“คนเลว!”
กู้ตงหยางถึงกับชะงักไป ไม่คิดว่าจะถูกเสียงหวานตวาดเอา แต่สิ่งที่ทำให้เขาใคือหยาดน้ำตาหยดใสไหลจากดวงตาคู่งาม มือเล็กๆ เหวี่ยงเปะปะไปมา เขาแค่หยอกล้อเท่านั้นไม่คิดว่าจะใถึงเพียงนี้ หรือเขาอยู่กับพวกทหารมากเกินไป เื่เล็กน้อยแค่นี้จึงทำให้นางโกรธ และยามนี้เขา ‘ปลอบใจ’ ไม่เป็ มือเล็กปัดป่ายไปมาแตะถูกใบหน้าของเขา กู้ตงหยางยื่นมือไปคว้าท้ายทอยนางไว้แล้วกดริมฝีปากลงกับริมฝีปากที่สะอึกสะอื้นอยู่
แม้เป็สามีภรรยาแต่ยังไม่เข้าหอ จ้าวจื่อรั่วแตกตื่นใยิ่งขยับตัวถอยหนี ทั้งใช้มือไม้ดันแผ่นอกของเขาออก แต่เพราะท้ายทอยถูกจับไว้แน่นและลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในโพรงปาก
“อื้อ!” นางได้แต่ส่งเสียงอู้อี้ ถูกกอดรัดแน่นขึ้นจนมือของนางชิดที่แผ่นอกของแม่ทัพหนุ่มจนขยับไม่ได้อีก ดวงตาฉ่ำหยดน้ำตาสบตากับดวงตาร้อนแรงของเขาแล้วก็รู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วร่าง แม้ยามนี้ร่างกายเปียกชุ่มเพราะอยู่ในอ่างอาบน้ำ
อ่างอาบน้ำ
จ้าวจื่อรั่วได้สติเพิ่งนึกได้ว่าถูกเหวี่ยงลงน้ำซ้ำยังโดนกดน้ำอีก นี่เขายังใจร้ายปิดปากนางจนแทบหายใจไม่ออกตายอยู่แล้ว
เพราะร่างเล็กดิ้นขลุกขลักทำให้กู้ตงหยางได้สติ เขาคลายวงแขนที่กอดรัดร่างนุ่มนิ่มพร้อมกับถอนริมฝีปากอย่างเสียดาย ใบหน้างามแดงก่ำขยับตัวถอยไปชิดอีกฝั่งของอ่างอาบน้ำ ดวงตาหรี่มองเรือนร่างในอาภรณ์เรียบง่ายที่ยามนี้รัดรึงสัดสวนจนเห็นความเย้ายวนเบื้องหน้า เหมือนนางจะเพิ่งรู้ตัวจึงรีบทรุดกายลงไปในน้ำ มีเพียงใบหน้าที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมามองเขา
“ท่าน...ท่านรังแกข้า!” นางพูดเสียงสั่น
“ถ้าใช้แล้วอย่างไร” เขาพูดหน้าตาเฉย แต่สายตายังคงจ้องมองที่นาง
“ท่าน! ท่านกดข้าจมน้ำ”
“ข้าเป็สามีเ้า จะทำสิ่งใดก็ย่อมได้”
จ้าวจื่อรั่วพูดไม่ออก น้ำตาที่หยุดไหลก็เอ่อล้นออกมาอีกระลอก
“ท่านเป็สามี...้าสิ่งใดก็ย่อมได้...” นางพึมพำออกมา “ถ้าท่าน้าให้ข้าตาย ข้าก็ตายสินะ”
‘หรือว่า... คนอย่างข้าตายไปเสียก็ดี มีชีวิตอยู่ก็เกะกะลูกตาผู้อื่น’
“ข้าจะอยากให้เ้าตายเพื่อสิ่งใดกัน”
เขาข่มความรู้สึกสั่นไหวในอก ท่าทางอ่อนแอไร้ที่พึ่งนี้หมายความว่าอย่างไร ชีวิตนางอยู่กับเขาไม่มีความสุขหรือ? นางเป็ถึงฮูหยินแม่ทัพใหญ่ มีบ่าวไพร่ค่อยรับใช้ บรรดาหญิงสาวในเมืองต่างหมายปองตำแหน่งนี้ แต่นางกลับได้มาอย่างง่ายดาย แล้วยัง้าสิ่งใดอีก
“ก็ท่าน...”
“ช่างเถอะ เ้าจะไปไหนก็ไป”
ดวงตางามกะพริบปริบๆ ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ความจริงนางต้องมาปรนนิบัติรับใช้เขา แต่เื่กลับเป็เช่นนี้ ช่างน่าขันนัก นางคงลืมตัวไป ตนเองเป็แค่ลูกอนุซ้ำยังไม่ใช่หญิงงาม เป็แค่สตรีผู้หนึ่งที่ไม่ต่างจากเม็ดกรวดเม็ดทรายที่แทบมองไม่เห็น หากนางเจียมตัวอีกนิด ก็คงไม่ทำให้ท่านแม่ทัพขุ่นข้องหมองใจเช่นนี้
จ้าวจื่อรั่วสูดลมหายใจลึก ฝืนไม่ให้ตนเองยกมือขึ้นปาดน้ำตา แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ แม้เสื้อผ้าของนางอยู่ครบทุกชิ้น แต่ยามนี้เปียกลู่แนบลำตัว ทว่านางไม่มีกระจิตกระใจยกมือขึ้นปกปิด อย่างไรนางก็แค่หญิงอัปลักษณ์ รีบไปให้พ้นสายตาของเขาจะดีกว่า
กู้ตงหยางกัดฟันกรอด นางตั้งใจทำอะไร! ยั่วยวนเขารึ! แต่เดิมก็เป็คนที่อดกลั้นกับเื่เย้ายวนเช่นนี้ได้ดี เขาเป็บุรุษเต็มตัวเห็นเรือนร่างอรชรย่อมหวั่นไหว ภาพตรงหน้าดึงดูดสายตาเขาั้แ่นางค่อยๆ ปีนลงจากอ่างอาบน้ำ นางยอบกายคารวะและหมุนตัวเดินออกไปเงียบๆ
บิดาเถอะ ! เ้ากล้าไปงั้นรึ!
แม่ทัพหนุ่มลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ รีบร้อนจนไม่หยิบผ้ามาซับน้ำ เขาคว้าเสื้อคลุมมาสวมแล้วใช้สายรัดเอวผูกไว้อย่างรีบเร่งแล้วสาวเท้าเดินตามร่างที่เดินออกไปอย่างเหม่อลอย บัดซบ! นางจะออกจากเรือนด้วยสภาพนี้ได้อย่างไรกัน ผู้หญิงของเขาจะให้ผู้อื่นมองได้อย่างไร
“ว้าย!” จ้าวจื่อรั่วร้องอย่างใ ไม่คิดว่าจู่ๆ ถูกอุ้มขึ้นแบบนี้ “ท่านจะทำอะไร ปล่อยข้าลงนะ”
“แล้วเ้าเล่าจะทำอะไร” เขาทำหน้าดุแล้วอุ้มนางเดินกลับมาในห้อง เห็นขาสั้นๆ ไฉนเดินเร็วนัก พริบตาเดียวจะออกนอกเรือนแล้วเชียว
“ข้าจะไปให้พ้นหน้าท่านอย่างไรเล่า”
นางขึงตาใส่พร้อมทั้งดิ้นรน แต่ถูกเหวี่ยงลงบนที่นอน ข้อมือสองข้างถูกรวบขึ้นไว้เหนือศีรษะ ร่างสูงใหญ่คร่อมร่างของหญิงสาว กู้ตงหยางเองก็ไม่คิดว่าภรรยาที่แสนเรียบร้อยจะพยศถึงเพียงนี้ สองเท้าของนางพยายามขยับไปมาทำให้เขาต้องใช้ท่อนขากดทับไว้ และทำให้ร่างกายแนบชิดกันมากยิ่งขึ้น ท่อนเนื้อแข็งขันขึ้นจนปวดหนึบ
บัดซบ! อย่างนี้สินะที่ว่ากันว่า คุยกับสตรีนั้นคุยยาก ลงมือเสียเลยยังง่ายกว่า
“ท่านจะทำอะไร!” จ้าวจื่อรั่วร้องเสียงหลงมือใหญ่ข้างที่ว่างกระชากเสื้อผ้าของนางออก ไอเย็นััผิวกายอ่อนนุ่มจนนางสั่นสะท้าน หรืออาจเพราะสายตาร้อนแรงของเขาที่ทำให้นางวูบไหวไปทั่วร่าง
“ให้เ้าทำหน้าที่ภรรยาอย่างไรเล่า”
สิ้นประโยคริมฝีปากหยักสวยก็จูบกลีบปากของหญิงสาวอีกครั้ง ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปโพรงปากสาวปล้นสติอันน้อยนิดไปหมดสิ้น เสียงครางอู้อี้ดังขึ้นก่อนที่จะกลายเป็เสียงครางแ่เมื่อจูบนั้นร้อนแรงขึ้น เสื้อผ้าถูกปลดเปลืองออกไปเผยผิวกายเนียนละเอียดดุจหยกใส เมื่อรับรู้ได้ว่าไร้แรงต่อต้านเขาจึงปล่อยมือจากข้อมือเรียวเล็กแล้วบีบเคล้นทรวงอกอวบอิ่มที่ใหญ่กว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก เขาละจากริมฝีปากที่บวมเจอแล้วพรมจูบซอกคองามระหง เรียวลิ้นตวัดเลียผิวกายหอมกรุ่นจนมาถึงปลายถันสีหวานก่อนอ้าปากแล้วดูดดึง
“อ๊ะ!” จ้าวจื่อรั่วหลุดเสียงร้องออกมาแล้วกัดริมฝีปากไม่กล้าส่งเสียงน่าละอายอีก แต่เหมือนว่าการทำเช่นนี้ทำให้กู้ตง หยางยิ่งดูดกลืนหน้าอกของนางแรงขึ้นรวมทั้งบีบเคล้นหนักมือขึ้น ทำให้ร่างนางบิดเร่าไปมาด้วยความเสียวซ่าน
“อย่ากลั้น” เขาเอ่ยเสียงพร่าแล้วย้ายมาขบเม้มปลายถันอีกข้าง ตวัดลิ้นหยอกล้อยอดอกสลับกับดูดดึงในอุ้งปากจนปลายถันกลายเป็สีแดงเรื่อ
“ท่าน...ท่านแม่ทัพ อึก...อื้อ...”
แม้เคยดูหนังสือภาพวังวสันต์ก่อนเข้าหอ แต่นางไม่เคยรู้เลยว่าััที่เห็นในภาพจะให้ความรู้สึกแปลกประหลาดเช่นนี้ ท้องน้อยปั่นป่วนไปหมด ร้อนวูบวาบไปทั่วร่าง ไม่รู้ตัวเลยว่าเขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางออกั้แ่เมื่อใด เมื่อท่อนล่างเปลือยเปล่า นางก็พยายามหุบขาไว้แน่นด้วยความอาย แต่เขากลับเงยหน้าขึ้นแล้วพูดพร้อมแยกเรียวขาของนางออก
“กลัวข้ารึ”
จ้าวจื่อรั่วไม่กล้าตอบ นางกลัวเขาจริงๆ ก็สิ่งที่ดุนดันหน้าขาของนางอยู่มันใหญ่โตและร้อนผ่าว หากเขานำสิ่งนั้นเข้ามาในตัวนาง ...ร่างกายบอบบางนี้จะไม่ฉีกขาดยับเยินหรือ?
แต่กู้ตงหยางกลับคิดว่านางกลัวาแบนร่างกาย หญิงนางโลมที่เขาเคยเรียกใช้งาน แม้เป็หญิงสาวเป็งาน แต่หลายคนเห็นาแบนร่างก็แสดงท่าทีหวาดกลัว ทำให้เขาต้องขับไล่พวกนางออกไป แต่เวลานี้เขาไม่อาจต้านทานความ้าที่ท่วมท้น แก่นกายผงาดแข็งขันยากจะปลอบประโลมให้สงบลงได้ มันอยากมุดเข้าไปในโพรงดอกไม้ที่หอมหวาน เขาแทรกนิ้วกร้านเข้าไปในร่องรักขยับเข้าออกเรียกน้ำหวานให้หลั่งออกมาเพื่อที่จะได้นำแก่นกายเข้าไปในนั้นได้อย่างสะดวก
ความเสียวซ่านแล่นไปทั่วร่าง จ้าวจื่อรั่วเขินอายจนไม่กล้ามอง ใบหน้างามแดงราวคนเป็ไข้ ได้แต่ส่งเสียงครางอย่างไม่อาจทนกลั้นได้อีก ทุกครั้งที่เขาดันนิ้วเข้ามาในร่องสาวความเสียดเสียวก็เพิ่มมากขึ้น เมื่อเขาเพิ่มนิ้วเข้ามาอีกเป็สองนิ้ว ร่างเล็กก็สะท้านเฮือกและดิ้นรนอย่างไม่รู้ตัว เรียวขาสั่นระริกยิ่งทำให้กู้ตงหยางขยับนิ้วเร็วขึ้น
“ท่าน...ท่านแม่ทัพ...ข้า...ข้าไม่ไหว...” นางร่ำร้องบอกเหมือนคนใจจะขาด หอบหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อม ปลายยอดอกชูชันท้าทายสายตาของเขา
“นี่เพิ่งเริ่ม” เขาพึมพำเสียงพร่า “เป็ภรรยาข้า เ้าต้องรับเื่นี้ให้ไหว”
นิ้วมือกร้านเพราะจับกระบี่ทำศึก ยามนี้นิ้วมือนั้นกำลังโรมรันช่องสวาทของหญิงสาวจนร่างนางเกร็งกระตุกและหวีดร้องออกมา น้ำรักไหลอาบนิ้วมือจนเปียกชุ่ม เขามองใบหน้างามที่เต็มไปด้วยเหงื่อและแดงเรื่อด้วยแรงอารมณ์พิศวาส
จ้าวจื่อรั่วไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนรู้สึกเมื่อครู่นั้นคืออะไร ร่างกายเบาหวิวอย่างไม่เคยเป็มาก่อน เขาขยับตัวขึ้นแล้วโน้มหน้าลงจูบนางอีกครั้ง แต่คราวนี้มีบางสิ่งที่ใหญ่โตดุนดันเข้ามาในร่างนาง หญิงสาวขยับตัวหนีตามสัญชาตญาณ ช่องทางอ่อนนุ่มคับแคบบีบรัดลำเอ็นของแม่ทัพหนุ่มจนเขาต้องแหงนหน้าคำรามออกมา
เพราะเส้นทางนี้ไม่เคยถูกใครบุกรุกมาก่อนและลำทวนของเขายาวใหญ่อยู่มาก กู้ตงหยางต้องขยับเอวถอยลำออกแล้วกดซ้ำกลับเข้าไปใหม่ ทำซ้ำๆ ค่อยๆ เพิ่มความลึกเข้าไป
“อึก...จะ...เจ็บ....” นางร้องอย่างสุดกลั้น ความรู้สึกเจ็บแปลบทำให้ร่างกายเกร็งไปหมด
“อืม ผ่อนคลายหน่อย...” เขากัดฟันพูด ความรู้สึกที่ถูกดูดกลืนลำเอ็นทำให้เสียวซ่านสุดบรรยาย เขาแยกขานางออกกว้างอีกนิด พร้อมกับนวดคลึงหน้าอกที่ใหญ่เต็มไม้เต็มมือ ส่วนอีกมือสำรวจหาจุดอ่อนไหวจนพบไข่มุกที่ซ่อนอยู่ นิ้วกร้านขยี้เบาๆ ก็ทำให้ช่องทางคับแคบเปียกแฉะมากยิ่งขึ้นทำให้เขากดเอวดันลำเอ็นเข้าไปจนสุด
“อ๊ะ!” จ้าวจื่อรั่วหวีดร้องออกมา เจ็บและจุกจนน้ำตาเอ่อคลอ
“อา... เข้าไปหมดแล้ว”
กู้ตงหยางรู้สึกสบายอย่างที่สุด ลำเอ็นถูกผนังอ่อนนุ่มโอบรัดจนเสียวซ่าน เขาเริ่มเดินหน้าขยับเอวสอบ สองมือจับเอวบางไว้มั่นแล้วโยกเอวอย่างลืมตัว
“อึก..อื้อ...”
หญิงสาวครางกระเส่ารับจังหวะขยับโยกของเขา ความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็ความซ่านเสียวแสนรัญจวน ใบหน้างามสะบัดไปมาจนเส้นผมคลี่สยาย ร่างสั่นไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น ความโยกเอวไม่ยั้งไม่เกรงว่ากลีบดอกไม้สาวจะยับเยิน ระลอกความเสียวซ่านถาโถม จ้าวจื่อรั่วกรีดร้องพร้อมร่างที่เกร็งกระตุกด้วยถูกส่งไปถึงจุดสุขสมซึ่งครั้งนี้มันรุนแรงกว่าที่เขาใช้นิ้วมากนัก
กู้ตงหยางมองหญิงสาวที่อ่อนระทวยใต้ร่าง เขาขยับตัวขึ้นแล้วจับขาเรียวงามข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าจากนั้นขยับเอวโยกตอกลำเอ็นหนักหน่วง พลางก้มมองท่อนเนื้อที่ผลุบเข้าออกจนกลีบเนื้ออวบอูมแทบปลิ้น น้ำคาวสวาทมีสีแดงจางๆ เปื้อนลำเอ็น ความร้อนของท่อนเนื้อกระแทกกระทั้นทำเอาหญิงสาวครางจนเสียงแหบ นางรู้สึกเหมือนกำลังมอดไหม้เพราะไฟสวาทที่เขาก่อขึ้น แก่นกายเหมือนจะขยายใหญ่ขึ้นมันแน่นเสียจนหญิงสาวบิดเอวเพราะเสียวซ่าน เขาตอกกระแทกลำอย่างลึกล้ำถี่รัวและบางครั้งก็บดเอวโยกคลึง นางแทบขาดใจได้แต่ส่งสายตาวิงวอนขอร้อง แต่เขากลับโยกเอวถี่รัวยิ่งขึ้นจนร่างนางสั่นไหวก่อนจะกลายเป็ตอกลำเอ็นหนักๆ เข้าไปจนสุดแล้วกดไว้เช่นนั้น เป็จังหวะเดียวกับที่จ้าวจื่อรั่วเสร็จสมอีกครั้ง ร่างกำยำเกร็งกระตุกและพ่นน้ำรักอุ่นร้อนใส่ร่องสวาท
“อ๊า!” จ้าวจื่อรั่วร้องออกมาก่อนจะหอบหายใจถี่รัว
กู้ตงหยางแหงนหน้าคำราม ร่างกายได้รับการปลดปล่อยจนหมดสิ้น เขาค่อยๆ ถอนลำเอ็นออกมา ก้มมองดูแก่นกายที่มีคราบเืติดอยู่ แล้วย้ายสายตามองหญิงสาวที่หลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน นางทั้งหวานและเร่าร้อนถึงเพียงนี้
เห็นที่เขาจะต้องหาทางให้นางมาอยู่เรือนเดียวกับเขาให้ได้.