ตอนนี้หวังเชาเข้าใจชัดเจนว่าหลี่อวี่เฉิน้าให้เขาที่เป็หัวหน้าทีมขอร้องฉินเฟิงที่เป็พนักงานใหม่ไม่ให้ลาออกเขาโกรธจนรู้สึกเหมือนกับอวัยวะภายในเผาไหม้
เขายืนในออฟฟิศอย่างยาวนานและสีหน้าของเขาก็เหี้ยมเกรียมขึ้นอย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นสีหน้าไม่อ่อนข้อและเ็าของหลี่อวี่เฉินเขาจึงตัดสินใจยอมแพ้
สายตาปลาตายของเขาจ้องที่ฉินเฟิงอย่างเลวทรามขณะที่กัดฟันพูด“ฉินเฟิง ฉันผิดเอง แกไม่ต้องออกหรอก อยู่ในแผนกการขายนี่และพยายามทำงานให้ฉัน”
หลังจากหวังเชากล่าวเสร็จเขาก็หันกลับเพื่อออกไป ฉินเฟิงหัวเราะเล็กน้อย “หวังเชานั่นคือวิธีที่นายขอร้องคนอื่นเหรอ? ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากให้ฉันอยู่ต่อจริงๆสินะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่ทำเื่ยากให้กับนายและแค่เซ็นชื่อใบลาออก”
“หวังเชา!”หลี่อวี่เฉินะโด้วยความเ็า
หวังเชาหันหน้าหนีจากฉินเฟิงด้วยสีหน้าเหี้ยมโหดเขาสูดหายใจลึกๆ ก่อนที่จะฉาบใบหน้ายิ้มแย้มบนใบหน้าและพูดว่า “อ้า ฉินเฟิงแม้ว่าคุณจะไม่มาที่บริษัทนาน ผมก็ยอมรับศักยภาพที่โดดเด่นของคุณอย่างสุดซึ้งเราไม่สามารถเสียบุคคลที่มีพร์อย่างคุณได้ ในฐานะหัวหน้าทีมสองผมขอร้องขอให้คุณอยู่ต่อเถอะ!”
ฉินเฟิงพึงพอใจกับท่าทีของหวังเชาและตบบ่าของเขาด้วยรอยยิ้ม“หัวหน้าหวัง นายจะสุภาพไปทำไม? เอาจริงๆฉันไม่ได้มีแผนจะออกหรอก ก็แค่ล้อนายเล่นเท่านั้นเองมีใครไม่รู้บ้างล่ะว่าหวงเจียกรุ๊ปคือบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเว่ยเฉิง? ฉันจะออกได้อย่างไรในเมื่อสามารถทำงานที่นี่เพื่อความรุ่งโรจน์ของตัวเองได้?”
หวังเชาข่มความโกรธไว้ข้างในและรู้สึกอยากกระอักเือย่างไรก็ตาม เขาได้เสียสละเกียรติทั้งหมดไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงฝืนยิ้มและพูดต่อ“ฉินเฟิง คุณคิดแบบนั้นก็ดี ั้แ่นี้ไปผมจะดูแลคุณในแผนกการขายอย่างดีเอง”
หวังเชากัดฟันพูดประโยคหลังเพียงไม่กี่คำและก็รีบออกจากออฟฟิศไป
หลังกลับออกจากออฟฟิศหัวหน้าทีมของเขาสีหน้าของหวังเชาก็บึ้งตึง เขาสาปแช่งฉินเฟิง 18 ชั่วโคตรแต่ก็ยังรู้สึกเดือดดาลอยู่ดี เขาประสงค์อยากจะให้ฉินเฟิงโดนกระทืบและแม้แต่หักแขนหักขาให้มันกลายเป็คนพิการ
เขาโกรธจนอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลและไม่เข้าใจว่าทำไมท่าทีของหัวหน้าหลี่ถึงเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดถึงโทรศัพท์ที่เธอรับในสายตาของเขาฉินเฟิงเป็แค่พนักงานขายเล็กๆ เขามีสารพัดวิธีที่จะจัดการกับคนแบบนี้
หลังจากคิดสักพักหวังเชาก็หาทางจัดการฉินเฟิง เขาหยิบโทรศัพท์และโทรออก ในไม่ช้าชาย 2คนที่เป็พนักงานขายก็เดินเข้ามาพร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม
“พี่เชาคุณอยากให้พวกผมทำอะไรเหรอ?” ชายสองคนนี้ชื่อเสี่ยวหม่าและเสี่ยวชิวพวกเขาเป็ส่วนหนึ่งในทีมสองของแผนกการขายทั้งคู่เรียนและจบจากมหาวิทยาลัยทางด้านกีฬา พวกเขาจึงสูงและรูปร่างดีราวกับเป็นักสู้ที่ยอดเยี่ยม
แต่ก่อนเมื่อไรที่พนักงานไม่เชื่อฟัง หวังเชาจะส่งพวกนี้ไปเตือนอย่างลับๆครั้งนี้เขาเรียกพวกนี้มาเพื่อจะจัดการกับฉินเฟิง
“เสี่ยวหม่าเสี่ยวชิว พวกแกรู้จักเด็กใหม่ฉินเฟิงใช่ไหม?”
“ครับ!พี่ใหญ่เชา ไอ้เด็กนั่นมันหาเื่คุณเหรอ? ไม่ต้องห่วงปล่อยให้เป็หน้าที่พวกเราเอง”
แม้ว่านี่เพิ่งจะเป็วันที่5 นับั้แ่ฉินเฟิงเป็พนักงาน และเขาก็ขาดงานไป 3 วันแต่เกือบทุกคนในแผนกการขายรู้จักเขา เพราะว่าทันทีที่เขามาถึง เขาก็ตีสนิทกันเทพธิดาบริสุทธิ์อย่างสวี่รั่วโหรวนี่จึงทำให้เขากลายเป็ศัตรูกับผู้ชายทั้งแผนกการขาย
แม้ว่าหวังเชาจะไม่บอกเสี่ยวหม่ากับเสี่ยวชิวพวกเขาก็กะจะไปหาฉินเฟิงในที่ลับเพื่อพูดคุยอยู่แล้ว
“จำไว้ว่าฉันอยากให้พวกแกลงมือรุนแรงแค่ไหนก็ได้เท่าที่พวกแก้าความจริงมันจะเยี่ยมไปเลยถ้ามันนอนโรง’บาลไปสักเดือน”หวังเชากล่าวด้วยสีหน้าหม่นหมอง
“ได้เลยไม่ต้องห่วงครับพี่เชา เราจะจัดการให้คุณอย่างแน่นอน”
“หลังจากที่พวกแกจัดการเื่นี้เสร็จฉันจะให้ลูกค้ารายใหญ่ เอาล่ะ ไปเตรียมตัวซะ เมื่อฉินเฟิงมันออกจากออฟฟิศของหัวหน้าหลี่เมื่อไรก็ไปดูแลมันได้เลย”
หลังจากที่หวังเชาออกไปฉินเฟิงก็ยืนอยู่ในออฟฟิศของหลี่อวี่เฉินต่อโดยไม่เร่งรีบออก
ลึกๆแล้วหลี่อวี่เฉินไม่ชอบฉินเฟิง เธอรู้สึกว่าเขาเป็คนตัดสินคนจากภายนอกหลังจากที่หวังเชาออกไป เธอก็ไม่สนใจเขาและลงมือทำรายงานการขายของเดือนนี้ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงสายลมอุ่นๆ พัดผ่านหูทำให้หุ่นดินะเิของเธอถอยผงะด้วยความใ
“ฉินเฟิงคุณจะทำอะไร?”
หลี่อวี่เฉินใส่แว่นกรอบสีดำดวงตาของเธอปล่อยความเยือกเย็นออกมา เธอไม่เคยคิดว่าฉินเฟิงจะกล้ามากเธอไม่รู้ว่าเขามาเมื่อไร แต่เขาโน้มตัวมาข้างหน้าเธอและเป่าลมใส่หูของเธอ
“หัวหน้าหลี่คุณช่างมีเสน่ห์เหลือเกินเวลาคุณตั้งใจทำงาน”ฉินเฟิงกล่าวขณะเลียริมฝีปากและจ้องที่หน้าอกของหลี่อวี่เฉิน
เขาเสเพลเ้าชู้ั้แ่เด็กและไม่เคยปิดบังเวลาชื่นชมเรือนร่างของผู้หญิงเขาไม่เคยแอบซ่อนเื่แบบนี้
หน้าอกของหลี่อวี่เฉินกระเพื่อมด้วยความโกรธและรู้สึกเหมือนว่าเสื้อเบลาส์ของเธอจะะเิเธออยากจะดุด่าฉินเฟิงแรงๆ แต่ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงสายของรองผู้จัดการหวังจุน
ชี้ชัดว่าฉินเฟิงมีเส้นสายในบริษัทแต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเริ่มเป็พนักงานขาย
ทันใดนั้นหลี่อวี่เฉินก็นึกถึงนายน้อยเ้าสำราญแห่งตระกูลฉินฉินเฟิงทันทีเธอรู้สึกว่าฉินเฟิงข้างหน้าคล้ายคลึงกับข่าวลือที่เธอได้ยินเกี่ยวกับฉินเฟิงพวกเขาทั้งคู่ล้วนเสเพลและเ้าชู้อย่างมาก
“เป็ไปไม่ได้!เป็ไปไม่ได้!” หลี่อวี่เฉินส่ายหัวเธอเคยค้นคว้านายน้อยแห่งตระกูลฉินมาก่อนและเคยเห็นรูปบนอินเทอร์เน็ตแล้วมันไม่ใช่คนที่อยู่ข้างหน้าเธอ
เมื่อเธอนึกถึงนายน้อยฉินนั่นหลี่อวี่เฉินก็รู้สึกยุ่งยาก เธอย่างเข้า 26 แล้ว ซึ่งเป็่เวลาที่ดีสำหรับแต่งงานพ่อของเธอจากไปั้แ่เธอยังเด็กส่วนแม่ของเธอก็โทรหาเธอทุกวันเพื่อบอกให้เธอแต่งงาน เพราะเื่นี้เธอจึงไม่กล้ากลับบ้านไปสักพักหนึ่ง
แม่ของเธอมีชีวิตอย่างยากลำบากและไม่อยากให้ลูกสาวของเธอมีชีวิตอย่างนั้นหน้าตาของหลี่อวี่เฉินก็ค่อนข้างสวยและมีรูปร่างเร่าร้อนด้วยเหตุนี้แม่ของเธอจึงสนับสนุนให้เธอลองไปด้วยกันกับลูกชายของฉินหวง ฉินเฟิง
แม่ของหลี่อวี่เฉินไม่ได้ล้อเล่นเธอตั้งใจให้ลูกสาวของเธอแต่งงานกับตระกูลที่มีอิทธิพลและร่ำรวยความจริงที่หลี่อวี่เฉินทำงานที่หวงเจียกรุ๊ปก็เพราะแม่ของเธอ ทางนี้จะเป็ทางที่เธอสามารถเข้าใกล้ฉินหวงได้แถมยังเข้าใกล้ฉินเฟิงได้อีกด้วย แค่นี้เธอก็สามารถมีชีวิตแบบไฮโซที่ใฝ่ฝันได้แล้ว
ทว่าหลังจากเข้าหวงเจียกรุ๊ปหลี่อวี่เฉินก็พบว่าฉินเฟิงเป็นายน้อยเ้าสำราญและไม่เคยมาทำงานที่บริษัททั้งหมดที่เขาทำก็แค่ กิน เล่น ดื่ม และเกี้ยวผู้หญิงเธอไม่อยากจะอยู่กับนายน้อยเ้าสำราญแบบนั้น แต่เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของแม่เธอเธอยังหาโอกาสที่ดีที่สุดเพื่อเข้าตระกูลฉิน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้