แม้แต่องครักษ์หน้าประตูยังมีพลังขั้นแม่ทัพแล้ว เพียงพอที่จะรู้ได้ว่าอำนาจของตระกูลเฝิงยิ่งใหญ่เพียงใด
เมื่อเห็นว่าเป็ทายาทแห่งเจิ้นกั๋วกง องครักษ์ทั้งสองคนเปลี่ยนท่าทีเป็เคารพนอบน้อมในทันที พวกเขาโค้งกายเล็กน้อยพลางกล่าว “ท่านชายโปรดรอสักครู่ ข้าจะไปรายงานเดี๋ยวนี้”
เดิมทีเว่ยหลงยังครุ่นคิดอยู่ว่าจะเข้าไปในตระกูลเฝิงด้วยท่าทีอย่างไร เมื่อครู่ที่เอาป้ายคำสั่งออกมาเพราะให้เกียรติพวกเขา แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็ว่าองครักษ์เหล่านี้ยังต้องไปรายงานก่อนอีก ทำให้เว่ยหลงไม่พอใจอย่างมาก
“หลีกไป”
ทันทีที่กล่าวว่าหลีกไป คลื่นพลังรุนแรงพลันปะทุออกมาจากร่างของเว่ยหลง ทำให้องครักษ์สองคนนั้นกระเด็นไปกระแทกเข้าที่ประตูอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงดังสนั่น
และเนื่องจากคลื่นพลังของเว่ยหลง ทำให้เกิดคลื่นพลังมากมายปรากฏขึ้นตรงหน้าประตู เพียงพริบตาเดียวคลื่นพลังเ่าั้ก่อตัวกลายเป็ม่านพลังปกป้องทั่วทั้งจวนเอาไว้
“หืม?”
เมื่อเห็นม่านพลังนั้น เว่ยหลงที่คิดบุกเข้าไปต้องหยุดนิ่งลง เพราะเขาพบว่าภายในม่านพลังเ่าั้มีค่ายกลซ่อนอยู่มากมาย หากตนเองย่างกรายเข้าไปเพียงก้าวเดียวจะมีลูกธนูหลายสิบดอกพุ่งออกมา ซึ่งเขามิอาจต้านทานอานุภาพเ่าั้ได้เลย
“นี่คือการต้อนรับแขกของตระกูลเฝิงอย่างนั้นหรือ”
เว่ยหลงยืนอยู่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง เขาไม่ได้วู่วามอีก แต่กล่าวด้วยเสียงทรงพลังเข้าไปด้านในตระกูลเฝิง
“เหอๆ ที่แท้ก็เป็ทายาทเจิ้นกั๋วกงนี่เอง ข้าดูแลไม่ทั่วถึง โปรดอภัยด้วย โปรดอภัยด้วย”
ขณะนั้นมีเสียงหนึ่งดังออกมาจากตระกูลเฝิง ต่อมาประตูที่ปิดสนิทก็ถูกเปิดออกและมีบุรุษวัยกลางคนร่างท้วมยืนรออยู่หลังประตู
“พ่อบ้านหวัง ตระกูลเฝิงเย่อหยิ่งไม่น้อย คนในราชวงศ์มาก็ยังเข้าไปไม่ได้อีกหรือ”
เว่ยหลงมองบุรุษวัยกลางคนร่างท้วมคนนั้นพลางกล่าวเสียงเย็น
“เป็อย่างนั้นที่ไหนกัน เ้าพวกนั้นไม่รู้ความ เชิญเลย เชิญเข้ามาด้านใน”
พ่อบ้านหวังคนนั้นสะบัดมือเล็กน้อย จากนั้นม่านพลังที่ปิดสนิทก็ปรากฏช่องว่างเพียงพอให้เว่ยหลงผ่านเข้าไปได้
“นี่คือการต้อนรับแขกของตระกูลเฝิงอย่างนั้นหรือ ให้ข้าผ่านเข้าไปทางช่องเล็กๆ แค่นี้”
เว่ยหลงไม่พอใจมาก การต้อนรับเช่นนี้ต่างอะไรกับเปิดทางให้หมาผ่าน
“ต้องขออภัยท่านชายเป็อย่างมาก เมื่อค่ายกลถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว ต้องรอเวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วยามกว่าจะควบคุมได้ ช่องว่างนี้คือช่องที่เปิดกว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้แล้ว ไม่อย่างนั้นท่านชายรอสักครึ่งชั่วยามแล้วค่อยกลับมาใหม่ก็ยังไม่สาย”
พ่อบ้านหวังกล่าวด้วยรอยยิ้ม ในใจรู้สึกเหยียดหยาม เขารู้ดีว่าจะวางตัวอย่างไรกับคนอย่างเว่ยหลง คนผู้นี้ได้ชื่อว่าโเี้ แต่พลังที่แข็งแกร่งและฐานะที่สูงส่งของเขาทำให้ไม่มีใครกล้าทำอะไรเขา
เว่ยหลงสีหน้าเคร่งขรึมลงที่เห็นพ่อบ้านหวังทำเช่นนี้ แต่เขาก็เดินผ่านเข้าไปโดยที่ไม่ได้โต้เถียงอะไรอีก ผีซานและอีกสองคนก็เดินตามหลังเข้าไปเช่นกัน
“ท่านชายเชิญด้านใน ผู้นำตระกูลรออยู่นานแล้ว”
พ่อบ้านหวังเดินนำทางเข้าไป
เว่ยหลงไม่ได้กล่าวสิ่งใด แต่ให้คนที่ติดตามมาด้วยเฝ้าผีซานไว้ให้ดี
เพียงไม่นานก็เดินผ่านเรือนสามหลังเข้าไปยังโถงผู้นำตระกูล ‘เฝิงอี้’ ผู้นำตระกูลเฝิงดื่มชาอยู่ในที่ของตนเอง
เฝิงอี้มองเว่ยหลงที่เดินเข้ามา พลางยกถ้วยน้ำชาในมือขึ้นดื่มอีกครั้ง
“ท่านชายมีเวลาว่างมายังตระกูลเฝิงของข้าด้วยหรือ”
เฝิงอี้คือผู้นำตระกูลเฝิง ทั่วทั้งตระกูลเฝิงยิ่งใหญ่ขึ้นได้ด้วยน้ำมือของเฝิงอี้ และมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะเฝิงอี้ ในตระกูลเต็มไปด้วยผู้แข็งแกร่ง และพลังของเขาเองก็ไม่ธรรมดา เห็นเว่ยหลงเข้ามา เขาก็แค่ถามออกไปตามปกติ
“ผู้นำตระกูลเฝิง ข้ารับคำสั่งให้เข้ามาตรวจสอบบางอย่างที่นี่ หวังว่าผู้นำตระกูลเฝิงจะให้ความร่วมมือ”
ก่อนหน้านี้เว่ยหลงค่อนข้างเย่อหยิ่ง แต่เมื่อเข้ามาในตระกูลเฝิงแล้วท่าทีของเขากลับอ่อนลงมาก โดยเฉพาะอยู่ต่อหน้าเฝิงอี้ ความอวดดีของเขาก่อนหน้านี้จางหายไปหมดแล้ว
แม้เฝิงอี้ไม่ได้เข้ารับตำแหน่งในวัง แต่เขาค่อนข้างมีอิทธิพลต่อแคว้นเฟิงเหลยเป็อย่างมาก เขาเคยได้ยินที่เจิ้นกั๋วกงท่านพ่อของเขาและจักรพรรดิสนทนากัน หาก้าปกครองแคว้นเฟิงเหลยให้ดี ไม่ให้เกิดเื่ผิดพลาดขึ้น เฝิงอี้จะต้องปลอดภัย
แสดงให้เห็นว่าฐานะของเฝิงอี้เป็อย่างไร
“ท่านชายกล่าวมาได้เลย”
เฝิงอี้กล่าวพลางยิ้ม
พ่อบ้านหวังในตอนนี้ยืนอยู่ด้านนอกเรือน รวมไปถึงผีซานและคนอื่นๆ ก็รออยู่ด้านนอกเช่นกัน เนื่องจากเฝิงอี้ไม่ชอบให้มีคนเข้ามาในเรือนของเขามากนัก นอกจากเว่ยหลงแล้ว คนอื่นห้ามเข้าเด็ดขาด
“ผู้นำตระกูลเฝิงน่าจะรู้จักอู๋ิใช่ไหม!”
“รู้จัก”
“เขาตายแล้วในวันนี้”
“ตายแล้ว? ใครฆ่าเขา”
เฝิงอี้สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย กล้าสังหารผู้าุโในตระกูลเฝิงของเขาเช่นนี้ ช่างกล้าหาญยิ่งนัก
“คนผู้นั้นเป็ใครข้าไม่รู้ แต่เขารู้”
เว่ยหลงชี้ไปทางผีซานขณะกล่าว
เฝิงอี้เบนสายตาไปมองผีซานทันที ทำให้ผีซานตื่นกลัวจนขาอ่อน
เขาคุกเข่าลงที่พื้นทันทีพลางกล่าวอ้อนวอนต่อเฝิงอี้ “ท่านผู้นำโปรดไว้ชีวิต ท่านผู้นำโปรดไว้ชีวิต”
เฝิงอี้และภรรยาของเขามีฐานะสูงมาก แม้แต่ในตระกูลเฝิงยังไม่ใช่ว่าใครอยากเจอก็เจอได้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่คนในระดับเดียวกับผีซานจะเข้าพบเขาได้ ปกติแล้วไม่ว่าเื่น้อยใหญ่จะเป็พ่อบ้านหวังเข้าจัดการ ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะเว่ยหลงมาด้วยตนเอง เฝิงอี้ไม่มีทางปรากฏตัวเด็ดขาด
“ว่ามา”
เฝิงอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาไม่เช้าใจเื่ที่เกิดขึ้นในตอนนี้สักเท่าไร แต่ในเมื่อคนจากราชวงศ์มาถึงที่นี่แล้ว แสดงว่าเื่นี้ต้องไม่ธรรมดา
“ข้า... ข้า...”
ผีซานไม่รู้จะกล่าวอย่างไร เพราะเขาก็ไม่มั่นใจว่าตนเองกล่าวไปถูกต้องหรือไม่ เขามั่นใจว่าไม่เคยเจอเสิ่นเสวียนอยู่กับเฝิงเป่าเป่ามาก่อน และไม่เข้าใจด้วยว่าพวกของเริ่นเสี้ยวเทียนรู้จักเสิ่นเสวียนจริงหรือเปล่า
ทว่าทั้งสองคนตรงหน้านี้ ไม่ว่าใครเขาก็ล่วงเกินไม่ได้เลย
“บอกมา หากกล้าโกหกเพียงคำเดียว ข้าจะฆ่าเ้าทิ้ง”
เว่ยหลงเห็นผีซานอ้ำอึ้ง หากว่าผีซานบอกเล่าผิดพลาดไป เท่ากับว่าหักหน้าเขาอย่างรุนแรง
“ข้า ข้าบอกแล้ว คนที่สังหารอู๋ิตายคือแขกของคุณชายใหญ่”
ผีซานกล่าวออกมาอย่างกล้าหาญ อย่างมากก็แค่ตาย ดีกว่าต้องทรมานเหมือนตายทั้งเป็อยู่แบบนี้
“ได้ยินแล้วใช่ไหม คนที่สังหารอู๋ิคือคนในตระกูลเฝิงของเ้า คนผู้นั้นคือคนที่ราชวงศ์้าตัว จับตัวเขาแล้วส่งให้ข้าในตอนนี้ หวังว่าผู้นำตระกูลเฝิงจะให้ความร่วมมือ”
หลังจากได้ยินคำของผีซาน เว่ยหลงจึงแสดงท่าทีเย่อหยิ่งออกมาทันที
“เ้ารู้จักไหม”
เฝิงอี้หันไปถามพ่อบ้านหวังด้านนอกเรือน
“คุณชายใหญ่ไม่ค่อยต้อนรับแขกสักเท่าไร” พ่อบ้านหวังครุ่นคิดเล็กน้อยพลางกล่าว
“ในเมื่อเป็อย่างนี้ ท่านชายน่าจะเข้าใจผิดแล้ว ที่นี่ไม่มีคนที่ท่านชาย้าหรอก”
เฝิงอี้กล่าวกับเว่ยหลง
“ไม่ได้ยินที่เขาบอกหรือ คนผู้นั้นเป็คนในตระกูลเฝิงของเ้า เ้าอย่าได้ปกป้องคนผิด”
เว่ยหลงบันดาลโทสะขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำของเฝิงอี้ น้ำเสียงของเขาจึงไม่เกรงใจอีกต่อไป
“ส่งแขก ข้าเหนื่อยแล้ว”
เฝิงอี้ไม่พอใจคำของเว่ยหลงอย่างมาก จึงกล่าวออกมาเสียงเรียบ
“ท่านชาย เชิญ”
พ่อบ้านหวังกล่าวเสียงเย็นเหมือนกัน ในเมื่อผู้นำตระกูลไม่ชอบใจ เขาเองก็ไม่พอใจเช่นเดียวกัน
“พวกเ้าคิดจะทำอะไร”
ทันทีที่เห็นท่าทีของเฝิงอี้และพ่อบ้านหวัง ทำให้เว่ยหลงที่เป็คนอารมณ์ร้อนอยู่แล้วพลันมีเพลิงโทสะปะทุออกมา
“ข้าบอกให้เ้าออกไป”
พ่อบ้านหวังกล่าวขึ้นมาเบาๆ จากนั้นพลังรุนแรงก็พุ่งเข้าปกคลุมร่างของเว่ยหลง เว่ยหลงที่ยืนอยู่โดนพลังนั้นเข้าประชิดตัวทำให้เขาโซเซแล้วล้มลงไปที่พื้นเสียงดัง ‘โครม’ ทั่วทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ
คนติดตามที่ยืนอยู่ด้านนอกเรือนเห็นดังนั้นก็คิดเข้าช่วยเหลือ กลับพบว่าตนเองถูกตรึงอยู่กับที่ ขยับเขยื้อนไม่ได้เลย
“ผู้นำตระกูลเฝิง ข้าร้อนใจเท่านั้น ขออภัยด้วย ข้าเพียง้าตรวจสอบ”
เว่ยหลงที่หมอบอยู่บนพื้นมีท่าทีอ่อนลงทันที เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคนที่เขาเผชิญหน้าอยู่เป็บุคคลยิ่งใหญ่เพียงใด ไม่ใช่คนที่เขาจะต้านทานได้เลย เขากล่าวออกไปเช่นนี้เป็การก้าวล่วงผู้าุโ
“อยากตรวจสอบก็ตรวจสอบไป แต่ต้องแสดงท่าทีที่เหมาะสมด้วย”
เฝิงอี้โบกมือให้พ่อบ้านหวัง พ่อบ้านหวังจึงสลายพลังไป ทำให้เว่ยหลงที่หมอบอยู่บนพื้นถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“พาเขาไปหาเป่าเอ๋อร์ที่สวน หากไม่เจออะไรก็ให้เขาออกไป”
เฝิงอี้กล่าวกับพ่อบ้านหวัง
“ขอรับ เชิญท่านชาย”
พ่อบ้านหวังยืนอยู่ด้านนอกเรือน ผายมือเชิญเว่ยหลงให้เดินตามไป