำหนักแน่น แต่เต็มไปด้วยร่องรอยบาดลึกในใจ
“ข้าหวังเป็อย่างยิ่ง…ว่าบุตรชายของท่าน จะดูแลลูกสาวของข้าให้ดี”
ท่ามกลางเสียงฆ้องกลองและเสียงอวยพรที่ก้องสะท้อนทั่วหอพิธี ซ่งห้าวหราน กุมมือเรียวบางของเ้าสาวไว้แน่น ดวงตาคมฉายแววลุ่มหลงราวกับจะกลืนกินความงดงามตรงหน้า รอยยิ้มพึงใจผุดขึ้นบนใบหน้าที่เปี่ยมด้วยความภาคภูมิ
“วันนี้เป็วันมงคลของเรา…เ้าน่าจะยิ้มให้สมกับเป็เ้าสาวสักหน่อย” เขาเอ่ยวาจาอ่อนหวาน หากแต่แฝงด้วยความถือสิทธิ์ราวกับเ้าของ
ทว่าถ้อยคำเ่าั้ไม่ต่างจากมีดที่กรีดซ้ำลงบนหัวใจของ ฉินชิงหร่าน ดวงตาของนางหม่นหมองเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไม่ยอมไหลออกมา นางเชิดหน้าหนี แววตาแข็งกระด้างปฏิเสธการสบตากับบุรุษผู้ที่ถูกบังคับให้กลายเป็คู่ครอง
ซ่งห้าวหรานหาได้โกรธเคืองไม่ ตรงกันข้าม แววตาของเขายิ่งเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ริมฝีปากโค้งยิ้มกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ความหยิ่งทะนงของเ้านี่เอง…ที่ยิ่งทำให้ข้าอยากได้”
ซ่งห้าวหรานสังเกตเห็นแววตาของเ้าสาว ที่ไม่เพียงแต่ดื้อรั้นกับเขาเท่านั้น แต่ยังจับจ้องไปยังสตรีอีกคนหนึ่งที่รูปลักษณ์งดงามยิ่งกว่าตัวเ้าสาวเสียอีก
"หากข้าจำไม่ผิด สตรีนางนี้คงเป็น้องสาวของเ้าฉินเซียนหรูนางช่างงดงามจริงๆ" ซ่งห้าวหรานกล่าวชื่นชมความงามของหญิงอื่นอย่างเปิดเผย ทั้งที่นี่คืองานวิวาห์ของเขากับฉินชิงหร่าน
"หากเ้าฉุดกระชากนางลงสู่ความต่ำตมได้ ตัวข้านั้นจะมีความสุขใจยิ่งนัก" ฉินชิงหร่านเอ่ยเสียงเย็น
"โอ้โห... ดูเหมือนความสัมพันธ์ของพวกเ้านั้นจะไม่ค่อยดีเลยสินะ" ซ่งห้าวหรานแสร้งทำเป็ใ พร้อมทั้งจ้องมองไปยัง ฉินเซียนหรู ซึ่งนั่งอยู่ร่วมโต๊ะอาหารกับพี่ชายของนางด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความหลงใหลอย่างโจ่งแจ้ง
ด้าน ฉินหานเฟิง พี่ชายคนโตของฉินเซียนหรู เมื่อเห็นสายตาที่หยาบโลนจ้องมองมาทางน้องสาว เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า "เ้าหมอนี่มันสวะชัดๆ น้องฉินเซียนหรู ตัวเ้าต้องระวังตัวให้มากๆ" เขากล่าวด้วยความเป็ห่วง
"ท่านพี่โปรดวางใจ คนพวกนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาข้าหรอก"
ฉินเซียนหรู ยกจอกสุราขึ้นเล็กน้อย แววตาเรียบเฉยจ้องตรงไปยังคู่บ่าวสาว รอยยิ้มบางที่ประดับบนริมฝีปากคล้ายการทักทาย แต่ในความจริงกลับแฝงไว้ด้วยความเย้ยหยัน ในั์ตาของนางไม่มีทั้งความยินดีหรือเศร้าโศก ซ่งห้าวหราน สบตานางแล้วหัวเราะเสียงต่ำ สายตาที่ฉายชัดถึงความกำหนัดแทบจะกลืนกินร่างงามนั้น “ฮ่าฮ่า…ข้าใคร่รู้จริง ๆ ว่าในใต้ใบหน้าเยือกเย็นนั้น น้องฉินเซียนหรูจะซ่อนเพลิงร้อนแรงเช่นใด หากได้ลองลิ้มรสด้วยตน…ช่างน่าตื่นเต้นนัก”
คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศรอบโต๊ะตึงเครียดทันที ราวกับความชื่นมื่นในงานแต่งถูกสาดด้วยโคลนสกปรก แขกบางคนเบือนหน้าอย่างไม่อาจทนฟัง ขณะที่ ฉินชิงหร่าน เ้าสาวกลับเชิดหน้าหนี สายตาของนางเต็มไปด้วยไฟโทสะและความเจ็บช้ำ ทว่าก่อนที่สายตาหยาบโลนของซ่งห้าวหรานจะยิ่งเหิมเกริมไปมากกว่านี้ เสียงหัวเราะก้องกังวานก็ดังแทรกเข้ามา
“ฮ่าฮ่า! ยินดีกับคุณชายซ่งด้วยนัก ไม่ทันไรเ้าก็มีภรรยาแล้วเสียที!”
เสียงนั้นดังมาจากกลุ่มชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวเข้ามา พวกเขาล้วนแต่งกายหรูหราทว่าอากัปกิริยาหยาบโลน ใบหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความสำราญ บุตรหลานขุนนางผู้มีชื่อเสียงแต่ไร้คุณธรรม ต่างเป็สหายเก่าแก่ของซ่งห้าวหราน ผู้เคยเที่ยวโคมแดง ดื่มสุรา และก่อเื่เสเพลมาด้วยกันนับไม่ถ้วน
การปรากฏตัวของพวกเขา เปรียบดัง คราบโสมมที่โผล่ขึ้นมาท่ามกลางพิธีแต่งงานอันหรูหรา แขกผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่รอบงานเริ่มมองหน้ากันด้วยแววตาหนักอึ้ง บางคนกดเสียงซุบซิบต่ำอย่างไม่อาจปกปิดความขุ่นเคืองได้ ขณะที่ซ่งห้าวหรานกลับยืดอกเชิดหน้า ราวกับได้รับเกียรติอันใหญ่หลวงจากการมาเยือนของเหล่ากุ๊ยผู้สวมคราบคุณชายเหล่านี้
