ครึ่งชั่วยามต่อมา บรรดาผู้าุโทั้งสี่ก็กลับมายังห้องโถงใหญ่ของสำนัก เสิ่นเยาเยวี่ยเป็คนแรกที่อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาด้วยความทึ่ง “หนุ่มน้อยคนนี้ช่างยอดเยี่ยมนัก ตัวเขาสามารถเปิดขดพลังิญญาได้ถึงสามขดหลังจากบรรลุชั้นได้เหมือนกับหรูเยียนเลย เื่เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอาณาจักรซินโยวในตลอดหลายปีมานี้ ใครจะคิดว่าเมื่อปรากฏตัวขึ้นมาก็ไม่ได้ปรากฏแค่คนเดียว แต่ปรากฏตัวถึงสองคน ชีวิตนี้ของข้าได้เห็นปาฏิหาริย์เช่นนี้ ต่อให้ตายก็ไร้ซึ่งความเสียดาย!”
“พร์ของหลิงอวิ๋นช่างน่าทึ่งจริงๆ จริงอยู่ที่หรูเยียนเป็คนที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักของเราใน่หลายปีมานี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลิงอวิ๋นจะเหนือไปกว่านั้นอีก ตอนนั้นหรูเยียนใช้เวลาถึงสิบแปดวันในการเปิดขดพลังิญญาทั้งสามขดด้วยเสียงกู่ร้องของหงส์เพลิงสามครั้ง แต่เ้าหนุ่มนี่เปิดขดพลังิญญาสามขดได้ในคราวเดียวโดยแทบไม่หยุดพักเลย! ศิษย์พี่หญิง ตอนนี้ท่านเชื่อในการตัดสินใจของข้าแล้วหรือยัง!” เมื่อพูดจบิ่ชางไห่ก็เผยแววแห่งความภาคภูมิใจอยู่ในดวงตาเล็กๆ ของเขา
“ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าใครมีพร์เหนือกว่ากัน เพราะตอนนี้หรูเยียนเปิดขดพลังิญญาได้สี่ขดแล้ว หากหลิงอวิ๋นสามารถเปิดขดพลังิญญาสี่ขดได้สำเร็จภายในครึ่งเดือนข้างหน้า ตัวเขาถึงจะเรียกได้ว่าแซงหน้าหรูเยียนอย่างแท้จริง แต่ไม่ว่าจะอย่างไหนก็ตาม เด็กทั้งสองคนนี้ถือเป็ของขวัญที่ดีที่สุดที่เหล่าทวยเทพบน์ประทานมาให้กับสำนักิญญาเมฆาของเรา!” ตี๋จั๋วรื่อแสดงออกถึงสภาพจิตใจที่ตื่นเต้นและมีชีวิตชีวาอย่างหาได้ยากออกมา
“พวกเราจะต้องดูแลเด็กทั้งสองคนนี้ให้ดี พวกเขาคือความหวังของสำนักกระบี่ิญญาเมฆาของเรา! จะปล่อยให้มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาไม่ได้เด็ดขาด!” ฉินว่านซานกล่าวสรุป
“อืม ใน่นี้ข้าจะเป็คนคอยดูแลพวกเขาเอง!” ตี๋จั๋วรื่อพยักหน้าตอบ!
...
หลังจากที่ถูกผู้าุโสูงสุดทั้งสี่พาตัวไปที่หอยาวิเศษในสำนักชั้นนอกก่อน เซียวหลิงอวิ๋นก็เริ่มเข้าสู่การเก็บตัวฝึกวิชาทันที!
การเก็บตัวฝึกวิชาของเขาค่อนข้างแตกต่างไปจากผู้ใช้พลังิญญาคนอื่นๆ ที่เพิ่งเปิดขดพลังิญญาได้เพื่อทำให้ระดับพลังยุทธ์เกิดความมั่นคง ระดับพลังยุทธ์ของเขาได้รับการทำให้มั่นคงและแข็งแรงอย่างมากในเวลาเพียงครึ่งวันในพื้นที่ลึกลับนั้นแล้ว ซึ่งเซียวหลิงอวิ๋นก็รู้เื่นี้ดีหลังจากที่ได้ออกมาจากพื้นที่ลึกลับนั้น
ดังนั้นจุดประสงค์หลักในการเก็บตัวฝึกวิชาของเขาคือ ประการแรกทำความเข้าใจพลังวิเศษแรกที่เขาได้รับมาอย่างวิชาหัตถ์ัฟ้าให้ถ่องแท้ ประการที่สอง เริ่มฝึกฝนวิชาขั้นที่สองของเคล็ดวิชามหาเทพโกลาหล และประการที่สาม คือการฝึกวิชาิญญาต่างๆ อีกหลายวิชาที่เขาใช้เวลาถึงห้าวันทำการค้นคว้าอยู่ในหอวิชาเพื่อหาวิชาที่เหมาะสมที่สุดกับระดับพลังยุทธ์ของเขาในปัจจุบัน
การเก็บตัวฝึกวิชาของเซียวหลิงอวิ๋นในครั้งนี้กินเวลาตลอดทั้งเดือน!
ในวันนี้มีเรือเหาะิญญาขนาดใหญ่สองลำมาจอดอยู่ที่ด้านนอกสำนักิญญาเมฆา ลำหนึ่งเป็เรือสำราญสุดหรูที่เปล่งประกายสีทองบริสุทธิ์ราวกับกำลังแล่นอยู่ในทางช้างเผือก และอีกลำหนึ่งดูน่าประหลาดมาก เพราะรูปลักษณ์ภายนอกดูราวกับตะขาบขนาดั์
เรือเหาะิญญาที่ดูหรูหราและแปลกประหลาดทั้งสองลำนี้เป็เรือเหาะิญญาอันถือเป็สัญลักษณ์ของสองในห้าสำนักใหญ่ในอาณาจักรซินโยว
‘เรือเหาะทองพิสุทธิ์’ เป็เรือิญญาขั้นสูงสุด ซึ่งเป็สมบัติของ ‘สำนักรวมสมบัติิญญา’ หนึ่งในห้าสำนักใหญ่ที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาจักรซินโยว!
‘ตะขาบ์ทองคำนิล’ เรือิญญาขั้นสูงสุด เมื่อดูจากตราสัญลักษณ์รูปสัตว์ิญญาและนกิญญาแล้ว ก็จะรู้ได้ในทันทีว่าเป็ของหนึ่งในห้าสำนักใหญ่ ‘สำนักคุมสัตว์ิญญา’!
ในห้าสำนักใหญ่ของอาณาจักรซินโยว นอกจากสามสำนักที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว ยังมีอีกสองสำนัก หนึ่งคือ ‘สำนักภูตผีน้ำแข็งลี้ลับ’ ที่อยู่ในทางตอนเหนืออันหนาวเหน็บของอาณาจักร ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการฝึกวิชาิญญาธาตุน้ำแข็ง และการเรียกและปราบภูตผี
อีกสำนักหนึ่งคือ ‘สำนักแม่มดเพลิงร้อน’ ที่อยู่ในดินแดนอันร้อนระอุทางตอนใต้ของอาณาจักรซินโยว ซึ่งเชี่ยวชาญในการฝึกวิชาิญญาธาตุไฟ และแม่มดหมอผี
ว่ากันว่าทั้งสองสำนักนี้แต่เดิมทีเป็สำนักเดียวกันเมื่อหมื่นปีก่อน นั่นคือ ‘สำนักหมอผีภูติิญญา’ แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใดต่อมาจึงแยกออกมาเป็สองสำนัก และเนื่องจากวิชาประเภทแม่มดหมอผีที่ทั้งสองสำนักฝึกฝนนั้นไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากสาธารณชนนัก จึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองสำนักนี้กับสำนักอื่นๆ ไม่สู้ดีสักเท่าไร เมื่อศิษย์ของสำนักทั้งสองฝั่งมาพบกันจึงมักจะเกิดการปะทะนองเืขึ้น ในกรณีที่รุนแรงก็อาจถึงขั้นกวาดล้างสำนักให้สิ้นซากกันไปเลย!
ดังนั้นใน่หลายพันปีที่ผ่านมา สำนักิญญาเมฆาและสำนักใหญ่อีกสองแห่ง รวมถึงสำนักใหญ่ทั้งสองแห่งที่เหลือจึงมักมีการปะทะกันในทุกระดับใน่หลายพันปีมานี้
ประการหนึ่งคือความแค้นที่สั่งสมกันมาหลายพันปี และอีกประการคือเพื่อฝึกปรือความสามารถในการต่อสู้ของบรรดาลูกศิษย์สำนักใหญ่ทั้งห้า
ใน่หลายพันปีที่ผ่านมานี้ การเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองฝ่ายของห้าสำนักใหญ่ยังคงดำเนินเรื่อยมา อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับในอดีตแล้ว การเผชิญหน้ากันในปัจจุบันก็กลายเป็อะไรที่นุ่มนวลลงไปมากโข!
ซึ่งเื่นี้ก็ต้องขอบคุณการรุกรานของเผ่ามารและปีศาจเมื่อพันปีก่อน ภายใต้แรงกดดันอันมหาศาลของเผ่ามารและปีศาจ ทั้งสองฝ่ายก็ได้ละทิ้งความแค้นในอดีตลงชั่วคราวและร่วมมือกันต่อต้านศัตรู จากนั้นก็มีการต่อสู้ร่วมกันถึงสามครั้งเพื่อรับมือกับเผ่ามารและปีศาจ ดังนั้นในปัจจุบันเมื่อทั้งสองฝ่ายพบหน้ากัน แม้จะยังคงมีการปะทะนองเือยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแย่งชิงโลกเร้นลับ และมีผู้เสียชีวิตกันเป็ปกติ แต่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดอย่างการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกกวาดล้างนั้นหาได้ยากมากแล้ว
ในครั้งนี้ สำนักรวมสมบัติิญญาและสำนักคุมสัตว์ิญญาได้ส่งผู้บำเพ็ญเพียรกว่าร้อยคนมายังสำนักิญญาเมฆา ซึ่งเป็เพราะโลกเร้นลับแห่งหนึ่งกำลังจะเปิดออก และโลกเร้นลับแห่งนี้ก็เป็สถานที่ฝึกวิชาที่ทั้งสองฝ่ายของห้าสำนักใหญ่เคยแย่งชิงกัน นั่นคือ ‘เมืองโบราณหลิงกุย’
‘เมืองโบราณหลิงกุย’ จะเปิดขึ้นในทุกๆ ห้าสิบปี และตั้งอยู่ในทะเลทรายฮั่นชื่อ ซึ่งอยู่ห่างจากสำนักสำนักแม่มดเพลิงร้อนไปเพียงหนึ่งหมื่นสามพันลี้
และทุกครั้งที่เมืองโบราณหลิงกุยเปิด จะมีทางเข้าอยู่สองทาง ทางหนึ่งสำหรับผู้ใช้พลังิญญาเท่านั้น และอีกทางหนึ่งสำหรับปรมาจารย์ิญญาเท่านั้น!
เมืองโบราณหลิงกุยแห่งนี้ ถือเป็โลกเร้นลับแห่งใหม่ที่เพิ่งพบเมื่อร้อยปีก่อน ในตอนที่เปิดออกครั้งแรก มีแค่เพียงสามสำนักเท่านั้นที่รู้เื่นี้และเข้าแย่งชิงกัน ผลลัพธ์คือ สำนักรวมสมบัติิญญาร่วมมือกับสำนักิญญาเมฆา เอาชนะสำนักแม่มดเพลิงร้อนมาได้ และกลายเป็เ้าของกันคนละครึ่ง ได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล
ในการเปิดครั้งที่สองนี้ สำนักแม่มดเพลิงร้อนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เรียกสำนักภูตผีน้ำแข็งลี้ลับมาช่วย กระทั่งพลิกสถานการณ์ได้ จากนั้นจึงบรรลุข้อตกลงว่า ในครั้งต่อไปที่จะเปิดออก สำนักใหญ่ทั้งห้าจะเข้าร่วมการแย่งชิงทั้งหมด แต่ละสำนักจะส่งคนได้สูงสุดเพียงหนึ่งร้อยคน และทางเข้าแต่ละแห่งห้าสิบคน!
ในปีนี้ก็เป็่เวลาที่โลกเร้นลับเมืองโบราณหลิงกุยเปิดออกเป็ครั้งที่สามพอดี!
สำนักรวมสมบัติิญญาและสำนักคุมสัตว์ิญญา ได้ทำการคัดเลือกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมมาจำนวนหนึ่งร้อยคน แล้วเดินทางมาที่สำนักิญญาเมฆาเพื่อให้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน
สำนักใหญ่ทั้งห้าจะมีความแข็งแกร่งโดยรวมไม่ต่างกันมากนัก แต่หากจะพูดถึงจำนวนผู้แข็งแกร่งในระดับาาิญญาแล้ว สำนักรวมสมบัติิญญาจะมีจำนวนมากที่สุด ซึ่งมีมากถึงห้าคน ในขณะที่สำนักอื่นๆ มีเพียงสี่คน แต่หากพูดถึงพลังในการต่อสู้แล้ว สำนักภูตผีน้ำแข็งลี้ลับจะแข็งแกร่งที่สุด โดยมีสองคนที่อยู่ในระดับาาิญญาขั้นสูง และหนึ่งในนั้นก็อยู่ในระดับาาิญญาขั้นสูงสุด
จากการสังเกตใน่ร้อยปีที่ผ่านมา ศิษย์ที่มีพลังการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดก็คือสำนักภูตผีน้ำแข็งลี้ลับ สำนักแม่มดเพลิงร้อนกับสำนักกระบี่ิญญาเมฆารองลงมา ในขณะที่สำนักรวมสมบัติิญญากับสำนักคุมสัตว์ิญญารองลงมาอีกที
นี่คือเหตุผลที่สำนักแม่มดเพลิงร้อนและสำนักภูตผีน้ำแข็งลี้ลับ เสนอให้แต่ละสำนักส่งศิษย์ออกไปสำนักละห้าสิบคนอย่างกล้าหาญ! ซึ่งทั้งสองสำนักเชื่อว่าตนเองเหนือกว่าผู้อื่น ลำพังสองสำนักก็เพียงพอที่จะรับมือกับทั้งสามสำนักที่เหลือได้!
ในบรรดาสามสำนักใหญ่ฝ่ายธรรมะนั้น สำนักรวมสมบัติิญญาที่ร่ำรวยที่สุดที่มีทั้งยาและของวิเศษิญญามากมาย แต่ผลจากการทานยานั้น แม้จะทำให้พลังยุทธ์พัฒนาขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อต้องเผชิญกับการต่อสู้จริงแล้ว พลังการต่อสู้ก็นับว่าอ่อนแอกว่าผู้อื่น
ส่วนศิษย์ของสำนักคุมสัตว์ิญญาเอง ต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการฝึกสัตว์ิญญา และเมื่อสัตว์ิญญาต่อสู้จนได้รับาเ็สาหัสหรือถูกสังหาร พลังการต่อสู้ก็จะลดลงอย่างมากในทันที
มีเพียงลูกศิษย์ของสำนักิญญาเมฆาเท่านั้นที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาอย่างแท้จริง แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับลูกศิษย์ในระดับเดียวกันของสำนักภูตผีน้ำแข็งลี้ลับ ก็ยังมีความมั่นใจและมีความสามารถเพียงพอจะรับมืออีกฝ่าย
ดังนั้นในบรรดาสามสำนักใหญ่ฝ่ายธรรมะนี้ สำนักิญญาเมฆาจึงกลายเป็ผู้นำไปโดยปริยาย
