เื่ของจิ่นเซวียนวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ จนเพื่อนบ้านต่างก็มามุงดูกันอย่างคึกคัก เกาซื่อเห็นว่าทุกคนอยู่ด้วย นางจึงยิ่งคุกคามจิ่นเซวียนตามอำเภอใจ หากจิ่นเซวียนมิยอมให้เงินนาง นางจะถอนชื่อของจิ่นเซวียนออกจากผังตระกูล ให้จิ่นเซวียนกลายเป็เด็กกำพร้า
“เด็กนอกคอก เวลานี้เ้ามีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น ให้เงินกับพวกเราหนึ่งพันตำลึง หรือตัดความสัมพันธ์กับพวกเราตลอดกาล”
“เกาซุ่ยจู๋ ต่อให้เซวียนเซวียนจะมิใช่ลูกของหลี่จวิน แต่นางก็ยังอยู่ในผังตระกูล เ้ามีสิทธิ์อะไรมาขับไล่นางออกจากตระกูลซย่า” ซย่าหลี่เจิ้งเดินออกมาจากฝูงชน และพูดขัดเกาซื่อด้วยเสียงเ็า
ก่อนหน้านี้เขาให้โอกาสเกาซื่อ เพราะเห็นแก่หน้าจิ่นเซวียน
“หัวหน้าตระกูล แม่ของนางล่วงประเวณีต้องจมหมูในอวย[1] ข้ามิขุดร่างของว่านเนี่ยนเนี่ยนขึ้นมาจมหมูในอวยถือว่าเมตตานางแล้วเ้าค่ะ” เกาซื่อกล่าวหาแม่ของจิ่นเซวียนในข้อหาล่วงประเวณี เมื่อสวมหมวก[2] แล้ว แม่ของจิ่นเซวียนจะกลายเป็สตรีสำส่อน
“พี่ใหญ่หัวหน้าตระกูล เนี่ยนเนี่ยนเป็คนอย่างไร ข้ารู้ดีที่สุด นางเองก็เป็เหยื่อเช่นกัน ปีนั้นนางถูกคนปริศนา่ชิงความบริสุทธิ์ไป จึงมิกล้าบอกเื่นี้กับทุกคน จนนางตั้งท้องเซวียนเซวียน ท่านป้าว่านถึงได้รู้เื่นี้เ้าค่ะ” สวี่ติ้งหรงเห็นเกาซื่อใส่ร้ายแม่ของจิ่นเซวียน นางจึงรีบลุกขึ้นแก้ต่างแทน
ตอนนั้นเองซย่าชุนอวิ๋นก็มาถึงบ้านของสวี่ติ้งหรง นางมิคาดคิดว่าเื่ราวจะใหญ่โตถึงเพียงนี้
“ท่านลุงหัวหน้าตระกูล ข้ากับท่านพ่อรู้ความจริงทั้งหมด พวกเราปิดบังเื่นี้เพื่อเซวียนเซวียน มิคิดว่าพี่ใหญ่จะพูดมันออกมา เฮ้อ เซวียนเซวียนเป็ผู้บริสุทธิ์เ้าค่ะ” ซย่าชุนอวิ๋นเกลียดชังพี่ใหญ่ของนางยิ่งนัก นางมิยอมรับเขาเป็พี่ชายของนางอีกแล้ว ั้แ่เล็กจนโต ท่านพ่อเลี้ยงนางมาตามลำพัง แม้ท่านพ่อจะมิได้รักท่านแม่ นางก็เข้าใจ
“นังเด็กนิสัยเสีย เ้ารู้มาตลอดแต่มิยอมบอกข้า” เกาซื่อเงื้อมมือตีหลังของซย่าชุนอวิ๋นอย่างแรง
“แม่เฒ่า ท่านช่างไร้เหตุผลเสียจริง มิน่าเล่าท่านพ่อถึงมิรักท่าน” ซย่าชุนอวิ๋นะโหลบไปด้านข้าง และมองเกาซื่อด้วยสายตาเย็นเยียบ
“เ้ามันเนรคุณ เดี๋ยวนี้รู้จักเถียงข้าแล้ว”
“ท่านทำมิถูก ข้าในฐานะลูกสาว ก็ควรชี้ให้เห็นข้อบกพร่องของท่าน ท่านพูดออกมาอย่างมิอายปากว่าท่านเป็ผู้เลี้ยงเซวียนเซวียนมา ท่านมิอาย แต่ข้าอาย”
ซย่าชุนอวิ๋นมิรู้สึกผูกพันกับเกาซื่อ นางจึงมิรู้สึกอาลัยอาวรณ์มากนัก ในใจของนาง ครอบครัวที่นางยอมรับมีเพียงจิ่นเซวียนและท่านพ่อเท่านั้น
“เกาซุ่ยจู๋ เ้าอย่าทำเช่นนี้ เซวียนเซวียนคือผู้เยาว์ เ้าคือผู้าุโ เ้ายึดติดกับภูมิหลังของนาง สนุกมากนักหรือ?” ซย่าหลี่เจิ้งมิชอบพฤติกรรมของเกาซื่อ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ภูมิหลังของจิ่นเซวียนแล้ว แต่ก็มิคิดจะเข้าข้างเกาซื่อ
“หัวหน้าตระกูล นางเสนอตัดขาดความสัมพันธ์เอง ยิ่งข้าเป็ผู้าุโ ก็มิอาจปล่อยให้นางทำลายชื่อเสียงของลูกชายข้าเช่นนี้เ้าค่ะ” พูดตรงๆ คือเกาซื่ออยากได้เงิน
“ท่านปู่หัวหน้าตระกูล ท่านย่าปฏิบัติต่อข้าอย่างไร พวกท่านทุกคนประจักษ์ชัดแจ้งแล้ว แม้นางจะมิเคยเลี้ยงข้า แต่ข้ายังเต็มใจให้ค่าเลี้ยงดูแก่นาง เงินหนึ่งพันตำลึงที่นางบอกมิใช่เป็ไปมิได้ เพียงแต่ข้ามีเงื่อนไขหนึ่งข้อ”
จิ่นเซวียนมิอยากเสียเวลากับย่าชั่วร้ายอีก นางจึงต้องกำจัดย่าชั่วให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะหาเงินต่อได้
“ข้า้าเงินสด มิใช่เงินเชื่อ” เมื่อเกาซื่อได้ยินว่าจิ่นเซวียนมีเงินให้ นางจึงกลัวว่าจิ่นเซวียนจะใช้คำสัญญามาหลอกนาง
“เกาซุ่ยจู๋ เ้าทำให้ตระกูลซย่าของพวกเราเสื่อมเสียจริงๆ เ้ามิเคยเห็นเงินหรือ?อ้าปากทีก็ขอเงินหนึ่งพันตำลึงที เห็นเงินหนึ่งพันตำลึงเป็ใบไม้หรืออย่างไร?” ซย่าหลี่เจิ้งด่าเกาซื่อ เขาตัดสินใจแล้วว่าจะถอนชื่อเกาซื่อออกจากผังตระกูล
“หัวหน้าตระกูล หากมิได้บ้านของข้ารับเลี้ยงนาง นางจะมีวันนี้หรือ?ข้าขอเงินนางแค่หนึ่งพันตำลึงถือว่าน้อยแล้วเ้าค่ะ”
หัวหน้าตระกูลชอบยุ่งไปเสียทุกเื่ เขาคงเกลียดนางกระมัง หากนางได้เงินหนึ่งพันตำลึงมาจริงๆ นางก็จะสามารถซื้อที่ดินเพิ่ม เมื่อถึงเวลานั้นจะสามารถซื้อคนมาปรนนิบัติได้ด้วย ช่างเป็ชีวิตที่สุขสบายยิ่งนัก
ซย่าหลี่เจิ้งเห็นจิ่นเซวียนมิสนใจเงิน เขาจึงตัดสินใจฟังจิ่นเซวียน “เซวียนเซวียน เ้าบอกเงื่อนไขของเ้ามาเถิด”
“ท่านปู่หัวหน้าตระกูล ในเมื่อข้ามิใช่ลูกหลานของตระกูลซย่า ข้าก็มิจำเป็ต้องยึดสถานะลูกสาวคนโตของภรรยาเอกไว้ หลังจากที่ข้าให้เงินพวกเขาแล้ว ข้าหวังว่าท่านจะถอนชื่อของข้าออกจากผังตระกูล ข้าจะไปที่ศาลาว่าการ เปลี่ยนชื่อเป็ว่านจิ่นเซวียนตามแซ่ของท่านแม่เ้าค่ะ”
“เซวียนเซวียนเอ๋ย ถอนชื่อมิใช่เื่เล็ก เ้าต้องคิดให้ดี”
“เด็กคนนี้ถูกเกาซื่อข่มขู่จนเป็เช่นนี้ น่าสงสารเสียจริง หากข้าเป็นาง ข้าก็มิอยากมาแปดเปื้อนกับคนเช่นเกาซื่อหรอก”
ชาวบ้านทยอยยืนข้างจิ่นเซวียน ซย่าหลี่จวินถึงกับเก็บสีหน้าเอาไว้มิอยู่ เขาโกรธเคืองแม่ของเขาเล็กน้อยที่นางอยู่มิเป็เช่นนี้
“เซวียนเซวียน แม้เ้าจะมิใช่ลูกสาวแท้ๆ ของข้า แต่ข้าจะปฏิบัติกับเ้าเหมือนลูกในไส้”
“มิจำเป็แล้ว ในเมื่อข้ามิใช่ลูกแท้ๆ ก็มิจำเป็ต้องสนิทสนมกัน”
จิ่นเซวียนมิหวงแหนความรักจอมปลอม นางอยากสลัดคนชั่วพวกนี้ออกไปใจจะขาด
“ท่านลุงหัวหน้าตระกูล ข้ายินดีรับเลี้ยงเซวียนเซวียน ท่านให้นางเป็ลูกบุญธรรมของข้าเถิด จากนี้ข้าจะเป็พ่อของนางเองขอรับ แล้วมาดูกันว่าผู้ใดจะกล้าหัวเราะเยาะและต่อว่านางว่านอกคอกอีก” ทันใดนั้นซย่าหลี่เจ๋อก็ลุกขึ้นมาขอรับเลี้ยงจิ่นเซวียน ทุกคนตกตะลึงกับความคิดของเขา เขายังมิได้แต่งงาน ก็ขอรับเลี้ยงลูกสาวที่มีอายุใกล้เคียงกันแล้ว จากนี้ผู้ใดจะกล้ามาแต่งงานกับเขาเล่า!
“ท่านอา ท่านยังต้องแต่งภรรยาและมีลูก อย่าทำลายชีวิตของท่าน เพราะข้าเลยเ้าค่ะ” ซย่าหลี่เจ๋อทำเพื่อจิ่นเซวียนถึงเพียงนี้ นางรู้สึกตื้นตันใจมากนัก เมื่อเทียบกับพ่อเฮงซวยและย่าชั่วร้ายแล้ว ครอบครัวของท่านย่าเล็กเหมือนครอบครัวของนางมากกว่าอีก
“เซวียนเซวียน ข้ามองเ้าเป็หลานสาวแท้ๆ ของข้าจากใจจริง หากเ้ามิรังเกียจ จากนี้ก็มาเป็หลานสาวของข้าเถิด” สวี่ติ้งหรงสนับสนุนการกระทำของลูกชาย นางกับซย่าชุนอวิ๋นปิดบังภูมิหลังของจิ่นเซวียนมาตลอด เพราะกลัวว่าจิ่นเซวียนจะถูกคนนอกรังเกียจ
“เซวียนเซวียน ข้าคิดเหมือนกับย่าเล็กของเ้า” ซย่าเม่าหลินเห็นด้วยกับวิธีของลูกชายเช่นกัน
“เซวียนเซวียนเอ๋ย เ้าก็เป็หลานสาวของข้าได้เช่นกัน” ซย่าหลี่เจิ้งอยากประจบจิ่นเซวียน เขาจึงจงใจบอกว่ายินดีรับเลี้ยงนางเป็หลานสาว จิ่นเซวียนมิรู้สึกดีใจเลยสักนิด ซย่าหลี่เจิ้งพูดเช่นนี้เพราะเห็นแก่ชื่อเสียงเงินทองชัดๆ เขามิสนใจว่านางจะมีความสุขหรือไม่
หากต้องเลือกบ้านพ่อแม่ นางขอเลือกครอบครัวของซย่าหลี่เจ๋อดีกว่า
“ท่านลุงหัวหน้าตระกูล ความจริงยังมีอีกวิธีหนึ่งในการแก้ปัญหานี้เ้าค่ะ” ซย่าชุนอวิ๋นไตร่ตรองอยู่เนิ่นนาน และตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกเกาซื่ออย่างสิ้นเชิง
“ชุนอวิ๋นพูดให้ฟังหน่อย?” ซย่าหลี่เจิ้งมองซย่าชุนอวิ๋นด้วยความสนอกสนใจ เขาอยากฟังว่านางมีข้อเสนออย่างไร
“นังเด็กนี่ เ้าอย่าเสนอความคิดมิเข้าท่า” เกาซื่อขัดซย่าชุนอวิ๋นด้วยเสียงดุดัน นางกลัวว่าข้อเสนอของซย่าชุนอวิ๋นจะส่งผลเสียต่อนาง
“แม่เฒ่า ท่านคิดว่าทุกคนคือท่านหรือ?” ซย่าชุนอวิ๋นยอกย้อน “ข้าคิดว่าหากท่านพ่อยังอยู่ เขาต้องหย่าขาดท่านแน่”
“ชุนอวิ๋น เื่ของหานเอ๋อร์น้อยผ่านไปแล้ว เหตุใดเ้ายังบีบคั้นท่านแม่อีก” ซย่าหลี่จวินตำหนิซย่าชุนอวิ๋นในนามของพี่ชาย แต่ซย่าชุนอวิ๋นตอกกลับทันที
“พี่ใหญ่ ท่านเองก็มิคู่ควรจะเป็ลูกของท่านพ่อเช่นกัน นามวีรชนชั่วชีวิตของท่านพ่อ ถูกท่านทำลายจนป่นปี้ แต่ท่านกลับยังหลงระเริงได้อีก”
เชิงอรรถ
[1] จมหมูในอวย หมายถึง ผู้หญิงสมัยก่อนที่ทำผิดประเพณีต้องถูกลงโทษโดยการจับมัด ใส่เข้าไปในอวยไม้ไผ่ และจับไปถ่วงน้ำ
[2] สวมหมวก หมายถึง การคบชู้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้