เนี่ยเทียนสลบไสลไม่ได้สติ ผิวเปลือยเปล่าที่โผล่พ้นออกมาจากผิวน้ำเป็สีแดงจนม่วงฃ
“บุ๋ม บุ๋ม!”
ฟองอากาศฟองแล้วฟองเล่าะเิปะทุออกอย่างรวดเร็ว ระเหยขึ้นมาเป็ไอน้ำสีเขียวอ่อน
ทั่วทั้งห้องค่อยๆ ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมเข้มข้นของยา ผิวน้ำที่เดือดอยู่ในถังไม้ เมื่ออยู่ภายใต้แสงเทียนที่ส่ายไหวก็เปล่งประกายแสงประหลาดแวววับเช่นกัน
“ฮือ...”
เสียงร้องพึมพำของเนี่ยเทียนที่อยู่ในถังน้ำที่กำลังเดือดพล่านอยู่นั้น รูขุมขนทั่วร่างเขาคล้ายถูกบีบให้ขยายตัวออก กำลังดูดกลืนตัวยาจากในน้ำอย่างตะกละตะกลาม
ร่างของเขาที่เดิมทีก็แข็งแกร่งกว่าเด็กทั่วไปอยู่แล้ว บัดนี้ค่อยๆ พองขยายขึ้นคล้ายถูกเติมลมเข้าไป
“เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!”
เสียงประหลาดดังออกมาจากกระดูกและอวัยวะภายในของเขา กล้ามเนื้อตลอดร่างของเขาราวกับกำลังโห่ร้องอย่างบ้าคลั่ง
ม่านแสงอ่อนจางชั้นหนึ่งที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแผ่กระจายออกมาโดยมีหมอมู่หัวเป็จุดศูนย์กลาง ปกคลุมเนี่ยเทียนและถังไม้เอาไว้ด้านใน
“อ๊าก!”
เนี่ยเทียนพลันเปล่งเสียงร้องโหยหวนอย่างข่มกลั้นไม่ไหว เสียงร้องนี้ดังลั่น ทว่ากลับไม่สามารถเล็ดลอดออกมาจากม่านแสงสีอ่อนจางเ่าั้ได้
ม่านแสงเกิดเป็คลื่นริ้วละเอียดบางราวน้ำไหล ช่วยสกัดกั้นเสียงทุกอย่างเอาไว้ได้ ทำให้พวกเนี่ยตงไห่และเนี่ยเฉี่ยนที่นั่งอยู่นอกห้องห่างออกไปไม่ไกล ััไม่ได้แม้แต่น้อย
“อ๊าก!”
แสงไฟห้าสีเส้นแล้วเส้นเล่าทะลวงเข้าทะลวงออกตามรูขุมขนใต้ิัของเนี่ยเทียน เมื่อเสียงร้องโหยหวนของเนี่ยเทียนดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า น้ำยาในถังไม้ที่แต่เดิมขุ่นคลั่กก็ค่อยๆ กลายมาเป็น้ำใสราวน้ำค้าง
ราวกับว่าน้ำยาล้ำค่าที่หัวมู่เทลงไปล้วนถูกรูขุมขนของเนี่ยเทียนดูดซับแล้วหลอมรวมเข้ากับเืเนื้อของเขาทีละนิด
และไข้สูงของเนี่ยเทียนก็ค่อยๆ ลดลงตามน้ำที่เริ่มใสสะอาดขึ้น
ครู่ใหญ่ เนี่ยเทียนที่ความรู้สึกเ็ปรวดร้าวเรี่มถดถอยลง ไม่ได้ร้องโหยหวนต่อ ม่านแสงสีอ่อนที่ออกมาจากร่างของหัวมู่ก็ค่อยๆ กลายร่างเป็เส้นลำแสงหายเข้าไปในร่างของหัวมู่
น้ำร้อนเดือดพล่านกลายมาเป็น้ำเย็นนิ่งสงบ เนี่ยเทียนที่สลบไสลมาสามวันเต็ม หลังจากไข้ลดลงจึงลืมตาขึ้นมาได้
และเวลานี้เอง ประกายประหลาดในดวงตาของหัวมู่พลันหายวับไป
เขาโค้งตัวลง กล่าวด้วยสีหน้านิ่งเฉย “ข้าน้อยหัวมู่ ท่านตาของเ้าเชิญให้ข้ามาช่วยรักษาอาการตัวร้อนของเ้า”
เนี่ยเทียนที่ยังไม่ฟื้นคืนสติกลับมา หัวสมองมึนงง ถามด้วยความสับสน “ข้าไข้ขึ้นสูงกี่วันรึ?”
“สามวันขอรับ” หัวมู่ตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย
“สามวันเลยหรือ!” เนี่ยเทียนสีหน้าตื่นตะลึง มือทั้งสองกดลงบนขอบอ่างไม้ ทำท่าจะะโออกมา
“พลั่ก!”
ถังไม้ที่แข็งแรงทนทาน เมื่อถูกมือทั้งสองข้างของเนี่ยเทียนกดลงไปก็คล้ายไม่สามารถแบกรับเรี่ยวแรงอันมหาศาลจึงแตกกระจายออกเป็เสี่ยงๆ
“ซ่า ซ่า!”
เมื่อน้ำไหลออกมาจากถังไม้ สีหน้าเนี่ยเทียนก็พลันตื่นตระหนก มองเศษไม้ที่แตกออกเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย
หัวมู่สีหน้าดังเดิมคล้ายรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็เช่นนี้ กล่าวด้วยเสียงราบเรียบ “โรคประหลาดนี้ของเ้ายังไม่หายขาด เ้าจำเป็ต้องแช่น้ำยาด้วยฝีมือข้าอยู่อย่างนี้ต่อไปอีกหกวัน”
เนี่ยเทียนยกมือขึ้น ขยับเคลื่อนไหวแขนตามใจคิด ััได้ว่าพลังกายในร่างของเขาแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้ยิ่งนัก
“ข้ารู้สึกดียิ่งนัก น่าจะไม่มีไข้อีกแล้ว” เนี่ยเทียนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
“ข้าเป็หมอ โรคประหลาดของเ้า คนอื่นล้วนรักษามิได้ ข้าเป็คนรักษาเ้าจนหาย ดังนั้นเ้าต้องเชื่อฟังข้า รักษาต่อไปตามที่ข้าบอก!” หัวมู่พูดด้วยน้ำเสียงไม่ยอมให้ปฏิเสธ
“อ้อ ก็ได้” เนี่ยเทียนเกาหัว
“ท่านมู่ ข้า ข้าเข้าไปได้หรือยัง?” นอกห้อง เนี่ยตงไห่ที่ร้อนใจราวกับไฟเผาได้ยินเสียงถังน้ำแตก รวมถึงเสียงพูดคุยระหว่างหัวมู่และเนี่ยเทียน จึงทนรอไม่ไหวอีกต่อไป
“เข้ามาเถอะ” หัวมู่กล่าวอย่างช้าๆ
“ปัง!”
เนี่ยตงไห่ผลักประตูออกอย่างแรง เนี่ยเฉี่ยนที่เป็กังวลไม่ต่างกันก็พุ่งเข้ามาด้วย
เมื่อเข้ามา พวกเขาก็เดินไปหยุดอยู่ข้างกายเนี่ยเทียนทันที ยื่นมือออกไปจับข้อมือของเนี่ยเทียน เมื่อพบว่าไข้ของเขาลดน้อยลง อุณหภูมิในร่างกายกลับมาเป็ปกติแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนเป็ดีใจอย่างบ้าคลั่ง
ไม่รอให้มู่หัวพูดมาก เขาก็ะโขึ้นมาเสียงดัง “หานเยวี่ย เอาค่าตอบแทนมามอบให้ท่านหัวบัดเดี๋ยวนี้!”
สาวใช้หานเยวี่ยหยิบเอาถุงผ้าที่บรรจุเงินทอง หินวิเศษหลายก้อน และยังมียาสมุนไพรมากมายเต็มถุง ส่งมาให้หัวมู่ด้วยความนอบน้อม
หัวมู่รับมาอย่างลำพองใจ ไม่มองแม้แต่หางตา ยัดถุงผ้านั้นไว้ในกล่องยาลวกๆ ราวกับไม่สนใจของรางวัลเ่าั้เลยสักนิด
“บุญคุณใหญ่หลวงเอ่ยขอบคุณเพียงปากเปล่าคงมิได้ อย่างไรเสียก็ขอให้ท่านหัวอยู่ที่จวนเนี่ยของเราต่ออีกหน่อยเถิด ข้าจะรับรองท่านเป็อย่างดี” เนี่ยตงไห่กล่าวอย่างจริงใจ
“ยังไม่ได้รักษาจนหายขาด” หัวมู่โบกมือ ปฏิเสธความหวังดีของเนี่ยตงไห่แล้วพูดว่า“อีกหกวันต่อมา ทุกวันเวลานี้ข้าจะมาที่นี่หนึ่งรอบ พวกเ้าเตรียมถังไม้และน้ำร้อนเอาไว้ ข้ายังคงต้องใช้วิธีการเช่นเดิมรักษาอาการประหลาดของหลานท่านให้หายดี”
“ยังรักษาไม่เสร็จหรือ?” เนี่ยตงไห่สีหน้าตึงเครียด
“ไม่ต้องกังวลเกินไปนัก เขาไม่เป็อะไรมาก” หัวมู่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย พูดอย่างมั่นใจว่า “ข้าบอกแล้วว่าสามารถรักษาเขาได้ก็ย่อมต้องทำได้จริง วันนี้ข้าพิสูจน์ตัวเองให้พวกท่านเห็นแล้ว พวกท่านก็ควรจะเชื่อข้า”
“แน่นอน! แน่นอน!” เนี่ยตงไห่รีบกล่าว ทั้งยังโค้งตัวลงต่ำ “ถ้าเช่นนั้นอีกหลายวันที่เหลือก็ต้องรบกวนนายท่านหัวแล้ว นายท่านหัวเพิ่งมาที่เมืองเฮยอวิ๋นเป็ครั้งแรก คงจะไม่มีที่พักกระมัง? ถ้าไม่อย่างนั้นก็พักที่จวนตระกูลเนี่ยของเราก่อนดีหรือไม่? วางใจได้ ข้าจะต้องจัดห้องรับรองที่สบายที่สุดให้ท่าน ไม่มีทางละเลยแน่นอน”
“ไม่จำเป็หรอก ข้าชอบความสงบ อยากจะเดินเล่นในเมืองเพียงลำพังเท่านั้น” ดูเหมือนหัวมู่ไม่สนใจอยากจะพูดคุยกับเนี่ยตงไห่มากเท่าไหร่นัก หลังจากกล่าวประโยคสุดท้ายจบก็เดินตรงดิ่งออกไปนอกห้อง
“ท่านตา คนผู้นี้คือใครหรือ? แล้วก็ เหตุใดข้าถึงไข้ขึ้นตั้งสามวันเล่า?” หลังจากที่หัวมู่จากไป เนี่ยเทียนจึงถามขึ้นอย่างงุนงง
“เ้าเด็กบ้า!” รอยน้ำตาของเนี่ยเฉี่ยนยังไม่แห้งเหือด กล่าวด้วยความเ็ปใจว่า “หลังจากที่เ้าสู้กับเนี่ยหง คืนนั้นอยู่ๆ เ้าก็ตัวร้อน รอจนข้ามาเจอ เ้าก็ไข้ขึ้นสูงจนสลบไปแล้ว พวกเราไปหาหมอที่มีชื่อเสียงทั้งในและนอกเมืองเฮยอวิ๋นก็ล้วนไม่มีผู้ใดรักษาเ้าได้ เตรียมจะพาเ้าส่งไปที่สำนักหลิงอวิ๋นอยู่แล้ว แต่นายท่านหัวก็มาเสียก่อน...”
นางอธิบายเื่ราวอย่างละเอียดหนึ่งรอบ จากนั้นก็ถามว่า “เป็อย่างไรบ้าง? ตอนนี้รู้สึกอย่างไร? ร่างกายอ่อนแอไปมากหรือไม่?”
“ไม่ ไม่ได้อ่อนแอมากนัก” เนี่ยเทียนส่ายหัว สีหน้าเผยความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด “กลับกัน ข้ารู้สึกว่า... สบายดีมาก ไม่ สบายดีมากๆ เลยล่ะ!”
“หมายความว่าอย่างไร?” เนี่ยตงไห่ถามอย่างแปลกใจ
“พอไข้ลดลง ข้าก็รู้สึกเหมือนมีพละกำลังที่ใช้ไม่หมด คล้ายว่าจะแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ” เนี่ยเทียนครุ่นคิดหาคำพูดมาใช้อธิบาย “พลังิญญาในจุดตันเถียนไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ทว่าพละกำลังตลอดร่างกายกลับเพิ่มขึ้นมาไม่น้อยจนข้าััได้”
“ถ้าอย่างนั้นก็แปลกแล้ว” เนี่ยตงไห่จ้องมองเขาด้วยสายตาลึกล้ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความฉงนสนเท่ห์
“ไม่เป็อะไรก็ดีแล้ว ไม่เป็อะไรก็ดีแล้ว” เนี่ยเฉี่ยนไม่คิดให้มากความ “ต่อไปเ้าพยายามเลี่ยงการต่อสู้กับเนี่ยหงให้มากที่สุด อย่างไรเสียขอบเขตของเขาก็สูงกว่าเ้าถึงสามขั้น พลังิญญาล้นออกมาข้างนอกได้แล้วด้วย แต่เ้ากลับดึงดันจะฝืนสู้ ข้าเดาว่าที่อยู่ๆ ครั้งนี้เ้าตัวร้อนกะทันหันสาเหตุก็เป็เพราะการต่อสู้ระหว่างเ้ากับเขา สู้ไม่ได้ก็ไม่ต้องสู้ ขอบเขตของเ้าต่ำกว่านัก แพ้ก็แพ้ไป กระดูกเ้าไม่ได้แข็งขนาดนั้น”
“ข้ารู้สึกว่าหากตอนนี้ข้าต่อสู้กับเนี่ยหงอีกครั้ง ข้าสามารถเอาชนะเขาได้สบายๆ!” เนี่ยเทียนแสยะปาก เผยรอยยิ้มสดใสเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ยังจะปากดีอีกรึ! ข้าไม่อยากเห็นเ้าไข้สูงจนหมดสติไปอีกครั้งหรอกนะ! ครั้งนี้โชคดีที่นายท่านหัวเดินทางผ่านเมืองเฮยอวิ๋นพอดี ไม่อย่างนั้น...” พูดมาถึงตรงนี้เนี่ยเฉี่ยนก็น้ำตาหยดอีกครั้ง “หากเ้าเป็อะไรขึ้นมาจริงๆ ป้าใหญ่ก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว หากเกิดเื่กับเ้า ต่อไปข้าก็ไม่มีหน้าไปพบแม่ของเ้า”
“เอาน่า เอาน่า ข้ารู้แล้ว ต่อไปจะไม่ก่อเื่อีกแล้ว” เนี่ยเทียนกล่าวด้วยความปวดหัว
“หลายวันนี้อยู่แต่ในบ้าน ห้ามออกไปไหนทั้งนั้น!” เนี่ยตงไห่กำชับเข้มงวด
“ขอรับ” เนี่ยเทียนพยักหน้าอย่างจนใจ
ในห้องลับที่เนี่ยเป่ยชวนบำเพ็ญตบะ
“ท่านพ่อ หมอต่างแดนคนนั้นรักษาไข้ของเนี่ยเทียนให้ลดลงได้จริงๆ ด้วย” เนี่ยคั่นเดินเข้ามาด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม พูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเสียดาย
เนี่ยเป่ยชวนที่ดึงเอาความเย็นจากเสาหยกสีนิลด้านหลังมาหลอมรวมเข้ากับจุดตันเถียนลืมตาขึ้น กล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉยว่า “ในเมื่อเนี่ยเทียนไม่เป็อะไร ถ้าเช่นนั้นข้าก็ต้องคุยกับพี่ใหญ่ของข้าเสียหน่อย ตามที่เขาพูดเอาไว้ พรุ่งนี้เขาควรจะบอกกล่าวผู้าุโทุกคนในตระกูลให้ชัดเจน จากนั้นเขาก็ต้องเป็ฝ่ายยกตำแหน่งประมุขให้ข้าด้วยตัวเอง”
“ควรจะเป็เช่นนี้มาตั้งนานแล้ว เขายึดครองตำแหน่งประมุขตระกูล หลายเื่พวกเราล้วนไม่สะดวกที่จะลงมือ ต่อไป... ก็ง่ายแล้ว” เนี่ยคั่นพูดด้วยความฮึกเหิม
“แม้ว่าวันนี้จะดึกไปเสียหน่อย แต่เขาน่าจะยังไม่นอน” เนี่ยเป่ยชวนลุกขึ้นยืน เดินออกจากห้องลับเพื่อไปพูดคุยกับเนี่ยตงไห่ให้รู้เื่
------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้