เื่ความร่วมมือกับฝูหมั่นโหลวนั้น หลังจากหลี่ชิงหลิงเดินออกจากฝูหมั่นโหลวก็ยังรู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย
นางหันไปมองหลิวจือโม่และขอให้หลิวจือโม่หยิกตนเพื่อดูว่ากำลังฝันอยู่หรือเปล่า
พูดตามตรง นางไม่เคยคิดว่าแป้งทอดไข่จะเป็ที่ชื่นชอบของฝูหมั่นโหลว สิ่งที่นางคิดก่อนหน้านี้คือเมื่อเก็บเงินได้มากพอนางจะเช่าร้านขายแป้งทอดไข่โดยเฉพาะ
เื่ของร้านยังไม่ได้เริ่มก็มีธุรกิจขนาดใหญ่มาหาถึงที่ ทำให้นางประหลาดใจและดีใจมาก
หลิวจือโม่ส่ายหัวอย่างขบขัน เหยียดมือออกไปดีดหน้าผากนาง "ตื่นหรือยัง?" เมื่อครู่ตอนอยู่ในฝูหมั่นโหลวนางสงบขนาดนั้น แม้แต่เขาก็ยังโดนหลอก คิดว่านางไม่ได้ดีใจนัก ไม่คาดคิดเลยว่าทันทีที่เดินออกมาอารมณ์จะเปลี่ยนขนาดนี้
ดูทึ่มชะมัด ...
แต่นางในแบบนี้ก็ดูน่ารักดี
หลี่ชิงหลิงจับหน้าผากที่เจ็บ หัวเราะด้วยตาเป็ประกาย "จากนี้ไป แม้ว่าเราจะไม่ต้องทำก็มีรายได้แล้ว” แต่นางก็แค่คิด อาศัยส่วนแบ่งของฝูหมั่นโหลว หากเกิดอีกฝ่ายปิดกิจการขึ้นมาล่ะ? แล้วนางจะหาเงินจากไหน?
การวางแผนล่วงหน้าเป็สิ่งที่ดีเสมอ!
"เ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ หรือ หืม?" ในสายตาของเขา หลี่ชิงหลิงเป็คนที่อยู่เฉยๆ ไม่ได้ และดูเหมือนนางไม่ใช่คนที่จะรอใช้ชีวิตด้วยส่วนแบ่งฝูหมั่นโหลว
ถ้านางเป็คนแบบนี้จริงๆ นางคงไม่มีความคิดหาเงินมากมายขนาดนี้
เมื่อได้ยินคำถามของเขา หลี่ชิงหลิงก็ส่ายหัวด้วยความสัตย์จริง "ข้าเป็คนที่มีความทะเยอทะยานสูง ส่วนแบ่งแค่นั้นทำให้ข้าพอใจไม่ได้" ไม่ว่าจะยุคไหน มีเงินยิ่งเยอะก็ย่อมดีกว่า
แม้ว่าเงินจะไม่ใช่ทุกสิ่ง แต่ถ้าไม่มีเงินก็จะเป็ไปไม่ได้สักอย่าง
โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ไม่มีเงิน แม้แต่อาหาร เสื้อผ้าก็จัดการไม่ได้
ถ้าตระกูลหลี่มีเงินซื้ออาหารในตอนนั้น เ้าของร่างเดิมคงไม่เสียชีวิตเพียงเพื่ออาหารเล็กน้อย
เพราะเห็นแก่เด็กๆ ในครอบครัว นางจึงต้องทำงานหนักเพื่อหาเงิน
หลิวจือโม่ชำเลืองมองเด็กสาวด้วยรอยยิ้ม เขาชอบที่จะเห็นประกายในดวงตาของนาง ซึ่งทำให้นางดูมีพลัง
“อยากทำอะไรก็ทำเลย มีข้าอยู่ด้วย!”
แม้ว่าตอนนี้ไหล่ของเขาจะไม่กว้าง แต่เขาก็อยากช่วยยกท้องฟ้า เพื่อที่นางจะได้ฝ่าฟันไปได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่ชิงหลิงก็ชำเลืองมองหลิวจือโม่และหัวเราะ "ข้าออกหน้าแบบนี้ พี่ไม่ว่าอะไรหรือ?” ผู้หญิงในยุคนี้ต้องสงวนตัว ซึ่งก็เป็เหตุผลว่าทำไมนางถึงให้หลิวจือโม่ออกหน้าตอนอยู่ฝูหมั่นโหลว
หลิวจือโม่ส่ายหัวด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ถ้าข้าสนใจ ข้าคงไม่ให้เ้าออกมาตั้งร้านแล้ว” เขาไม่้ากักขังอิสรภาพของหลี่ชิงหลิง เขาอยากให้นางเป็ตัวของตัวเอง ให้นางใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
เขามีความรู้สึกว่าหลี่ชิงหลิงไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่จะดูแลสามีและลูกๆ ที่บ้าน ถ้านางถูกบังคับจะไม่มีความสุขแทน ถ้าเป็เช่นนั้นจะบังคับไปทำไม ปล่อยให้นางเที่ยวเตร่ เหนื่อยเมื่อไรก็จะบินกลับรังเอง
หลี่ชิงหลิงมองหลิวจือโม่อย่างลึกซึ้ง ดวงตาของเด็กสาวเต็มไปด้วยอารมณ์ นางรู้สึกว่าตนโชคดีมากที่ได้พบกับหลิวจือโม่
ถ้านางเจอผู้ชายหัวโบราณที่เอาแต่ขอให้นางดูแลสามีและลูกๆ ที่บ้าน ไม่ว่านางจะมีความคิดดีๆ มากมายแค่ไหน นางก็ไม่มีทางเอาไปใช้จริงได้
"ขอบคุณ..." ขอบคุณที่คอยสนับสนุนข้า ขอบคุณที่ยืนอยู่ข้างหลังข้าอย่างมั่นคง มีเพียงพี่เท่านั้นที่ทำให้ข้ามั่นใจและกล้าเสี่ยง
ราวกับเห็นความหมายในดวงตาของนาง หลิวจือโม่ยิ้มอย่างอ่อนโยน ยกมือขึ้นลูบหัวของหลี่ชิงหลิง แต่ไม่พูดอะไร
หลี่ชิงหลิงยิ้มเช่นกัน จูงหลิวจือโม่และเดินไปร้านที่ขายลูกไก่
ครั้งนี้นางทำเต็มที่จริงๆ นางต้องเลี้ยงไก่จำนวนมากโดยเฉพาะแม่ไก่ เพื่อที่นางจะได้จัดส่งไข่ให้ฝูหมั่นโหลว
เมื่อจินตนาการถึงภาพเงินไหลเข้ามาไม่ขาดสาย หัวใจของหลี่ชิงหลิงก็ลุกเป็ไฟ
อยากจะให้ไก่ที่ซื้อกลับไปโตภายในไม่กี่วันจริงๆ
แต่ด้วยน้ำจิติญญา ไก่ของนางก็จะโตเร็วกว่าไก่ทั่วไป
“เ้า้าซื้อไก่กี่ตัว” ขณะที่มองหลี่ชิงหลิงเลือกไก่ หลิวจือโม่ก็ถามด้วยความสงสัย
หลี่ชิงหลิงเลือกไก่อย่างระมัดระวัง นางเห็นว่าไก่ตัวไหนสดใสกว่าก็เลือกตัวนั้น
เมื่อเด็กสาวได้ยินก็ตอบโดยไม่หันหน้า "ที่บ้านเรามีที่ไม่เยอะ ข้าอยากเลี้ยงห้าสิบตัวก่อน ไว้ขยายพื้นที่แล้วค่อยเลี้ยงเพิ่ม” จากนั้นหันไปพูดกับป้าขายไก่ "ท่านป้า ช่วยเลือกลูกเจี๊ยบเพิ่มให้หน่อยเ้าค่ะ ข้าอยากซื้อลูกเจี๊ยบตัวเมีย”
นางไม่ค่อยรู้เื่นี้มากนัก กลัวว่าไก่สดใสที่เลือกจะเป็ตัวผู้ทั้งหมด ถึงตอนนั้นคงอยากร้องไห้โดยไม่มีน้ำตาจริงๆ
เมื่อป้าที่ขายไก่ได้ยินว่าหลี่ชิงหลิง้าซื้อไก่ห้าสิบตัว นางก็อดหัวเราะไม่ได้ นี่ธุรกิจใหญ่!
"ได้เลย ป้าจะช่วยเ้าเลือก” ป้าคนขายนั่งยองๆ เลือกไก่ให้หลี่ชิงหลิงและพูดไม่หยุด “ไก่ป้านะ ดีมากจริงๆ ทุกตัวอ้วนฉ่ำมีพลัง ไข่ที่ออกก็โตมาก ไม่ขาดทุนแน่นอน”
วันนี้ขายไม่ออกทั้งวัน มารายแรกก็เป็ธุรกิจใหญ่เลย นางมีความสุขมาก
นางเลือกลูกไก่ห้าสิบตัวอย่างระมัดระวัง ส่วนใหญ่เป็ตัวเมีย แถมนางยังใจกว้างแถมให้อีกสองตัว พร้อมเล้าไก่ด้วย
ไก่ตัวหนึ่งราคาสามเหวิน ไก่ห้าสิบตัวราคาหนึ่งร้อยห้าสิบเหวิน
หลังจากที่หลี่ชิงหลิงจ่ายเงินเสร็จก็ขนเล้าไก่ออกจากร้านไปกับหลิวจือโม่
เมื่อมองไปที่ลูกไก่สีเหลืองนุ่มฟูในเล้าไก่ หลี่ชิงหลิงไม่สามารถบอกได้ว่าในใจมีความสุขแค่ไหน
นางจะดูแลลูกไก่ทั้งห้าสิบตัวนี้อย่างดีอย่างแน่นอน ดูแลอย่างดีแล้วจะทำเงินได้จำนวนมาก
"ต้องซื้ออะไรอีก" หลิวจือโม่เดินถือเล้าไก่ข้างๆ เมื่อเห็นนางมองไปรอบ ๆ เขาก็รู้ว่านางยัง้าซื้ออะไรบางอย่างอีก
หลี่ชิงหลิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง ที่บ้านมีข้าวสารไม่เยอะแล้ว ต้องซื้อข้าวสาร รวมทั้งน้ำมัน เกลือ และเนื้อ
เด็กสาวบอกกับหลิวจือโม่ จากนั้นหลิวจือโม่ขอให้นางไปรอเขาที่ประตูเมือง เขาจะไปซื้อเอง การขนไก่ไปด้วยจะเหนื่อยเกินไป
หลี่ชิงหลิงมองไก่ พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้และมอบเงินให้หลิวจือโม่ ส่วนตนรออยู่ที่ประตูเมือง
หลิวจือโม่กำชับนางเสร็จจึงหันกลับไปซื้อสิ่งที่้า
หลี่ชิงหลิงนั่งยองๆ ข้างประตูเมือง จ้องมองไปที่ไก่ด้วยความสนใจอย่างมาก
ในจังหวะนั้นเอง เสียงผู้หญิงที่น่ารำคาญก็ดังกระทบโสตประสาท
"หลี่ชิงหลิง? มาทำอะไรที่นี่?"
หลี่ชิงหลิงเงยหน้าขึ้น เห็นหลี่เป่าจูมีนางหลิวยืนอยู่ข้างกาย
เมื่อเห็นสองคนนี้นางก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว โชคร้ายจริงๆ ที่เจอเข้าอีกแล้ว
“รอคน” หลี่ชิงหลิงกล่าวเสียงเรียบ ก้มหัวมองลูกไก่อีกครั้ง นางรู้สึกว่าการมองลูกไก่ที่น่ารักเหล่านี้สบายตากว่ามองคนน่ารำคาญสองคนนั้น
หลี่เป่าจูเห็นหลี่ชิงหลิงตอบแล้วก้มหน้าลงไม่สนใจนางอีกจึงรู้สึกโกรธ "หลี่ชิงหลิง นี่มันท่าทางอะไรกัน” นางถาม แต่อีกฝ่ายกลับเมินเฉย กล้าดียังไงปฏิบัติต่อนางเช่นนี้?
ไม่เห็นว่าไม่อยากสนหรือ ทำไมถึงไม่รู้ตัวแล้วรีบไปอีก
หลี่ชิงหลิงพูดไม่ออกจริงๆ นางลุกขึ้นยืน ถือเล้าไก่ทั้งสองอยากจากไป
แต่มีคนไม่ยอมและคว้าข้อมือของนาง "นี่ไก่เ้าหรือ” หลี่เป่าจูมองไปที่ไก่ในมือของหลี่ชิงหลิง จากนั้นหันไปมองนางหลิว "ย่าอยากซื้อลูกไก่อยู่ไม่ใช่หรือ? พอดีเลย หลี่ชิงหลิงซื้อแล้ว แถมมีตั้งสองเล้า ให้เราเล้าหนึ่งก็พอดีเลย”
นางหลิวจ้องไก่ในมือของหลี่ชิงหลิง อ้วนฉ่ำดูดีทีเดียว
“เสี่ยวหลิง เ้าเป็หลานสาวของข้าใช่ไหม ของที่ซื้อก็ควรกตัญญูให้ข้าหรือเปล่า”
เมื่อหลี่ชิงหลิงได้ยินคำพูดของนางหลิวก็แทบกลอกตา ทำไมไก่ที่นางซื้อมาต้องยกให้กับนางหลิวด้วย?
ถ้านางหลิวปฏิบัติต่อนางอย่างดียังว่าไป ทำตัวไม่ดีด้วยแบบนี้ ทำไมนางต้องเชื่อฟังด้วย?
“ท่านย่า จะซื้อไก่ก็รีบไปซื้อเถอะ ถ้าไปช้า ไก่ดีๆ จะถูกซื้อไปหมด” พูดสั้นๆ คือจะซื้อไก่กี่ตัวก็ได้ ขอแค่อย่ามายุ่งกับนาง
หลี่เป่าจูชำเลืองมองหลี่ชิงหลิงด้วยความพอใจ "ท่านย่า ชิงหลิงเหมือนจะบอกว่าไม่ให้ไก่ ให้ท่านย่าไปใช้เงินซื้อ” ถ้าหลี่ชิงหลิงยังปฏิเสธต่อไปย่าจะต้องโกรธแน่
แน่นอนว่าเมื่อนางหลิวได้ยินคำพูดของหลี่ชิงหลิง ดวงตานางก็โตขึ้นด้วยความโกรธ “เ้าจะไม่ให้ไก่ข้าจริงๆ หรือ" หลานสาวแบบนี้มีที่ไหนกัน? หา?
หลี่ชิงหลิงมองนางหลิวด้วยตาใสแจ๋ว พยักหน้าและบอกอย่างแน่วแน่ "จริงเ้าค่ะ ข้าไม่อยากให้ ถ้าอยากเลี้ยงก็ซื้อเองสิเ้าคะ”
เห็นนางหลิวโกรธกว่าเดิม นางกลับหัวเราะ “ท่านย่า อย่าพูดเื่ใช่หลานไม่ใช่หลานนะ พูดไปก็มีแต่จะทำให้คนอื่นหัวเราะ” อยากเอาเปรียบก็บอกว่าเป็หลานเนี่ย สมเหตุสมผลไหม
นางหลิวกัดฟันด้วยความโกรธ ก้าวไปข้างหน้า เอื้อมมือไปแย่งเล้าไก่จากมือของหลี่ชิงหลิง
หลี่ชิงหลิงไม่กล้าใช้กำลัง ป้าที่ขายไก่บอกนางว่าจะทำให้ไก่ใไม่ได้ มันจะเลี้ยงยาก
นางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดเสียงดัง "ท่านย่าอย่ามาทำเื่ขายหน้าถึงในเมือง ถ้าท่านปู่รู้เข้า รู้ใช่ไหมว่าจะเป็ยังไง” หวังว่าวิธีนี้จะสามารถเอานางหลิวอยู่ได้
