ชายากำราบ (ท่านอ๋อง) (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     คนขับรถม้าคนนั้นมิกล้าตอบคำถาม เลือกที่จะเดินไปเปิดประตูหลังจวน นำทางมู่อวิ๋นจิ่นเข้าไปด้านใน 

        มู่อวิ๋นจิ่นถูกพามาที่เรือนรองที่อยู่ด้านหลัง และห่างจากห้องโถงของจวนอย่างมาก เมื่อมู่อวิ๋นจิ่นกวาดสายตามองสิ่งรอบตัว ในใจได้แต่คิดเหยียดหยามการต้อนรับที่ไม่ให้เกียรติของพระชายาหรง

        ประตูเรือนรองถูกเปิดออก โดยเห็นแสงรำไอยู่ข้างใน พระชายาหรงนั่งอยู่ในนั่นเป็๲องค์ประธาน ฉีกยิ้มปรายตามองมู่อวิ๋นจิ่น ด้านข้างมีฉินมู่เยว่ที่ไม่เห็นหน้าคาดตามาหลายวันอยู่ด้วย

         “หลานสะใภ้มาแล้ว ให้เปิ่นเฟย[1]รอเสียตั้งนานเชียว” พระชายาหรงเอ่ยขึ้นอย่างอ้อมค้อม

        “บ่าวใช้ไปรายงานว่าน้องสี่ป่สวหยักมิใช่หรือ พาหลานไปเยี่ยมเสียหน่อย” มู่อวิ๋นจิ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่ง

        ฉินมู่เยว่หรี่ตาอย่างชั่วช้า เดินลงมาข้างตัวมู่อวิ๋นจิ่น ยกมือนางขึ้นมาจับไว้ “พี่สะใภ้อวิ๋นจิ่น น้องสี่ที่จิตใจชั่วร้ายเช่นนั้น ปล่อยให้ตายๆ ไปก็สิ้นเ๹ื่๪๫ ปล่อยให้นางมีชีวิตอยู่ในใต้หล้ากลัวจะสร้างเ๹ื่๪๫ใหญ่หลวงขึ้นมา พี่สะใภ้อย่าลืมสิ เมื่อก่อนน้องาาวตัวดีทำอะไรไว้ให้พี่สะใภ้บ้าง”

         “อ่อ? น้องก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน?” มู่อวิ๋นจิ่นเลิกคิ้วขึ้น ไม่ได้สลัดมือของฉินมู่เยว่ออก

        “ใช่น่ะสิ ที่สำคัญนางใจกล้า กำเริบเสิบสาน มิหนำซ้ำยังสอดส่องสายตายั่วยวนพี่ลี่อีก โดยไม่แหกตาดูสารรูปตัวเองว่าเป็๞ยังไง ดูสิตอนนี้แต่งกับท่านอ๋องหรงที่อายุรุ่นราวคราวพ่อีก” ฉินมู่เยว่เอ่ยหยาดเหยียด

        มู่อวิ๋นจิ่นฝืนยิ้มมุมปาก มองไปที่ฉินมู่เยว่ ตามด้วยพระชายาหรง “แต่น้องสี่เพิ่งแต่งเข้าจวนหรงได้ไม่กี่วันก็ตายลง คงจะเป็๲ที่ติฉินนินทาของคนทั้งเมืองกระมัง?”

         “จะเป้นไปได้ยังไงเล่า เ๹ื่๪๫เกิดแก่เจ็บตายไม่มีผู้ใดควบคุมได้ ตอนนี้รอคำสั่งของพี่สะใภ้อวิ๋นจิ่นเพียงประโยคเดียวเท่านั้น มู่หลิงจูก็สามารถสิ้นใจได้ในพริบตา” ฉินมู่เยว่ยิ้มอำมหิตส่งให้มู่อวิ๋นจิ่น

        มู่อวิ๋นจิ่นเห็นรอยยิ้มที่ไร้ความหวาดกลัวเช่นนี้ ได้แต่คิดในใจว่าคนประเภทนี้น่ากลัวที่สุด พอเห็นหน้าฉินมู่เยว่พลอยย้อนนึกไปถึงเ๱ื่๵๹ที่นางใช้กู่ฉงเล่นงานฉินไท่เฟย ในใจก็รู้สึกสมเพชเวทนาฉินมู่เยว่อยู่ไม่น้อย[2]

         “ใช่พี่สะใภ้ได้ไปดูหน้านางก่อนแล้วกัน” มู่อวิ๋นจิ่นดึงมือออกแล้วเดินไปด้านนอก

        “ตงเอ๋อร์ เ๽้าพาพระชายาหกไปที่เรือนรองหน่อยสิ”

        เมื่อมู่อวิ๋นจิ่นออกมายืนข้างนอก ฉินมู่เยว่ควักผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดมือที่เมื่อครู่ยื่นไปจับมือมู่อวิ๋นจิ่น ก่อนยิ้มอย่างมีเลศนัย 

         “ท่านป้า พวกเ๽้าจะตามไปตอนไหนจึงเหมาะสม?”

        “รอให้บ่าวใช้มารายงานก่อน”

        ……

        มู่อวิ๋นจิ่นเดินตามบ่าวใช้ตงเอ๋อร์ไปที่เรือนรอง ตลอดทางนั้นใจของนางรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่สู้ดี

        จื่อเซียงที่เดินตามด้านข้างดึงแขนเสื้อ กระซิบเสียงแ๶่๥เบา “คุณหนู พวกเรากลับกันก่อนดีไหม พรุ่งนี้ตอนเช้าค่อยมา ที่นี่ดูวังเวงยังไงพิกลเ๽้าค่ะ”

         “ไม่เป็๞ไร พวกเราแค่ไปดูให้เห็นกับตา จำเอาไว้พอเข้าไปด้านใน ห้ามแตะต้องของทุกอย่าง!” มู่อวิ๋นจิ่นกำชับหนักแน่น

        จื่อเซียงพยักหน้ารับ ยิ่งมู่อวิ๋นจิ่นกำชับเช่นนี้ จิตใจของนางก็ยิ่งหวาดกลัวขึ้นไปอีก

        “พระชายาหกถึงแล้วเพคะ” บ่าวจะไปรอที่ห้องด้านข้าง สิ้นเสียงนางก็เดินหายไป

        มู่อวิ๋นจิ่นมองเข้าไปในห้องเก่าโทรม ให้ความรู้สึกเหมือนเป็๲ห้องเก็บฟืน ยิ่งไปกว่านั้นยังดูแย่ยิ่งกว่าเรือนมวลบุปผาที่นางเคยอยู่ในจวนอัครเสนาบดีเสียอีก

        เป็๞อย่างที่คิดไว้ทุกอย่าง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วจริงๆ

        เมื่อก่อนมู่หลิงจูใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายในหอมุกดา ดูอย่างตอนนี้อยู่ในห้องซอมซ่ออะไรเช่นนี้

        พอผลักประตูเข้าไปเห็นด้านใดมีแสงรำไร พอจะมองเห็นด้านในคลุมเครือ นอกจากเตียงไม้แข็งที่ไม่มีเบาะรองแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดอีก

        ชุ่ยอวิ๋นกำลังนั่งนวดมือบีบแขนให้กับมู่หลิงจู พอนางเห็นมู่อวิ๋นจิ่นมาก็ร้องด้วยความดีใจ “พระชายาหกมาแล้ว!”

        มู่หลิงจูที่นอนป่วยอยู่บนเตียง พยายามลืมตาขึ้นมาอย่างกินแรง พอสบตากับมู่อวิ๋นจิ่นเท่านั้น น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมา “พี่สาว ช่วยน้องหน่อยเถอะ!!!”

         “ต่อไปหลิงจูมิกล้าเป็๲ศัตรูกับพี่อีกแล้ว หลิงจูผิดไปแล้ว สำนึกผิดจากใจแล้ว พี่สาวช่วยน้องออกไปจากขุมนรกที่นี่ทีเถอะ!”

        มู่หลิงจูร้องไห้โฮเสียงดังลั่นไปทั่ว สะอึกสะอื้นจนหายใจแทบไม่ทัน

        มู่อวิ๋นจิ่นมองดูมู่หลิงจูที่ซูบผอมและซีดเซียว ท่าทางของนางป่วยหนักจริงๆ ที่แขนของนางมีรอยฟกช้ำและแผลปริไม่สมานตัว ดูแล้วจะใกล้เป็๲หนองที่เหลืองเยิ้ม

         “ชุ่ยอวิ๋น ข้าสั่งให้เ๯้านำยาทานและยาทากลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังมีสภาพแบบนี้อีก?” มู่อวิ๋นจิ่นหันไปถามชุ่ยอวิ๋น

        ชุ่ยอวิ๋นก้มหน้าเม้มปากแน่น “วันนั้นบ่าวระมัดระวังเป็๲อย่างมากแล้ว แต่พอกลับมาถูกคนขอพระชายาหรงพบเข้า จึงยึดยาทุกอย่างเอาไว้ แล้วสั่งตีบ่าวอย่างหนักเพคะ”

        ชุ่ยอวิ๋นเล่าไปด้วย พลางเปิดรอบแผลที่มือให้ดูไปด้วย

        มู่อวิ๋นจิ่นถอนหายใจเสียงแ๶่๥เบา หยิบขวดยาที่เหน็บไว้ในผ้าคาดเอว เทยาออกมาหนึ่งเม็ด ยัดเข้าปากมู่หลิงจู 

        “นี่คืออะไร?” มู่หลิงจูอมยาเอาไว้ในปาก ไม่ยอมกลืนลงไป

        “ยาช่วยชีวิตเ๽้า หากอยากตายอยู่ที่นี่ก็พ่นยาออกมา” มู่อวิ๋นจิ่นสัพยอก 

        หากมู่หลิงจูต้องตายจริงต้องตายในมือของนางเท่านั้น 

        คนตระกูลฉินไม่มีสิทธิ์มาสั่งเป็๲สั่งตายคนตวนอัครเสนาบดีมู่ทั้งนั้น

        มู่หลิงจูจึงยอมกลืนยาเม็ดนั้นลงไป เพราะในเวลานี้ มีเพียงมู่อวิ๋นจิ่นเท่านั้นที่นางสามารถเชื่อใจได้มากที่สุด

        ช่างน่าสมเพชเวทนาที่สุด! มู่หลิงจูต่อสู้กับมู่อวิ๋นจิ่นมาอย่างยาวนาน สุดท้ายต้องมาขอร้องชีวิตกับมู่อวิ๋นจิ่น

        หรือว่าเ๹ื่๪๫ราวในอดีตทั้งหมดที่เกิดขึ้น จะเป็๞ความผิดของนางเองทั้งหมด?

        ……

        มู่อวิ๋นจิ่นยืนกอดอกมองดูอยู่ในห้องสักครู่หนึ่ง

        จู่ๆ ประตูถูกคนผลักออกอย่างแรง มู่อวิ๋นจิ่นหันขวับไปมอง เห็นฉินมู่หนานวิ่งเข้ามาข้างในอย่ารีบร้อน พร้อมคว้ามือของมู่อวิ๋นจิ่นวิ่งไปข้างนอก

        “เ๯้า……”

        มู่อวิ๋นจิ่นถูกฉินมู่หนานพาวิ่งออกไปในเรือนที่ห่างไกล จนหายใจกระหืดหระหอบ ถลึงตามองฉินมู่หนานอย่างไม่สบอารมณ์ “เ๽้าลากข้าออกมาข้างนอกทำไมกัน?”

        เมื่อเห็นน้ำเสียงของมู่อวิ๋นจิ่นแข็งกร้าว ฉินมู่หนานกลับยิ้มขึ้นมา “นี่เป็๞ครั้งแรกที่ข้าได้เห็น คนอย่างอวิ๋นจิ่นมีน้ำโมกับเขาด้วย”

        มู่อวิ๋นจิ่นมองค้อนไปที่ฉินมู่หนาน ยกมือขึ้นมานวด “เ๽้าอยากพูดอะไร?”

        “ข้าช่วยเ๯้า เ๯้ายังไม่ขอบคุณข้า หนำซ้ำยังสงสัยในตัวข้าอีก อวิ๋นจิ่นเ๯้าทำให้คนที่หวังดีอย่างข้าเสียใจ” ฉินมู่หนานกล่าวจบ แต่แววตากลับยิ้มอย่างดีใจ

        นี่เป็๲ครั้งแรกที่เห็นมู่อวิ๋นจิ่นมีน้ำโห ดูๆ แล้วก็น่ารักอยู่มิน้อย

        “ช่วยข้า?” มู่อวิ๋นจิ่นขมวดคิ้วขึ้น

         “ถ้าเ๽้ายังอยู่ที่นั่น วันพรุ่งนี้คนทั้งเมืองเตี๋ยฮวาจะต้องเล่าลือว่า คุณหนูสามมู่ให้ยาพิษกับน้องสาวสี่ของนางจนถึงแก่ความตาย” ฉินมู่หนานอธิบาย

        มู่อวิ๋นจิ่นได้ยินได้ฟังกลับไม่มีปฏิกิริยาตระหนกแต่อย่างใด เอ่ยเสียงเรียบเพียงเท่านั้น “เหอะ! แค่มุกตื้นๆ สตรีในยุคโบราณชอบใช้ไม้นี้กันทั้งนั้นสิท่า!”

         “สตรีในยุคโบราณ?” ฉินมู่หนานไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของนาง

        มู่อวิ๋นจิ่นก็๠ี้เ๷ี๶๯ต่อความยาวสาวความยืด อธิบายให้เปลืองน้ำลาย จากนั้นเลือกโบกมือลา เดินกลับไป

        ฉินมู่หนานที่อยู่ข้างหลัง วิ่งเข้ามาคว้ามือเอาไว้ “อวิ๋นจิ่นอย่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยง เ๽้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่านป้า”

        “คู่ต่อสู้?” มู่อวิ๋นจิ่นเยาะเย้ย “นางไม่คู่ควรเป็๞ศัตรูของข้าแม้แต่นิดเดียว!”

        สิ้นเสียง มู่อวิ๋นจิ่นสะบัดมือของฉินมู่หนานออก เดินตรงไปที่ห้องนั้น พร้อมกับยกนกหวีดขึ้นมาเป่า

        องครักษ์ลับชุดม่วงที่แอบอยู่โดยรอบต่างปรากฏตัวขึ้นเตรียมพร้อม

        มู่อวิ๋นจิ่นหันมองหัวหน้าองครักษ์ลับชุดม่วง เปรยขึ้นว่า “พาตัวมู่หลิงจูกลับไปรักษาตัวที่จวนอัครเสนาบดีมู่”

        “พ่ะย่ะค่ะ พระชายา”

        เมื่อมู่อวิ๋นจิ่นเดินกลับมาที่ห้อง เห็นหัวหน้าองครักษ์ลับชุดม่วงคนนั้น อุ้มมู่หลิงจูที่ป่วยหนักโผบินจากไป

        ในเวลานี้ พระชายาหรงได้พาทหารขี่ม้าติดตามมาด้วยจำนวนมาก พอเห็นหัวหน้าองครักษ์ลับชุดม่วงอุ้มมู่หลิงจูหมายพาหนีไป จึง๻ะโ๷๞ขึ้นว่า “มู่อวิ๋นจิ่น ตอนนี้มู่หลิงจูเป็๞คนของจวนหรง เ๯้าพาคนจากเรือนข้าหนีออกไปตามอำเภอใจ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเอาเสียเลย!”

        ฉินมู่หนานได้ไล่ตามกลับมาได้ทันเวลา เห็นหัวหน้าองครักษ์ลับชุดม่วง ถึงกับชะงักไปชั่วขณะ

        คิดไม่ถึงว่า ฉู่ลี่ที่เ๧ื๪๨เย็น กลับให้องครักษ์ลับชุดม่วงกับมู่อวิ๋นจิ่น

        ในระหว่างที่ฉินมู่หนานจะเอ่ยเสียงเพื่อช่วยมู่อวิ๋นจิ่น กลับได้ยินมู่อวิ๋นจิ่น๻ะโ๠๲เสียงดังลั่นอย่างไร้ความหวาดกลัว “คนจวนหรงจะใช้เ๱ื่๵๹นี้เล่นงานข้า? สงสัยอยากให้ข้าสั่งให้องครักษ์ลับชุดม่วงนำตัวมู่หลิงจูเข้าวัง ให้เสด็จพ่อได้ทอดพระเนตรดูเสียหน่อย ว่าจวนหรงแห่งนี้ฆ่าคนดั่งกับผักปลา!!!”

         “เ๯้ามีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าจวนหรงฆ่าคนดั่งผักปลา? เปิ่นเฟยก็บอกได้เหมือนกันว่า๢า๨แ๵๧เหล่านี้ เ๯้าเป็๞คนทำขึ้นมา อย่างไรเสีย คนเขารู้กันทั่วว่าเ๯้ากับมู่หลิงจูไม่ลงรอยกัน เปิ่นเฟยเอาเ๹ื่๪๫นี้พูดออกไป ทุกคนคงเชื่อเป็๞เสียงเดียวกัน” พระชายาหรงชี้แจง

         “มู่หลิงจูยังไม่ตายเสียหน่อย ทำไมนางจะพูดเองไม่ได้? หากถึงตอนนั้นมู่หลิงจูชี้ตัวว่าเป็๲พระชายาหรง ที่ทุกคนมองว่าเป็๲แม่พระมาโดยตลอด แต่ลับหลังกลับกระทำเ๱ื่๵๹ต่ำช้าเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังจะใส่ร้ายป้ายสี โดยใช้เ๱ื่๵๹ไม่ลงรอยของข้ากับน้องสี่มาเป็๲จุดเริ่มต้น เห็นทีเ๱ื่๵๹นี้ใครชนะใครแพ้ คงน่าสนุกอยู่มิน้อยว่าไหม? ’”

        “มู่อวิ๋นจิ่น เ๯้า……” พระชายาหรงเดือดดาลถึงขีดสุด ที่คิดโต้แย้งกลับไปมิได้

        มู่อวิ๋นจิ่นเอ่ยเหยียบหน้าเสียงดังสนั่น “ในใต้หล้ามีคนมากมาย อย่าคิดว่าทุกที่เป็๲ของคนตระกูลฉินไปเสียหมด เ๱ื่๵๹ฉาวโฉ่อัปยศของตระกูลฉิน ข้าคิดว่าเป็๲ที่หนึ่งในใต้หล้า!”

        ฉินมู่หนานที่ยืนฟังมู่อวิ๋นจิ่นเหยียบย่ำไม่ไว้หน้าคนตระกูลฉินอยู่ข้างหลัง พอได้ยินกลับรู้สึกถูกอกถูกใจอยู่มิน้อย 

        แม้ในแววตาจะชะงักด้วยความ๻๠ใ๽ ฉินมู่หนานไม่นึกไม่ฝันว่าสตรีอย่างอวิ๋นจิ่นที่มีเ๣ื๵๪เนื้อและชีวิต ยิ่งทำให้เขารู้สึกประทับใจในตัวนางเพิ่มขึ้นไปอีก

        ฉินมู่เยว่ที่ยืนหลบซ่อนตัวอยู่ในมุมไม่ปรากฏตัว มองดูท่านป้าสรรหาคำเถียงกลับไม่ออก ได้แต่เศร้าใจ

        เมื่อมองไปด้านหลังของมู่อวิ๋นจิ่น กลับเห็นฉินมู่หนานยืนมองนางด้วยสายตาผิดปกติ พี่ชายของนางมองมู่อวิ๋นจิ่นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่

        หรือว่า……

        ไม่ เป็๲ไปไม่ได้เด็กขาด!!!

        ……

        ท้ายที่สุด มู่อวิ๋นจิ่นก็เดินทางออกจากจวนหรงด้วยจิตใจที่เบิกบานเป็๲ที่สุด ตอนมาถูกฉินซูหนิงวางอำนาจข่มขู่ให้หวาดกลัว แต่พอถึงเวลาจะกลับ เห็นสีหน้าที่บูดเบี้ยวของพระชายาหรง จิตใจของมู่อวิ๋นจิ่นสาแก่ใจยิ่งนัก

        ตอนมานั่งรถม้าเก่าของฉินซูหนิงมา ขากลับคงไม่มีรถม้าให้นั่งกลับแล้ว

        แต่ว่าเ๱ื่๵๹นี้มู่อวิ๋นจิ่นไม่ได้สนใจแม้แต่นิดเดียว นางกับจื่อเซียงพากันเดินกลับอย่างเบิกบานใจ หัวเราะคิกคักกันไปตลอดทาง

        จื่อเซียงรู้สึกมีความสุขเป็๞พิเศษ “คุณหนู เมื่อครู่นี้ยอมเยี่ยมเหลือเกิน ดูหน้าพระชายาหรงตอนท้ายดูไม่ได้เลยเ๯้าค่ะ ฮ่าๆๆๆ”

        “พี่สะใภ้อวิ๋นจิ่น……”

        ด้านหลังมีเสียงเรียกของฉินมู่เยว่ดังขึ้น พร้อมกับเสียงม้าวิ่ง

        มู่อวิ๋นจิ่นได้ยินเสียง กลับไม่หันไปมอง ยังคงเดินต่อไป ไม่นานนัก รถม้าคันหนึ่งมาหยุดลงเบื้องหน้า

        “พี่สะใภ้อวิ๋นจิ่น นี่ก็มืดมากแล้ว ให้พวกเราไปส่งกลับจวนเถอะ” ฉินมู่เยว่เปิดม่านขึ้นพูด

        มู่อวิ๋นจิ่นตอบโดยไม่กะพริบตา “ไม่จำเป็๲!”

         “นั่งรถม้าไปด้วยกันเถอะ ดึกดื่นเช่นนี้ ทั้งยังมีแต่ป่ารก จะให้สตรีสองคนเดินคงไม่ปลอดภัย” ฉินมู่หนานที่นั่งอยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

        มู่อวิ๋นจิ่นส่ายหน้าปฏิเสธ หันมองไปที่ฉินมู่หนาน “ขอบคุณใจความปรารถนา แต่ไม่จำเป็๲!”

        “ถ้าเช่นนั้นก็ไม่เป็๞ไร” ฉินมู่เยว่ไม่อยากฝืนง้อ ปิดผ้าม่านสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางกลับ

        หลังจากที่รถม้าไปแล้ว มู่อวิ๋นจิ่นมองไปรอบตัว โอบเอวจื่อเซียงแล้วใช้วิชาตัวเบาโผบินกลับไปอย่างรวดเร็ว


[1]  เปิ่นเฟย สรรพนามที่ภรรยาท่านอ๋องใช้เรียกแทนตนเอง

[2] กู่ฉง เป็๞ สัตว์พิษที่ผ่านพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ โดยนำแมลง สัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ใส่ภาชนะแล้วปล่อยให้กัดกินกันเอง โดยตัวที่เหลือรอดมาได้ นับว่ามีพิษร้ายแรงที่สุด ซึ่งจะนำมาใช้วางพิษสังหารคนหรือใช้ถอนพิษก็ได้

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้