เพียงคืนแรกของการเข้าหอ เรียมก็รู้สึกสงสารลูกสาวของหล่อนขึ้นมาจับใจ เพราะเสียงที่ลอดผ่านฝาผนังห้องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เรียมรู้ว่าลูกสาวของตนไม่มีความสุขกับสามีฝรั่ง
เพราะเสียงนั้น…
ประโยคเ่าั้ที่ได้ยิน… เรียมคิดว่ามันน่าจะเป็เสียงของความเ็ปทรมานมากกว่าจะเรียกว่าเป็ ‘ความสุข’
คืนนี้ก็เช่นกัน…
เรียมคิดว่าจะต้องได้ยินเสียงนั้นอีก เสียงที่มันทำให้หล่อนรู้สึกอึดอัดและเ็ปแทนลูกสาวทุกครั้งเมื่อได้ยิน
เสียงนั้น…
ทำให้เรียมรู้สึกผิดที่เป็คนเ้ากี้เ้าการจัดแจงให้น้ำขิงผู้เป็ลูกสาวแต่งงานกับเขยฝรั่งคนนี้… ทั้งที่ลึกๆ ในใจของเรียมก็รู้ว่าน้ำขิงไม่ได้รักแซม
น้ำขิงไม่ได้ชอบฝรั่ง…
กลับกลายเป็ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ล้วนเป็ความ้าของเรียมเองทั้งสิ้น ที่อยากให้บ้านหลังใหญ่ อยากจะมีผู้ชายไว้คอยปกป้องดูแลเพราะว่าเรียมเป็แม่หม้ายมาห้าปีแล้ว
หลังจากสามีตายจากไป หล่อนก็อยู่กับลูกสาวเพียงลำพังโดยไม่คิดจะแต่งงานใหม่ทั้งที่ก็มีผู้ชายพยายามมาแจกขนมจีบกันมากมาย
ในเวลาต่อมา
สามทุ่มกว่าๆ…
เรียมเข้านอนได้ไม่นาน เสียงจากข้างห้องก็ดังขึ้นเหมือนรู้เวลาว่าหล่อนเองก็กำลังรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“อ๊า… แน่น… อูย… แน่น… ”
เป็เสียงของน้ำขิง…
อีกแล้ว…
ได้ยินแล้วเรียมรู้สึกสะท้อนใจ ทรมานจิตใจเหลือหลาย เสียงนั้นบ่งบอกให้รู้ว่าลูกสาวของหล่อนคงรับของนอกไม่ไม่ไหว ไม่เช่นนั้นคงไม่โอดโอยออกมาเช่นนี้
“อ๊า… แน่น… เจ็บ… แน่น… งืออออ… ”
เสียงของน้ำขิงที่อยู่ห่างกันเพียงฝาห้องกั้น ทำให้เรียมรู้สึกสงสารลูกสาวขึ้นมาจับใจ
หล่อนอดคิดไม่ได้ว่าแซมเป็ฝรั่งตัวใหญ่ั์ขนาดนั้น เื่อวัยวะสืบพันธุ์นั้นคงไม่ต้องเดาว่าจะใหญ่ยาวอลังการขนาดไหน? แต่ในความจริงคงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าน้ำขิงกับแซม
