“สือซาน สือชีพวกเ้ามาช่วยข้าสังหารพวกมัน พี่สาวอู่ช่วยข้าเก็บรวบรวมแหวนคะแนนที!” เย่ชิงหานหันกลับไปด้านหลังแล้วร้องบอกออกมาครั้งหนึ่งจากนั้นร่างกายแผ่พุ่งกระแสพลังที่มีลักษณะเป็รูปวงแหวนแสงสีม่วงทรงกลมรัศมีกว้างสิบกว่าเมตรออกไป ที่น่าแปลกประหลาดก็คือ ไม่ว่าจะเป็นักรบเผ่าคนเถื่อนหรือเผ่าปีศาจที่ถูกวงแหวนแสงปกคลุม จะคล้ายกับตกอยู่ในดินแดนแห่งภาพลวงตาฉันนั้น ยืนนิ่งอยู่กับที่ดวงตาเหม่อลอยและยิ้มออกมาอย่างคนบ้าปัญญาอ่อน
“สุดยอด! นี่สิของจริง!” เย่สือชีร้องออกมาครั้งหนึ่ง เลียริมฝีปากของตนเองพร้อมกับบีบมือที่กำลังสั่นเทา จากนั้นมือถือดาบยาวพุ่งทะยานเข้าไปภายในวงแหวนแสงทันที
เย่สือซานไม่ได้พูดอะไรออกมา ในตอนที่เย่ชิงหานร้องบอกออกมาเขาก็พุ่งทะยานเข้าไปภายในวงแหวนแสงโดยทันทีเช่นเดียวกัน แม้สีหน้าจะกลับมาราบเรียบเป็ปกติดังเดิมแล้ว แต่มือที่ถือดาบยาวยังคงสั่นอยู่เล็กน้อยพร้อมกับลูกกระเดือกที่ขยับขึ้นลงไปมาซึ่งเปิดเผยความตื่นตระหนกที่อยู่ภายในใจของเขาออกมาจนหมดสิ้น
เย่ชิงอู่ใช้มือขยี้ตาเพื่อดูให้แน่ใจอีกครั้งว่าเย่สือซานและเย่สือชีได้เข้าไปภายในวงแหวนแสงสีม่วง และสามารถปลิดชีวิตของนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนได้อย่างง่ายดายจรริง เมื่อแน่ใจจึงค่อยเอามือตบหน้าอกูเาที่กระเพื่อมอยู่ไม่หยุดของตนเองหลายครั้งอย่างโล่งอก จากนั้นพุ่งทะยานเข้าไปภายในวงแหวนแสงอีกคน
หลังจากที่เย่ชิงอู่ะโเข้ามาภายในวงแหวนแสง วงแหวนแสงสีม่วงเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น เปลี่ยนเป็ดำมืดสนิท ถ้ามองจากด้านนอกจะเห็นว่าอาณาเขตพื้นที่รอบๆ ที่เย่ชิงหานอยู่ราวกับถูกหมอกควันสีดำมืดปกคลุมเอาไว้ทั้งหมด ทั้งมืดครึ้มและน่ากลัว
หึ่ง!
หลังจากสิบวินาทีกว่าๆ ผ่านไป หมอกควันสีดำค่อยๆ จางหายไป เผยให้เห็นสภาพเหตุการณ์ที่อยู่ภายในวงแหวนแสง เพียงแต่สภาพเหตุการณ์ที่ได้เห็นถึงกับทำให้นักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่อยู่ใกล้ๆ โดยรอบราวกับถูกผีหลอกในตอนกลางวันอย่างไรอย่างนั้น ต่างพากันร้องคำรามออกมาและรีบถอยหลังกลับไปอย่างบ้าคลั่ง และก็ทำให้เยาขาข่าที่นั่งอยู่บนหลังของปีศาจนกสูดลมเย็นเข้าปากไปอย่างตื่นตระหนก
อาณาเขตพื้นที่ที่วงแหวนแสงปกคลุมไว้เมื่อสักครู่มีนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนเกือบร้อยคนพุ่งเข้าไปโจมตี แต่ตอนนี้ทั้งหมดกลับนอนกองอยู่กับพื้นพร้อมกับรอยเฉือนบาดลึกที่บริเวณลำคอ และนิ้วมือที่สวมแหวนสัญลักษณ์ของพวกมันทั้งหมดล้วนขาดด้วน ภายในอาณาเขตพื้นที่นั้นมีเพียงสี่คนที่ยังยืนอยู่อย่างทระนงองอาจ เด็กหนุ่มชุดดำในมือถือกริชสีเขียวพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า ชายวัยกลางคนสองคนที่มีพลังฝีมืออยู่ในระดับขอบเขตจ้าวนักรบ ในมือถือดาบยาวด้วยอาการสั่นเทาเล็กน้อย และยังมีหญิงสาวแสนสวยอีกนางหนึ่งในมือถือถุงผ้าที่ใส่นิ้วมือไว้เต็ม
“ไปต่อ!”
หึ่ง!
เย่ชิงหานโบกมือขึ้นมาทีหนึ่ง สองขาย่อลงเล็กน้อยะโทะยานขึ้นไปกลางอากาศจนกระทั่งไปหยุดลงใจกลางกองกำลังของนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อน จากนั้นร่างกายของเขาพลันปรากฏแสงสีม่วงออกมาอีกครั้งพร้อมกับหมอกควันสีดำที่ปกคลุมนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนร้อยกว่าคนที่อยู่รอบๆ หมอกควันเ่าั้มองดูราวกับอสูรร้ายที่จ้องจะกลืนกินผู้คน เพียงแค่มันอ้าปากก็สามารถกลืนกินนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนลงไปได้ทีเดียวเป็ร้อยๆ คน
หึ่ง!
ผ่านไปชั่วครู่ หมอกสีดำจางหายไปอีกครั้ง สภาพการณ์ยังคงเป็ซากศพนอนกองเต็มพื้นเช่นเคย และภายในอาณาเขตพื้นที่นั้นมีเพียงสี่คนที่ยังยืนอยู่อย่างทระนงองอาจเช่นเดิม เด็กหนุ่มชุดดำในมือถือกริชสีเขียวพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า ชายวัยกลางคนสองคนพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบ ในมือถือดาบยาวด้วยอาการสั่นเทาเล็กน้อย และยังมีหญิงสาวแสนสวยอีกนางหนึ่งมือถือถุงผ้าที่ใส่นิ้วมือไว้เต็ม
แปลกประหลาด!
น่าหวาดกลัว!
หนี!
ในตอนนี้นักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนทั้งหมดเริ่มเข้าใจได้ในทันที สายตาที่มองดูทั้งสี่คนที่ยืนอยู่นั้นราวกับมองเห็นภูตผีร้ายฉันนั้น ต่างพากันถอยแตกหนีออกไปทั่วทั้งสี่ทิศอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าหากเข้าใกล้ทั้งสี่คนนี้จะถูกพวกเขากลืนกินลงไปในคราเดียวเหมือนอย่างที่เห็น
“ไอ้พวกบัดซบไร้ค่า! พวกมันมีกันแค่สี่คน พวกเ้ามีเท่าไร? แม้จะต้องใช้จำนวนคนทับก็ต้องทับพวกมันให้ตาย!” เยาขาข่าจับตาดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางนี้อยู่ตลอด ตอนนี้กลับพบว่าคนของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่อยู่รอบๆ ทั้งสี่คนนั้นต่างพากันแตกหนีไปทั่วสารทิศราวกับกลัวโรคระบาดฉันนั้น เป็เหตุทำให้การโอบล้อมที่โอบล้อมไว้อย่างดีแทบจะพังทลายลง ถึงแม้ว่าตัวเขาเองก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญหายต่อแสงแปลกประหลาดที่เ้าเด็กหนุ่มเสื้อดำปล่อยออกมา แต่ว่าตอนนี้ไม่สามารถที่จะให้เกิดการถอยได้แม้แต่เพียงเล็กน้อย ดังนั้นจึงได้ร้องะโสั่งการออกไป
“ฆ่า! ฆ่ามันทั้งสี่คนเดี๋ยวนี้! ใครที่ฆ่าพวกมันได้ข้าจะแต่งตั้งให้เป็หัวหน้าปกครองเผ่าๆ หนึ่ง!” หมันก้านเองก็เริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากลขึ้นมา รีบสั่งการนักรบของตนเองให้รุมสังหารทั้งสี่คน
“เอาอย่างนั้นรึ? ถ้าอย่างนั้น...มาทำให้สถานการณ์มันโหดร้ายมากยิ่งขึ้นกว่านี้กันเถอะ!” เย่ชิงหานยิ้มออกมา มองดูนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่วิ่งกรูกันเข้ามาด้วยสายตาราบเรียบ จากนั้นแสงสีม่วงปรากฏขึ้นมาอีกครั้งและแปรเปลี่ยนเป็กลุ่มหมอกควันสีดำปกคลุมออกไปโดยรอบ...
.................................
เกิดอะไรขึ้น?
หลงไซ้หนาน เฟิงจื่อ เยว่ชิงเฉิง ฮวาเฉ่า...และทุกๆ คน ต่างยืนอึ้งทำหน้าโง่ๆ แบบไม่เข้าใจเื่ราวที่เกิดขึ้น
เย่ชิงหานราวกับสายลมมรณะที่พัดมาจากนรกอเวจีขุมที่เก้าฉันนั้น ปรากฏตัวขึ้นมาที่กลางสนามรบอย่างฉับพลัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งลักษณะท่าทางการปรากฏตัวโดดเด่นเป็พิเศษไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน...ในตอนแรกพวกเขารู้สึกตกตะลึง งุนงง แต่เมื่อพากันได้สติกลับมาต่างคิดอยู่ในใจว่า เย่ชิงหานไอ้คนโง่ เป็ไอ้ตัวโง่งมอย่างที่สุด
เขาคิดว่าตนเองเป็ใคร? เขาเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงกล้าปรากฏตัวออกมาในตอนนี้? เขาคิดอะไรอยู่ถึงได้ไปยืนอยู่บนศีรษะของนักรบคนเถื่อน? เขาออกมาตายทำไม? เขาเป็ไอ้คนโง่ เป็ไอ้ตัวโง่งมอย่างที่สุด...
มองเห็นหมันก้านโกรธเดือดดาลเป็ฟืนเป็ไฟ มองเห็นนักรบเผ่าคนเถื่อนและเผ่าปีศาจมากมายที่กรูกันเข้าไปหาเย่ชิงหาน ในเวลานั้นจิตใจของทุกคนเศร้าสลดขึ้นมาทันที...
เพียงแต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที พวกเขาพบว่าอาณาเขตพื้นที่ที่เย่ชิงหานอยู่พลันปรากฏแสงสีม่วงที่แปลกประหลาดชนิดหนึ่งแผ่พุ่งออกมา นักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่อยู่โดยรอบเริ่มสับสนชุลมุนวุ่นวายขึ้น ส่วนพวกนักรบที่กรูกันเข้าไปรุมล้อมพวกเขาก็เริ่มสับสนชุลมุนวุ่นวายขึ้นอีกเช่นกัน จากนั้นเยาขาข่าร้องคำรามออกมา หมันก้านเริ่มออกคำสั่งโยกย้ายกองกำลังเหล่านักรบให้กรูกันเข้าไปรุมสังหารพวกเย่ชิงหาน
ต่อมา พวกเขาเห็นแสงสีม่วงที่แผ่พุ่งออกมาเป็พักๆ มันค่อยๆ เขยิบเข้ามาใกล้พวกเขาขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นพวกเขามองเห็นหมอกควันสีดำที่ราวกับสัตว์ประหลาดดึกดำบรรพ์ตัวใหญ่ั์ปกคลุมไปทั่ว ปกคุลมนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่อยู่เบื้องหน้าไว้ทั้งหมด และหลังจากนั้นมองเห็นหมอกสีดำค่อยๆ จางหายไป ทั้งสี่คนปรากฏออกมาให้เห็นพร้อมกับร่างไร้ิญญาของนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่นอนกองอยู่เกลื่อนกลาดบนพื้น...
“อ๊าา! เอ่ออ! ฮะ...!”
ทุกคนต่างอุทานกันออกมาเบาๆ ราวกับว่ากลัวว่าหากอุทานออกมาแรงเกินไปจะทำให้มารร้ายที่นอนหลับใหลอยู่ก้นหลุมลึกดำมืดตื่นขึ้นมาฉันนั้น
ทั้งสี่คนที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขาล้วนรู้จักดี หลายคนเรียกได้ว่าคุ้นเคยและสนิทสนมเป็อย่างมาก เด็กหนุ่มใบหน้าสดใสกับรอยยิ้มจางๆ ที่ยืนอยู่ตรงกลางมีชื่อว่าเย่ชิงหานนายน้อยของตระกูลเย่ ยอดฝีมือวัยกลางคนพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบทั้งสองที่มือถือดาบที่อาบไปด้วยเืมีชื่อว่าเย่สือซานและเย่สือชีซึ่งเป็ยอดฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบของตระกูลเย่ ส่วนสาวสวยคนสุดท้ายที่อยู่ด้านหลังที่มีใบหน้าที่สวยราวกับนางฟ้าแต่หุ่นยั่วเย้าราวกับนางมาร ในมือถือถุงอย่างหนึ่งกำลังตามเก็บแหวนสัญลักษณ์ซึ่งทำให้นางเริ่มจะรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมาแล้ว นางมีชื่อว่าเย่ชิงอู่ คุณหนูของตระกูลเย่
คนยังคงเป็คนเดิมไม่ผิดเพี้ยน เพียงแต่พวกเขาเข้ามาได้อย่างไร? บุกเข้ามาได้อย่างไร? พวกเขาทำไมถึงบุกเข้ามาได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้ ราวกับว่านักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนหวาดกลัวพวกเขาอย่างไรอย่างนั้น ต่างพากันถอยหนีออกไปหมด...มีคำถาม มีความสงสัย มีความตกตะลึง และมีความงุนงงมากมายจนเกินไป...
“ทำไม? ดูราวกับว่าทุกท่านไม่ยินดีต้อนรับพวกข้า?”
มองดูนักรบเขตปกครองเทพาทั้งสองพันคนที่นิ่งเงียบลงพร้อมกันราวกับคนบ้าไร้สตินั้น เย่ชิงหานยิ้มออกมาอย่างอับจนปัญญา ยักไหล่ขึ้นพร้อมกับกล่าวออกมา
“์! พวกเรารอดแล้ว! อ๊าา...”
“พระหมื่นปี!”
“อ๊าา...”
“เทพเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในที่สุดก็แสดงอิทธิฤทธิ์ออกมาให้เห็น...”
“…”
ไม่รู้ว่าใครที่ร้องขึ้นมาก่อน จากนั้นนักรบเขตปกครองเทพาทุกคนแสดงความดีใจกันออกมาอย่างบ้าคลั่ง ต่างโห่ร้องกันขึ้นอย่างไม่สนใจต่อสิ่งใดๆ บางคนก็ะโโลดเต้นขึ้น บางคนก็ร้องไห้ฟูมฟายออกมา บางคนก็หัวเราะออกมาไม่หยุดอย่างกับคนบ้า บางคนก็จูบผืนดินอยู่ตลอด บอกคนก็ถอดเสื้อผ้ากางเกงยกโบกสะบัดขึ้นก็มี...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้