เย่เฟิงจับมือซูเมิ่งหาน โดยมีทหารเกือบสิบนายยืนคุมเชิงที่หน้าประตูห้องส่วนตัว คนในร้านต่างมุงดูด้วยความสนใจ
ชายหนุ่มมองทหารหลายนายตรงหน้าพลางประเมินสถานการณ์ ตนใช้กระบี่ฆ่าคนพวกนี้ได้ไม่ยาก แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่สามารถทำได้ เย่เฟิงเหลือบมองหลิวลี่ฮุยที่อยู่ด้านข้าง ในเวลาแบบนี้พอจะใช้ประโยชน์หมอนี่ได้บ้างไหมนะ?
หลังจากหลิวลี่ฮุยเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็กระแอมขึ้นครั้งหนึ่ง แล้วเคลื่อนร่างลงพุงลุกขึ้น แน่นอนว่าสถานการณ์แบบนี้เขาต้องยืนข้างเย่เฟิงอยู่แล้ว
“อะแฮ่ม เหตุการณ์เมื่อครู่ ฉันเป็พยานได้!” หลิวลี่ฮุยเอ่ยก่อนกระแอมอีกครั้งแล้วพูดต่อ “ เื่คุณชายเย่ทำร้ายทหารเป็เื่ที่ถูกกุขึ้นมา ทั้งหมดเป็เพียงการป้องกันตัวเท่านั้น! หากเื่บานปลายแล้วกระทบเ้าหนุ่มตระกูลเซี่ยที่ทำงานในกองทัพก็คงไม่ดี?”
ขิงแก่อย่างเขาย่อมมีประสบการณ์และฝีปากไม่ธรรมดา เมื่อเซี่ยเฉิงเย่ได้ยินดังนั้น ใบหน้าก็พลันซีดเผือด
“ท่านหลิว ผมว่าเราอย่าทำให้เื่วุ่นวายไปมากกว่านี้ดีกว่า” เซี่ยผิงฮุยเอ่ยปากแล้วพูดประโยคต่อไปอย่างใจเย็น “คุณเป็ตำรวจ คงไม่ก้าวก่ายเื่ของทหารหรอกใช่ไหม?”
การก่อความขัดแย้งระหว่างตำรวจและทหารถือเป็เื่ร้ายแรงมากในจีน คำพูดของเซี่ยผิงฮุยเป็การเตือนหลิวลี่ฮุยกลายๆ
“ไม่ใช่แน่นอนครับ” หลิวลี่ฮุยไม่้าหักหน้าฝ่ายตรงข้าม เขาตบพุงของตัวเองแล้วพูดพลางยิ้ม “ผมพูดในนามตัวเอง ทั้งยังไม่เกี่ยวกับฐานะตำแหน่งของผมด้วย ว่ากันตามเหตุแล้ว ท่านเซี่ยว่าถูกต้องไหมครับ?”
เดิมเซี่ยผิงฮุยเป็เลขานุการคณะกรรมการเขตตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเยี่ยนจิง แต่ตอนนี้ชายชราปลดเกษียณแล้ว หลิวลี่ฮุยยังต้องกลัวอะไรเขาอีก? ตราบใดที่ยังยืนหยัดกอดขาเย่เฟิงไว้ ตระกูลเซี่ยไม่นับเป็อะไรได้ นี่เป็โอกาสสำคัญในชีวิตของหลิวลี่ฮุยเลยนะ!
“ในนามตัวเอง? ดี... เยี่ยมมาก” เซี่ยผิงฮุยยิ้มบาง “ในเมื่อเป็แบบนี้ เฉิงเย่ไม่ต้องกังวล มันจะเป็ยังไงก็ให้เป็ไปเถอะ”
เซี่ยผิงฮุยหมายความว่า ถ้าหลิวลี่ฮุยไม่ใช่ผู้บังคับการสำนักรักษาความปลอดภัยสาธารณะเขตตะวันตกเฉียงเหนือ ชายชราก็ไม่จำเป็ต้องให้ค่าอีกฝ่าย แต่เมื่อเขาออกตัวเช่นนี้ก็ไม่จำเป็ต้องไว้หน้าเขาอีก!
เมื่อเซี่ยเฉิงเย่ได้ยินเช่นนั้นก็เผยสีหน้ามุ่งร้ายทันที เขาจ้องเย่เฟิงเขม็ง วันนี้ตนโดนไอ้หมอนี่ตบหน้า ถ้าไม่ได้เอาคืนจะไม่เสียหน้าฟรีเหรอ?
“เดี๋ยวก่อน!” หลิวลี่ฮุยเห็นดังนั้นก็เข้าไปขวางหน้าเย่เฟิงและซูเมิ่งหาน จากนั้นมองเซี่ยเฉิงเย่ก่อนพูดขึ้น “ ถ้าจะทำร้ายคุณชายเย่ก็ต้องผ่านฉันไปก่อน! แต่พวกนายต้องคิดให้ดีนะ ถึงฉันพูดในนามตัวเอง แต่ก็เป็ประชาชนที่ปฏิบัติตามกฎหมายคนหนึ่ง! ทหารลงมือกับประชาชน ถ้านายกล้า ฉันก็มีวิธีทำให้มันกลายเื่ใหญ่”
การปะทะคารมระหว่างข้าราชการระดับผู้บริหารดุเดือดกันพอสมควร ไม่นานเย่เฟิงนึกชื่นชมเขาขึ้นมา คนคนนี้จะเชื่อถือได้หรือเปล่านะ?
“งั้นก็เสนอมาว่าจะแก้ปัญหาเื่นี้ยังไง? แต่บอกก่อนเลยนะว่าถ้าไอ้หมอนี่ไม่ขอโทษฉันล่ะก็ อย่าหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่เลย” เมื่อเื่เป็อย่างนี้ ใบหน้าเซี่ยเฉิงเย่ก็ขรึมลงไปอีก แม้หลิวลี่ฮุยจะพูดเป็การส่วนตัว แต่ตำแหน่งผู้บังคับการสำนักรักษาความปลอดภัยสาธารณะของเขานั้น ต่อให้ไม่พูดถึงก็ใช่ว่าจะไม่มีผลกระทบ หากลงมือไปแล้วต่อให้เขากลับไปอย่างไรก็ต้องถูกลงโทษ แล้วอนาคตของเขาก็คงเลือนรางมากขึ้นไปอีก
“ขอโทษบ้าอะไรวะ?!” เสียงเดือดดาลและน่าเกรงขามดังจากลิฟต์ที่อยู่สุดทางเดิน ตามมาด้วยกลุ่มคนของแก๊งอสรพิษ์ในชุดสูทดึงมีดมาเชเต้วาววับที่เหน็บไว้ในชุด เตาปาผู้เป็หัวหน้าก็ถือมีดมาเชเต้แสดงความห้าวหาญและอำนาจไม่ธรรมดา
ลูกค้าที่อยู่บริเวณทางเดินต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้ เกิดอะไรขึ้น ทำไมกลุ่มมาเฟียถึงมากันล่ะ? ยุคนี้มาเฟียกล้าต่อกรกับพวกทหารขนาดนี้เลยเหรอ? นี่รนหาที่ตายกันหรือเปล่า? ต่อให้พูดอีกกี่ครั้ง พวกคนในที่มืดก็ไม่สามารถมีบทบาทภายใต้แสงสว่างได้หรอก และการเป็ปฏิปักษ์กับกองกำลังของประเทศก็ไม่มีผลดีเลย
พวกเซี่ยเฉิงเย่ก็คิดเช่นนี้ แม้จะเกินความคาดหมายไปบ้าง แต่ก็ไม่ใส่ใจ แต่เมื่อคนกลุ่มนั้นเดินมาถึงและใช้มีดมาเชเต้เล่มงามฟันกรอบประตูห้องส่วนตัวจนฝังลึกเข้าไป กลุ่มทหารก็รู้ทันทีว่าแตะต้องคนกลุ่มนี้ไม่ได้ง่ายๆ!
เกือบทุกคนในห้องส่วนตัวนิ่งอึ้ง แต่หลิวลี่ฮุยไม่มีเวลาชื่นชมการกระทำของพวกเขา
“พวกนายเป็ใคร?” สีหน้าหลิวลี่ฮุยเคร่งขรึม พกมีดมาปะทะกับทหาร ถ้าเื่นี้แพร่ออกไป อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่ผู้บังคับบัญชาของเขาก็ยากจะปกป้องพวกเตาปาได้! และเขาก็ไม่สามารถเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับกลุ่มของเตาปา จึงได้แค่ถามอย่างเอาเื่ไปแบบนี้
เตาปายิ้มมุมปาก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนสมองกลวง หัวหน้าแก๊งอสรพิษ์หยิบเอกสารตรงอกแล้วชี้แจ้ง “ผมเป็เ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของภัตตาคารจิงเฉิง เมื่อมีคนสร้างปัญหาที่นี่ ผมก็ต้องมาจัดการอยู่แล้ว”
อะไรนะ?
คนกลุ่มหนึ่งเกือบจะหลุดสบถออกมา พวกมาเฟียตอนนี้มีไอคิวสูงขนาดนี้เลยเหรอ?
สีหน้าของเซี่ยเฉิงเย่เปลี่ยนเป็อึมครึมพลางจ้องรอยแผลเป็ที่ดูโเี้บนใบหน้านั่นแล้วหัวเราะในลำคอ ก่อนหยิบบัตรประจำตัวนายทหารของตัวเองออกมาจากอกเสื้อ
“เื่นี้เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของกองทัพ และพวกนายกำลังขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเรา!” เมื่อพูดจบ เซี่ยเฉิงเย่ก็เชิดหน้ายืดอกแล้วตวัดสายตามองเตาปาอย่างเหยียดหยาม ฉันเป็ถึงทหาร ไม่ว่าจะเป็แก๊งมาเฟียหรือเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตัวกระจ้อยต่างต้องหลีกทางให้ฉัน!
เตาปาได้ยินอย่างนั้นก็ดึงมีดมาเชเต้จากกรอบประตู ตวัดสายตามองแล้วพูด “แล้วทำไม เป็ทหารแล้วจะทำตามอำเภอใจได้เหรอ? พวกเราในฐานะเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หน้าที่สำคัญก็คือรักษาความปลอดภัยของลูกค้า ถ้าหากถูกร้องเรียนขึ้นมาก็อดโบนัสเดือนนี้น่ะสิ นายจะชดใช้ให้ฉันงั้นเหรอ?”
“ถูกต้อง พี่การ์ดคนนี้พูดถูก” หลิวลี่ฮุยเอ่ยสนับสนุนจากนั้นหันไปพูดกับคนข้างกาย “มันชัดเจนอยู่แล้วว่าพวกคุณตระกูลเซี่ยเข้ามาก่อเื่ คุณชายเย่แค่ป้องกันตัวแต่กลับถูกพวกคุณขวางไว้ หรือนี่เป็แนวทางการทำงานของทหารประเทศเราเหรอ? เฮ้อ ฉันผิดหวังจริงๆ”
“พูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก” เซี่ยผิงฮุยเอ่ยปากอีกครั้ง ในบรรดาคนตระกูลเซี่ยที่อยู่ที่นี่มีเพียงเขาที่พอจะโต้เถียงกับหลิวลี่ฮุยได้ “นี่เป็เื่ในครอบครัวตระกูลเซี่ย น้องชายคนนี้ทำร้ายคนแล้วไม่ยอมขอโทษ เช่นนี้เราจะปล่อยให้เขาไปได้ยังไง?”
“อ้อ” หลิวลี่ฮุยยิ้มเยาะ “วิธีการขอโทษคือเห่าเหมือนสุนัขสามครั้ง ตบหน้าตัวเองหนึ่งร้อยทีตามด้วยคลานลอดใต้เป้าลูกชายคุณน่ะเหรอ?”
“อะไรนะ? นี่ถือเป็การเหยียดหยามลูกค้าของเรา เ้าหนุ่ม ภัตตาคารจิงเฉิงไม่ต้อนรับนาย พวกเราส่งแขก!” เมื่อเตาปาได้ยินอย่างนั้นก็โมโหทันที มือใหญ่โบกหนึ่งครั้ง คนของแก๊งอสรพิษ์ก็ดึงมีดมาเชเต้เล่มใหญ่ขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง!
วันนี้เซี่ยเฉิงเย่มาออกหน้าช่วยพี่สาว ไหนเลยคิดว่าจะเจอกับเื่แบบนี้ พกบัตรประจำตัวนายทหารมาแต่ในมือกลับไม่มีอาวุธอะไรเลย! เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมีดมาเชเต้ ทหารหลายนายก็เริ่มใจเสียกันหมด
“ลูกผู้ชายต้องยืดได้หดได้ตอนนี้ยอมถอยก่อนไหม?” ทหารหลายนายต่างคิดแบบนี้พลางมองหน้ากันไปมา พวกเขาไม่กล้าพอที่จะใช้มือเปล่าสู้กับมีดเล่มหนา ทำได้เพียงถอนตัวก่อนแล้วค่อยเรียกคนมาสนับสนุนให้เร็วที่สุด!
ขณะที่เตาปารักษาความสงบอยู่นั้นก็ปรากฏกลุ่มคนจำนวนมากที่สุดทางเดินของทั้งสองด้าน!
กลุ่มตำรวจในชุดเครื่องแบบเต็มยศเรียงสี่แถวปิดกั้นทางเดินทั้งสองฝั่งจากระยะไกล ผู้นำกลุ่มรูปร่างใหญ่กำยำ ให้มาดข้าราชการเต็มขั้น สวมเครื่องแบบตำรวจติดเครื่องหมายอินทรธนูของตำรวจชั้นหนึ่ง เหรียญกิ่งใบสมอสัญลักษณ์สันติภาพ และปักดาวสี่แฉกสามดวง บ่งบอกตำแหน่งของเขาชัดเจน
“เขาคือโหมวเจิ้นเฉียง ผู้บัญชาการสำนักรักษาความปลอดภัยสาธารณะ” หลายคนอุทาน คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้คนระดับสูงเช่นเขาจะมาด้วยตัวเอง ซูเมิ่งหาน หลิวลี่ฮุย เตาปา เซี่ยเฉิงเย่และคนอื่นๆ ต่างตกตะลึง แต่เย่เฟิงกลับขมวดคิ้ว สถานการณ์ท่าจะยิ่งยุ่งเหยิง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้