ฟังการบรรยายของฉันแล้ว สีหน้าของหลี่โม่ฟ๋านยิ่งขาวซีด เขาจับแขนฉันด้วยความสั่นเทาพลางพูดว่า “งั้นฉันควรจะทำอย่างไร? หากเป็เช่นนี้ต่อไป ฉันคงต้องตาย”
“อย่ากังวล นายคือสหายของฉัน ฉันต้องช่วยนาย” ฉันตบไหล่หลี่โม่ฟ๋านพลางพูด
“งั้นนายควรจะช่วยฉันยังไง พวกเขาไม่โหวตแล้ว” หลี่โม่ฟ๋านพูด
“เหตุที่พวกเขาไม่โหวต เป็เพราะว่าพวกเขากำลังรอจังหวะ ไม่นานหวางอู่ก็จะนำเงินมาส่งให้ ถึงเวลานั้นพวกเขาจะใช้เสียงแลกเงิน สิ่งที่นายต้องทำคือให้ผลประโยชน์ที่มากกว่าแก่พวกเขา ใจคนน่ะ ก็เป็เช่นนี้ หากมีผลประโชน์ที่มากกว่า ใจคนก็จะเข้าหาด้านที่มีผลประโยชน์มากกว่า นี่ก็คือความหมายแฝงของเกมนี้” ฉันแสยะยิ้มพูด
ฉันค่อยๆ รู้สึกถึง การ้าจุดยืนที่ไม่แพ้ในเกมการโหวตนี้ จะต้องกุมอำนาจผู้นำในการโหวต และหาก้ากุมอำนาจผู้นำ จำเป็จะต้องมีอิทธิพอ ในขณะเดียวกันจะต้องให้การสนับสนุนคนของตนเองในผลประโยชน์ที่เพียงพอ
ยังไงทุกคนก็ล้วนเป็นักเรียนม.ปลาย เท้าข้างหนึ่งได้ก้าวเข้าสู่สังคมแล้ว แน่นอนว่าไม่ได้บริสุทธิ์เหมือนกับเด็กประถม ซึ่งเทียบการคบกันในปัจจุบันนี้ของชายหญิง จะไม่เหมือนกับตอนม.ต้น ก็แค่ซื้อขนมและพูดนิดหน่อยก็ได้แล้ว ยังต้องเลี้ยงข้าว ไปเดินเที่ยวเล่นถึงจะได้
แต่น่าเสียดาย ฉันเป็ผู้ชายกระจอกๆ คนหนึ่ง ไม่มีเงินไม่มีอำนาจ จริงๆ แล้วก็ไม่วิธีการใดๆ ทั้งนั้น
หวางอู่พุ่งกลับมาอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้กระเป๋าหนังสือในมือเขาได้พองขึ้นมาก เขาไม่พูดไร้สาระ แต่เปิดกระเป๋าเป้โดยตรง หลังจากนั้นหยิบแบงค์ร้อยหยวนออกมาปึกหนึ่ง พูดอย่างน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “พร้อมแล้ว คนที่ยังไม่ได้โหวต ก็แค่มาโหวตหลี่โม่ฟ๋านต่อหน้าฉัน ฉันก็จะให้ 2 พัน”
ทันใดนั้น ทั้งห้องเรียนก็วุ่นวายดั่งะเิหม้อ นักเรียนหลายคนใช้สายตาที่กำลังเคลื่อนไหวที่จะก่อการร้ายมองแบงค์ร้อยหยวนจำนวนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ หวางอู่ นี่ก็คือแบงค์ที่แดงสดเป็ปึกๆ สำหรับนักเรียนม.ปลายแล้ว แน่นอนว่าคือสิ่งยั่วยวนที่น่าตื่นเต้น
ไม่นานเกาเจิ้นก็เดินเข้าไปเป็คนแรก เขาถือโทรศัพท์มือถือ แล้วโหวตให้กับหลี่โม่ฟ๋านต่อหน้าหวางอู่โดยตรง และหยิบเงิน 2 พันหยวนจากมือของหวางอู่อย่างราบรื่น
ดั่งกับเขาได้เริ่มความชั่วร้าย มอง 2 พันหยวนที่อยู่ในมือเขาไม่นานก็มีนักเรียนที่ทนไม่ไหว
พวกเขาหยิบโทรศัพท์มือถือ มาที่ตรงหน้าของหวางอู่ แล้วได้โหวตให้หลี่โม่ฟ๋าน ทันใดนั้นผลโหวตของหลี่โม่ฟ๋านก็มากถึง 10 เสียง และนี่ก็เป็การบ่งบอกว่าอย่างหวางอู่ก็ได้ให้เงิน 2 พันหยวน
นี่สำหรับนักเรียนชั้นม.ปลายแล้ว ไม่ได้ด้อยไปกว่าเงินก้อนใหญ่ จริงๆ แล้วคือจำนวนที่ไม่สามารถจะรับไหวจำนวนหนึ่ง เมื่ออยู่ต่อหน้าจำนวนดังกล่าว มิตรภาพของเพื่อน ก็ขาวซีดดั่งกระดาษ
ดังนั้นหลายคนทนไม่ไหว ต่างก็แอบไปที่ตรงหน้าหวางอู่อย่างเบาๆ แล้วโหวตให้หลี่โม่ฟ๋าน แต่สีหน้าของหลี่โม่ฟ๋านได้ขาวซีดแล้วทรุดลงนั่งข้างๆ ฉัน สีหน้าท่าทางเ็ปรวดร้าว
“ฉันต้องจบเห่แล้ว ฉันต้องตายแล้ว ทำไมพวกเขาต้องทำอย่างนี้? จริงๆ ฉันก็ไม่ได้ล่วงเกินพวกเขา” เขาส่ายหน้า สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความหงอยเหงาเศร้าสร้อย ไม่ว่าคนธรรมดาคนหนึ่งจะพยายามอย่างไร ก็ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกสูงหล่อรวย ในสายตาของพวกสูงหล่อรวย ชีวิตของคนธรรมคนหนึ่งก็ไม่มีค่าพอที่จะกล่าวถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังไม่สำคัญเท่ารถหรู
“มันง่ายมาก เพราะใจคนก็เป็เช่นนี้ อัปลักษณ์เช่นนี้ เริ่มแรกพวกเขายังสำรวมอยู่บ้าง แต่หลังจากที่กดเงินมาแล้ว จิตใจของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป พวกเขาคิดได้ ในเมื่อเกาเจิ้นกดเงินมาแล้ว ฉันก็จะได้รับ โดยเฉพาะแรกสุดเกาเจิ้นโหวตก่อน ถึงนายจะเกลียด ก็เกลียดพวกเขาไม่ได้” ฉันมองเพื่อนที่เดินไปตรงหน้าหวางอู่อย่างไม่ขาดสายพลางแสยะยิ้มพูด
“ฉันตายแน่ๆ ฉันจบเห่แล้ว” หลี่โม่ฟ๋านหมอบลงกับโต๊ะ ส่ายตัวอย่างไม่หยุด เขาเกือบจะหมดหวังแล้ว และสถานการณ์เบื้องหน้าก็ไม่มีทางที่จะพลิกผันได้
จริงๆ แล้วเขาไม่มีผลประโยชน์อะไรที่จะสามารถกระตุ้นเพื่อนๆ เหล่านี้ได้ และเขาอยู่ในชั้นเรียนก็เงียบกริบ นอกจากฉันแล้ว ก็มีไม่กี่คนที่เป็เพื่อน ประสบสถานการณ์เช่นนี้ จริงๆ แล้วเขาไม่มีอะไรที่จะเอาชนะได้
“อย่ากังวลเลย ทุกอย่างยังไม่สิ้นสุด” ฉันมองหลี่โม่ฟ๋านด้วยรอยยิ้มพลางพูด รอยยิ้มมุมปากที่บ้าระห่ำ สมองฉันได้คำนวณอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีประโยชน์ ทุกอย่างได้สายเกินไปแล้ว” ผลโหวตตอนนี้ของฉันมีมากขนาดนี้แล้ว” หลี่โม่ฟ๋านถือโทรศัพท์มือถืออย่างเ็ปรวดร้าว ผลโหวตของเขาในกลุ่มใกล้จะ 20 เสียงแล้ว และผลโหวตของหวางอู่มีเพียงแค่ 13 เสียง รวมทั้งในเวลาต่อมา จำนวนผลโหวตของเขายังเพิ่มขึ้นอีก
จำนวนคนที่ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รู้ว่าชัยชนะอยู่ในกำมือหวางอู่ ถึงจะโหวตให้เขาอีก ไม่มีความสำคัญ ยังต้องล่วงเกินหวางอู่อีก ด้วยเหตุนี้ล้วนที่จะเลือกรับเงินแล้วโหวต แม้แต่สูงหล่อรวยอย่างจ้าวเฉินเห้อก็ไม่ยกเว้น บางทีเขาอาจจะไม่สน 2 พันนี้ก็ได้ แต่ทว่าเขายังคงตัดสินเช่นนั้นเพื่อเห็นแก่หน้าหวางอู่
ไม่นานผลโหวตของหลี่โม่ฟ๋านก็เกือบจะ 22 เสียงแล้ว ทุกอย่างจะสิ้นสุดลงแล้ว เวลานี้ ฉันปริปากอย่างเชื่องช้าว่า “ฉันได้พูดแล้ว ทุกอย่างยังไม่สิ้นสุด ดูเถอะ หลี่โม่ฟ๋าน ฉันจะช่วยนายพลิกผันยังไง”
“เป็ไปไม่ได้แล้ว ทุกอย่างล้วนสิ้นสุดลงแล้ว” หลี่โม่ฟ๋านหน้าดับมอด เตรียมปิดตารอความตายแล้ว เวลานี้ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เริ่มแสยะยิ้มพิมพ์ข้อความสั้นบรรทัดหนึ่ง
ไม่นาน โทรศัพท์มือถือของคนที่อยู่รอบๆ ทันใดนั้นใน QQ ได้ปรากฏการคุยกันส่วนตัว หลังจากนั้นต่างก็ชำเลืองมองกัน เริ่มโหวตกันอย่างรวดเร็วขึ้น
คนที่มาหาหวางอู่ ก็เริ่มน้อยลงทันที แม้แต่คนที่เดิมที่อยากจะเดินไป พอถึงครึ่งทางก็หันหลังกลับ ซึ่งนี่ทำให้สีหน้าของหวางอู่เปลี่ยนไป และการโหวตที่เดิมทีไม่มีการขยับขึ้นในกลุ่ม ก็เริ่มเพิ่มขึ้น
ไม่นานหวางอู่ก็พบว่า ผลโหวตของเขาได้มาถึง 20 เสียงแล้ว ซึ่งนี่ทำให้สีหน้าเขาดูไม่ดี “ทุกคนคิดอะไรกันอยู่? หลี่โม่ฟ๋านมีค่าพอที่จะทำให้ทุกคนลงทุนไหม? เพียงแค่พวกเธอโหวตให้ฉัน ฉันรับรอง จะเพิ่มอีก 2 พัน หนึ่งคนโหวตให้ 4 พัน”
แต่ถึงจะเป็เช่นนี้ เพื่อนๆ ที่อยู่โดยรอบยังคงไม่โหวต ต่างคนต่างก็มองไปรอบๆ อย่างน่าสงสัย หลังจากนั้นเริ่มก้มหัวใช้โทรศัพท์มือถือ ไม่นาน ผลโหวตของหวางอู่ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งนี่ทำให้อารมณ์ของเขายิ่งรุนแรงขึ้น เขาะโอย่างโกรธแค้นว่า “ทุกคนกำลังทำอะไรอยู่? เศษสวะอย่างหลี่โม่ฟ๋านให้อะไรกับพวกเธอกันแน่?” ไม่มีคนตอบเขา ต่างคนต่างก็โหวตกันอย่างเงียบๆ
ผลโหวตของหวางอู่มากขึ้นเรื่อยๆ หวางอู่ตะคอกอย่างโกรธแค้น กลับไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น การโหวตยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ยังมีคนโหวตให้หลี่โม่ฟ๋าน แต่หลังจากเสร็จสิ้นการโหวต ผลโหวตของหวังอู่ยังคงชนะด้วย 27 เสียง แต่ผลโหวตของหลี่โม่ฟ๋านก็มีถึง 25เสียง ขาดแค่ 2 เสียง หลี่โม่ฟ๋านก็จะตาย อาจพูดได้ว่าเขารอดตายแล้ว ซึ่งคุ้มค่าพอที่จะฉลอง
แต่ในที่สุด หลี่โม่ฟ๋านยังคงพลิกผันมาได้ เขารอดพ้นจากทางตันแห่งความตายมาได้สำเร็จ ขาดแค่ 2 เสียงจึงรอดจากนรกกลับสู่์
“ดีไปเลย ฉันชนะแล้ว” หลี่โม่ฟ๋านดึงมือฉันพลางพูด เขามองฉันด้วยความตื่นเต้น น้ำเสียงที่ดีใจอย่างเป็บ้า “นายทำยังไงกันแน่? เป็นายที่กระตุ้นให้ทุกคนโหวตไหม?”
“น่าจะประมาณนั้น” ฉันยิ้มพลางปริปากพูด
หวางอู่เตะโต๊ะเรียนล้มคว่ำด้วยความโกรธ ใบหน้าหม่นหมองเป็ที่สุด กัดฟันแน่น เขามองพวกเราด้วยความโกรธ โดยเฉพาะคือหลี่โม่ฟ๋านที่อยู่ไกลออกไป น้ำเสียงกัดฟันพูดว่า “เื่นี้จบแล้ว พวกเธอคอยดูเถอะ”
พูดจบเขาก็พุ่งออกห้องเรียนไป เหลือแค่เพื่อนๆ ที่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก และกวานเหยาโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด เธอยิ้มพลางพูดว่า “ทุกคนยังคงทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะยังไง ฉันยังคงหวังว่าจะไม่สละใครทั้งนั้น”
“เห้อ ไร้เดียงสา” ฉันมองกวานเหยาพลางพูด
และหลี่โม่ฟ๋านที่อยู่ข้างๆ มองฉันด้วยความเลื่อมใส พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “จางเว่ย นายทำได้ยังไง ฉันรู้หากไม่ใช่นาย ตอนนี้ฉันคงต้องตายแล้ว พวกเขาคงต้องเลือกฉัน เป็นายที่ช่วยฉันไว้”
“นายรู้ก็ดี ส่วนสำหรับวิธีนั้นน่ะ จริงๆ มันก็ง่ายมาก” ฉันยิ้มแบบมีลับลมคมใน หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพลางพูดกับหลี่โม่ฟ๋านว่า “ฉันได้เปลี่ยนชื่อ QQ ของตนเองเป็ของเฉินเฟิงก่อน รวมทั้งเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็ของเฉินเฟิง หลังจากนั้นก็ส่งข้อความสั้นให้กับคนที่ยังไม่ได้โหวตทุกคน”
“เนื้อหาของข้อความง่ายมาก ก็คือให้เวลาพวกเขา 3 นาที ถ้าหากพวกเขาไม่โหวตให้นาย เพียงแค่ในที่สุดนายได้รับชัยชนะ พวกเขาก็จะสามารถหลุดพ้นจากคำสาป แน่นอนว่าโควต้ามีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น”
“ไม่แปลกเลย นายแกล้งปลอมเป็แอคเค้าท์ของเฉินเฟิง แล้วส่งข้อความให้พวกเขา ให้พวกเขาโดนหลอก เข้าใจว่าไม่โหวตให้ฉันแล้วจะจบ” หลี่โม่ฟ๋านพูด
“เป็อย่างนี้นี่เอง นายฉลาดจริงๆ ฉันเลื่อมใสในตัวนายมาก แต่ว่านายไม่กลัวว่าพวกเขาจะพูดออกมาเหรอ เช่นนี้คำโกหกของนายไม่ใช่ว่าจะต้องแพ้ภัยตัวแล้วเหรอ” หลี่โม่ถาม
“ดังนั้นฉันจึงกำหนดไว้ว่าโควต้ามีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น นายคิดดู โควต้า 3 คน สำหรับคนที่โหวตยี่สิบกว่าคนแล้ว มันไม่พอแบ่งจริงๆ หากบอกกับคนอื่นๆ ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัว ดังนั้นความคิดที่ผุดขึ้นในเวลาแรกนั้นมีเพียงแค่หนึ่งเดียว นั่นก็คือโหวตให้หวางอู่ โดยเฉพาะไม่บอกให้คนอื่น เพียงแค่ตนสามารถหลุดพ้นจากเกม ความเป็ความตายของคนอื่นๆ ก็ไม่เกี่ยวข้องกับตน” ฉันแสยะยิ้มพูด
“นี่ก็คือวิธีการของนาย วิธีการนี้ร้ายกาจจริงๆ แต่ทว่าวิธีการนี้ก็มีข้อเสียเหมือนกัน” หลี่โม่ฟ๋าขมวดคิ้วพูด
“ไม่ผิด ข้อเสียของวิธีการนี้ชัดเจนมาก ซึ่งจะทำได้แค่ครั้งเดียว หากใช้ครั้งที่ 2 ก็จะไม่มีใครหลงกลอีกแล้ว เดิมทีฉัน้าจะเอาวิธีนี้เก็บไว้ให้ฉัน” ฉันพูดพลางถอนหายใจ